รีวิว Vivo V20 SE น้องเล็กสเปกครบ!! เซลฟี่คมชัด 32MP แบตอึด 4100mAh ชาร์จไว 33W ในราคาไม่ถึงหมื่น
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ หลังจากที่เราได้รีวิว Vivo V20 และ Vivo V20 Pro 5G ไปให้ชมกันแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุดวันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo V20 SE สมาร์ตโฟนน้องเล็กรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล V20 Series เจ้าของสโลแกน “Be the Focus” มาฝากให้ได้ชมกัน
สำหรับ Vivo V20 SE มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 665 หน่วยความจำ RAM 8GB คู่ความจุ ROM 128GB รองรับ microSD Card หมดห่วงเรื่องความจำไม่พอ เพราะสามารถเก็บได้ทั้ง เกม, วิดีโอ และไฟล์ พร้อมรันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10
จัดเต็มกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP มาพร้อม Auto Focus ฉับไว, Selfie Soflight Band และ AI Face Beauty ปรับค่าผิวสวยงามทันใจ ด้านหลังติดตั้งกล้อง 3 ตัวระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูงสุด 48MP มาครบทั้งเลนส์ Wide-Angle, Macro และ Bokeh พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ เพียบ
รองรับฟีเจอร์ Dynamic Sky เปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ และ Memory Recaller HD Restoration เปลี่ยนภาพเก่า ๆ ให้กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง พร้อมใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 4100mAh สนับสนุน FlashCharge 33W ดีไซน์หรูหราโฉบเฉี่ยว ตัวเครื่องบาง 7.83 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 171 กรัม
Vivo V20 SE ราคาจำหน่ายเพียง 8,699 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Gravity Black และ Oxygen Blue ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก Vivo V20 SE
Features | Vivo V20 SE |
วันเปิดตัว : | – พฤศจิกายน 2563 |
ราคา : | – 8,699.- (ณ วันที่ 9 พ.ย. 63) |
OS : | – Android 10 ครอบทับ Funtouch OS 11 |
หน้าจอ : | – AMOLED |
– ขนาด 6.44 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | |
CPU : | – Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
GPU : | – Adreno 610 |
RAM : | – 8GB |
ROM : | – 128GB |
– รองรับ microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 48MP + 8MP + 2MP |
– Main Sensor + Wide-Angle/Macro + Bokeh | |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 | |
– dual-tone LED flash | |
– Eye Autofocus | |
– PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 32MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
– HDR | |
Video : | – 1080p@30fps |
Battery : | – 4100mAh สนับสนุน FlashCharge 33W |
ขนาด : | – 161.00×74.08×7.83 มม. |
น้ำหนัก : | – 171 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Type-C | |
– OTG | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
– Galileo | |
– Beidou | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display |
– Accelerometer | |
– Gyroscope | |
– Ambient Light | |
– Proximity | |
– Compass | |
สี : | – Gravity Black |
– Oxygen Blue |
แกะกล่อง Vivo V20 SE
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo V20 SE ตัวเครื่องสี Oxygen Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน FlashCharge 33W
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– หูฟังขนาด 3.5 มม.
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
สำหรับเคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ
ส่วน Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Vivo V20 SE รองรับเทคโนโลยี FlashCharge กำลังไฟ 33W ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะของ Vivo มาพร้อมการป้องกันความปลอดภัยมากถึง 8 เท่า ชาร์จได้รวดเร็วแถมยังปลอดภัยอีก โดยความเร็วในการชาร์จเพิ่มขึ้น 50% (เมื่อเทียบกับรุ่น S1 Pro และ V17)
แบตเตอรี่ความจุสูง 4100mAh ของ V20 SE ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที ก็สามารถชาร์จได้มากถึง 62% และชาร์จเต็ม 100% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เพลิดเพลินและยาวนานมากยิ่งขึ้น
ทำความรู้จัก Vivo V20 SE
ด้านหน้า ใช้หน้าจอ AMOLED สุดคมชัด ดีไซน์ Halo FullView ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ โดยสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 90.12% จอแสดงผลที่สมจริง และเป็นธรรมชาติ
พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่กว้างเต็มสายตา จะดูหนัง ดูซีรีส์ ชมวิดีโอ เล่นเกม หรือชมคอนเท้นต่าง ๆ ก็สามารถใช้งานได้แบบสบาย ๆ
พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือฉับไวไว้บนจอแสดงผล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงของ V20 SE สามารถปลดล็อกเครื่องได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่แตะบนหน้าจอเบา ๆ
ด้านหน้าส่วนบน มีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งของกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 32MP เหนือหน้าจอเป็นช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลัง Vivo V20 SE มาพร้อมดีไซน์อันโฉบเฉี่ยว แบบ Sleek Megical Design มอบสัมผัสที่เบาบาง บอดี้โค้งมนสุดงามแบบ 3D ถือจับกระชับมือ พกพาสะดวก บางเพียง 7.83 มม. และมีน้ำหนัก 171 กรัม
ตัวเครื่องสีสันทันสมัยสวยงาม มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยนักออกแบบตัวเครื่องระดับโลกของ Vivo V20 SE ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบมาจากจักรวาล และความสวยสง่าของธรรมชาติ ผสมผสานองค์ประกอบด้านแฟชั่นที่ทันสมัยรวมเข้าด้วยกัน ทำให้ Vivo V20 SE มีรูปลักษณ์ที่สวยงามนำเทรนด์เหนือใคร
สำหรับตัวเครื่องของ Vivo V20 SE ที่วางจำหน่ายในไทยมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Gravity Black บอดี้ไล่ระดับสีดำเข้มดูหรูหรา ให้ความรู้สึกราวกับถูกดูดด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้เข้าสู่ห้วงอวกาศอีกครั้ง ถัดมาเป็นสี Oxygen Blue สีฟ้าอ่อนสดใส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้าราวกับออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ ตัวเครื่องเปล่งประกายความสว่าง และดูสงบแบบมั่นคง
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางเรียงกันในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งกรอบสีเงินมุมมีความโค้งมน พร้อมไฟแฟลชแบบ dual tone LED flash กล้องหลังประกอบด้วย 48MP (Main Sensor) + 8MP (Wide-Angle/Macro) + 2MP (Bokeh) ส่วนโหมดการใช้งานต่าง ๆ เดี๋ยวเราค่อยไปดูกันในส่วนของโหมดกล้องอีกทีค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง พบรูไมโครโฟน และช่องใส่ถาดซิมการ์ด
โดย Vivo V20 SE มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมกับเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB หรือกล่าวง่าย ๆ ใช้งานในรูปแบบ SIM 1 + SIM 2 + microSD Card นั่นเอง
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไร้ปุ่มกด หรือฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านขวาตัวเครื่อง พบปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ
Performance
เมื่อนำ Vivo V20 SE ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz ขนาด 11 นาโนเมตร มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ราบรื่น ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 610 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark, Geekbench 5 และ CPU-Z
เริ่มที่ AnTuTu Benchmark พบว่าสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมไปได้ถึง 184900 คะแนน
ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล V2022 รันบน Android 10 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง SM6125 หรือ Snapdragon 665 จีพียู Adreno 610 จอคมชัด Full HD+ กล้องหลังความละเอียดสูงสุด 48.4MP หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 4000MB ความจุที่ใช้งานเหลือ 95.48GB และไม่รองรับ NFC เป็นต้น
จากการทดสอบของ Geekbench 5 สามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 314 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1374 คะแนน
ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 4955MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 98.84GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Adreno 610 หน้าจอระดับ Full HD+ และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 เป็นต้น
ด้านประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Asphalt 9 เกมแข่งรถกราฟิกอลังการ และ PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิต มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ
สำหรับเกม Asphalt 9 ผลลัพธ์ที่ได้พบว่าตัวเกมมีความลื่นไหลดี เอฟเฟกต์สวยสมจริง ภาพกราฟิกมีความคมชัด ระบบทัชสกรีนไหลลื่น ระบบภาพและเสียงทำให้เล่นเกมได้แบบเพลิน ๆ
ส่วนเกม PUBG MOBILE ก็เล่นได้แบบลื่น ๆ ภาพกราฟิกสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนลื่น ตัวเกมไม่หน่วง ไม่สะดุด
ด้านการรับชม YouTube ภาพมีความสวยคมชัด จอสวยสด รอยบากทรงหยดน้ำมีขนาดเล็กมาก ทำให้ไม่บดบังรายละเอียดบนหน้าจอเลยค่ะ
Interface
เริ่มกันที่หน้าจอ Lock Screen ก่อนเลยค่ะ โดยสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน (หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน) และหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา 2 แบบตามภาพ สามารถสแกนลายนิ้วมือลงบนหน้าจอตรงไอคอนได้เลย หรือหากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วปัดขึ้น และหากใครลงทะเบียนไว้แค่รหัสผ่านก็กรอกในช่องสีแดงได้เลย
หลังจากปลดล็อกหน้าจอมาแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา
หากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10 หรือหากปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น
หากกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลังวอลเปเปอร์
รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store
รองรับ iManager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น
รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงพูด
หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
รองรับนาฬิกาปลุก, แอปฯ วัดสภาพอากาศ, สมุดโน๊ต
ปฏิทิน, แอปฯ Vivo.com, Vivo Cloud
รองรับ EasyShare สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และง่ายดาย
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
มี AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ พร้อมจัดการการใช้พลังงานเบื้องหลัง
มาพร้อมฟีเจอร์ Ultra Game Mode สามารถปิดกั้นการแจ้งเตือน และข้อความได้ขณะเล่นเกม พร้อมมีโหมดการเล่นอัตโนมัติขณะหน้าจอล็อก และมีโหมด Picture-in-Picture นอกจากนี้ยังมีโหมด E-Sport อีกด้วย
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
หน้าจอรองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง ช่วยกรองแสงสีฟ้า และถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน รองรับ Dark Mode เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้เองอีกด้วย
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo V20 SE มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และมีสแกนใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก อาทิ ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนสแกนลายนิ้วมือ และจดจำใบหน้า เป็นต้น
รองรับการตั้งค่าทางลัดและการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน และการใช้งานมือเดียว เป็นต้น
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
รองรับ Multi-Turbo เพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ให้เร็วยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วย Center Turbo, AI Turbo, เครือข่าย Net Turbo, การระบายความร้อน, ตัวเกม และ ART ++ Turbo เพิ่มความเร็วในการใช้งานแอปพลิเคชันด้วยหกมิติการประสานงานเชิงลึกของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบที่ดียิ่งขึ้น ถัดมาเป็นหน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และหน้าอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอได้อีกด้วย
สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองขณะชาร์จแบตเตอรี่ จะแสดงไอคอนการชาร์จเร็วขึ้นมาดังรูป พร้อมสามารถเปิด-ปิด, รีสตาร์ทตัวเครื่อง หรือจับภาพหน้าจอ ได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
นอกจากนี้ Vivo V20 SE ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Memory Recaller โดยจะช่วยทำให้ภาพเก่ากลับมาคมชัดได้ทันที ด้วยเครื่องมือตกแต่งสีอัจฉริยะ โดยสามารถแก้ไข และเพิ่มสีสันให้ภาพเก่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยความคมชัดระดับ Ultra HD ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า Ultra HD
หลังจากที่กดคืนค่า Ultra HD ระบบจะทำการประมวลผลภาพถ่ายใบเก่าให้กลับมามีชีวิตเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยใช้เวลาในการประมวลผลไม่นานค่ะ
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
พร้อมรองรับฟังก์ชัน AI Image Matting – Dynamic Sky สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่ฝนตก, แดดออก, ตะวันตกดิน หรือเพิ่มพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวให้กับภาพนิ่งก็ทำได้ง่าย ๆ
รองรับการแก้ไขภาพแยกตัวบุคลกับฉากพื้นหลัง เลือกแก้ไขได้ทั้งตัวบุคคลและพื้นหลัง ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ภาพให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า HD > AI Image Matting หรือการตัดรูปภาพ > Dynamic Sky หรือท้องฟ้าเปลี่ยน
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
นอกจากนี้ Vivo V20 SE ยังมาพร้อม Dual-Mic Noise Cancelling เสียงคมชัดทุกการโทร แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก ๆ ก็สามารถกำจัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้อย่างชาญฉลาด ผ่านไมโครโฟนคู่อัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวน และรองรับ AI อัลกอริทึม หากต้องการลดเสียงพูดขณะอยู่ในระหว่างการประชุม ในที่ทำงาน ห้องสมุด ก็สามารถเปิดโหมดกระซิบได้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ยินเสียงอีกฝ่ายอย่างชัดเจนแล้วค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
มาดูที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย Vivo V20 SE มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 รองรับ HDR
พร้อม Auto Focus โหมดโฟกัสอัตโนมัติฉับไว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ชาญฉลาด ช่วยปรับแสง สีผิว และรายละเอียดของภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ
เริ่มที่ Selfie Night Mode หรือ Selfie Softlight Band ถ่ายเซลฟี่สวยเปล่งประกายแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือในที่มืด โดยระบบ AI จะสามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่สุดคมชัด แม้แสงน้อยก็สามารถแสดงสีได้อย่างแม่นยำ โทนสีผิวเป็นธรรมชาติอย่างชัดเจน สีคมชัด พร้อมลดการเกิดนอยส์ของภาพ และจะมีการปรับตามแสงรอบข้างโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังรองรับ AI Face Beauty ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก รวมถึงรองรับการเปิดใช้งาน Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย และปรับอัตราส่วนของภาพถ่ายได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie Night Mode
Portrait Mode โหมดถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ มีการผสมผสานระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง มาพร้อม AI Face Beauty ที่มีการอัปเกรด 5 เท่า ครอบคลุมในเรื่องของพื้นผิว, สีผิว, รูปร่าง, ลักษณะใบหน้า และการแต่งหน้า ส่วนคุณผู้ชายก็ไม่ต้องกังวลไปว่าจะเนียนมากเกินหรือไม่ เพราะมีโหมดปรับความงามของผู้ชายอย่างเหมาะสม รองรับ Bokeh Effects และรูปแบบศิลปะที่หลากหลาย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
รองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ มาให้ ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่กลุ่มก็มีให้เลือกใช้งาน รองรับสไตล์สีสวย ๆ โดยเฉพาะ และฟิลเตอร์หลากสีให้เลือกใช้มากมาย รองรับ Multi-Style Portrait สามารถเปลี่ยนการแต่งหน้าได้หลากสไตล์ พร้อมด้วย Bokeh Effects ตลอดจนโทนสี และการแต่งหน้าที่เข้ากัน
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดไฟแฟลช, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพ มีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง
โหมดบันทึกวิดีโอ ความละเอียดคมชัดระดับ 1080p (Full HD) และ 720p (HD) รองรับโหมด AI Face Beauty ช่วยปรับค่าสวยงามรายละเอียดต่าง ๆ ของผิว เพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าขณะถ่ายวิดีโอ แต่โหมดนี้รองรับแค่ความละเอียดสูงสุด 720p (HD) เท่านั้นนะ
ตัวอย่าง Face Beauty Video
ด้านโหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหน้าของ Vivo V20 SE รองรับโหมด Panorama Selfie ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างมากยิ่งขึ้น
โหมด Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ และ AR Stickers Mode รวมสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ให้ใช้งานเพียบ และหากต้องการบันทึกเป็นวิดีโอก็ให้กดค้างไปที่ปุ่มชัตเตอร์
ลำดับถัดมาเราไปดูโหมดถ่ายภาพของกล้องหลังกันบ้าง โดย Vivo V20 SE มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 48MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม dual tone LED flash
โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48MP ถ่ายภาพคมชัดทุกช็อต ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืนภาพที่ได้มีความสวยคมชัด บันทึกรายละเอียดได้อย่างชัดเจน มาพร้อมโหมดถ่ายภาพมืออาชีพมากมาย อาทิ ถ่ายภาพมุมกว้าง, ถ่ายภาพมาโครระยะใกล้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถัดมาเป็นเลนส์ Multi-Function ความละเอียด 8MP สำหรับถ่ายภาพ Wide-Angle มุมกว้าง 120 องศา และ Macro ถ่ายภาพในระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. สุดท้ายเป็นเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ ลำดับถัดมาเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันต่อเลย
เริ่มที่ Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนสุดพิเศษ เก็บภาพถ่ายช่วงกลางคืนด้วยปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งกล้องของ Vivo V20 SE มาพร้อมค่ารูรับแสง f/1.8 พร้อมโหมด HDR+ Morpho ให้ถ่ายภาพกลางคืน หรือในที่แสงน้อยได้อย่างคมชัด เก็บภาพวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างสวยงาม แถมยังใช้เวลาในการประมวลผลไม่นานเลย
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode
Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างสวยงามเป็นมืออาชีพ โหมดนี้มีการแยกภาพบุคคลและภาพพื้นหลังแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ รองรับการซูม 10 เท่า รองรับโหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา แต่เพื่อภาพที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศานะคะ
พร้อมรองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผาก รองรับ Pose Master เซลฟี่สวยด้วยท่าทางที่เก๋ไก๋มากยิ่งขึ้น และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานเพียบ
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุด 10 เท่า, ไฟแฟลช, HDR มีโหมดถ่ายภาพ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา (เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา), โหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และโหมด Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้สุดเพียง 2.5 ซม.
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Wide-Angle
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ กับเอฟเฟ็กแสงถ่ายภาพบุคคลเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งานเหมือนกับกล้องหน้าเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
โหมดบันทึกวิดีโอ รองรับการซูม 10 เท่า, เปิดไฟแฟลช พร้อมระบบป้องกันการสั่นด้วยเทคโนโลยี EIS ช่วยลดความเบลอที่เกิดจากการสั่นไหวของกล้องขณะถ่ายวิดีโอ ทำให้ถ่ายวิดีโอได้เสถียร และชัดเจนมากยิ่งขึ้นแม้เคลื่อนไหว
บันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K ให้ความคมชัดระดับภาพยนตร์, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) อัตราเฟรม 30fps และ 60 fps รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Wide-Angle พร้อมรองรับฟีเจอร์ AI Face Beauty สามารถปรับรายละเอียดโทนสีผิวได้หลากหลายเหมือนกับกล้องหน้า อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว, กระชับผิว เป็นต้น
ตัวอย่าง 4K Video
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่ AI 48MP ถ่ายภาพด้วยความคมชัดสูงสุด เก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน, Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้างเต็มสายตา
ตัวอย่างภาพถ่าย AI 48MP
Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Slo-Mo Mode บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น เก็บภาพวิดีโอได้อย่างช้า ๆ และชัดเจน, Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง
ตัวอย่าง Slo-Mo Video
Mode Pro สามารถปรับตั้งค่า White Balance, ควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ หรือ Auto Focus ได้เอง, AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่าย และ โหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสารค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo V20 SE
สรุป
- สมาร์ตโฟนกล้องสวย เซลฟี่งาม สเปกครบเครื่อง ในราคาไม่เกินหมื่น
- มาพร้อมดีไซน์เบาบาง บอดี้โค้งมนแบบ 3D ถือจับกระชับมือ พกพาสะดวก โดยมีความบางเพียง 7.83 มม. น้ำหนักเบา 171 กรัม ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gravity Black และ Oxygen Blue
- หน้าจอใหญ่ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ใช้งานได้กว้างเต็มตา พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือฉับไวใต้จอแสดงผล
- ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 665 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz จับคู่หน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card
- รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10 ปรับแต่งได้อย่างล้ำลึก มีความเรียบง่ายสวยงาม ใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้น
- กล้องหลัง 3 เลนส์ ระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูง 48MP + 8MP + 2MP มาครบทั้งเลนส์ Wide-Angle, Macro และ Bokeh มีโหมดการใช้งานเพียบ กล้องหน้าเซลฟี่สวย 32MP พร้อม AI Face Beauty
- รองรับฟีเจอร์ Dynamic Sky เปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ และ Memory Recaller HD Restoration เปลี่ยนภาพเก่า ๆ ให้กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง
- มาพร้อม Dual-Mic Noise Cancelling เสียงคมชัดทุกการโทร แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก ๆ ก็สามารถกำจัดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้อย่างชาญฉลาด ผ่านไมโครโฟนคู่อัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวน
- แบตเตอรี่สุดอึด 4100mAh สนับสนุน FlashCharge 33W ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ผ่านพอร์ต USB Type-C
ข้อสังเกต
- ไม่สนับสนุนชิปเสียง Hi-Fi
- ไม่รองรับ NFC
- ไม่มีโหมดบันทึกวิดีโอ Dual-View เหมือนกับรุ่น V20 และ V20 Pro 5G
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply