เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 VS iPhone 14 ปี 2023 เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนคุ้มสุด มาเช็กกันเลย

เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 และ iPhone 14 ปี 2023 เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนคุ้มสุด มาเช็กกันเลย

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 และ iPhone 14 มาฝากให้ได้ชมกัน

โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น

สำหรับ Samsung Galaxy S23 ราคาวางจำหน่าย 30,900 บาท (128GB) และ 33,900 บาท (256GB) รัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1

หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ครอบกระจก Gorilla Glass Victus 2 ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2

แรม 8GB ความจุ 128GB และ 256GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 10MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น OIS รองรับ 3x Optical Zoom และ Digital Zoom สูงสุด 30x บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 12MP พร้อม Dual Pixel PDAF

แบตอึด 3900mAh ชาร์จไว 25W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE และ 5G ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Cream, Green, Phantom Black และ Lavender

ขณะที่ iPhone 14 ราคาจำหน่าย 32,900 บาท (128GB), 36,900 บาท (256GB) และ 45,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10

ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash และ Auto Focus

แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red

ตารางเปรียบเทียบสเปก Samsung Galaxy S23 และ iPhone 14

Features Samsung Galaxy S23 iPhone 14
วันเปิดตัว : – กุมภาพันธ์ 2566 – กันยายน 2565
ราคา :
– 30,900 บาท (128GB) – 32,900 บาท (128GB)
– 33,900 บาท (256GB) – 36,900 บาท (256GB)
– 45,900 บาท (512GB)
OS : – Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 – iOS 16
หน้าจอ :
– หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X – หน้าจอ OLED
– ขนาด 6.1 นิ้ว – ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล
– HDR 10+ – HDR 10
– Gorilla Glass Victus 2 – จอภาพ Super Retina XDR
– Refresh Rate 120Hz
CPU : – Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
GPU : – Adreno 740 – Apple GPU (5-core graphics)
RAM : – 8GB – 6GB
ROM :
– 128GB – 128GB
– 256GB – 256GB
– 512GB
กล้องหลัง :
– 50MP + 12MP + 10MP – 12MP + 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4
– LED Flash – Dual Tone LED Flash
– Auto Focus – Auto Focus
– PDAF – PDAF
– OIS – OIS
– HDR – HDR
– Panorama – Panorama
– 3x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
– Digital Zoom สูงสุด 30x – 5x Digital Zoom
กล้องหน้า :
– 12MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.2 – ค่ารูรับแสง f/1.9
– Dual Pixel PDAF – Retina Flash
Video :
– 8K@24/30fps
– 4K@30/60fps – 4K@24/25/30/60fps
– 1080p@30fps – 1080p@25/30/60fps
Battery :
– 3900mAh – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง
– Fast Charging 25W – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง
– Fast Charging, 50% in 30 min
ขนาด : – 146.3×70.9×7.6 มม. – 146.7×71.5×7.8 มม.
น้ำหนัก : – 168 กรัม – 172 กรัม
รองรับซิม : – Dual SIM – Nano-SIM และ eSIM
ระบบกันน้ำ : – IP68 – IP68
ระบบเครือข่าย :
– 4G LTE – 4G LTE
– 5G – 5G
ระบบเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
– Bluetooth 5.3 – Bluetooth 5.3
– USB Type-C – USB Lightning
– NFC – NFC
– OTG – Siri
– SOS ฉุกเฉิน
GPS :
– GPS – GPS
– Glonass – Glonass
– Beidou – Beidou
– Galileo – Galileo
Sensor :
– Fingerprint Under Display – Face ID
– Accelerometer – Accelerometer
– Gyroscope – Gyroscope
– Proximity – Proximity
– Compass – Compass
สี :
– Cream – Midnight
– Green – Purple
– Phantom Black – Starlight
– Lavender – Blue
– Red

**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง

Features Samsung Galaxy S23 iPhone 14
วันเปิดตัว : – กุมภาพันธ์ 2566 – กันยายน 2565
ราคา :
– 30,900 บาท (128GB) – 32,900 บาท (128GB)
– 33,900 บาท (256GB) – 36,900 บาท (256GB)
– 45,900 บาท (512GB)
OS : – Android 13 ครอบทับ One UI 5.1 – iOS 16
หน้าจอ :
– หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X – หน้าจอ OLED
– ขนาด 6.1 นิ้ว – ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล
– HDR 10+ – HDR 10
– Gorilla Glass Victus 2 – จอภาพ Super Retina XDR
– Refresh Rate 120Hz
CPU : – Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
GPU : – Adreno 740 – Apple GPU (5-core graphics)
RAM : – 8GB – 6GB
กล้องหลัง :
– 50MP + 12MP + 10MP – 12MP + 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4
– LED Flash – Dual Tone LED Flash
– OIS – OIS
– 3x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
– Digital Zoom สูงสุด 30x – 5x Digital Zoom
กล้องหน้า :
– 12MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.2 – ค่ารูรับแสง f/1.9
– Dual Pixel PDAF – Retina Flash
Video : – 8K@24/30fps
Battery :
– 3900mAh – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง
– Fast Charging 25W – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง
– Fast Charging, 50% in 30 min
ขนาด : – 146.3×70.9×7.6 มม. – 146.7×71.5×7.8 มม.
น้ำหนัก : – 168 กรัม – 172 กรัม
ระบบเชื่อมต่อ :
– USB Type-C – USB Lightning
– OTG
Sensor : – Fingerprint Under Display – Face ID
สี :
– Cream – Midnight
– Green – Purple
– Phantom Black – Starlight
– Lavender – Blue
– Red

จุดเด่น Samsung Galaxy S23 คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1

ใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz กระจก Gorilla Glass Victus 2

ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 8GB มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ 128GB และ 256GB

กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 10MP พร้อม LED Flash กันสั่น OIS รองรับ 3x Optical Zoom และ Digital Zoom สูงสุด 30x บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 12MP รองรับ Dual Pixel PDAF

แบตอึด 3900mAh ชาร์จไว 25W บอดี้ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ฝังสแกนนิ้วใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Cream, Green, Phantom Black และ Lavender

Features iPhone 14 Samsung Galaxy S23
หน้าจอ :
– หน้าจอ OLED – หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X
– ขนาด 6.1 นิ้ว – ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล – ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล
– HDR 10 – HDR 10+
– จอภาพ Super Retina XDR – Gorilla Glass Victus 2
CPU : – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
– Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz
GPU : – Apple GPU (5-core graphics) – Adreno 740
ROM :
– 128GB – 128GB
– 256GB – 256GB
– 512GB
กล้องหลัง :
– 12MP + 12MP – 50MP + 12MP + 10MP
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4
– Dual Tone LED Flash – LED Flash
– OIS – OIS
– 2x Optical Zoom – 3x Optical Zoom
– 5x Digital Zoom – Digital Zoom สูงสุด 30x
กล้องหน้า :
– 12MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.9 – ค่ารูรับแสง f/2.2
– Retina Flash – Dual Pixel PDAF
ระบบเชื่อมต่อ :
– USB Lightning – USB Type-C
– Siri
– SOS ฉุกเฉิน
Sensor : – Face ID – Fingerprint Under Display
สี :
– Midnight – Cream
– Purple – Green
– Starlight – Phantom Black
– Blue – Lavender
– Red

จุดเด่น iPhone 14 คือ ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดมากกว่าที่ 2532×1170 พิกเซล ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz ผสานชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core

ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อม Retina Flash

พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue และ Red

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 และ iPhone 14 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน

อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหลัง, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ, พอร์ตเชื่อมต่อ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันราว 2,000 บาท สำหรับรุ่น 128GB

หากเลือก Samsung Galaxy S23 จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ One UI 5.1

ใช้หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz กระจก Gorilla Glass Victus 2

ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.36GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 8GB มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ 128GB และ 256GB

กล้องหลังคมชัด 50MP + 12MP + 10MP พร้อม LED Flash กันสั่น OIS รองรับ 3x Optical Zoom และ Digital Zoom สูงสุด 30x บันทึกวิดีโอ 8K

กล้องเซลฟี่ 12MP รองรับ Dual Pixel PDAF แบตอึด 3900mAh ชาร์จไว 25W บอดี้ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ฝังสแกนนิ้วใต้จอแสดงผล

หรือหากเลือก iPhone 14 จะได้เครื่องหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดมากกว่าที่ 2532×1170 พิกเซล ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz

ผสานชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS

กล้องเซลฟี่ 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อม Retina Flash พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า

ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ


[mobile-price]