เปรียบเทียบ vivo X80 และ iPhone 14 Plus ปี 2023 รุ่นต่างค่าย สเปกตอบโจทย์ เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ vivo X80 และ iPhone 14 Plus มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ vivo X80 ราคาวางจำหน่าย 29,999 บาท รัน Android 12 ครอบทับ Funtouch OS 12 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR
ขุมพลัง Dimensity 9000 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 12MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 32MP
แบตอึด 4500mAh ชาร์จไว 80W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C สนับสนุนเครือข่าย 5G เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Cosmic Black และ Urban Blue
ขณะที่ iPhone 14 Plus ราคาจำหน่าย 37,900 บาท (128GB), 41,900 บาท (256GB) และ 50,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10
ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash
แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68
สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red
ตารางเปรียบเทียบสเปก vivo X80 และ iPhone 14 Plus
Features | vivo X80 | iPhone 14 Plus |
วันเปิดตัว : | – พฤษภาคม 2565 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– | – 37,900 บาท (128GB) |
– 29,999 บาท (256GB) | – 41,900 บาท (256GB) | |
– | – 50,900 บาท (512GB) | |
OS : | – Android 12 ครอบทับ Funtouch OS 12 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.78 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | |
– HDR | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – | |
– | – จอภาพ Super Retina XDR | |
CPU : | – Dimensity 9000 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.05GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Mali G710 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
ROM :
|
– | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– | – 512GB | |
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 12MP + 12MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/1.98 + f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– OIS | – OIS | |
กล้องหน้า :
|
– 32MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.45 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
Video :
|
– 4K@30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps |
– 1080p@30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
Battery :
|
– 4500mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง |
– Fast Charging 80W | – เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | |
– | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
ขนาด : | – 164.95×75.23×8.3 มม. | – 160.8×78.1×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 206 กรัม | – 203 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – | – IP68 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.3 | |
– USB Type-C | – USB Lightning | |
– NFC | – NFC | |
– OTG | – Siri | |
– | – SOS ฉุกเฉิน | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– BeiDou | – BeiDou | |
– Galileo | – Galileo | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– QZSS | – QZSS | |
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Face ID |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
สี :
|
– Cosmic Black | – Midnight |
– Urban Blue | – Purple | |
– | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
Features | vivo X80 | iPhone 14 Plus |
ราคา :
|
– | – 37,900 บาท (128GB) |
– 29,999 บาท (256GB) | – 41,900 บาท (256GB) | |
– | – 50,900 บาท (512GB) | |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.78 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | |
– HDR | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – | |
CPU : | – Dimensity 9000 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.05GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Mali G710 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 12MP + 12MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/1.98 + f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– OIS | – OIS | |
กล้องหน้า :
|
– 32MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.45 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
Battery :
|
– 4500mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง |
– Fast Charging 80W | – เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | |
– | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– USB Type-C | – USB Lightning |
– OTG | – | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Face ID |
สี :
|
– Cosmic Black | – Midnight |
– Urban Blue | – Purple | |
– | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red |
จุดเด่น vivo X80 คือ มีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าสำหรับรุ่น 256GB ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR
ชิปเซ็ต Dimensity 9000 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.05GHz ชิปกราฟิก Mali G710 แรม 12GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 12MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS
กล้องเซลฟี่ 32MP แบตอึด 4500mAh ชาร์จไว 80W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และรองรับ OTG ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Cosmic Black และ Urban Blue
Features | iPhone 14 Plus | vivo X80 |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2565 | – พฤษภาคม 2565 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ AMOLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.78 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | – ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | |
– HDR 10 | – HDR | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz |
– Dimensity 9000 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.05GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Mali G710 |
ROM :
|
– 128GB | – |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – | |
ขนาด : | – 160.8×78.1×7.8 มม. | – 164.95×75.23×8.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 203 กรัม | – 206 กรัม |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– USB Lightning | – USB Type-C |
– Siri | – | |
– SOS ฉุกเฉิน | – | |
Sensor : | – Face ID | – Fingerprint Under Display |
สี :
|
– Midnight | – Cosmic Black |
– Purple | – Urban Blue | |
– Starlight | – | |
– Blue | – | |
– Red | – |
จุดเด่น iPhone 14 Plus คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล จอภาพ Super Retina XDR ที่รองรับ HDR 10
ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB
บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ vivo X80 และ iPhone 14 Plus ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, พอร์ตเชื่อมต่อ, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันที่ราว 12,000 บาท สำหรับรุ่นความจุ 256GB
หากเลือก vivo X80 ก็จะจ่ายในราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าสำหรับรุ่น 256GB ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR
ชิปเซ็ต Dimensity 9000 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.05GHz ชิปกราฟิก Mali G710 แรม 12GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 12MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS
กล้องเซลฟี่ 32MP แบตอึด 4500mAh ชาร์จไว 80W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และรองรับ OTG ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
หรือหากเลือก iPhone 14 Plus ก็จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล จอภาพ Super Retina XDR ที่รองรับ HDR 10
ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz แบบเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Pro มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB
บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply