รีวิว Vivo Y20 น้องใหม่สเปกครบ!! จอใหญ่ Halo FullView กล้องหลัง 3 ตัว แบตจุใจ 5000mAh สแกนนิ้วข้างเครื่อง ในราคาเบา ๆ

รีวิว Vivo Y20 น้องใหม่สเปกครบ!! จอใหญ่ Halo FullView กล้องหลัง 3 ตัว แบตจุใจ 5000mAh สแกนนิ้วข้างเครื่อง ในราคาเบา ๆ

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนจอใหญ่ แบตจุใจ สเปกครบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ในงบไม่เกิน 6 พันบาท วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo Y20 สมาร์ตโฟนน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดตัวในไทยไปเมื่อไม่นานมานี้มาฝากให้ได้ชมกัน

Vivo Y20 มาพร้อมสโลแกน Side-Mounted Fingerprint Scanner สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วด้วยสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องที่มีความเร็วภายในพริบตา ใช้งานได้สะดวกสบาย และมีฟีเจอร์ Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกอีกด้วย

นอกจากนี้ยังใช้หน้าจอ Halo FullView ขนาดใหญ่เต็มตา 6.51 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 460 จาก Qualcomm จับคู่แรม 4GB คู่ความจุ 64GB ที่รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 256GB กล้องหน้าเซลฟี่สวย 8MP

พร้อมกล้อง AI ด้านหลัง 3 ตัว คมชัด 13MP + 2MP + 2MP มาครบทั้งเลนส์ Macro และ Bokeh ใช้งานต่อเนื่องจุใจด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh ผสานเทคโนโลยี AI ช่วยประหยัดพลังงาน และรองรับ Reverse Charging

Vivo Y20 ใช้ดีไซน์การออกแบบมีความโค้งมน 2.5D บอดี้สีสวยสะดุดตา ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก มีให้เลือก 2 สี คือ Dawn White (สีขาว) และ Nebula Blue (สีน้ำเงิน) ราคาจำหน่ายเพียง 5,299 บาท สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปก Vivo Y20

Features	Vivo Y20
วันเปิดตัว :	– สิงหาคม 2563
ราคา :	– 5,299.- (ณ วันที่ 4 ก.ย. 63)
OS :	– Android 10 ครอบทับ Funtouch 10.5
หน้าจอ :	– หน้าจอ IPS LCD
	– ขนาด 6.51 นิ้ว
	– ความละเอียด 1600×720 พิกเซล (HD+)
CPU :	– Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
GPU :	– Adreno 610
RAM :	– 4GB
ROM :	– 64GB
	– microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :	– 13MP + 2MP + 2MP
	– ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 + f/2.4
	– LED flash
	– PDAF
	– Slo-mo
	– HDR
	– Panorama
กล้องหน้า :	– 8MP
	– ค่ารูรับแสง f/1.8
Video :	– 1080p@30fps
Battery :	– 5000mAh
ขนาด :	– 164.41×76.32×8.41 มม.
น้ำหนัก :	– 192.3 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
	– 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz
	– Bluetooth 5.0
	– microUSB 2.0
	– OTG
	– 3.5mm jack
GPS :	– GPS
	– A-GPS
	– BeiDou
	– Galileo
	– GLONASS
Sensor :	– Fingerprint (ด้านข้างตัวเครื่อง)
	– Accelerometer
	– Proximity
	– Ambient Light
	– Gyroscope
	– Compass
สี :	– Dawn White
	– Nebula Blue

แกะกล่อง Vivo Y20

Vivo Y20 บรรจุมาในกล่องสีน้ำเงินขาวขนาดขนาดกะทัดรัด มีชื่อรุ่น Y20 พร้อมชื่อแบรนด์ Vivo บนหน้ากล่อง และมุมบนขวามีข้อมูลความจุ RAM และ ROM ระบุไว้อย่างเด่นชัด

ขณะที่ด้านหลังกล่องบรรจุภัณฑ์ ชูฟีเจอร์เด่น ๆ ไว้ 3 ประการ ได้แก่ แบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh, กล้องหลัง AI Triple Camera พร้อมเลนส์ Macro และมาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้บนปุ่มโฮมด้านข้างตัวเครื่อง

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– Vivo Y20 ตัวเครื่องสี Dawn White
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ (5V2A)
– สายชาร์จ microUSB 2.0
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส

เคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ โชว์ดีไซน์ฝาหลังสวย ๆ แบบเต็มตา

ส่วน Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ที่แถมมาให้จะไม่รองรับชาร์จเร็วนะคะ มีกำลังจ่ายไฟที่ 5V2A แต่ดีหน่อยที่ Vivo Y20 มาพร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้แบตเตอรี่หมดช้า ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อย ๆ ทั้งยังมีฟีเจอร์ Reverse Charging ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ทำความรู้จัก Vivo Y20

ด้านหน้า Vivo Y20 มาพร้อมจอแสดงผล Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600×720 พิกเซล) อัตราส่วนจอ 20:9 ให้มุมมองที่กว้างกว่าเดิม

และด้วยการที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี In-Cell ทำให้จอแสดงผลของ Vivo Y20 มีสีสันคมชัด แสดงรายละเอียดได้ชัดเจน พร้อมด้วยโหมดปกป้องสายตาช่วยกรองแสงสีฟ้าขณะใช้งานอีกด้วย

ด้านหน้าส่วนบน กึ่งกลางหน้าจอส่วนบนมีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ที่เป็นตำแหน่งติดตั้งของเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8MP และรองรับฟีเจอร์ Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกตัวเครื่อง ถัดขึ้นไปอีกเล็กน้อยเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนาค่ะ

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้าย คือ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ด้านล่างสุดเหลือขอบสีดำไว้นิดหน่อย

ด้านหลัง ได้รับการออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้งมน 2.5D ถือจับกระชับมือ มอบความรู้สึกที่เพรียวบางเมื่อสัมผัส ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาสามารถพกพาได้สะดวก บอดี้สีสวยสะดุดตา และมาพร้อมสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์

โดย Vivo Y20 ที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สี Dawn White ตัวเครื่องสีขาวสุดหรูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงยามเช้า ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีชีวิตชีวา เปรียบเสมือนแสงสว่างที่ส่องเข้ามาทำให้โลกสดใส และสี Nebula Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนบิวลาในห้วงจักรวาล มีการไล่ระดับสีน้ำเงินและสีม่วงอย่างสวยงาม มีสไตล์ และน่าค้นหา

ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางเรียงกันเป็นแนวตั้งในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งกรอบสีเงินมุมมีความโค้งมนดูลงตัว โดยเลนส์ตัวแรกเป็นเซ็นเซอร์หลัก ถัดมาเป็นเลนส์ Bokeh และเลนส์ Macro ด้านล่างสุดเป็นไฟแฟลช LED

เลนส์กล้องหลังมีลักษณะนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย แต่หากสวมใส่เคสจะราบพอดีกันเลยค่ะ

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้อยู่ค่ะ

ด้านบนตัวเครื่อง ไม่มีปุ่ม หรือฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องแจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต microUSB 2.0 และลำโพงเสียง

ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องใส่ซิมการ์ด

โดยถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมเสริมได้ด้วย microSD Card มีการแยกกันชัดเจนเลยระหว่าง SIM 2 ช่อง และ microSD Card อีก 1 ช่อง

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์ที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับใช้ปลดล็อกตัวเครื่อง

และด้วยการที่ฝังสแกนลายนิ้วมือไว้ข้างตัวเครื่องแบบนี้ ทำให้ปลดล็อกได้อย่างสะดวกสบาย จับกระชับมือแตะนิ้วง่าย ๆ เลยค่ะ

Performance

เมื่อนำ Vivo Y20 ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch 10.5 บนพื้นฐาน Android 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 5 และ CPU-Z  พบว่า Vivo Y20 สามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 257 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1168 คะแนน

ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 1759MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 43.94GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Adreno 610 หน้าจอระดับ HD+ และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 เป็นต้น

ขณะที่ประสิทธิภาพด้านความบันเทิง และการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Legacy of Discord และ Real Racing 3 มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ พบว่าภาพบนเกมสวยไม่ซีด

ภาพกราฟฟิกสวยงาม เล่นได้แบบลื่น ๆ ไม่มีอาการสะดุด หรือกระตุกให้เห็นเลย เกมตอบสนองได้ดี เครื่องไม่ร้อนเร็ว

ส่วนของความบันเทิง ใครที่ชื่นชอบการรับชมวิดีโอ, YouTube, ดูหนัง, ดูซีรีย์ต่าง ๆ ด้วยขนาดหน้าจอที่กว้าง 6.51 นิ้ว อัตราส่วนจอ 20:9 สามารถรับชมได้อย่างเต็มตา

และรอยบากทรงหยดน้ำบนหน้าจอนั้นมีขนาดเล็ก ทำให้ไม่บดบังรายละเอียดบนหน้าจอค่ะ

Interface

เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน (หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่านนะคะ) หรือหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้าแล้ว ก็สามารถสแกนนิ้วมือที่อยู่บนปุ่มพาวเวอร์ข้างขวาตัวเครื่อง หรือกดปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลย นอกจากนี้ยังเข้าถึงเมนูโทรศัพท์ที่มุมล่างซ้าย หรือกล้องถ่ายภาพที่มุมขวาล่าง

หลังจากปลดล็อกหน้าจอแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา และหากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่องค่ะ

หากกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, ตกแต่งวิดเจ็ตภายในเครื่อง, เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อน และตั้งค่าหน้าจอในส่วนต่าง ๆ

รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมมี Hot Apps และ Hot Games แนะนำเกมหรือแอปฯ ยอดนิยมให้อีกด้วย

สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้ที่ Play Store, V-Appstore หรือ Game Center

รองรับ iManager อีกหนึ่งผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Vivo ที่ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะบนสมาร์ตโฟน หรือสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้สมาร์ตโฟนดูเหมือนเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา

สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงผ่านการใช้งาน Google Assistant

หน้าเมนูการโทรศัพท์ และการรับส่งข้อความ

พวกเครื่องมือการใช้งานมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทิน, นาฬิกาปลุก และแอปฯ วัดสภาพอากาศ

EasyShare สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ

สมุดโน๊ต, แอปฯ Vivo.com และ Vivo Cloud

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง

หน้าจอของ Vivo Y20 รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดถนอมสายตากรองแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองนวล และปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เองอีกด้วย

รองรับ Dark Mode เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอง่าย ๆ ได้เอง

ลำดับถัดมาเป็นโหมดใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานสูงอายุ หรือเด็ก ๆ โดยไอคอนบนหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ขึ้น มองและอ่านได้ง่ายกว่าเดิม สามารถเพิ่มแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้เองค่ะ

รองรับการใช้งาน Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ หรือช่วยวางแผนการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน เป็นต้น โดยระบบจะแนะนำให้ตามข้อมูลอายุ, ส่วนสูง และน้ำหนักของผู้ใช้งาน

ส่วนการแคปภาพหน้าจอ สามารถทำได้ 2 วิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ 3 นิ้ว รูดไปบนหน้าจอ หรือแม้แต่การกดปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง

รองรับการเปิดใช้งาน 2 หน้าจอ ฟังก์ชันนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปฯ ได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, LINE, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว (แต่ใช้ได้แค่ 2 แอปฯ พร้อมกันเท่านั้นนะ) เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วนได้แล้ว

รองรับการโทรวิดีโอแบบใบหน้าสวยผ่านแอปฯ ต่าง ๆ อาทิ Messenger Facebook หรือ LINE เป็นต้น, สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลชได้ หรือจะใช้งานด่วนด้วยการกดปุ่มลดระดับเสียงลงเพื่อเปิดฟังก์ชันที่เราเลือกไว้ก็ได้

ในส่วนนี้เป็น Multi-Turbo 3.0 กับ Center Turbo ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ ได้ไวยิ่งขึ้น และ AI Turbo ที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด วิเคราะห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ  มอบประสิทธิภาพเครือข่ายที่ดีขึ้น ช่วยระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ไปจนถึงฟังก์ชัน AI ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิม ถัดมาเป็นหน้ารวมข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ กับหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยความจำ RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล

ไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการจะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เหมาะสม

ถัดมาเป็นโหมด AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงที่เปิดใช้งานเฉพาะรายชื่อ โทรศัพท์ ข้อความ และนาฬิกาปลุกเท่านั้น นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Reverse Charging ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น ๆ ได้อีกด้วย

รองรับการโคลนแอปฯ หรือการเปิดใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo Y20 มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ที่สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.33 วินาที และด้วยการที่ฝังสแกนลายนิ้วมือไว้ข้างตัวเครื่อง ทำให้ปลดล็อกได้อย่างสะดวกสบาย จับกระชับมือแตะนิ้วง่าย ๆ นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกอีกด้วย ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อนนะคะ

Dynamic Effects ให้เลือกเอฟเฟกต์สำหรับการตั้งค่าภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ, ปลดล็อกหน้าจอ, เอฟเฟกต์จดจำใบหน้า และอื่น ๆ อีกมากมาย

รองรับ Ultra Game Mode 8.0 เล่นเกม E-Sport ระดับมืออาชีพ พร้อมด้วย 4D Game Vibration 2.0 พาผู้ใช้งานเข้าสู่สนามรบที่สมจริง มีโหมดห้ามรบกวน, ปัดการแจ้งเตือน, สายเรียกเข้า และการรบกวนอื่น ๆ เล่นเกมได้เพลินขึ้น

นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกหน้าจอ สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการทัชเพียง 1 ครั้ง บนแถบเลื่อนด้านข้าง และรองรับ Game Countdown โหมดนับเวลาถอยหลังของเกม จะอัปเดตโซเชียลก่อนเข้าเกมก็ทำได้แบบสบาย ๆ สามารถสลับกลับไปที่เกมได้เพียงคลิกเดียวอีกด้วย

เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอค่ะ

หากเลื่อนหน้าจอลงจะพาเข้าสู่หน้าแจ้งเตือน และเปิดใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ อาทิ การเปิด Wi-Fi, Internet 4G, ไฟฉาย, โหมดเครื่องบิน, โหมดประหยัดพลังงาน, โหมดถนอมสายตา, Dark Mode, การบันทึกภาพหน้าจอพิเศษ เป็นต้น

พร้อมสามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ microUSB 2.0 แล้วต่อเข้าเครื่อง PC และสามารถเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่องค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

มาเริ่มกันที่โหมดการใช้งานของกล้องหน้า โดย Vivo Y20 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 เดี๋ยวเราไปดูโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ

เริ่มที่โหมด Panorama Selfie ถ่ายภาพในมุมมองมองที่กว้างขึ้น ซึ่งโหมดนี้ค่อนข้างถ่ายยากหน่อย เพราะหากมือไม่นิ่ง ภาพที่ได้จะมีความสั่นเบลอเล็กน้อย ถัดมาเป็นโหมด Portrait หรือถ่ายภาพบุคคล หรือ Bokeh นั่นเอง รองรับ Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย, HDR, ฟิลเตอร์สีสวย ๆ, การปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และการถ่าย Bokeh หน้าชัดหลังเบลอแบบเป็นธรรมชาติ

ตัวอย่างภาพถ่าย Panorama Selfie

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait

Portrait ปรับ Face Beauty ระดับ 50

Portrait ปรับ Face Beauty ระดับ 100

พร้อมเอาใจสายเซลฟี่ด้วยโหมด Face Beauty ที่สามารถปรับค่ารายละเอียดต่าง ๆ ได้เองตามใจชอบ อาทิ ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก และรองรับฟิลเตอร์หลากโทนสีอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Face Beauty

Face Beauty ระดับ 50

Face Beauty ระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR, ฟิลเตอร์สีสวย ๆ ที่สามารถปรับความเข้มความจางของฟิลเตอร์ได้เอง และรองรับเอฟเฟกต์แสงสวย ๆ สำหรับถ่ายภาพบุคคลค่ะ

ตัวอย่างภาพถ่ายปกติไม่ปรับแต่ง

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสง

จากนั้นเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกที่ความละเอียด 720p หรือระดับ HD และ 1080p หรือระดับ Full HD พร้อมรองรับ Face Beauty ปรับแต่งค่าผิวสวยเนียนดังใจเหมือนกับการเซลฟี่แบบปกติเลย แต่ Face Beauty จะเปิดใช้งานได้เฉพาะถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p เท่านั้นนะ

ถัดมาเป็นโหมดถ่ายภาพพิเศษ โดยกล้องหน้าของ Vivo Y20 จะรองรับเฉพาะ Live Photo เท่านั้นค่ะ โดยเป็นการสร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ

มาต่อที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังกันเลยค่ะ โดย Vivo Y20 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 13MP (Main Sensor) + 2MP (Bokeh) + 2MP (Macro) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED

มีฟังก์ชันการถ่ายรูปที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Face Beauty, Portrait Light Effects และ Selfie Filters สามารถถ่ายภาพได้ทั้งในระยะใกล้และไกลได้ตามต้องการ พร้อมเทคโนโลยีการโฟกัสแบบ PDAF เก็บรายละเอียดได้อย่างยอดเยี่ยมเพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ

เริ่มที่โหมด Panorama ถ่ายภาพในแนวกว้าง เห็นภาพได้กว้างขึ้นกว่าเดิม จากนั้นเป็นโหมด Portrait รองรับไฟแฟลช, HDR, ฟิลเตอร์สีสวย ๆ, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และรองรับการซูมได้สูงสุด 4 เท่า

รองรับการถ่ายภาพ Bokeh และ Face Beauty ที่รองรับการปรับตั้งค่า ผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก และรูปปาก ซึ่งเหมือนกับโหมดของกล้องหน้าเลยค่ะ พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีสวย ๆ อีกมากมายด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh

Bokeh ปรับ Face Beauty ระดับ 50

Bokeh ปรับ Face Beauty ระดับ 100

ตัวอย่างภาพถ่าย Face Beauty

ปรับ Face Beauty ระดับ 50

ปรับ Face Beauty ระดับ 100

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุด 4 เท่าเช่นเดียวกัน มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ สวยแบบธรรมชาติ

ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh

รองรับโหมด Super Macro ถ่ายภาพวัตถุได้สวยคมชัดในระยะใกล้ 4 ซม. พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน และรองรับเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสง

แสงสตูดิโอ

แสงสเตอริโอ

แสงลูปไลท์

แสงรุ้ง

แสงขาวดำ (ฉากหลังจริงสีเหลืองและฟ้า)

โหมดบันทึกวิดีโอ สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดตั้งแต่ 720p และ Full HD 1080p เปิดใช้งานไฟแฟลชระหว่างบันทึกวิดีโอได้ และรองรับ Face Beauty ปรับแต่งค่าผิวสวยเนียน แต่จะเปิดใช้งานได้เฉพาะถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p เท่านั้นนะคะ

ด้านโหมดการใช้งานพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ สามารถซูมได้สูงสุด 4 เท่า ถัดมาเป็นบันทึกวิดีโอแบบ Slo-Mo

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

บันทึกวิดีโอ Time-Lapse ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง, โหมด Pro ปรับค่าแสงต่าง ๆ ได้ และสุดท้ายรองรับโหมด DOC สำหรับถ่ายภาพเอกสาร โดยจะเป็นการครอปส่วนเฉพาะที่เป็นตัวอักษรเท่านั้น

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo Y20

สรุป

• หน้าจอ Halo FullView ขนาด 6.51 นิ้ว ใช้งานกว้างเต็มตา จะเล่นเกม หรือดูหนังก็สบาย ๆ พร้อมมีโหมดปกป้องสายตาช่วยกรองแสงสีฟ้าขณะใช้งาน และมีเทคโนโลยี In-cell ช่วยให้จอสีสันที่คมชัด และมีรายละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น
• บอดี้โค้ง 2.5D สีสันสวยสะดุดตา ใช้งานถือจับกระชับมือ ตัวเครื่องบางเบาพกพาสะดวก มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Dawn White และ Nebula Blue
• มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วภายในพริบตา และใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังมี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกอีกด้วย
• ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 460 แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด มีถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot สามารถรองรับ microSD Card ได้สูงถึง 256GB
• แบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ผสานเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน และรองรับ Reverse Charging
• กล้องหลัง AI Triple Camera มีกล้อง 3 ตัว ความละเอียด 13MP (Main Sensor) + 2MP (Bokeh) + 2MP (Macro) เลนส์ Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอเป็นธรรมชาติ ส่วนเลนส์ Macro สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. พร้อมฟังก์ชันถ่ายรูปที่หลากหลาย ผสานเทคโนโลยีโฟกัสแบบ PDAF
• กล้องหน้าเซลฟี่ 8MP พร้อม Face Beauty ปรับรายละเอียดผิวสวยเนียนทันใจ
• มีฟังก์ชัน Multi-Turbo 3.0 พร้อมด้วยด้วย Center Turbo ช่วยให้การเรียกใช้งานแอปฯ รวดเร็วยิ่งขึ้น และ AI Turbo สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด มีการวิเคราะห์ปัญหาของระบบที่เกิดจากแอปฯ ได้ ทำให้ประสิทธิภาพเครือข่ายดีขึ้น รวมถึงมีการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว และสามารถเล่นเกมได้ลื่นไหล
• มีฟังก์ชัน Ultra Game Mode 8.0 เอาใจคอเกม มอบประสบการณ์การเล่นเกม E-Sport ระดับมืออาชีพ พร้อมฟีเจอร์ 4D Game Vibration 2.0 เล่นเกมได้อย่างสมจริง พร้อมการตั้งค่าแจ้งเตือนต่าง ๆ ระหว่างเล่นเกม
• เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนสเปกครบ จอใหญ่ แบตอึด ดีไซน์สวย ในงบไม่เกิน 6,000 บาท

ข้อสังเกต

• ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน
• ยังคงใช้พอร์ต microUSB 2.0 แบบเดิม ๆ ไม่ใช่พอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุสูงก็จริง แต่ไม่รองรับชาร์จเร็ว (มาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่ประหยัดพลังงานแทนนะ)
• หน่วยความจำ RAM และ ROM น้อยไปหน่อย อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานของบางท่าน แต่สามารถเพิ่มความจุได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB นะคะ
• ภายในกล่องไม่แถมหูฟังมาให้
• บอดี้ใช้วัสดุเงางาม ทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ควรสวมใส่เคสขณะใช้งาน

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

• Huawei Y7p
• OPPO A31
• OPPO A5 2020
• realme 6i
• Samsung Galaxy A11
• Samsung Galaxy M11
• Vivo Y30
• Vivo Y15 2020
• Redmi Note 9

ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng