รีวิว Vivo V21 5G จอลื่น 90Hz เซลฟี่สุดปัง 44MP พร้อมกันสั่น OIS + แฟลชคู่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว รองรับ 5G สองซิม จัดเต็มสเปกทุกด้าน!

รีวิว Vivo V21 5G จอลื่น 90Hz เซลฟี่สุดปัง 44MP พร้อมกันสั่น OIS + แฟลชคู่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยว รองรับ 5G สองซิม จัดเต็มสเปกทุกด้าน!

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G กล้องสวยสุดล้ำ ดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องบางเบา และสเปกครบครัน วันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล V Series ที่มาพร้อมสโลแกน “OIS Night Selfie, For You Best Moment” มาฝากให้ได้ชมกัน

Vivo V21 5G ชูจุดเด่นกล้องหน้าเซลฟี่คมชัดสูงถึง 44MP พร้อมมีระบบ OIS ป้องกันภาพสั่นไหว และ Eye Autofocus ถ่ายภาพได้อย่างคมชัด ไม่หลุดโฟกัส ผสานการทำงานร่วมกับ AI สุดอัจฉริยะ เก็บครบทุกรายละเอียด พร้อมเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ปังกว่าเดิมด้วย Dual Selfie Spotlight ไฟแฟลชสองดวงสุดสว่าง

ด้านหลังติดตั้งกล้อง 3 ตัว คมชัดสุด 64MP ใช้งานลื่นไหลด้วยขุมพลัง Dimensity 800U หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB จับคู่กับ ROM 128GB และ 256GB รองรับเครือข่าย 5G ได้สองซิม แบบ SA และ NSA

ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีอัตรา Refresh Rate สูงสุด 90Hz หน้าจอโค้ง 2.5D ตัวเครื่อง Ultra Slim Design ไล่เฉดสีแบบ Gradient บนดีไซน์ 3 มิติสวยหรู

พร้อมใช้เทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความสวยงามเรียบเนียน ตัวเครื่องมีความหนาขนาด 7.29 มม. และน้ำหนักเพียง 176 กรัม ให้ความรู้สึกบางเบาถือจับถนัดมือ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh พร้อมรองรับชาร์จเร็ว 33W ผ่านพอร์ต USB Type-C อีกด้วย

ทั้งนี้ Vivo V21 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 12,999 บาท สำหรับรุ่น 128GB โดยเปิดพรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 64 เป็นต้นไป

ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 15 พ.ค. 64 สำหรับตัวเครื่องสี Dusk Blue และ Sunset Dazzle และวันที่ 20 พ.ค. 64 สำหรับตัวเครื่องสี Arctic White พร้อมมีโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 4,989 บาท

และราคาจำหน่าย 14,999 บาท สำหรับรุ่น 256GB เปิดพรีออเดอร์แล้วตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 64 เป็นต้นไป ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 20 พ.ค. 64 สำหรับตัวเครื่องสี Dusk Blue และ Sunset Dazzle

พิเศษ! สำหรับผู้ที่ซื้อรุ่นความจุ 256GB ลุ้นรับฟรี เครื่องเป่าผม Dyson รุ่นพิเศษมูลค่า 15,900 บาท (จำนวนจำกัด) ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช้อปผู้ให้บริการเครือข่าย และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ข้อมูลสเปก Vivo V21 5G

Features Vivo V21 5G
วันเปิดตัว :  – พฤษภาคม 2564
ราคา :  – 12,999.- (128GB)
 – 14,999.- (256GB)
 – (ข้อมูล ณ เดือน พ.ค. 64)
OS :  – Android 11 ครอบทับ Funtouch OS 11.1
หน้าจอ :  – หน้าจอ AMOLED
 – ขนาด 6.44 นิ้ว
 – ความละเอียด 2404×1080 พิกเซล
 – อัตราการ Refresh Rate สูง 90Hz
CPU :  – Dimensity 800U แบบ Octa Core ความเร็ว 2.4GHz
GPU :  – Mali-G57 MC3
RAM :  – 8GB
ROM :  – 128GB
 – 256GB
กล้องหลัง :  – 64MP + 8MP (Wide-Angle) + 2MP (Macro)
 – ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.2 + f/2.4
 – LED Flash
 – กันสั่น OIS
 – Auto Focus
 – Eye Autofocus
 – PDAF
 – HDR
 – Panorama
กล้องหน้า :  – 44MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.0
 – Dual-LED flash
 – Eye Autofocus
 – กันสั่น OIS
 – Auto Focus
Video :  – 4K@30fps (no OIS), 1080p@30/60fps
Battery :  – 4000mAh
 – Fast Charging 33W
ขนาด :  – 159.68×73.90×7.29มม. (Dusk Blue)
 – 159.68×73.90×7.39มม. (Sunset Dazzle、Arctic White)
น้ำหนัก :  – 176 กรัม(Dusk Blue)
 – 177 กรัม (Sunset Dazzle、Arctic White)
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 4G LTE
 – 5G SA/NSA
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz
 – Bluetooth 5.1
 – USB Type-C
 – OTG
GPS :  – GPS
 – A-GPS
 – GLONASS
 – BDS
Sensor :  – Fingerprint Under Display
 – Face Unlock
 – Accelerometer
 – Gyroscope
 – Compass
 – Proximity
สี :  – Dusk Blue
 – Sunset Dazzle
 – Arctic White

แกะกล่อง Vivo V21 5G

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– Vivo V21 5G ตัวเครื่องสี Dusk Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน FlashCharge 33W
– สายชาร์จ USB Type-C
– หูฟังขนาด 3.5 มม.
– ตัวแปลงพอร์ตจาก 3.5 มม. เป็น Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน

เคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ

Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Vivo V21 5G รองรับเทคโนโลยี FlashCharge กำลังไฟ 33W ใช้เวลาในการชาร์จน้อย ทำให้ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดวัน

โดย Vivo V21 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ใช้นวัตกรรมใหม่ของ Vivo ที่มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงแต่มีขนาดบาง รวมถึงมีขนาดเบากว่าแบตเตอรี่รุ่นอื่นที่มีความจุเท่ากันอีกด้วย

ทำความรู้จัก Vivo V21 5G

ด้านหน้า Vivo V21 5G ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ จอภาพสีสันสดใส คมชัดสมจริง มีค่าความสว่าง 500 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000:1 ใช้งานลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate สูงถึง 90Hz พร้อมรองรับ HDR10+ และปกป้องดวงตาด้วย SGS

ด้านหน้าส่วนบน มีรอยบากรูปทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งกล้องหน้า ถัดขึ้นไปเป็นลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

ด้านหน้าส่วนล่าง พบปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล

ด้านหลัง ตัวเครื่องใช้ดีไซน์แบบ Ultra Slim ที่มีความโฉบเฉี่ยวบางเบา ขอบเรียบด้านข้างเน้นความเรียบง่ายทันสมัย ตัวเครื่องทรงเหลี่ยมมีระดับรับกับฝ่ามือ ดีไซน์หน้าจอโค้ง 2.5D บอดี้มีความหนา 7.29 มม. และน้ำหนักเพียง 176 กรัม ให้ความรู้สึกบางเบา พกพาสะดวก

พร้อมด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass เพิ่มความหรูหราสวยงามให้กับตัวเครื่อง บอดี้ผิวสัมผัสเรียบเนียนแบบด้าน พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วน และช่วยลดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี

โดย Vivo V21 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White ซึ่งสีที่เรานำมารีวิวกันในวันนี้เป็นสี Dusk Blue โทนสีดำและสีน้ำเงินที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

ด้านหลังส่วนบน กล้องหลัง 3 ตัว พร้อม LED แฟลช จัดเรียงตัวกันอย่างสวยงามในกรอบสี่เหลี่ยม ที่ใช้ดีไซน์การออกแบบกล้องด้านหลังแบบ Dual Tone Step จัดวางตัวกล้องอย่างมีมิติ ดูสวยสง่า สเต็ปขั้นแรกเป็นพื้นสีดำสำหรับวางตัวกล้อง ถัดมาสเต็ปขั้นสองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง มีกรอบล้อมรอบทำให้ดูมีมิติ ส่วนสเต็ปขั้นที่สามเป็นฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนอยู่ค่ะ

ด้านบนตัวเครื่อง พบแค่เพียงรูไมโครโฟน

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องใส่ถาดซิมการ์ด, รูไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type C และลำโพงเสียง ตามลำดับ

โดย Vivo V21 5G มีถาดใส่ซิมแบบ Dual Slot รองรับซิมการ์ดแบบนาโนซิม ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G แบบ SA และ NSA ในประเทศไทย

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดปิดหรือรีสตาร์ทเครื่อง

Performance

เมื่อนำ Vivo V21 5G ที่ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 800U แบบ Octa-Core นวัตกรรมการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร ทำงานความเร็วสูงสุด 2.4GHz ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G57 MC3 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu

พบว่าบนแอปฯ AnTuTu สามารถทำคะแนนรวมไปได้ 387,952 คะแนน การใช้งานเปิดแอปพลิเคชั่นเร็วขึ้น ตัวเครื่องไม่หน่วง

พร้อมรองรับ 5G Dual Mode ทั้งแบบ SA (Standalone) และ NSA (Non-Standalone) ใส่ซิมการ์ด 5G ได้สองซิมเลยค่ะ

ทำให้สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด และใช้งานเครือข่ายได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดฮิตอย่าง ROV ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้ได้มีการปรับตั้งค่าแบบจัดเต็มเท่าที่ Vivo V21 5G จะทำได้ เริ่มกันด้วยปรับ ภาพ HD ระดับสูงมาก, การแสดงผลปรับระดับสูง, พาร์ติเคิลระดับสูง, เสียง BGM ระดับสูง, เสียง FX ระดับสูง

เริ่มเล่นเกมด้วยแบตเตอรี่ 100% ใช้เวลาในการเล่น 10 นาที แบตเตอรี่ลดไปแค่ 3% นอกจากนั้นยังได้ทดลองเล่นแบบต่อเนื่องประมาณ 5 แมตช์ เฉลี่ยอยู่ที่ แมตช์ละ 10 นาที ตัวเครื่องไม่ร้อน สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด หรืออาการกระตุกเลยค่ะ

ด้านระบบเสียง จอใหญ่คมชัดแบบ Full Screen ภาพมีความสวยคมชัด คุณภาพเสียงดี ทำให้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Vivo V21 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM สามารถอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลบนพื้นฐาน RAM 8GB เป็น 8GB + 3GB ใช้งานได้เร็วยิ่งขึ้น สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชั่นได้หลายแอปฯ แบบไม่สะดุด และมีความเร็วที่มากยิ่งขึ้น

พร้อมความจุในเครื่องที่มีการอัปเกรดใหม่กับเวอร์ชัน UFS 2.2 ซึ่งเมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อน ๆ ความเร็วในการเขียนจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 110% ความเร็วในการอ่าน 95% ความเร็วในการติดตั้งแอปฯ ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 10% และการคัดลอกไฟล์ขนาดใหญ่ 8G ความเร็วเพิ่มขึ้น 20%

Interface

เริ่มกันที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน (หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน)

แต่หากใครลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา 2 แบบค่ะ สามารถสแกนลายนิ้วมือลงบนหน้าจอตรงไอคอนได้เลย หรือหากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วปัดขึ้น

หลังจากปลดล็อกหน้าจอมาแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา UI มีความเรียบง่าย สวยงาม ใช้งานได้ลื่นไหลกว่าเดิมบน Funtouch OS 11.1 ที่มาพร้อมไอคอนใหม่ล่าสุดเพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพคุณภาพสูง และใช้งานได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย หรือการแคปภาพหน้าจอพิเศษ เป็นต้น แต่หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่องค่ะ

เมื่อกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลัง

รองรับแอปฯ จาก Google ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store

iManager ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่าง ๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะ, ล้างพื้นที่ในเครื่อง หรือสแกนหาปัญหาต่าง ๆ ขณะใช้งาน ช่วยให้สมาร์ตโฟนเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา

หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

รองรับ Google Assistant ที่สามารถสั่งการค้นหา หรือเปิดใช้งานฟังก์ชันอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงพูด

รองรับแอปฯ สมุดโน๊ต และปฏิทิน

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง

รองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง, มีโหมดกลางคืน ที่สามารถตั้งค่าเวลาใช้งานได้ และตั้งค่าสีหน้าจอ

รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก อาทิ ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนสแกนลายนิ้วมือ, ฟีเจอร์จดจำใบหน้า และภาพเคลื่อนไหวเมื่อเสียบสายชาร์จ เป็นต้น

รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี

ตัวเครื่องมีระบบ AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ พร้อมจัดการการใช้พลังงานเบื้องหลังไม่ให้กินพลังงานแบตเตอรี่

ระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo V21 5G มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และรองรับการสแกนใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน

รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

รองรับ Ultra Game Mode สามารถเปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน, ปิดกั้นข้อความ และบล็อกการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ขาดตอนเวลาเล่นเกมได้ง่าย ๆ

รองรับการตั้งค่าทางลัดและการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน, ใช้ฟังก์ชันหลายหน้าจอ

การแจ้งเตือนด้วยแสงแฟลช, การใช้งานมือเดียว และการใช้ Beauty Mode ระหว่างวิดีโอคอลผ่านแอปฯ ต่าง ๆ เป็นต้น

มีไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อที่ไม่เป็นประโยชน์

รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และการอัปเดตซอฟต์แวร์

สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC และสามารถเปิด-ปิด, รีสตาร์ทตัวเครื่อง หรือจับภาพหน้าจอได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

เริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย Vivo V21 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44MP พร้อมรองรับกันสั่น OIS หรือ Optical Image Stabilizing รุ่นแรกของโลก

ทำให้ถ่ายภาพได้อย่างคมชัดทุกการเคลื่อนไหวในทุกช็อต หมดปัญหาภาพเบลอ ภาพสั่น เก็บครบทุกรายละเอียด พร้อมรองรับโฟกัสอัตโนมัติ (AF) จะถ่ายใกล้หรือถ่ายในระยะไกลก็คมชัด

นอกจากนี้ยังติดตั้ง Dual Selfie Spotlight ไฟแฟลช LED มาให้ 2 ดวง บริเวณขอบด้านบนเหนือหน้าจอ ที่ช่วยปรับแสงสว่างให้กับใบหน้า ช่วยให้ภาพสว่างคมชัด ลดการเกิดนอยส์

เซลฟี่ได้ปังกว่าเดิมแม้ในที่มืด หรือสภาวะแสงน้อย เรียกได้ว่าถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอก็ครอบคลุมทุกสภาพแสงทั้งกลางวันและกลางคืน ถูกใจสายเซลฟี่อย่างแน่นอนค่ะ

พร้อมมี Eye Autofocus โหมดโฟกัสอัตโนมัติฉับไว สามารถจับโฟกัสดวงตาของผู้ใช้งานได้แบบทันที โดยจับโฟกัสจากระยะถ่าย 15 ซม. ถึงจุดที่ไกลที่สุดได้อย่างชัดเจน เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ

เริ่มที่ Super Night Selfie Mode เซลฟี่ยามค่ำคืนด้วยเซ็นเซอร์กล้อง ISOCELL Plus 2G เทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่มีการอัพเกรดเซ็นเซอร์รับภาพ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรับแสง และความสว่างที่ดียิ่งขึ้น โดยระบบมีการประมวลภาพหลายเฟรมรวมกันเพื่อลดการเกิดนอยส์บนภาพถ่าย ทำให้ภาพมีความคมชัด

พร้อมเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ปังกว่าเดิมด้วย Dual Selfie Spotlight ไฟแฟลชสองดวงสุดสว่าง ช่วยให้ภาพถ่ายมีความสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผสานการทำงานร่วมกับ AI สุดอัจฉริยะ เก็บครบทุกรายละเอียด

และรองรับ AI Face Beauty ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie Mode

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie Mode + Spotlight Aura

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Selfie Mode + Dual Selfie Spotlight

ถัดมาเป็น Portrait Mode เพิ่มลูกเล่นลงในภาพถ่ายให้ดูมีชีวิตชีวาด้วย Portrait Bokeh ที่มีการผสมผสานระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง สามารถปรับระดับความเบลอก่อนถ่ายภาพได้ง่าย ๆ และโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว รองรับ Selfie Softlight Flash, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

มีโหมด Make Up ที่มีให้เลือกหลายโทนเลย ทั้งส้ม, แดง หรือชมพู พร้อม Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ มาให้ ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่กลุ่มก็มีให้เลือกใช้งาน และมีฟิลเตอร์สไตล์สีใหม่ รวมถึงโหมด Group Selfies ที่ปรับศรีษะของบุคคลในภาพเล็กลงอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Make Up

ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี

ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master

นอกจากนี้ยังสามารถปรับค่า f ของการถ่ายภาพ Bokeh ความเบลอของฉากหลังได้เอง หากค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ มี AI Night Portrait ถ่ายภาพบุคคลแม้ในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืนได้อย่างสวยงามคมชัด เพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ ด้วยการเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ อาทิ รูปหัวใจ, สามเหลี่ยม, ดวงดาว หรือแบบห้าเหลี่ยม เป็นต้น

Auto Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR มีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้งานมากมาย แต่โหมดนี้จะไม่มี AI Face Beauty ให้ใช้งานนะคะ

ตัวอย่างภาพถ่าย Auto Mode 

ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์สี

ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง

ถัดมาเป็น Video Mode ความละเอียดคมชัดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมด้วยโหมด AI Face Beauty ปรับค่าสวยงามของผิว และ Selfie Spotlight ช่วยปรับค่าความสว่างในวิดีโอตอนกลางคืนให้สวยงามเป็นธรรมชาติ

มีฟีเจอร์ Ultra Stable Video ถ่ายวิดีโอเสถียรมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีกันสั่นคู่ OIS + EIS ไม่ว่าจะเดินหรือวิ่ง ภาพก็ไม่สั่นไหว ทำให้สามารถบันทึกวิดีโอเซลฟี่ได้อย่างราบรื่น เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง 4K Ultra Stable VDO 

นอกจากนี้ยังทำ Vlog ได้ง่าย ๆ ด้วยโหมด Dual-View Video เพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบันทึกวิดีโอทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังได้พร้อมกัน

เก็บภาพได้ครบทุกรายละเอียด ทำให้สนุกกับการถ่ายวิดีโอมากยิ่งขึ้น โดยมี 2 โหมดให้เลือกใช้งานจากมุมมองที่แตกต่างกันทั้งแบบ Picture-in-Picture และ Dual View ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลยนะคะโหมดนี้

ตัวอย่าง Dual-View Video

ถัดมาเราจะไปดูกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังค่ะ โดย Vivo V21 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 64MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.79 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม LED Flash

โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ช่วยให้ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดชัดเจน มาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS แบบ 4 แกน ป้องกันการสั่นไหว คมชัดทุกซ็อต ถัดมาเป็นกล้องรองเลนส์มัลติฟังก์ชัน Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8MP  และเซ็นเซอร์ Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้ 4 ซม. ความละเอียด 2MP เราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันต่อเลย

เริ่มกันที่ Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนสุดพิเศษ เพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้นด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืนแบบ Super Wide-Angle และรองรับฟิลเตอร์กลางคืนสุดพิเศษ โทนสีสวย ๆ ที่มีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ โทนดำ-ทอง, บลูไอซ์, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode

ถัดมาเป็น Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างสวยงามเป็นมืออาชีพ มีการแยกภาพบุคคลและภาพพื้นหลังแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ มีสไตล์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน และรองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพทั้งเซลฟี่คนเดียว, เซลฟี่กลุ่ม, ถ่ายภาพบุคคล และแบบกลุ่ม

พร้อมรองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผาก พร้อมสามารถปรับค่า Bokeh หน้าชัดหลังเบลอได้เอง โดยค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ

และหากถ่ายภาพ Night Portrait จะมีเอฟเฟกต์ Bokeh เพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ โดยสามารถเพิ่มลูกเล่นเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น รูปหัวใจ, สามเหลี่ยม, ดวงดาว หรือแบบห้าเหลี่ยม เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait

Auto Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR มีโหมดถ่ายภาพ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา (เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา)

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Wide-Angle

โหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอสวยงามเป็นธรรมชาติ และโหมด Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้สุดเพียง 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลด้วย

ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro

ต่อกันที่ Video Mode บันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมรองรับฟีเจอร์ AI Face Beauty ปรับรายละเอียดโทนสีผิวได้หลากหลายเหมือนกับกล้องหน้า อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว, กระชับผิว

รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Ultra Stable VDO กันสั่น, Super Wide-Angle และ Dual-View Video เช่นเดียวกับกล้องหน้าเลยค่ะ โดยสามารถสร้างสรรค์วิดีโอเก๋ ๆ ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน มีมุมมองแบบ Picture-in-Picture และ Dual View

ตัวอย่าง Ultra Stable VDO

นอกจากนี้ยังมีโหมดความละเอียดสูง 64MP ถ่ายภาพด้วยความคมชัดสูงสุด เก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน, Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้างเต็มสายตา

ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูง 64MP

รองรับ Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Slo-Mo Mode บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น เก็บภาพวิดีโอได้อย่างช้า ๆ และชัดเจน, Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

รองรับ Mode Pro สามารถปรับตั้งค่า White Balance, ควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ หรือ Auto Focus ได้เอง, AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่าย

ตัวอย่างภาพ AR Stickers

มีโหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสาร และสุดท้ายเป็นการถ่ายภาพรับแสง 2 เท่า หรือ Double Exposure สร้างสรรค์ภาพถ่ายใหม่ด้วยการรวมภาพถ่ายสองภาพเป็นหนึ่งเดียว รับแสงและฉากจากด้านหน้าและหลังได้แบบเรียลไทม์ เพื่อรวมการรับแสง 2 ครั้งเข้าด้วยกัน โหมดนี้ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ

ตัวอย่างภาพ Double Exposure

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo V21 5G

สรุป

  • เป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่กล้องสวยมาก ตอบโจทย์สายเซลฟี่ และผู้ที่ชอบการถ่ายภาพ พร้อมมีเปกครบครัน ดีไซน์ทันสมัยบางเบา ในราคาที่เข้าถึงได้
  • ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 800U แบบ Octa Core ขนาด 7 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.4GHz ผสานจีพียู Mali-G57 MC3 ใช้งานคู่กับหน่วยความจำแรม 8GB คู่ความจุ 128GB และ 256GB ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเทคโนโลยี Extended RAM อัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น 8GB + 3GB เร่งพลังให้แรงยิ่งขึ้น

  • มาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM สามารถอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลบนพื้นฐาน RAM 8GB เป็น 8GB + 3GB ใช้งานได้เร็วยิ่งขึ้น สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชั่นได้หลายแอปฯ แบบไม่สะดุด และมีความเร็วที่มากยิ่งขึ้น
  • รองรับเครือข่าย 5G Dual Mode แบบ SA และ NSA ได้ทั้งสองซิมเลยค่ะ ใช้ความเร็วอินเทอร์เน็ตได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด มอบความเร็วในการสื่อสารที่เร็วขึ้น ลดความหน่วงของเครือข่าย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ด้วยนะคะ

  • เอาใจสายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูง 44MP ที่มาพร้อม OIS ป้องกันภาพสั่นไหว และมี Eye Autofocus ถ่ายภาพได้อย่างคมชัด ไม่หลุดโฟกัส ผสานการทำงานร่วมกับ AI สุดอัจฉริยะ เก็บครบทุกรายละเอียด พร้อมเซลฟี่ในที่แสงน้อยได้ปังกว่าเดิมด้วย Dual Selfie Spotlight ไฟแฟลชสองดวงสุดสว่าง
  • กล้องหน้ามีโหมดการใช้งานเด่น ๆ มากมาย อาทิ Super Night Selfie, 4K Selfie, Ultra Stable Video, Spotlight Selfie VDO, Double Exposure และ Dual-View Video เป็นต้น

  • กล้องหลังคุณภาพสูง 3 ตัว ประกอบด้วย เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS แบบ 4 แกน ป้องกันภาพสั่นไหว + เลนส์มัลติฟังก์ชัน Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา คมชัด 8MP + เซ็นเซอร์ Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้ 4 ซม. ความละเอียด 2MP พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ อาทิ Super Night Mode และบันทึกวิดีโอ Dual-View เป็นต้น

  • ตัวเครื่องดีไซน์ Ultra Slim หน้าจอโค้ง 2.5D บอดี้มีความหนาเพียง 7.29 มม. และน้ำหนักเพียง 176 กรัม ให้ความรู้สึกบางเบา พกพาสะดวก ดีไซน์ขอบเรียบด้านข้างจับกระชับมือ สีสันตัวเครื่องแบบ Gradient ผสมผสานกับดีไซน์แบบ 3 มิติ โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass ตัวเครื่องเรียบเนียน เพิ่มความหรูหราสวยงาม พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ

  • ใช้จอใหญ่ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ จอภาพสีสันสดใส คมชัดสมจริง มีค่าความสว่าง 500 nits ใช้งานลื่นไหลด้วยค่า Refresh Rate สูงถึง 90Hz และรองรับ HDR10+
  • ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 4000mAh พร้อมสนับสนุนชาร์จไว 33W FlashCharge ผ่านพอร์ต USB Type-C

ข้อสังเกต

  • ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แต่ใช้เป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
  • ไม่สนับสนุนชิปเสียง Hi-Fi
  • ไม่รองรับ microSD Card

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd