
รีวิว i-mobile IQ II อัพเดตใหม่เป็น Android 6.0 ในราคาเพียง 4,444 บาท
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนสุดคุ้มในระดับราคาไม่เกิน 5 พันบาท มั่นใจว่าไอ-โมบายรุ่นนี้ จะต้องติดอันดับ 1 ใน 5 ของสมาร์ทโฟนที่น่าซื้อมากที่สุด ถือเป็นความน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่แบรนด์ไทย ได้เข้าร่วมโครงการ AndroidOne ของ Google ซึ่งเป็นโครงการที่ทำให้ประชาชนในแต่ละประเทศได้ใช้สมาร์ทโฟนคุณภาพดี ราคาถูก สเปคคุ้มค่า รองรับการใช้งานอย่างน้อย 2 ปี ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อย ๆ
สเปค i-mobile IQ II
จุดเด่นของ i-mobile IQ II ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
แกะกล่อง แรกสัมผัส ประทับใจ
เหตุผลที่ตั้งชื่อรุ่นว่า IQ II เพราะ i-mobile ต้องการเน้นย้ำตัวเลขเรื่อง 2 เท่า 2 ปี 2 ซิม 2 สิทธิ์ ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น สติ๊กเกอร์ปิดบนจอภาพหน้าเครื่อง ก็ต้องเน้นย้ำเลข 2 กันอีกครั้ง ราคาก็ตั้งเป็นเลขสวย 4,444 บาท นี่ถ้าขาย 2,222 บาทด้วย รับรองว่าสินค้าขาดตลาดแน่นอน สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นขายไม่ได้แน่นอน เพราะ IQ II เหนือชั้นจริง ๆ
เช่นเคย ด้านหลังกล่อง มีสเปคบอก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในสเปค และตัดสินใจซื้อได้ทันที ไม่ต้องลังเลหรือกลับบ้านไปหาข้อมูลก่อนซื้อ และย้ำชัดบนกล่องว่าโครงการ AndroidOne จะทำให้ OS ในเครื่อง ใหม่สดอยู่เสมอ ส่งตรงจาก Google ไม่ผ่าน i-mobile สมมุติว่า Google ประกาศปล่อยอัพเดต Android 6.1 คุณก็รอ OTA อัพเดตเองได้เลยผ่าน Wi-Fi ไม่มีลอยแพ ใช้ยาวเกิน 2 ปีได้สบาย ๆ ซึ่งถ้าเป็นสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น จะต้องให้ผู้ผลิตยี่ห้อนั้นทำ ROM เฉพาะรุ่นนั้น ๆ กว่าจะได้อัพเดต ก็ช้ากว่า AndroidOne ประมาณ 4-8 เดือน หรือเผลอ ๆ อาจจะลอยแพ ไม่มีอัพเดตเลย
หน้าจอขนาด 5.0 นิ้ว ขนาดกระชับมือ ถือถนัดสำหรับทุกวัย พกพาสะดวก
อุปกรณ์ภายในกล่อง ก็เหมือนกับ i-mobile หลายรุ่นที่ผ่านมา ครบครัน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
คู่มือภาษาไทยเล่มหนา ที่สอนการใช้งานแบบละเอียดยิบ ไม่ใช่แผ่นพับเล็ก ๆ
ละเอียดชนิดที่ว่า คนที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนมาก่อน ก็เข้าใจได้ง่าย
หูฟัง มาพร้อมกับขั้วต่อแบบโค้งงอ
Charger และสาย USB แบบเส้นแบน ม้วนเก็บได้ง่าย สายไม่พันกัน
ฟิล์มกันรอยและเคสใสแบบนิ่ม
วัสดุและงานประกอบ ดีสมกับมาตรฐานที่รับรองโดย Google ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกดี
หน้าจอ คุณภาพดี แต่สีอาจเพี้ยนเล็กน้อยเมื่อมองด้านข้าง ติดแสง Backlight อมม่วงนิด ๆ
ด้านหลังเป็นสีน้ำตาล ดูหรูหรา ซึ่งรุ่นนี้มีอีกสีหนึ่ง คือ สีขาว ที่วางจำหน่ายไปแล้ว หลังจากจำหน่ายสีน้ำตาลในระยะแรก
ช่องลำโพง เป็นรูกลมแบบฝักบัวอาบน้ำ ดูดีทีเดียว ส่วนกล้องหน้าอยู่ทางขวา
ปุ่ม Back – Home – Recent Apps ย้ายไปอยู่บนส่วนล่างของจอภาพตามมาตรฐานใหม่
ช่องเสียบสาย microUSB อยู่ตรงกลางตามมาตรฐานเช่นกัน ต่างจากก่อนหน้านี้ i-mobile วางตำแหน่งสะเปะสะปะ บ้างซ้าย บ้างขวา บ้างหงาย บ้างคว่ำ จึงเกิดปัญหาเมื่อใช้งานกับแท่นชาร์จหรืออุปกรณ์ Docking แต่รุ่นนี้ได้มาตรฐานที่ถูกต้องแล้ว
ด้านข้าง ฝั่งขวา มีปุ่ม Power และ Volume ทรงขีดยาว กดได้ค่อนข้างง่าย
ช่องต่อหูฟัง
ด้านข้างทุกด้าน เรียบหรู ตัดขอบด้วยแถบสีเงิน ช่วยให้ไม่ลื่นหลุดมือ และยังดูดี
กล้องหลัง มาพร้อมกับไฟแฟลชแบบ 2 สี ผสมกันเพื่อให้แสงมีอุณหภูมิสีที่ถูกต้องสมจริง
โลโก้ AndroidOne อันน่าภาคภูมิใจ และราคาถูกแบบได้ครบคุ้มค่าเต็มฟังก์ชั่นไม่มีกั๊ก
แกะฝาหลัง ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้
แบตเตอรี่ขนาด 2500mAh เพียงพอกับการใช้งานแบบพื้นฐานครบวันพอดี
ซอฟต์แวร์ ที่สุดของความลื่น เร็ว และมีเสถียรภาพมากกว่า
ก่อนอื่นเลย ถ้ายังไม่ได้อัพเดตจาก Android OS 5.1.x เป็น 6.0.x ให้อัพเดตก่อนที่จะติดตั้งแอปพลิเคชั่นหรือใช้งาน ไฟล์อัพเดตขนาด 483.9 MB
Lockscreen และ Home Screen ในกรณีที่ผู้ใช้อาจจะไม่ชอบ Google Now Launcher ก็สามารถติดตั้ง Launcher ตัวอื่นใช้งานแทนได้ จากการทดลองเปลี่ยน Launcher เป็นตัวอื่น ก็ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีแตกต่างกัน
AndroidOne คล้ายกับเป็น Google Nexus รุ่นประหยัด เร็ว ลื่น เสถียร ไม่ค่อยมี Bloatware หรือแอปฯ ขยะมารบกวนการใช้งาน มีแอปฯ มาให้เพียงแค่พื้นฐานตามความจำเป็น ให้ผู้ใช้ติดตั้งเพิ่มเอง หากเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังทั่วไป มักจะมีแอปฯ ที่ไม่จำเป็นมากมายเต็มเครื่อง ส่งผลทำให้เปลืองทรัพยากร การทำงานไม่ลื่นเท่าไรนัก และเปลืองแบตเตอรี่
Quick Settings และ Notification Center ก็คล้ายกับ Android 5.1 ทั่วไป
สมุดโทรศัพท์ สามารถเดาหมายเลขหรือรายชื่อที่คาดว่าเราจะโทรออกได้ | เมนูการตั้งค่า ไม่มีอะไรแตกต่างจาก Android OS 5.1
เครื่องล็อตแรก มาพร้อมกับ Android 5.x แต่สามาถอัพเดตเป็น 6.0 ได้แล้วตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ผ่านเมนู System Updates ในหน้า About phone
RAM 1GB ที่มีมาให้ อาจจะน้อยเกินไป แต่ระบบก็บริหารจัดการให้เพียงพอ ใช้งานได้ดีอยู่เสมอ ในส่วนของแบตเตอรี่ มีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ด้วย
ซอฟต์แวร์ ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะไม่มีความแตกต่างอะไรกับรุ่นอื่นในตลาด ไม่มีลูกเล่นหวือหวาที่แปลกใหม่ ในส่วนของกล้องก็เช่นกัน ตัดลูกเล่นออกไปให้เหลือเพียงพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้น
ทดสอบประสิทธิภาพ
i-mobile IQ II ทำคะแนนทดสอบได้ 26561 ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนราคา 4-5 พันบาท ในการใช้งานจริง แม้ว่ามี RAM เพียง 1GB และไม่ได้โดดเด่นด้าน 3D แต่ก็สามารถเล่นเกมระดับพื้นฐานได้ดี ลื่นไหล ไม่มีกระตุก เพราะว่าซอฟต์แวร์เป็น Pure Android ไม่มีแอปพลิเคชั่นเสริมมากมายที่แย่งใช้พื้นที่ RAM แต่รุ่นนี้ไม่เหมาะกับการเล่นเกมที่เน้น Graphic ทุกเกม เพราะระบบประมวลผลภาพ ทำงานไม่ไหว จากการทดสอบติดตั้งเกม Need for Speed : No Limits ก็ไม่สามารถเล่นได้เลย จึงเหมาะกับการใช้งานแอปพลิเคชั่นทั่วไปเท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่าย
จากการทดสอบถ่ายภาพในหลายสภาวะแสง ถือว่า IQ II ถ่ายภาพออกมาได้ค่อยข้างดี สีสันสดใส เก็บรายละเอียดภาพได้ดี ดีอยู่ในอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนระดับราคา 4-5 พันบาท แต่ยังไม่ดีที่สุด
ในส่วนของกล้องหน้า ถือว่าพอใช้ได้ ยังขาดความคมชัดและ Constrast ที่น้อยไปหน่อย
สรุป
หากเปรียบเทียบ i-mobile IQ II ก็คงคล้ายกับ iPhone 5c คือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัด แต่เร็วลื่นและเสถียรภาพดีเยี่ยม มีลูกเล่นเท่าที่จำเป็น ตัดสิ่งฟุ่มเฟือยออกไป ได้ใช้ซอฟต์แวร์ล่าสุดอยู่เสมอตลอดเวลา 2 ปี ไม่มีลอยแพ ไม่เหมาะกับการเล่นเกม แต่ใช้งานแอปพลิเคชั่นได้ดี ตอบสนองฉับไว เหมาะกับการใช้งานง่าย ๆ แบบพื้นฐาน ไม่ซับซ้อน ไว้วางใจ ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย ไม่ค่อยมีปัญหาอืดหน่วงจนต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ทุก 6-12 เดือน รองรับการใช้งานหนักหรือหลายแอปพลิเคชั่น (ที่ไม่ใช่เกม) พร้อมกันได้ดี ระบบสามารถบริหารจัดการ RAM ได้ เช่นเดียวกับ iPhone ที่มี RAM น้อย แต่ก็เร็วลื่น ทั้ง ๆ ที่สเปคไม่สูง
สิ่งที่ประทับใจ
ข้อสังเกต
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว i-mobile IQ II อัพเดตใหม่เป็น Android 6.0 ในราคาเพียง 4,444 บาท "