[SR]พรีวิว ‘Samsung Galaxy Note 5’ – ตำนานบทที่ 5 กับปากกาวิเศษ

[SR]พรีวิว ‘Samsung Galaxy Note 5’ – ตำนานบทที่ 5 กับปากกาวิเศษ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอมาแนะนำกระทู้ของคุณ papayatop จาก Pantip.com ที่มาพรีวิว Samsung Galaxy Note 5 ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยให้เพื่อนๆ ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น โดย Samsung Galaxy Note 5 จะเริ่มวางจำหน่าย 21 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ตามตัวแทนจำหน่าย Samsung ทั่วประเทศ สำหรับประเทศไทยจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงเดียวกับประเทศหลัก (Tier 1) เปิดตัวที่ราคา 25,900 บาท (32GB) และ 29,900 บาท (64GB) มีให้เลือก 2 สีสัน (Gold Platinum, Silver Titanium) ส่วน White Pearl, Sapphire Black จะตามมาในภายหลังค่ะ ว่าแล้วเราไปชมการพรีวิว Samsung Galaxy Note 5 ครั้งนี้กันเลยค่ะ

ร่ำลือมาค่อนข้างนานทีเดียวกับเรือธงปลายปี 2558 กับ ‘Galaxy Note 5‘ ภาคต่อของ Galaxy Note 4  ซึ่งมีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ล่าสุดได้เปิดตัวอย่างแล้วเป็นทางการในบ้านเรา รวดเร็วกว่ากำหนดเดิมถึง 1 เดือนเต็ม พร้อมวางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ 21 สิงหาคม 2558 ถือว่าเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาเช่นกัน แล้ว … Galaxy Note 5 มีอะไรปรับปรุง หรือ เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้าบ้าง? จะเปลี่ยนจากรุ่นเดิม (Galaxy Note 4) ดีมั้ย อย่างไร? เรามาร่วมไขปริศนาดีกว่า

มีอะไรในกล่อง  เรื่องบรรจุภัณฑ์มาในทิศทางเดียวกับ Galaxy S6 เป็นกล่องสีออกทองๆ หน่อย เปิดมาเจอตัวเครื่องเลย พร้อมอุปกรณ์เสริมต่างๆ ตามรายการต่อไปนี้

– หูฟังสมอลทอล์ค
– สาย MicroUSB
– วอลชาร์จ (รองรับ Fast Charging)
– คู่มือการใช้งาน + เข็มจิ้มถาดซิม

5_resize

ดีไซน์  ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Galaxy Note 5 มีพื้นฐานการออกแบบมาจาก Galaxy S6 ค่อนข้างชัดเจนครับ เป็นกระจกเงาทั้งด้านหน้า – หลัง สะท้อนเงาแวววับ หรูหราอลังการงานสร้างสุดๆ ด้วยหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว (Super-AMOLED) ขอบหน้าจอ (Bezel) แคบเป็นพิเศษเช่นเดียวกับ ‘Galaxy A8’ ที่เปิดตัว-วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ กล้องหน้ามุมขวาบนเลนส์ใหญ่กว่าเดิม (5MP) และปุ่ม Home ด้านล่างซึ่งสามารถใช้งานเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือได้ด้วย

ขอบของบอดี้ Galaxy Note 5 เป็นโลหะทั้งหมดครับ มีความเว้าพอสมควร ส่วนนี้จะมีปุ่ม Power/Volume ตำแหน่งที่คุ้นเคยกันดี หัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด และหูฟัง / MicroUSB / ลำโพงหลักด้านท้ายเครื่อง สำหรับช่องใส่ S-Pen รุ่นนี้ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยคือ มีการติดสปริงที่หัวปากกา เมื่อกดแล้วเด้งออกมาทันทีครับ น้ำหนักปากกาเบาลง สามารถจับได้ถนัดมือกว่าเดิม

ฝาหลังของรุ่นนี้เป็นกระจก Gorilla Glass เหมือนกับ Galaxy S6 แน่นอนครับเงามาก ! เป็นรอยนิ้วมือง่าย (และเสี่ยงทำแตก) แลกกับความสวยงามอลังการสุดๆ ตรงกลางมีกล้อง 16 ล้านเมกะพิคเซล (+แฟลช, เซ็นเซอร์) น่าเสียดายเลนส์กล้องยังคงนูนครับ คิดว่ารุ่นปี 2016 น่าจะเรียบบางกับตัวเครื่องล่ะ

vs. Galaxy Note 4  ขนาดบอดี้ของ Galaxy Note 5 ค่อนข้างใหญ่ตามหน้าจอครับ ตัวเครื่องบาง + เล็กกว่า Note 4 อย่างเห็นได้ชัด จากขอบหน้าจอ (Bezel) แคบลงมาก ขอบบอดี้เป็นโลหะเหมือนกัน แต่ Note 5 จับถือสบายมือ (ขอบไม่คม) อย่างไรก็ดี ฝาหลังลวดลายหนังของ Note 4 สามารถจับได้กระชับมือกว่า เป็นรอยยาก และสามารถเปลี่ยนได้เอง แตกต่างจาก Note 5 ซึ่งใช้วัสดุพิเศษ + กระจกทั้งอันเหมือน Galaxy S6 สวยครับแต่เป็นรอยง่าย และถ้าพลาดทำตกค่าซ่อมแพง แบตก็ถอดเองไม่ได้ซะด้วย

อุปกรณ์เสริม  หลายคนอาจจะบ่นว่าอุปกรณ์เสริมของแท้ (Official) ตอน Note 4 มีให้เลือกแค่ไม่กี่อย่าง คราวนี้ Galaxy Note 5 มาครบเซ็ทแบบ Galaxy S6 ทั้งฝาพับ S-View (1,490 บาท), Clear Cover (1,590 บาท), Glitter Cover เคสครอบหลัง (890 บาท) นอกจากนี้ยังมีเคสคริสตัลคล้ายกากเพชร อันนี้ยังไม่เปิดเผยราคาครับ ส่วนแท่นชาร์จ Wireless (รองรับ Fast Charge) สนนราคา 1,690 บาท เห็นว่ามีโปรลด 500 บาทด้วย ลองกดรับสิทธิบน Galaxy Gift

อุปกรณ์เสริมพร้อมวางจำหน่ายตาม Samsung Brand Shop และดีลเลอร์ต่างๆ เช่นเดียวกับตัวเครื่องครับ

ฟีเจอร์เด่น

– Screen-Off Memo (จดบันทึกระหว่างปิดหน้าจอ)
– New Air Command
– Scroll capture
– Live Broadcast
– Steady Video
– Fast-Wireless Charging
– Pro-Mode Camera

คุณสมบัติเด่น

– รองรับ 4G LTE (Cat.6)
– ขนาด 153.2 x 76.1 x 7.6 มิลลิเมตร , น้ำหนัก 179 กรัม
– หน้าจอ Super-AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว (ความละเอียด 2560×1440 พิคเซล)
– ชิพประมวลผล Samsung Exynos 7422 (Octa) + แรม 4GB DDR4
– เมมโมรี่ภายใน 32GB (มาตรฐาน UFS 2.0)
– รองรับการเชื่อมต่อ WiFi (802.11 b/g/n/ac), NFC, BT4.1
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (TouchWiz UX)
– กล้องความละเอียด 16 ล้านเมกะพิคเซล (F/1.9 +AF, OIS) แฟลช LED | กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านเมกะพิคเซล (F/1.9)
– แบตเตอรี่ Li-ion 3000 mAh

ซื้อดีไหม?  Galaxy Note 5 คือการฟิวชั่นระหว่าง Note 4 + Galaxy S6 เป็นร่างใหม่ที่มีความสวยงาม อลังการงานสร้างยิ่งขึ้น ความสามารถ-คุณสมบัติสเปคปรับอัพเกรดขึ้นตามยุคสมัย ภาพรวมไม่ได้ต่างจาก Galaxy S6 มากนักครับ ชิพประมวลผลตัวเดิม (Exynos 7420) แค่เพิ่มแรมเป็น 4GB ลื่นมากเลยทีนี้ ขณะที่ปากกา S-Pen ออกแบบให้จับง่ายขึ้น มีสปริงที่หัวด้ามป้องกันการหลุดจากตัวเครื่อง (ทำการบ้านมาดี) ขณะที่เชิงเทคนิค รองรับการสัมผัสอะไรยังคงเดิม

ด้านซอฟท์แวร์มีการปรับแต่งมาดีเยี่ยม ลื่นมากครับ ปรับเปลี่ยนธีมได้สารพัด มีลูกเล่น S-Pen ที่น่าสนใจอย่าง Screen-Off Memo ปิดจออยู่ก็ชักปากกามาบันทึกได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกล้องบนโหมด Pro คุณสามารถถ่ายภาพฟอร์แมต RAW ได้แล้ว + ปรับความเร็วชัตเตอร์ / ISO (แต่เทียบกับ LG G4 ยังสู้ไม่ได้นะ), ระบบเสียงปรับได้ลึกกว่าเดิม (Adapt Sound, UHQ Upscaler, SoundAlive+, Tune Amp Pro) เอาใจคนชอบฟังเพลง แถมรองรับกับ BT Speaker บางรุ่นอีกด้วย ด้านแอพฯ ยูทิลิตี้ภาพรวมคล้ายๆ ของเดิม ซึ่งผู้ใช้จะโหลดอะไรมาเพิ่มผ่าน Play Store ได้อยู่แล้ว

ข้อเสียหลักๆ ของ Galaxy Note 5 จะคล้ายกับ Galaxy S6 คือ เพิ่ม MicroSD ภายนอกไม่ได้ (เสียดายหนักมาก) ความจุสูงขึ้น = ราคาแพงขึ้นเยอะ และบอดี้กระจกดูแล รักษายากกว่าปกติ ขณะที่แบตเตอรี่มองว่าใส่มาน้อยไปหน่อย ควรจะ 3500-4000 mAh ทั้งที่เทคโนโลยีแบตฯ มีรองรับอยู่แล้ว แม้จะทดแทนด้วย Fast Charge แต่ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากถือ Power Bank โตงเตงสายห้อยระโยงระยางจริงมั้ย ?

 ทั้งนี้ หากคุณใช้งาน Galaxy Note 4 อยู่ ไม่จำเป็นต้องอัพเกรดขึ้นมาก็ได้ เพราะสเปค Note 4 ก็ยังแรงดี ถอดแบต เพิ่มเมมได้ การสนับสนุน Software ยังคงไปต่อสบาย แถมราคาตอนนี้ค่อนข้าง ‘ถูกมาก’ (ไม่ถึง 20,000 บาท) แต่ถ้าใช้งาน Galaxy S6 อยากได้จอใหญ่ขึ้น + มีปากกา น่าสนใจครับ เช่นเดียวกับ Galaxy Note 2-3 หรือ iPhone 6 Plus จะลองเปลี่ยนบรรยากาศ มาใช้ Phablet ตระกูล Note มีปากกาวิเศษก็ดีเหมือนกัน

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ papayatop จาก http://pantip.com/topic/34056667