รีวิว Vivo Y50 สเปกไม่ธรรมดา! จอใหญ่ Ultra O Screen ใช้ชิป Snapdragon 665 จับคู่ RAM 8GB กล้องหลัง 4 ตัว แบตอึด 5000 mAh
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนจอใหญ่ แบตอึด กล้องสวยครบเลนส์ และราคาไม่แพง วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo Y50 สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่จากตระกูล Y Series มาฝากให้ได้ชมกัน
Vivo Y50 ใช้หน้าจอดีไซน์ Ultra O Screen ขนาดใหญ่เต็มตา 6.53 นิ้ว บนความคมชัดระดับ Full HD+ ที่สัดส่วนมากถึง 90.77% ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 665 ชิปประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 หน่วยความจำตอบโจทย์ RAM 8GB + ROM 128GB อัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น รันระบบปฏิบัติการใหม่ Funtouch 10 บนพื้นฐาน Android 10 ตอบสนองการใช้งานได้ดี
กล้องหลัง AI ครบเลนส์ 4 ตัว เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 13MP พร้อมเลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมกว้างได้มากถึง 120 องศา มีเลนส์ Bokeh คมชัด 2MP ถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP เก็บภาพในระยะใกล้สุด 4 ซม.
เอาใจสายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า 16MP พร้อม Face Beauty และรองรับ Super Night Mode ทั้งกล้องหน้าและหลัง ทำให้ถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนออกมาได้อย่างสวยงามคมชัด แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh จะฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีย์ เล่นเกม หรือท่องโลกโซเชียล ก็พร้อมใช้งานต่อเนื่องยาวนานตลอดวัน
ส่วนตัวเครื่องได้รับการออกแบบสไตล์โค้งมนแบบ 3D Micro Arc มีความบางเบา สะดวกสบายต่อการถือจับ มีการไล่ระดับสีอย่างลงตัวเหมือนแสงของดวงดาว แสงและเงาตกกระทบบนตัวเครื่อง ทำให้ได้มุมมองสีที่แตกต่างมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าอันฉับไวอีกด้วย
Vivo Y50 ราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 7,999 บาท มีให้เลือก 2 เฉดสีสวยงาม ได้แก่ Starry Black และ Iris Blue โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับวันนี้ ninethaiphone มีรีวิว Vivo Y50 ตัวเครื่องสี Starry Black มาฝากให้เพื่อน ๆ ได้รับชมกัน พูดแล้วอย่ารอช้า เราไปติดตามกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก Vivo Y50
Features | Vivo Y50 |
วันเปิดตัว : | – พฤษภาคม 2563 |
ราคา : | – 7,999.- (ณ วันที่ 26 พ.ค. 63) |
OS : | – Android 10 ครอบทับ Funtouch 10 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.53 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (Full HD+) | |
– ดีไซน์ Ultra O Screen | |
– อัตราส่วน 19.5:9 | |
CPU : | – Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 610 |
RAM : | – 8GB |
ROM : | – 128GB |
– microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 8MP + 2MP + 2MP |
– Main Sensor + Super Wide-Angle + Macro + Bokeh | |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 5000 mAh |
ขนาด : | – 162.04×76.46×9.11 มม. |
น้ำหนัก : | – 197 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n 2.4GHz/5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | |
– OTG | |
– NFC | |
– 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
– GALILEO | |
Sensor : | – Fingerprint |
– Ambient Light | |
– Accelerometer | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Gyroscope | |
สี : | – Starry Black |
– Iris Blue |
แกะกล่อง Vivo Y50
Vivo Y50 บรรจุมาในกล่องสีขาว หน้ากล่องมุมซ้ายบนมีชื่อแบรนด์ Vivo มุมขวาบนมีข้อมูลความจุ RAM + ROM และกึ่งกลางกล่องระบุชื่อรุ่นไว้เด่นชัด
ด้านหลังกล่อง มีข้อมูลโมเดลรุ่น, สีตัวเครื่อง, เลข IMEI เครื่อง พร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ของ Vivo Y50 ระบุเอาไว้ 4 ประการ ได้แก่ หน้าจอดีไซน์ Ultra O Screen ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, แบตอึด 5000 mAh, กล้องหลัง 4 ตัว พร้อมเลนส์ Super Wide-Angle และใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 665
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo Y50 ตัวเครื่องสี Starry Black
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใส
Vivo Y50 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh ภายในกล่องแถม Adapter ชาร์จแบตเตอรี่รองรับกำลังไฟ 15W ผ่านพอร์ต USB Type-C มาให้เรียบร้อย ส่วนเคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นเคสซิลิโคนแบบใสตามภาพข้างต้นค่ะ
ทำความรู้จัก Vivo Y50
ด้านหน้า Vivo Y50 มาพร้อมหน้าจอแบบใหม่ดีไซน์ Ultra O Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.53 นิ้ว สัดส่วนพื้นที่มากถึง 90.77% บนหน้าจออัตราส่วน 19.5:9
ความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+ หรือ 2340×1080 พิกเซล จอสวยคมชัดดี สามารถใช้งานได้กว้างเต็มสายตา
โดยหน้าจอได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นแสดงผลภาพกราฟิกคมชัด และพัฒนาการใช้งาน Interface ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับจอแสดงผลมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดีมากกว่าเดิม และสามารถปรับค่าความสว่างได้ตามสภาพแวดล้อมรอบตัวแบบอัตโนมัติ
ด้านหน้าส่วนบน เหนือหน้าจอด้านบนเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
มุมซ้ายบนเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 16MP พร้อมโหมดการใช้งานเอาใจสายเซลฟี่ ถ่ายภาพออกมาได้สวยงามเป็นธรรมชาติ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง ตัวเครื่องของ Vivo Y50 ได้รับการออกแบบสไตล์โค้งมนแบบ 3D Micro Arc มีความบางเบา สะดวกสบายต่อการถือจับ ตัวเครื่องมีการไล่ระดับสีอย่างลงตัวเหมือนแสงของดวงดาว แสงและเงาตกกระทบบนตัวเครื่อง ทำให้ได้มุมมองสีที่แตกต่างมีมิติมากยิ่งขึ้น
มาพร้อม 2 เฉดสีสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ Starry Black เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว และสี Iris Blue เปรียบเสมือนพื้นน้ำระยิบระยับบนผิวมหาสมุทร
ด้านหลังส่วนบน ประกอบด้วย เลนส์กล้อง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกึ่งกลางด้านบน ส่วนกล้อง 4 ตัวของ Vivo Y50 จัดวางเรียงกันแนวตั้งบนกรอบสี่เหลี่ยมที่มุมมีความโค้งมน เลนส์กล้องด้านหลังของ Vivo Y50 มีดังนี้ค่ะ
• เซ็นเซอร์หลัก ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เก็บภาพสวยทันใจ
• เลนส์ Super Wide-Angle ความละเอียด 8MP ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา ค่ารูรับแสงขนาด f/2.2
• เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลออย่างมืออาชีพ
• เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับการถ่ายภาพ Macro ในระยะใกล้เพียง 4 ซม.
ด้านหลังส่วนล่าง มุมซ้ายล่างพบโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้อยู่ค่ะ
ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง โดย Vivo Y50 รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟ 15W ผ่านพอร์ต USB Type-C
ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องถาดใส่ซิมการ์ด
Vivo Y50 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot สามารถใช้งานได้ในรูปแบบ SIM + SIM + microSD Card เลยค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด และรีสตาร์ทตัวเครื่อง
การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Vivo Y50 ที่มาพร้อมขุมพลัง Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ Funtouch 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน CPU-Z, GPU Mark – Benchmark และ Geekbench 5 พบว่าทำคะแนนการทดสอบด้าน Single Core อยู่ที่ 314 คะแนน ด้าน Multi Core อยู่ที่ 1378 คะแนน ทำคะแนนทดสอบทะลุ 5 แสนคะแนน
สำหรับชิปเซ็ต Snapdragon 665 นี้ใช้นวัตกรรมการผลิตระดับ 11 นาโนเมตร ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Snapdragon 660 ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และทำงานได้อย่างราบรื่น มาพร้อมแกนซีพียู Kryo 260 ประกอบด้วย Cortex-A73 จำนวน 4 แกน ความเร็ว 2.0GHz และ Cortex-A53 จำนวน 4 แกน ความเร็ว 1.8GHz ใช้ชิปกราฟิก Adreno 610 รองรับแรม LPDDR4 และ Bluetooth 5.0
ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 7608MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 104.01GB
สำหรับคอเกม Vivo Y50 มีฟังก์ชัน Ultra Game Mode ช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลได้อย่างชาญฉลาด สามารถตั้งค่าต่าง ๆ ระหว่างเล่นเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น การปฏิเสธสาย, การนับถอยหลังก่อนเริ่มเกม, ระบบสั่นแบบ 4 มิติ, การล็อคความสว่างหน้าจอ และการป้องกันการสัมผัสแบบไม่ตั้งใจ
พร้อมรองรับ Multi-Turbo 3.0 เพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองได้ไว ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Vivo Process Guardian ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และระบบ Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ล่วงหน้า และสามารถแก้ไขได้ถึง 75% พร้อมลดปัญหาที่จะเกิดได้ 80%
และยังช่วยเร่งความเร็วเพิ่มประสิทธิภาพ CPU, GPU และ RAM สามารถกำหนดเวลาทรัพยากร AI ในเครื่อง เพิ่มความเสถียร และความเร็วของเครือข่าย รวมไปถึงเร่งความเร็วการระบายความร้อนในเครื่องขณะใช้งาน เป็นต้น สำหรับวันนี้เราได้ดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE และ Garena RoV มาลองเล่นกันดูค่ะ
เริ่มกันที่เกม PUBG MOBILE ภาพกราฟิกสามารถปรับอยู่ในระดับสมดุล และเฟรมเรทระดับกลาง ตามค่าสเปกของเครื่องค่ะ
ภาพบนจอคมชัดดี ตัวเกมเล่นได้แบบลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็นเลย
ส่วนเกม RoV สุดยอดเกมมือถือแนว MOBA แนวต่อสู้แบบเรียลไทม์ในระบบสุดมันส์ เราเปิดใช้งานโหมดเฟรมเรทที่ระดับสูง
ภาพเกม HD ปรับได้ในระดับสูงมาก ส่วนการแสดงผลรองรับที่ระดับสูงค่ะ
ด้านประสิทธิภาพการเล่นเกมพบว่าตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ระบบทัชสกรีนลื่นไหล ตัวเกมเล่นได้แบบเพลิน ๆ ไม่มีอาการหน่วง หรือสะดุดเลย
Interface
หน้าจอ Lock Screen ปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน หรือหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือและปลดล็อกด้วยใบหน้าแล้ว ก็สามารถสแกนนิ้วมือด้านหลังเครื่อง หรือกดปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลย และเข้าถึงเมนูโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย หรือกล้องถ่ายภาพที่มุมขวาล่าง ซึ่งหากลงทะเบียนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าไว้จะต้องทำการปลดล็อกก่อน ไม่ฉะนั้นจะใช้งานได้เฉพาะโทรฉุกเฉินค่ะ
หลังจากที่ปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen โดยมีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบ และเมื่อปัดหน้าจอไปทางขวาสุดจะพบกับหน้าทางลัด สามารถเข้าถึงแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถจัดเรียงหรือลบแอปฯ ต่าง ๆ บนหน้าจอได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง ตั้งค่าวิดเจ็ต เอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวของหน้าต่าง และการตั้งค่าอื่น ๆ ได้อีกด้วย
เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับหน้าแจ้งเตือนและฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิด Wi-Fi, เปิด Internet, ไฟฉาย, การใช้หน้าจอแยก, เปิดโหมดถนอมสายตา, เปิด Dark Mode, เครื่องคิดเลข, การบันทึกวิดีโอหน้าจอ และการเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นต้น
เครื่องมือการใช้งานเริ่มที่ เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง
สมุดโน้ต, นาฬิกาปลุก, แอปฯ วัดสภาพอากาศ
ปฎิทิน, เข็มทิศ, วิทยุ FM
เมนูหน้าโทรศัพท์ และการรับส่งข้อความ
ศูนย์รวมธีม, Vivo Cloud, แอปฯ Vivo.com
รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น และสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้ที่ Play Store และ V-Appstore
นอกจากนี้ยังมี Hot Apps และ Hot Games ซึ่งเป็นการแนะนำเกม หรือแอปฯ ยอดนิยมให้อีกด้วย
รองรับ iManager แอปฯ จัดการพื้นที่ต่าง ๆ ภายในเครื่องให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น ด้วยการล้างข้อมูลขยะต่าง ๆ ในเครื่อง หรือตั้งค่าการรับส่งข้อมูล รายละเอียดของข้อมูล รวมไปถึงการตั้งค่าเกี่ยวกับการใช้บริการเครือข่ายด้วย
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
หน้าจอของ Vivo Y50 รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, โหมดถนอมสายตาช่วยกรองแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และปรับความเข้มของโทนสีเหลืองได้, Dark Mode ที่เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด และช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง
รองรับการปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้, รองรับการสะท้อนอัจฉริยะ และ Vivo Share
โหมดสำหรับเด็ก ช่วยจำกัดเวลาในการใช้งาน ป้องกันการติดเกม มีโหมดถนอมสายตา และล็อกแอปฯ ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ๆ โดยสามารถเลือกแอปฯ ที่จะใช้งานได้
รองรับการโคลนโทรศัพท์ที่สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo Y50 รองรับทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้าเลยค่ะ โดยก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน
และการปลดล็อกด้วยใบหน้า สามารถลงทะเบียนได้ง่าย ๆ เพียงยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาสแกนใบหน้า ส่วนการใช้งานต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน
รองรับโหมดมอเตอร์ไซค์ สำหรับผู้ใช้สมาร์ตโฟนร่วมกับมอเตอร์ไซค์เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ โดยสามารถตั้งค่าปฏิเสธสายแบบอัตโนมัติ, ตอบกลับอัตโนมัติด้วย SMS, ปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ หรือประเมินความเร็วก่อนการรับสาย เป็นต้น
รองรับทางลัดการเข้าถึงมากมาย เช่น การใช้งานอัจฉริยะ เป็นการเปิดการใช้งานฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เพื่อปลุกหน้าจอ อาทิ SmartWake การวาดตัวอักษรที่กำหนดผ่านหน้าจอที่กำลังสลีป, ใช้งานโดยไม่สัมผัส, เปิด/ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ, การโทรอัจฉริยะ, เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย และการเตือนอัจฉริยะ เป็นต้น
รองรับ Easy Touch, การเปิดโหมด AI Beauty ระหว่างโทรผ่านวิดีโอ LINE, Facebook Messenger และการเปิดแฟลชเพื่อแจ้งเตือน
รองรับ Multi-Turbo 3.0 ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Vivo Process Guardian ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และระบบ Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถวิเคราห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ล่วงหน้า และสามารถแก้ไขได้ถึง 75% พร้อมลดปัญหาที่จะเกิดได้ 80%
นอกจากนี้ยังช่วยเร่งความเร็วเพิ่มประสิทธิภาพ CPU, GPU และ RAM สามารถกำหนดเวลาทรัพยากร AI ในเครื่อง เพิ่มความเสถียร และความเร็วของเครือข่าย รวมไปถึงเร่งความเร็วการระบายความร้อนในเครื่องขณะใช้งาน เป็นต้น ถัดมาเป็นหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และหน้าแสดงหน่วยความในเครื่องค่ะ
ส่วนการแคปหน้าจอก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ทั้งการใช้ 3 นิ้วลากลง หรือการกดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์
ด้านการเปิดใช้งาน 2 หน้าจอ ฟังก์ชันนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, LINE, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว (แต่ใช้ได้แค่ 2 แอปฯ พร้อมกันนะคะ) เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน
ไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการจะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่ง
รองรับการโคลนแอปฯ หรือการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
หน้านี้เป็นหน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ พร้อมการตั้งค่าใช้งาน Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ หรือช่วยวางแผนการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
รองรับ Ultra Game Mode เพิ่มความเร็วให้กับระบบ ลดความล่าช้าของหน่วยความจำ ป้องกันปัญหาเฟรมเรตตก พร้อม AI Turbo มีความฉลาดในการสั่งงานเรียกใช้งานแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยให้เร็วยิ่งขึ้น มีระบบการเข้าถึง และการเพิ่มประสิทธิภาพขั้นสูงสำหรับการเล่นเกม ทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานอย่างรวดเร็ว เล่นเกมได้แบบลื่น ๆ
สามารถเปิดใช้งานตั้งค่ารายละเอียดอื่น ๆ ระหว่างเล่นเกมได้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น การโทรเบื้องหลัง ที่สามารถคุยโทรศัพท์ระหว่างเล่นเกมได้, การบล็อคการแจ้งเตือนต่าง ๆ, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, โหมด E-sport เป็นต้น การใช้งานให้ไปที่ การตั้งค่า >> Ultra Game Mode เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชันเพิ่มเติม
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ ซึ่งการเคลียร์แอปฯ จะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่อง ทั้งยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่รูปกุญแจมุมขวาบน หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนใกล้ ๆ กัน
มีโหมดจัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น
สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสาย USB Type C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC และสามารถเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้าเลยค่ะ โดย Vivo Y50 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 มาพร้อมโหมดการใช้งานมากมาย เดี๋ยวเราไปดูทั้งหมดเลยค่ะ
เริ่มที่ โหมด Super Night Selfie ระบบ AI สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ช่วงเวลากลางคืนได้อย่างชาญฉลาด ลดการเกิด Noise และจุดที่ภาพสว่างมากเกินไป ช่วยปรับปรุงค่าความสว่าง และความคมชัดของภาพถ่าย ทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยโหมดเซลฟี่กลางคืนนี้รองรับฟีเจอร์ Face Beauty ปรับค่าผิวเนียนหน้าใสได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie
ถัดมาเป็นโหมด Portrait หรือถ่ายภาพบุคคล รองรับ Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย มีโหมดถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ พร้อมรองรับ Face Beauty ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก
รองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ และ Pose Master
สำหรับ Pose Master ให้เราได้ถ่ายภาพเซลฟี่แบบใหม่ คิดท่าทางมาให้เสร็จสรรพ สามารถวิเคราะห์ฉากต่าง ๆ และปรับแต่งให้อัตโนมัติโดยยังคงความเป็นธรรมชาติไว้อยู่
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Face Beauty
Face Beauty ระดับ 50
Face Beauty ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR, ฟิลเตอร์สีสวย ๆ และเอฟเฟกต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคล ที่ทำให้ตัวบุคคลนั้นโดดเด่นขึ้น และฉากหลังสีสันสวยงาม
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติไม่ปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสงถ่ายภาพบุคคล
แสงธรรมชาติ
ไฟสตูดิโอ
ไฟสเตอริโอ
แสงลูปไลท์
แสงรุ้ง
โหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกที่ความละเอียด HD 480p, 720p จนถึง Full HD 1080p พร้อมรองรับ Face Beauty ปรับค่าความสวยเนียนได้ทันใจ (ใช้ได้เฉพาะความละเอียด 480p และ 720p เท่านั้น)
ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพิเศษ โดยกล้องหน้าของ Vivo Y50 รองรับ Panorama Selfie และ Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ
และ AR Stickers Mode ที่มีสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ให้ใช้งานเพียบ และหากต้องการบันทึกเป็นวิดีโอก็กดค้างไปที่ปุ่มชัตเตอร์ค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers
มาต่อที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังกันเลยค่ะ โดย Vivo Y50 มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย 13MP (Main Sensor) + 8MP (Super Wide-Angle) + 2MP (Macro) + 2MP (Bokeh) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 ตามลำดับ พร้อมไฟแฟลช LED
โดยเลนส์ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา เลนส์ Macro ถ่ายภาพวัตถุได้ในระยะใกล้ 4 ซม. และเลนส์ Bokeh กล้องวัดระยะชัดลึกชัดตื้นสำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ มาพร้อมโหมดการใช้งานมากมาย เดี๋ยวเราไปชมกันเลยค่ะ
เริ่มที่ Night Mode โหมดถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนโดยเฉพาะ ระบบ AI สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ช่วงเวลากลางคืนได้อย่างชาญฉลาด ลดการเกิด Noise และจุดที่ภาพสว่างมากเกินไป ช่วยปรับปรุงค่าความสว่าง และความคมชัดของภาพถ่าย ทำให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการปรับอัตราส่วนภาพ
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Mode
โหมด Portrait รองรับไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย, การถ่ายภาพมุมมองกว้างพิเศษ Ultra Wide-Angle และ Face Beauty ที่ปรับได้หลายอย่างเหมือนกล้องหน้าเลยค่ะ อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว และกระชับผิว เป็นต้น
รองรับ Pose Master ที่คิดท่าทางการถ่ายภาพแบบชิค ๆ ทำให้ได้ภาพถ่ายที่เก๋มากยิ่งขึ้น พร้อมฟิลเตอร์สีสวย ๆ และสามารถซูมได้สูงสุด 4 เท่าค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Face Beauty
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุดถึง 4 เท่า พร้อมมีฟังก์ชันการถ่ายภาพ 3 แบบ
ได้แก่ Super Macro ถ่ายภาพวัตถุได้สวยคมชัดในระยะใกล้ 4 ซม., Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และ Ultra Wide-Angle ถ่ายภาพมุมมองกว้างพิเศษ 120 องศา (ฟังก์ชันนี้เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศาค่ะ)
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide-Angle
พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ และเอฟเฟกต์แสงถ่ายภาพบุคคลเหมือนกับกล้องหน้าเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสงถ่ายภาพบุคคล
นอกจากนี้กล้อง AI ยังมีความชาญฉลาด สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เรากำลังถ่ายอยู่นั้นคืออะไร จากนั้นกล้องจะปรับให้ภาพออกมาดีและเหมาะสมมากที่สุด
โหมดบันทึกวิดีโอ สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ HD 720p, Full HD 1080p และระดับ 4K รองรับเปิดใช้งานไฟแฟลช, Face Beauty ปรับตั้งค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก, การบันทึกวิดีโอแบบ Ultra Wide-Angle เก็บภาพมุมมองกว้าง และมี Ultra Stable หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นของมือ ช่วยป้องกันภาพสั่นไหวระหว่างบันทึกวิดีโอ
ส่วนโหมดการใช้งานพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้าง, Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ
Slo-Mo บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น, วิดีโอ Time-Lapse ปรับค่าความเร็วได้เอง, Pro ปรับตั้งค่า White Balance, การควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ และ Auto Focus ได้เอง
ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo
AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย
ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers
รองรับ Jovi Vision ด้วยความชาญฉลาดทำให้ผู้ใช้งานสามารถสแกนเพื่อวิเคราะห์หาสินค้าที่ต้องการจากฐานข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยระบบจะแสดงข้อมูลสินค้า ราคา ข้อมูลที่น่าสนใจต่าง ๆ ให้เราได้สนุกไปกับยุคของการช้อปปิ้งออนไลน์แบบเต็มประสิทธิภาพ โดยระบบมีความแม่นยำพอสมควรเลยค่ะ วิธีการใช้งานก็ง่าย ๆ เพียงแค่ถ่ายสิ่งของที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นระบบจะสแกนค้นหาให้ทันที
DOC Mode สำหรับถ่ายภาพเอกสาร โดยจะเป็นการครอปส่วนเฉพาะที่เป็นตัวอักษรเท่านั้น ตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแก้ไขโหมดถ่ายภาพบนหน้าอินเตอร์เฟชได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย DOC Mode
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังแบบไม่ปรับแต่งมุมต่าง ๆ กันต่อเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y50
สรุป
- มาพร้อมหน้าจอ Ultra O Screen ขนาด 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ จอใหญ่เต็มตา ใช้งานสะดวก มีสัดส่วนจอมากถึง 90.77% ใช้งานดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ได้แบบเพลิน ๆ
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch 10 บนพื้นฐาน Android 10 ตอบสนองการใช้งานได้ว่องไว
- ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card
- กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย 13MP (Main Sensor) + 8MP (Super Wide-Angle) + 2MP (Macro) + 2MP (Bokeh) พร้อม LED flash และฟังก์ชันการใช้งานมากมาย
- กล้องหน้าความละเอียด 16MP รองรับ Face Beauty ปรับค่าความสวยเนียนทันใจ ค่ายนี้เขาทำกล้องหน้าออกมาได้โดนใจสายเซลฟี่อยู่แล้ว
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ที่สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยมีถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot ใช้งานได้ในรูปแบบ SIM + SIM + microSD Card เลยค่ะ
- แบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh สนับสนุนพอร์ต USB Type-C
- มีให้เลือก 2 สี ตามสไตล์ของผู้ใช้แต่ละคน ได้แก่ Starry Black และ Iris Blue
ข้อสังเกต
- ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ไม่แถมหูฟังมาให้
- ตัวเครื่องใช้วัสดุเงางาม ทำให้เกิดรอยคราบนิ้วมือได้ง่าย ควรสวมใส่เคสขณะใช้งาน
- โหมดถ่ายวิดีโอ Slo-Mo ยังจับโฟกัสไม่ค่อยนิ่งในช่วงแรก ๆ
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Asus ZenFone Max Pro (M2)
- Huawei Y9s
- OPPO A9 2020
- realme 6
- Samsung Galaxy M31
- Vivo S1
- Xiaomi Redmi Note 8 Pro
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply