รีวิว Vivo Y31 ขุมพลัง Snapdragon 662 แรม 8GB กล้องหลัง 48MP แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 18W สแกนนิ้วข้างเครื่อง ในราคาสุดประหยัด!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนสเปกสุดคุ้ม แบตอึด ๆ ดีไซน์โดดเด่น กล้องหลังคมชัด ในราคาเป็นมิตร วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo Y31 สมาร์ตโฟน Vivo รุ่นแรกของปี 2021 และเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y Series มาฝากให้ได้ชมกัน
สำหรับ Vivo Y31 มาพร้อมหน้าจอดีไซน์ Halo FullView ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พร้อมมีฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาด้วย โดยขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 662 หน่วยความจำ RAM 8GB คู่ความจุ ROM 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB พร้อมรัน Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพ Vivo Y31 ติดตั้งกล้องหลัง AI 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP + 2MP + 2MP มีทั้งเลนส์ Bokeh และ Super Macro พร้อม Super Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนสุดคมชัด ส่วนกล้องเซลฟี่ 8MP มาพร้อม AI Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนได้ถึง 100 ระดับ
ดีไซน์ตัวเครื่อง Dazzling 3D Colors สวยโดดเด่น ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ใช้งานสะดวกปลดล็อกง่ายฉับไว และใช้งานต่อเนื่องข้ามวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh พร้อมสนับสนุนชาร์จไว 18W
Vivo Y31 ราคาจำหน่ายเพียง 7,499 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Racing Black และ Ocean Blue วางจำหน่ายแล้วที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก Vivo Y31
Features | Vivo Y31 |
วันเปิดตัว : | – มกราคม 2564 |
ราคา : | – 7,499.- (ข้อมูล ณ เดือน ม.ค. 64) |
OS : | – Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.58 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2408×1080 พิกเซล | |
CPU : | – Snapdragon 662 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 610 |
RAM : | – 8GB |
ROM : | – 128GB |
– microSD Card สูงสุด 1TB | |
กล้องหลัง : | – 48MP + 2MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.4 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– กันสั่น EIS | |
– PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 8MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 5000mAh ชาร์จไว 18W |
ขนาด : | – 163.86×75.32×8.38 มม. |
น้ำหนัก : | – 188 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz / 5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | |
– OTG | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
– Galileo | |
– Beidou | |
Sensor : | – Fingerprint (ด้านข้างตัวเครื่อง) |
– Face Wake | |
– Accelerometer | |
– Ambient Light | |
– Proximity | |
– Gyroscope | |
– Compass | |
สี : | – Racing Black |
– Ocean Blue |
แกะกล่อง Vivo Y31
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo Y31 ตัวเครื่องสี Racing Black
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ รองรับ 18W Flash Charge
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– หูฟัง
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
ในส่วนของเคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ เป็นเคสซิลิโคนแบบใส เมื่อสวมใส่แล้วช่วยปกป้องรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วนระหว่างใช้งานได้เป็นอย่างดี
สำหรับ Vivo Y31 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh ที่สนับสนุนเทคโนโลยี 18W Flash Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 70% ในระยะเวลาสั้น ๆ พร้อมมีเทคโนโลยี AI ช่วยประหยัดพลังงาน ชาร์จเต็ม 100% สามารถรับชมภาพยนตร์ในรูปแบบ HD ได้นาน 17.9 ชั่วโมง หรือเล่นเกมได้นานถึง 9.9 ชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ ผ่านสาย OTG ได้อีกด้วย
ทำความรู้จัก Vivo Y31
ด้านหน้า Vivo Y31 มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ดีไซน์ Halo FullView ขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว บนความละเอียดระดับ Full HD+ หรือ 2408×1080 พิกเซล หน้าจอใหญ่กำลังดี ไม่ว่าจะดูหนัง ดูวิดีโอ หรือเล่นเกมโปรด ก็สามารถรับชมภาพที่มีความละเอียดสูง พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเราขณะใช้งานอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนบน ด้วยความที่หน้าจอมาพร้อมดีไซน์ Halo FullView ด้านบนจึงมีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็กที่ไม่บดบังรายละเอียดบนจอแสดงผล โดยเป็นตำแหน่งติดตั้งของกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8MP พร้อมรองรับฟีเจอร์ Face Wake หรือระบบจดจำใบหน้าด้วย โดยสามารถใช้ปลดล็อกสมาร์ตโฟนได้อย่างง่ายดายเพียง 0.3 วินาที เมื่อหยิบเครื่องขึ้นมา และเหนือหน้าจอเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาค่ะ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลัง Vivo Y31 มาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องโค้งมน สีสันสวยสะดุดตาดีไซน์ Dazzling 3D Colors ตัวเครื่องถือจับกระชับมือ พกพาสะดวกไม่ใหญ่เกินไป โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Racing Black สีดำสื่อถึงความรู้สึกพลังที่แข็งแกร่งโดดเด่นสะดุดตา และ Ocean Blue สีที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหาสมุทรริมชายหาด สื่อถึงความมีชีวิตชีวาค่ะ
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง AI 3 เลนส์ จัดวางในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งกรอบสีเงินมุมโค้งมน พร้อมไฟแฟลช LED บนโมดูลมีข้อความสกรีนว่า Triple Camera 24-27MM ASPH. โดยจัดเรียงชิดขอบตัวเครื่องอย่างสวยงาม
สำหรับกล้องหลังของ Vivo Y31 มาพร้อมเซ็นเซอร์หลัก 48MP + เลนส์ Bokeh คมชัด 2MP + เลนส์ Super Macro คมชัด 2MP ส่วนโหมดการใช้งานต่าง ๆ เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันในโหมดกล้องถ่ายภาพอีกทีค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง พบรูไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ด
โดย Vivo Y31 มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB นั่นหมายความว่าสามารถใช้งานได้ในรูปแบบ SIM 1 + SIM 2 + microSD Card เลยค่ะ
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ปุ่ม หรือฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์แบบ 2 in 1 สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง
โดยปุ่มพาวเวอร์นี้จะฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ ใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างว่องไวเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น การใช้งานสแกนนิ้วมือมีความชาญฉลาด ตอบสนองเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่สภาพแวดล้อมจริงรอบตัวเราด้วยนะคะ
Performance
Vivo Y31 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 662 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 หน่วยความจำ 8GB จับคู่ความจุ 128GB และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้มากยิ่งขึ้น ใช้งานได้อย่างราบรื่น และอัปเกรดพื้นที่หน่วยความจำด้วย microSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเราจะนำไปทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark, Geekbench 5 และ CPU-Z กันค่ะ
เริ่มที่ AnTuTu Benchmark พบว่า Vivo Y31 สามารถทำคะแนนการทดสอบรวมสูงถึง 190681 คะแนน
ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ตามข้อมูลระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล V2036 รันบน Android 11 จีพียู Adreno 610 หน้าจอรีเฟรชเรท 60Hz ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ กล้องหลัง 48MP กล้องหน้า 8MP หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 5.35GB ความจุที่ใช้งานเหลือ 104.07GB และไม่รองรับ NFC เป็นต้น
การทดสอบของ Geekbench 5 สามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 315 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1432 คะแนน
และข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 4864MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 106.88GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Adreno 610 ชิปเซ็ตรหัส Bengal หน้าจอระดับ Full HD+ ขนาด 6.56 นิ้ว และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 เป็นต้น
สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Legacy of Discord (เทพ) เกมต่อสู้แบบเรียลไทม์บนโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ และ Asphalt 9 เกมแข่งรถภาพสวย มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ
โดยเกม Legacy of Discord ภาพกราฟิกบนหน้าจอสีสวยคมชัดดี มีภาพกราฟฟิก 3D และสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่สมจริง ระบบทัชสกรีนตอบสนองไว แต่มีบางช่วงที่ตัวเกมกระตุกบ้างนิดหน่อย
ขณะที่เกม Asphalt 9 ตัวเกมลื่นไหลดี เล่นได้แบบเพลิน ๆ ระบบทัชสกรีนตอบสนองไว ภาพในเกมสวยสมจริง ภาพสีคมชัด
ด้านการรับชม YouTube สามารถรับชมคลิปวิดีโอ หรือความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างจุใจ รอยบากทรงหยดน้ำบนหน้าจอมีขนาดที่เล็ก ทำให้ไม่บดบังรายละเอียดใดระหว่างใช้งานเลยค่ะ
ทั้งยังมาพร้อมคุณภาพเสียงระดับทรงพลัง ที่เราสามารถเพิ่มระดับเสียงได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะ ดูหนัง, ฟังเพลง, ชมคลิปวิดีโอต่าง ๆ, ก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มเสียงได้สูงสุด 73dB และใช้เอฟเฟ็กต์เสียงแบบ Super Audio ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Vivo ทำให้ได้รับประสบการณ์การรับชมทั้งภาพและเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
Interface
เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen เราสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า, รูปแบบ หรือรหัสผ่านนะคะ แต่ถ้าใครลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา หากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อน หรือถ้าจะสแกนลายนิ้วมือก็วางนิ้วมือที่ลงทะเบียนไปที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างตัวเครื่อง
หลังจากปลดล็อกหน้าจอจะเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบดี
เมื่อปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย, โหมดเครื่องบิน, ธีมหน้าจอมืด หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น แต่หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง
หากกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะปรากฏแถบเมนูการตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลังวอลเปเปอร์ขึ้นมา
ด้านแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google มีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store
รองรับ iManager ที่ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะ, หรือสแกนหาปัญหาต่าง ๆ ขณะใช้งาน ช่วยให้สมาร์ตโฟนเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา
หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
รองรับ Google Assistant เราสามารถสั่งการค้นหา หรือเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงพูด
รองรับแอปฯ วัดสภาพอากาศ, นาฬิกาปลุก และแอปฯ EasyShare
รองรับสมุดโน๊ต, ปฏิทิน และ Multi-Turbo 4.0 ฟังก์ชันที่สามารถปรับฉากในเกมให้เหมาะสม ลดปัญหาการกระตุก หรือความล่าช้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีระบบประมวลผลและหน่วยความจำที่ชาญฉลาด จะเปิดใช้งานหลายแอปฯ ก็ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
สำหรับหน้าจอของ Vivo Y31 รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนจอแสดงผลให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง สำหรับฟีเจอร์นี้ช่วยกรองแสงสีฟ้า และถนอมสายตาระหว่างใช้งานในช่วงเวลากลางคืน
นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับ Dark Mode ที่เปลี่ยนภาพพื้นหลังให้เป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้เองอีกด้วย
รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก สามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนจดจำใบหน้า หรือภาพเคลื่อนไหวขณะชาร์จแบตเตอรี่ และอื่น ๆ
รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
มีระบบ AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ภายในเครื่อง รองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่เพื่อเซฟแบตไว้ใช้นาน ๆ และสามารถจัดสรรการใช้พลังงานเบื้องหลังได้อีกด้วย
ด้านระบบรักษาความปลอดภัย Vivo Y31 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง และมีสแกนใบหน้าฉับไวค่ะ ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อนนะ
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
รองรับ Ultra Game Mode มอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับ E-Sport มีโหมดป้องกันการรบกวนต่าง ๆ สามารถปิดกั้นการแจ้งเตือน และข้อความได้ขณะเล่นเกม พร้อมมีโหมดการเล่นอัตโนมัติขณะหน้าจอล็อก, บันทึกหน้าจอ, โหมด Picture-in-Picture และปรับคุณภาพเสียง เป็นต้น
การตั้งค่าทางลัด และการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน, การใช้งานมือเดียว, การแบ่งหน้าจออัจฉริยะ, การแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช และการโทรวิดีโอด้วยฟีเจอร์ใบหน้าสวย เป็นต้น
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ และหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ
และหากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้เพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่อง และยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอค่ะ
รองรับการถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองขณะชาร์จแบตเตอรี่ โดยบนหน้าจอจะแสดงการชาร์จแบบ Flash Charge พร้อมเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ขึ้นมา และสามารถเปิด-ปิด, เปิดเหตุฉุกเฉิน หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาเริ่มที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลย โดย Vivo Y31 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 รองรับ AI Face Beauty ปรับค่าผิวสวยเนียนทันใจ และ Bokeh Effect ปรับฉากหน้าชัดหลังละลาย
พร้อมรองรับ Auto Focus หรือโหมดโฟกัสอัตโนมัติฉับไว มีประสิทธิภาพการทำงานที่ชาญฉลาด ช่วยปรับแสง สีผิว และรายละเอียดของภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ
เริ่มที่ Portrait Mode โหมดถ่ายภาพบุคคลที่รองรับการถ่าย Bokeh หรือหน้าชัดหลังเบลอ โดยสามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพ และซูมได้ 2 เท่า
รองรับ AI Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนทันใจได้ 100 ระดับ และมี Pose Master ที่ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่มาให้ด้วย ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่แบบกลุ่ม พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้ใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
Photo Mode รองรับการเปิดไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพ มีฟิลเตอร์สีให้เลือกใช้งานมากมาย พร้อมรองรับเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง
Video Mode รองรับที่ความละเอียด 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมรองรับ AI Face Beauty ปรับรายละเอียดต่าง ๆ ได้ถึง 100 ระดับ อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, ความขาว และรูปหน้า เป็นต้น แต่หากจะเปิดใช้งาน AI Face Beauty จะต้องปรับความละเอียดของวิดีโอไว้ที่ระดับ HD เท่านั้นค่ะ
ตัวอย่าง Face Beauty Video
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหน้าของ Vivo Y31 จะรองรับแค่โหมด Panorama Selfie เซลฟี่แบบมุมกว้าง และ Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ
มาต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังบ้าง โดย Vivo Y31 มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 เลนส์ ความละเอียด 48MP + 2MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.4 + f/2.4 พร้อม LED flash, กันสั่น EIS และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย สามารถถ่ายภาพได้ดั่งใจทั้งกลางวันและกลางคืน
โดยเซ็นเซอร์หลักนี้มีความคมชัดมากถึง 48MP สามารถประมวลผลภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น และคมชัดเป็นพิเศษ ถัดมาเป็นเลนส์ Bokeh คมชัด 2MP ให้การเบลอฉากหลังที่แม่นยำ มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น ภาพถ่ายบุคคลดูสมจริง และสวยงามเป็นธรรมชาติ สุดท้ายเป็นเลนส์ Super Macro สามารถถ่ายภาพวัตถุในระยะใกล้เพียง 4 ซม. เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานกันต่อเลยค่ะ
เริ่มที่ Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนสุดคมชัด สามารถเก็บภาพถ่ายช่วงกลางคืนได้อย่างสวยงามเพียงแตะเดียว โดยระบบจะใช้อัลกอริธึมประมวลการถ่ายภาพแบบหลายเฟรมเพื่อลดการเกิดนอยส์บนภาพถ่าย ใช้เวลาในการประมวลผลไม่นาน และมาพร้อมฟิลเตอร์ Stylish Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน 4 แบบเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode
Portrait Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนภาพ และซูมได้ 8 เท่า พร้อมรองรับโหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วย
รองรับ AI Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนได้ 100 ระดับเหมือนกับกล้องหน้า โดยสามารถเลือกปรับรายละเอียดต่าง ๆ ได้ อาทิ ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ผิวขาว, ใบหน้าเรียว เป็นต้น และรองรับ Pose Master เซลฟี่สวยด้วยท่าทางต่าง ๆ ที่เป็นไกด์ไลน์มาให้ พร้อมมีฟิลเตอร์สวย ๆ ให้เลือกใช้งานเพียบ
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
Photo Mode รองรับไฟแฟลช, HDR และซูมได้สูงสุด 8 เท่า พร้อมมีโหมด Bokeh สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ
และ Super Macro สำหรับถ่ายวัตถุใกล้เพียง 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีหลากหลาย และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลสีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานด้วยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง
Video Mode รองรับการบันทึกที่ความละเอียด 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมมี AI Face Beauty ปรับรายละเอียดต่าง ๆ ได้ 100 ระดับ เมื่อปรับความละเอียดวิดีโออยู่ที่ระดับ HD และสามารถเปิดไฟแฟลชขณะถ่ายวิดีโอได้
นอกจากนี้ระหว่างถ่ายวิดีโอยังมาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันการสั่นไหว EIS ใช้การครอบตัดและการปรับแต่งของแต่ละเฟรมด้วยอัลกอริทึมแบบอัตโนมัติ เพื่อชดเชยภาพที่กระตุก และให้เข้ากันกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะบันทึกวิดีโอขณะเคลื่อนไหว ก็สามารถเก็บภาพวิดีโอที่มีความเสถียรและคมชัดมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง Video กล้องหลัง
ขณะที่โหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ AI 48MP ถ่ายภาพคมชัดสุดด้วยความละเอียดกล้อง 48 ล้านพิกเซล, Panorama เก็บภาพมุมกว้างเต็มสายตา
ตัวอย่างภาพถ่าย AI 48MP
Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Video Slo-Mo ถ่ายวิดีโอภาพเคลื่อนไหวในจังหวะช้า ๆ
ตัวอย่าง Slo-Mo Video
Mode Pro สามารถปรับค่าแสง White Balance, ISO หรือระบบ Auto Focus ได้เอง และโหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสาร
นอกจากนี้เมื่อกดไปที่รูปฟันเฟืองในโหมดกล้องถ่ายภาพ ยังมีให้ตั้งค่าการใช้งานอีกมากมาย อาทิ การเปิดใช้นับเวลาถอยหลัง, วางเส้นองค์ประกอบ, เปิด AI การระบุฉาก หรือปรับความละเอียดวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เป็นต้น
และที่พิเศษคือกล้องถ่ายภาพยังมาพร้อมฟังก์ชันลายน้ำ หรือ Custom Watermark ที่มีทั้งลายน้ำเวลา, รูปแบบลายน้ำ ซึ่งจะขึ้นเป็นชื่อรุ่น Vivo Y31 และลายน้ำที่กำหนดเอง โดยเราสามารถเพิ่มข้อความลายน้ำที่เราต้องการได้อีกด้วย และลายน้ำดังกล่าวจะปรากฏอยู่บริเวณมุมซ้ายล่างของภาพถ่ายค่ะ
ตัวอย่าง Custom Watermark
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y31
สรุป
- ใช้หน้าจอดีไซน์ Halo FullView ขนาด 6.58 นิ้ว บนความละเอียด Full HD+ จอกว้างเต็มตา รับชมภาพที่มีความละเอียดสูงได้สบายตา พร้อมมีฟีเจอร์กรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาขณะใช้งานอีกด้วย
- ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11 เวอร์ชันใหม่
- ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 662 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz พร้อมหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB แถมเพิ่ม microSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว คมชัดสุด 48MP มีทั้งเลนส์ Bokeh และ Super Macro มาพร้อมโหมด Super Night เก็บภาพช่วงเวลากลางคืน และระหว่างบันทึกวิดีโอมีระบบกันสั่น EIS
- แบตเตอรี่สุดอึดใช้งานได้นานข้ามวัน 5000mAh พร้อมสนับสนุนชาร์จไว 18W ผ่านพอร์ต USB Type-C
- มาพร้อมคุณภาพเสียงที่ทรงพลัง เพิ่มระดับเสียงได้ตามต้องการ ทั้งเสียงเรียกเข้า, เสียงคลิปวิดีโอ หรือเสียงภาพยนตร์ เป็นต้น
- มีฟังก์ชัน Custom Watermark ตั้งค่าลายน้ำบนภาพถ่ายตามที่ต้องการ
- มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด + microSD Card
- สแกนลายนิ้วมือฉับไวด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมมีสแกนใบหน้าที่รวดเร็วไม่แพ้กัน
- ตัวเครื่องสีสันสวยสง่า ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก มีให้เลือกซื้อ 2 สี คือ Racing Black และ Ocean Blue ตอบโจทย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ
ข้อสังเกต
- ไม่มีเลนส์กล้อง Ultra-Wide และไม่มีโหมดถ่ายภาพมุมกว้าง
- กล้องหน้าความละเอียดน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังสามารถเซลฟี่ออกมาได้สวยงามอยู่นะ
- ตัวเครื่องมีความเงางาม ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ควรสวมใส่เคสขณะใช้งาน
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Huawei Y9s
- Moto G9 Plus
- OPPO A9 2020
- realme 7i
- realme narzo 20 Pro
- Samsung Galaxy A31
- Samsung Galaxy M31
- Vivo Y50
- Redmi Note 9 Pro
- Redmi Note 9T
- POCO X3 NFC
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply