เปรียบเทียบ Xiaomi 12T Pro และ iPhone 14 ปี 2022 รุ่นต่างค่าย สเปกครบเครื่อง รุ่นไหนคุ้มสุด มาเช็กกันเลย!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Xiaomi 12T Pro และ iPhone 14 มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ Xiaomi 12T Pro ราคาวางจำหน่าย 25,990 บาท รัน Android 12 ครอบทับ MIUI 13 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รองรับ HDR 10+
ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz กระจก Corning Gorilla Glass 5 ขุมพลัง Snapdragon 8+ Gen 1 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคมชัด 200MP + 8MP + 2MP
พร้อม Dual Tone LED Flash กันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 20MP รองรับ HDR แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
บอดี้กันน้ำ IP53 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับเทคโนโลยี LiquidCool ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue
ขณะที่ iPhone 14 ราคาจำหน่าย 32,900 บาท (128GB), 36,900 บาท (256GB) และ 45,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10
ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash และ Auto Focus
แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red
ตารางเปรียบเทียบสเปก Xiaomi 12T Pro และ iPhone 14
Features | Xiaomi 12T Pro | iPhone 14 |
วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2565 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– | – 32,900 บาท (128GB) |
– 25,990 บาท (256GB) | – 36,900 บาท (256GB) | |
– | – 45,900 บาท (512GB) | |
OS : | – Android 12 ครอบทับ MIUI 13 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.67 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– HDR 10+ | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– Corning Gorilla Glass 5 | – | |
CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Adreno 730 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
ROM :
|
– | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– | – 512GB | |
กล้องหลัง :
|
– 200MP + 8MP + 2MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.69 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– OIS | – OIS | |
– | – 2x Optical Zoom | |
– | – 5x Digital Zoom | |
– | – Photonic Engine | |
– | – Deep Fusion | |
กล้องหน้า :
|
– 20MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
– HDR | – HDR | |
– | – Retina Flash | |
Video :
|
– 8K@24fps | – |
– 4K@30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps | |
– 1080p@30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
Battery :
|
– 5000mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง |
– Turbo Charger 120W | – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง | |
ขนาด : | – 163.1×75.9×8.6 มม. | – 146.7×71.5×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 205 กรัม | – 172 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP53 | – IP68 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.2 | – Bluetooth 5.3 | |
– USB Type-C | – USB Lightning | |
– NFC | – NFC | |
– OTG | – Siri | |
– ระบบเสียง Dolby Atmos | – SOS ฉุกเฉิน | |
– ลำโพงคู่ | – | |
– เทคโนโลยี LiquidCool | – | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– Glonass | – Glonass | |
– Beidou | – Beidou | |
– Galileo | – Galileo | |
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Face ID |
– Face Unlock | – Accelerometer | |
– Accelerometer | – Gyroscope | |
– Gyroscope | – Proximity | |
– Proximity | – Compass | |
– Compass | – Barometer | |
สี :
|
– Black | – Midnight |
– Silver | – Purple | |
– Blue | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red |
Features | Xiaomi 12T Pro | iPhone 14 |
วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2565 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– | – 32,900 บาท (128GB) |
– 25,990 บาท (256GB) | – 36,900 บาท (256GB) | |
– | – 45,900 บาท (512GB) | |
OS : | – Android 12 ครอบทับ MIUI 13 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.67 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– HDR 10+ | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– Corning Gorilla Glass 5 | – | |
CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Adreno 730 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
ROM :
|
– | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– | – 512GB | |
กล้องหลัง :
|
– 200MP + 8MP + 2MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.69 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– OIS | – OIS | |
กล้องหน้า :
|
– 20MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
– HDR | – HDR | |
Video : | – 8K@24fps | – |
Battery :
|
– 5000mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง |
– Turbo Charger 120W | – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง | |
ระบบกันน้ำ : | – IP53 | – IP68 |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– USB Type-C | – USB Lightning |
– OTG | – | |
– ระบบเสียง Dolby Atmos | – | |
– ลำโพงคู่ | – | |
– เทคโนโลยี LiquidCool | – | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Face ID |
สี :
|
– Black | – Midnight |
– Silver | – Purple | |
– Blue | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red |
จุดเด่น Xiaomi 12T Pro คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วยสำหรับรุ่น 256GB ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ครอบกระจก Corning Gorilla Glass 5
ขุมพลัง Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ผสาน Adreno 730 แรมมากกว่าที่ 12GB มีให้เลือกความจุเดียว 256GB กล้องหลังคมชัด 200MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.69 + f/2.2 + f/2.4
พร้อม Dual Tone LED Flash บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับ HDR แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W บอดี้กันน้ำ IP53 รองรับ USB Type-C และ OTG
ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos และมีเทคโนโลยี LiquidCool เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, Silver และ Blue
Features | iPhone 14 | Xiaomi 12T Pro |
OS : | – iOS 16 | – Android 12 ครอบทับ MIUI 13 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ AMOLED |
– ขนาด 6.1 นิ้ว | – ขนาด 6.67 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | – ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | |
– HDR 10 | – HDR 10+ | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz |
– Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Adreno 730 |
ROM :
|
– 128GB | – |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – | |
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP | – 200MP + 8MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.69 + f/2.2 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– OIS | – OIS | |
– 2x Optical Zoom | – | |
– 5x Digital Zoom | – | |
– Photonic Engine | – | |
– Deep Fusion | – | |
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 20MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– HDR | – HDR | |
– Retina Flash | – | |
ขนาด : | – 146.7×71.5×7.8 มม. | – 163.1×75.9×8.6 มม. |
น้ำหนัก : | – 172 กรัม | – 205 กรัม |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP53 |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.2 |
– Siri | – | |
– SOS ฉุกเฉิน | – | |
Sensor : | – Face ID | – Fingerprint Under Display |
สี :
|
– Midnight | – Black |
– Purple | – Silver | |
– Starlight | – Blue | |
– Blue | – | |
– Red | – |
จุดเด่น iPhone 14 คือ รันระบบปฏิบัติการ iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล รองรับ HDR 10 จอภาพ Super Retina XDR ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro
ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 พร้อม Dual Tone LED Flash และเทคโนโลยี Photonic Engine มีกันสั่น OIS รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom
กล้องหน้า 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9 รองรับ Retina Flash, Auto Focus, HDR และ Photonic Engine บอดี้กันน้ำ IP68 บอดี้บาง 7.8 มม. เบากว่าที่ 172 กรัม
รองรับ Bluetooth 5.3 มี Siri รองรับฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ Xiaomi 12T Pro และ iPhone 14 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ และขนาดหรือน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันอยู่ที่ราว 10,000 บาท
หากเลือก Xiaomi 12T Pro จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วยสำหรับรุ่น 256GB ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ครอบกระจก Corning Gorilla Glass 5
ขุมพลัง Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ผสาน Adreno 730 แรมมากกว่าที่ 12GB มีให้เลือกความจุเดียว 256GB กล้องหลังคมชัด 200MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.69 + f/2.2 + f/2.4
พร้อม Dual Tone LED Flash บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 รองรับ HDR แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W บอดี้กันน้ำ IP53 รองรับ USB Type-C และ OTG ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos และมีเทคโนโลยี LiquidCool เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
หรือหากเลือก iPhone 14 จะได้เครื่องรันระบบปฏิบัติการ iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล รองรับ HDR 10 จอภาพ Super Retina XDR ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro
ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 พร้อม Dual Tone LED Flash และเทคโนโลยี Photonic Engine มีกันสั่น OIS รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom
กล้องหน้า 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9 รองรับ Retina Flash, Auto Focus, HDR และ Photonic Engine บอดี้กันน้ำ IP68 บอดี้บาง 7.8 มม. เบากว่าที่ 172 กรัม รองรับ Bluetooth 5.3 มี Siri รองรับฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย SOS ฉุกเฉิน และ Face ID
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply