รีวิว Vivo V20 Pro 5G กล้องหน้าคู่ขั้นสูง 44MP พร้อม Eye Autofocus กล้องหลังแจ่ม 64MP แบตอึดชาร์จไว 33W ดีไซน์พรีเมียมสุดบางเบา ในงบหมื่นกลาง!!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ มีใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G สเปกครบครัน กล้องสวย เซลฟี่สุดล้ำ ดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องบางเฉียบ ในราคาที่จับต้องได้กันอยู่มั้ยเอ่ย? ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะวันนี้เรามีบทความรีวิว Vivo V20 Pro 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก V20 Series ที่มาพร้อมสโลแกน “44MP Eye Autofocus Selfie, Be the Focus” มาฝากให้ได้ชมกัน
Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 765G หน่วยความจำแรม 8GB คู่ความจุ 128GB พร้อมรัน Android 10 ครอบทับ Funtouch OS 11
กล้องหลัง 3 ตัวระดับมืออาชีพ ความละเอียดสูงสุด 64MP มาครบทั้งเลนส์ Super Wide-Angle, Bokeh, Mono และ Super Macro พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ เพียบ อาทิ Super Night Mode, Stylish Night Filter และ Dual-View Video เป็นต้น
จัดเต็มกล้องหน้าคู่ล้ำสมัยความละเอียดสูง 44MP + เลนส์ Super Wide-Angle คมชัด 8MP มีฟีเจอร์ Eye Autofocus ไม่หลุดโฟกัสทุกโมเมนต์อย่างแน่นอน พร้อมโหมดการใช้งานเด่น ๆ เช่น Steadiface Selfie Video ยกระดับการถ่ายทำ Vlog, Super Wide-Angle Selfie, Slo-Mo Selfie Video และโหมด Super Night Selfie เป็นต้น
ใช้งานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จไว 33W FlashCharge ชูดีไซน์หรูหรา ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 7.39 มม. น้ำหนักเบา 170 กรัม ขึ้นแท่นเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่บางที่สุดที่โลกเลยก็ว่าได้
Vivo V20 Pro 5G ราคาจำหน่ายเพียง 14,999 บาท มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ตามสไตล์ ได้แก่ Sunset Melody, Midnight Jazz และ Moonlight Sonata โดยเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในไทยผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมมีโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS และ TrueMove H ให้เป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,989 บาทอีกด้วย
ข้อมูลสเปก Vivo V20 Pro 5G
| Features | Vivo V20 Pro 5G |
| วันเปิดตัว : | – กันยายน 2563 |
| ราคา : | – 14,999.- (ณ วันที่ 29 ก.ย. 63) |
| OS : | – Android 10 ครอบทับ Funtouch OS 11 |
| หน้าจอ : | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.44 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | |
| – HDR10 | |
| CPU : | – Snapdragon 765G 5G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz |
| GPU : | – Adreno 620 |
| RAM : | – 8GB |
| ROM : | – 128GB |
| – ไม่รองรับ microSD Card | |
| กล้องหลัง : | – 64MP + 8MP + 2MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.89 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – dual tone LED flash | |
| – Eye Autofocus | |
| – PDAF | |
| – HDR | |
| – Panorama | |
| กล้องหน้า : | – 44MP + 8MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 + f/2.28 | |
| – Eye Autofocus | |
| – Selfie Soflight Band | |
| Video : | – 4K@30fps, 1080p@30fps |
| Battery : | – 4000mAh สนับสนุน 33W FlashCharge |
| ขนาด : | – 158.82×74.20×7.39 มม. |
| – 158.82×74.20×7.49 มม. (Sunset Melody) | |
| น้ำหนัก : | – 170 กรัม |
| รองรับซิม : | – Dual SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – |
| ระบบเครือข่าย : | – 4G LTE |
| – 5G SA/NSA | |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4GHz, 5GHz |
| – Bluetooth 5.0 | |
| – USB Type-C | |
| – OTG | |
| GPS : | – GPS |
| – A-GPS | |
| – GLONASS | |
| – Galileo | |
| – Beidou | |
| Sensor : | – Fingerprint Under Display |
| – Accelerometer | |
| – Gyroscope | |
| – Proximity | |
| – Compass | |
| สี : | – Sunset Melody |
| – Moonlight Sonata | |
| – Midnight Jazz |
แกะกล่อง Vivo V20 Pro 5G
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– Vivo V20 Pro 5G ตัวเครื่องสี Moonlight Sonata
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน FlashCharge 33W
– สายชาร์จ USB Type-C
– หูฟังขนาด 3.5 มม.
– ตัวแปลงพอร์ตจาก 3.5 มม. เป็น Type-C
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– เคสซิลิโคนกันรอยแบบใส
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
เคสกันรอยที่แถมมาให้ภายในกล่อง เป็นเคสซิลิโคนแบบใส ขณะสวมใส่จะโชว์ดีไซน์ด้านหลังกันแบบชัด ๆ เลยค่ะ
Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Vivo V20 Pro 5G รองรับเทคโนโลยี FlashCharge กำลังไฟ 33W ชาร์จแบตเตอรี่เต็มไวอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาน้อย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง
ทำความรู้จัก Vivo V20 Pro 5G
ด้านหน้า Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ มองภาพได้กว้างเต็มตา และมีความคมชัด อัตราส่วนอยู่ที่ 20:9 ขอบจอโค้ง 2.5D พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือฉับไวไว้บนจอแสดงผลอีกด้วย
ด้านหน้าส่วนบน กึ่งกลางหน้าจอด้านบนมีรอยบากเล็กน้อย ซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งกล้องหน้าเลนส์คู่ความละเอียดสูง 44MP + 8MP แต่รอยบากดังกล่าวไม่บดบังรายละเอียดบนหน้าจอเลยค่ะ
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางฝั่งซ้าย คือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps
ด้านหลัง Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมดีไซน์เทคโนโลยี AG Matte Glass ตัวเครื่องเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความหรูหราสวยงาม พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วน และรอยนิ้วมือ
สัมผัสกับดีไซน์สวย สุดบาง โฉบเฉี่ยว และเรียบหรู ที่ถูกสรรค์สร้างอย่างปราณีต ตัวเครื่องมีความหนาเพียง 7.39 มม. เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่บางที่สุดที่โลกเลยก็ว่าได้ และน้ำหนักเบา 170 กรัม พกพาสะดวก ถือจับกระชับมือ
โดย Vivo V20 Pro 5G ที่วางจำหน่ายในไทยจะมีทั้งหมด 3 สี นำเทรนด์และความคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ Midnight Jazz สีดำลึกลับ เต็มไปด้วยพลัง, Sunset Melody สีสันสดใส ดูสนุกสนาน ขี้เล่น และ Moonlight Sonata สีขาวบริสุทธิ์ ดูหรูหรา พรีเมียม เดี๋ยวไปชมวิดีโอตัวเครื่องจริงด้านล่างนี้เลยค่ะ
คลิปวิดีโอตัวเครื่อง
ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว จัดวางเรียงกันในโมดูลสี่เหลี่ยมแนวตั้งกรอบสีเงินมุมมีความโค้งมน พร้อมไฟแฟลชแบบ dual tone LED flash โดยตัวแรกที่มีขนาดใหญ่เป็นเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ถัดลงมาฝั่งซ้ายเป็นเซ็นเซอร์รอง Multi-Function ความละเอียด 8MP ติดกันเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP (เดี๋ยวเราค่อยไปทำความรู้จักกันในโหมดกล้องถ่ายภาพอีกทีนะ)
กล้องหลังถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบคล้ายขั้นบันได วางเลเยอร์ที่เพิ่มแต่ละขั้นอย่างประณีต สเต็ปขั้นแรกเป็นสีดำคลาสสิกที่บรรจุตัวกล้องไว้ ขั้นที่สองคือฐานกรอบตกแต่งโดยรอบ มีสีกลมกลืนกับฝาครอบ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่
ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้ Vivo สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง มีแค่รูไมโครโฟน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C, รูไมโครโฟน และช่องถาดใส่ซิมการ์ด
ด้านซ้ายตัวเครื่อง ไม่มีฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ
ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์
Performance
เมื่อนำ Vivo V20 Pro 5G ที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 765G 5G แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz ที่มีประสิทธิภาพการทำงานอันยอดเยี่ยม ลดลงการใช้พลังงาน ใช้งานแอปพลิเคชันหลายตัวได้อย่างราบรื่น และเล่นเกมได้อย่างไม่มีสะดุด ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 620
และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10 เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 635 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1946 คะแนน
ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 3497MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 98.46GB ช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Adreno 620 หน้าจอระดับ Full HD+ และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 เป็นต้น
สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Legacy of Discord และ PUBG MOBILE มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ
เริ่มที่ Legacy of Discord เกมต่อสู้แบบเรียลไทม์บนโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ ภาพกราฟิก 3D และสเปเชียลเอฟเฟกต์สวยสมจริง ภาพมีความคมชัด ตัวเกมมีความลื่นไหล ระบบภาพและเสียงทำให้เพลิดเพลินไปกับการเล่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนเกม PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิต เล่นได้แบบลื่น ๆ ภาพกราฟิกสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนลื่นไหลดี ตัวเกมไม่หน่วง ไม่สะดุด เล่นได้ต่อเนื่องเพลิน ๆ เลย
ด้านการรับชม YouTube แบบ Full Screen อาจมีขอบดำบ้างตามวิดีโอที่เราเปิด ส่วนเรื่องของภาพไม่ต้องพูดถึง มีความสวยคมชัดมาก เมื่อใช้งานกับหูฟังจะได้คุณภาพเสียงสมจริงความละเอียดสูงระดับ Hi-Res Audio
Interface
หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน (หากไม่ได้ลงทะเบียนลายนิ้วมือ, สแกนใบหน้า หรือรหัสผ่าน) และหากใครที่ลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือ หรือสแกนใบหน้าแล้ว บนหน้าจอจะแสดงไอคอนขึ้นมา 2 แบบ
สามารถสแกนลายนิ้วมือลงบนหน้าจอตรงไอคอนได้เลย หรือหากจะสแกนใบหน้าก็ปลุกหน้าจอขึ้นมาก่อนแล้วปัดขึ้น หลังจากปลดล็อกหน้าจอมาแล้วจะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้ 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าได้เองในภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจัดวางเป็นระเบียบไม่รกตา
หากปัดหน้าจอด้านบนลงจะพบกับแถบแจ้งเตือน รวมถึงการเข้าถึงโหมดใช้งานต่าง ๆ อาทิ การเปิดใช้งาน Wi-Fi, Bluetooth, ไฟฉาย หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น และหากปัดหน้าจอขึ้นจะพาเข้าสู่หน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในเครื่อง Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 11 ปรับแต่งได้อย่างล้ำลึก มีความเรียบง่าย เพื่อให้การตอบสนองกับผู้ใช้งานราบรื่นยิ่งขึ้น
เมื่อกดค้างไปบนหน้า Home Screen จะมีให้เลือกตั้งค่าหน้าแรก, ตกแต่งวิดเจ็ต และเปลี่ยนภาพพื้นหลัง
รองรับแอปฯ ต่าง ๆ จาก Google ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Gmail, GPS, YouTube หรือ Play Movies เป็นต้น พร้อมสามารถดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้ที่ V-Appstore และ Play Store
มี Game Center, Hot Apps และ Hot Games แนะนำเกมหรือแอปฯ ยอดนิยมให้อีกด้วย
รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง
หน้าเมนูการโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
รองรับนาฬิกาปลุก, ปฏิทิน, Vivo Cloud
แอปฯ วัดสภาพอากาศ, สมุดโน๊ต, แอปฯ Vivo.com
รองรับ EasyShare สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำได้ง่ายดาย
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
หน้าจอรองรับการปรับตั้งค่าความสว่างแบบอัตโนมัติ, มีโหมดป้องกันดวงตา ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวล พร้อมปรับความเข้มของโทนสีเหลืองนี้ได้เอง ช่วยกรองแสงสีฟ้า และถนอมสายตาระหว่างใช้งานยามค่ำคืน
รองรับ Dark Mode เปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นโทนสีมืด ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง และใช้งานได้สบายตามากกว่าเดิม รวมถึงสามารถปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ง่าย ๆ
รองรับการตั้งค่าเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก อาทิ ภาพเคลื่อนไหวของไอคอนสแกนลายนิ้วมือ และจดจำใบหน้า เป็นต้น
รองรับ Vivo Share ส่งไฟล์ภาพหรือวิดีโอได้ง่าย ๆ จะแชร์ไฟล์เครื่องอื่นก็ได้ หรือแชร์ไฟล์กับ PC ผ่านเครื่อง Vivo ก็ได้ค่ะ
รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
มี AI จัดการพลังงานแบตเตอรี่ สามารถเปิดใช้งานโหมดสิ้นเปลืองพลังงานเพื่อช่วยเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลือน้อยได้ พร้อมจัดการการใช้พลังงานเบื้องหลัง
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่องสามารถล้างพื้นที่ที่ไม่จำเป็นได้อย่างง่ายดายทันที
ระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล และมีสแกนใบหน้า ซึ่งก่อนใช้งานจะต้องกำหนดรหัสผ่านหรือรูปแบบก่อน
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
รองรับ iManager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น
รองรับการตั้งค่าทางลัดและการเข้าถึงต่าง ๆ อาทิ การจับภาพหน้าจอ, การเริ่มต้นใช้งานด่วน และการใช้งานมือเดียว เป็นต้น
ส่วนนี้เป็นไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็วทำง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
หน้านี้เป็นการอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด, แสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และรองรับ Multi-Turbo ที่ได้รับการอัปเดตด้วย ART ++ Turbo ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ทั้งการเร่งความเร็ว ระบายความร้อนภายในเครื่อง ไปจนถึงฟังก์ชัน AI ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิม
มีการจัดลำดับความสำคัญของ CPU และหน่วยความจำ ที่ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกได้ถึง 78.05% พวก System Framework Optimization ภายใน Center Turbo มีการควบคุมลำดับความสำคัญของการแจ้งเตือนระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง 30% และ ART ++ Turbo ช่วยเร่งการเปิดใช้งาน รวมถึงการสลับแอปพลิเคชัน ลดความล่าช้าได้ถึง 40%
อัปเดต Ultra Game Mode ปลดปล่อยศักยภาพของฮาร์ดแวร์ เปิดฟีเจอร์ห้ามรบกวน, ปิดกั้นข้อความ และการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพิ่มประสิทธิภาพแบบสัมผัสเพื่อป้องกันการจับภาพหน้าจอในขณะเล่นเกมที่เกิดจากการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ
พร้อมมี Visual Effect หรือการสร้างเทคนิคพิเศษทางภาพ จะล็อคความสว่างเพื่อให้เพลิดเพลินกับเอฟเฟกต์ภาพที่ดีที่สุด ทั้งยังจัดสรรอัตราเฟรมที่ปรับเปลี่ยน และอุณหภูมิของ CPU ให้กับเกม ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด
เมื่อกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอได้อีกด้วย
สามารถถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลและรูปภาพลงคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเสียบสายชาร์จ USB Type-C แล้วต่อเข้าเครื่อง PC, ภาพถัดมาเป็นมุมมองขณะชาร์จแบตเตอรี่ จะแสดงไอคอนการชาร์จเร็วขึ้นมาดังรูป นอกจากนี้ยังสามารถเปิด-ปิด, รีสตาร์ทตัวเครื่อง หรือจับภาพหน้าจอได้ด้วยการกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ข้างตัวเครื่อง
นอกจากนี้ Vivo V20 Pro 5G ยังมาพร้อมฟังก์ชัน Memory Recaller ที่จะช่วยทำให้ภาพเก่ากลับมาคมชัดได้ทันที ด้วยเครื่องมือตกแต่งสีอัจฉริยะ โดยสามารถแก้ไข และเพิ่มสีสันให้ภาพเก่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยความคมชัดระดับ Ultra HD ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า Ultra HD
หลังจากที่กดคืนค่า Ultra HD ระบบจะทำการประมวลผลภาพถ่ายใบเก่าให้กลับมามีชีวิตเหมือนใหม่อีกครั้ง โดยใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
ทั้งยังรองรับฟังก์ชัน AI Image Matting – Dynamic Sky เปลี่ยนภาพพื้นหลังท้องฟ้าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าที่ฝนตก, แดดออก, ตะวันตกดิน หรือเพิ่มพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวให้กับภาพนิ่งก็ทำได้ง่าย ๆ
รองรับการแก้ไขภาพแยกตัวบุคลกับฉากพื้นหลัง เลือกแก้ไขได้ทั้งตัวบุคคลและพื้นหลัง ช่วยสร้างเอฟเฟกต์ภาพให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย ๆ เลย เข้าไปที่ อัลบั้มภาพ > แก้ไข > ซ่อมแซม > คืนค่า HD > AI Image Matting หรือการตัดรูปภาพ > Dynamic Sky หรือท้องฟ้าเปลี่ยน
ตัวอย่างภาพ Memory Recaller
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
เริ่มกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูง 44MP + เลนส์ Super Wide-Angle คมชัด 8MP กล้องหน้าเซ็นเซอร์หลักความละเอียดคมชัดระดับ HD เก็บครบทุกรายละเอียด ผสานกับเลนส์ Super Wide-Angle สำหรับเก็บภาพถ่ายเซลฟี่มุมกว้างพิเศษ 105 องศา บันทึกทุกความคมชัด
พร้อมมี Eye Autofocus โหมดโฟกัสอัตโนมัติฉับไว สามารถจับโฟกัสดวงตาของผู้ใช้งานได้แบบทันที จับโฟกัสจากระยะถ่าย 15 ซม. ถึงจุดที่ไกลที่สุดได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่ระยะใกล้หรือจะระยะไกลแค่ไหน ก็สามารถถ่ายเซลฟี่ได้อย่างคมชัด ทำให้ไม่ต้องจ้องไปที่กล้องเพื่อจับภาพ และทำให้เพลิดเพลินไปกับการเซลฟี่มากยิ่งขึ้น เดี๋ยวเราไปชมโหมดการใช้งานทั้งหมดกันเลยค่ะ
เริ่มที่ Selfie Night Mode หรือ Selfie Softlight Band ระบบ AI จะสร้างภาพถ่ายเซลฟี่ที่สวยงามแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยหรือในที่มืด โดยจะสามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ได้ภาพถ่ายเซลฟี่สุดคมชัด
เก็บภาพถ่ายสุดงามช่วงเวลากลางคืนเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยเทคโนโลยี AI Low-Light Portrait ที่จะช่วยปรับแสงสว่างให้กับใบหน้าของผู้ใช้งาน พร้อมมีโหมด Selfie Softlight Band ให้ถ่ายเซลฟี่กลางคืนได้อย่างสวยคมชัด อุณหภูมิสีสมบูรณ์แบบ และโทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยจะมีการปรับตามแสงรอบข้างโดยอัตโนมัติ
พร้อมรองรับ AI Face Beauty ปรับค่าความงามได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับความขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, กราม, ดวงตากลมโต, ช่วงตา, หน้าผาก, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก รวมถึงรองรับการเปิดใช้งาน Selfie Softlight Flash เพิ่มความสว่างให้ภาพถ่าย และปรับอัตราส่วนของภาพถ่ายได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie Night Mode
ถัดมาเป็น Portrait Mode เปลี่ยนภาพถ่ายให้ดูมีชีวิตชีวา เพิ่มลูกเล่นลงในภาพถ่ายทันทีด้วย Portrait Bokeh ที่มีการผสมผสานระหว่างฉากหน้าและฉากหลัง สามารถปรับระดับความเบลอก่อนถ่ายภาพได้ง่าย ๆ และสามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว
รองรับ Selfie Softlight Flash, HDR, ปรับอัตราส่วนของภาพถ่าย และสามารถปรับค่า Bokeh ความเบลอของฉากหลังได้เอง เริ่มตั้งแต่ f/0.95 – f/16 ซึ่งหากค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอ พร้อมเพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ ด้วยการเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ อาทิ รูปหัวใจ, สามเหลี่ยม, ดวงดาว หรือแบบห้าเหลี่ยม เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait Mode
รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผาก สามารถปรับได้เองตามใจชอบ พร้อมโหมด Make Up ที่มีให้เลือกหลายโทนเลยค่ะ ทั้งส้ม, แดง หรือชมพู สาว ๆ ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ถูกใจแน่นอน ทั้งยังรองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพเซลฟี่แบบชิค ๆ มาให้ ไม่ว่าจะเซลฟี่เดี่ยว เซลฟี่คู่ หรือเซลฟี่กลุ่มก็มีให้เลือกใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่าย Make Up
ตัวอย่างภาพถ่าย Pose Master
นอกจากนี้ยังมีสไตล์สีสวย ๆ ไม่เหมือนใคร เพิ่มความเก๋ให้กับภาพถ่าย พร้อมฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับถ่ายภาพบุคคลให้เลือกใช้งานอีกหลายโทนด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟ็กต์แสง
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับทั้งการถ่ายภาพ Bokeh และ Super Wide-Angle มาพร้อมอัลกอริธึมการแก้ไขความบิดเบือนมุมกว้างของการแยกฉากพื้นหลัง และตัวบุคคล เพื่อสร้างภาพถ่ายที่กว้างอย่างไม่น่าเชื่อ ให้ภาพสวยชัดทุกรายละเอียด
ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่คนเดียว หรือจะถ่ายเซลฟี่เป็นกลุ่ม ก็สามารถเก็บภาพได้อย่างทั่วถึง ทั้งยังมีฟิลเตอร์สี และเอฟเฟ็กต์แสงให้เลือกใช้งานมากมาย แต่โหมดนี้จะไม่มี AI Face Beauty ให้ใช้งานนะคะ
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie Wide-Angle
ถัดมาเป็นโหมดบันทึกวิดีโอ ความละเอียดคมชัดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) พร้อมด้วยโหมด AI Face Beauty ปรับค่าสวยงามของผิว และการปรับรูปร่าง ช่วยเก็บรายละเอียดของภาพได้สมบูรณ์แบบสะท้อนความงามในตัวบุคคล
มีการอัปเดตใหม่เพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์ถึง 5 แบบ ได้แก่ โทนสีผิว, การปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน, คอนทัวร์, เมคอัพ และปรับโครงสร้างใบหน้า พร้อมทั้งมีฟิลเตอร์ที่ปรับแต่งเพื่อเพิ่มคุณภาพ และความซับซ้อนให้กับภาพที่เย้ายวนใจมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ภาพดูสง่าสวยงามมากขึ้น
มีฟีเจอร์ Steadiface Selfie Video เทคโนโลยีตรวจจับการสั่นของมือแบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นการปฎิวิติการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ไปอีกขั้นเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะเดินหรือวิ่งขณะถ่ายวิดีโอ ก็จะช่วยป้องกันการสั่นไหวของภาพ ให้เราถ่ายวิดีโอได้อย่างราบรื่นเลยค่ะ
พร้อมมีสไตล์สีสวย ๆ ฟิลเตอร์สีมากมาย และฟิลเตอร์ถ่ายวิดีโอแนวภาพยนตร์ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่าง 4K Selfie Video
ตัวอย่าง Steadiface Selfie Video
เท่านั้นยังไม่พอกล้องหน้าของ Vivo V20 Pro ยังมาพร้อม Dual-View Video เพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อม ๆ ในเวลาเดียวกัน ช่วยเก็บทุกรายละเอียดความงามของภาพ โดยมี 2 โหมดให้เลือกใช้งานจากมุมมองที่แตกต่างกันทั้งแบบ Picture-in-Picture และ Dual View ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลังเลยนะคะโหมดนี้ เหมาะสำหรับคนทำ Vlog มาก ๆ เลย
ตัวอย่าง Dual-View Video
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษ โดยกล้องหน้ารองรับโหมดความละเอียดสูง 44MP เก็บภาพได้แบบคมชัดสุด ๆ , Panorama Selfie ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างแบบรอบทิศทาง
ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูง 44MP
โหมด Live Photo สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ และการถ่ายภาพรับแสง 2 เท่า รับแสงและฉากจากด้านหน้าและหลังได้แบบเรียลไทม์ เพื่อรวมการรับแสง 2 ครั้งเข้าด้วยกัน โหมดนี้ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายรับแสง 2 เท่า
นอกจากนี้ยังมาพร้อม Slo-Mo Selfie Video ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชั่นได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สลับระหว่างการเคลื่อนไหวเร็วและช้า ราบรื่นระดับ 240fps และมี AR Stickers Mode รวมสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ ไว้ให้ใช้งานมากมาย และหากต้องการบันทึกเป็นวิดีโอก็ให้กดค้างไปที่ปุ่มชัตเตอร์ค่ะ
ตัวอย่าง Slo-Mo Selfie Vide
ตัวอย่างภาพถ่าย AR Stickers
ถัดมาเราจะไปดูกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลังค่ะ โดย Vivo V20 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย 64MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.89 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม dual tone LED flash โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ช่วยให้ถ่ายภาพที่มีรายละเอียดชัดเจน
ถัดมาเป็นเซ็นเซอร์รองความละเอียด 8MP ใช้ถ่ายภาพ Super Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา, Bokeh ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างมืออาชีพ และ Super Macro ในระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. เรียกได้ว่าเป็นเลนส์ Multi-Function เลยก็ว่าได้ สุดท้ายเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP ใช้ถ่ายเอฟเฟกต์ขาวดำ เราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันต่อเลย
เริ่มกันที่ Super Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนสุดพิเศษ เพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้น มี Tripod Night Mode หรือโหมดขาตั้งกล้อง ช่วยยืดระยะเวลาการเปิดรับแสงและเพิ่มความเสถียร ให้ภาพถ่ายกลางคืนสวยงามไร้ที่ติ พร้อมรองรับการถ่ายภาพกลางคืนแบบ Super Wide-Angle
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือลดสัญญาณรบกวนหรือการเกิดนอยส์ของภาพ และช่วยให้ภาพถ่ายท้องฟ้าดูเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดเจนในยามค่ำคืน และรองรับฟิลเตอร์กลางคืนสุดพิเศษ โทนสีสวย ๆ ที่มีให้เลือกใช้งาน 4 แบบ ได้แก่ โทนดำ-ทอง, บลูไอซ์, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Night Mode
จากนั้นเป็น Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างสวยงามเป็นมืออาชีพ ให้ภาพ Portrait แบบใหม่ในสไตล์ที่เป็นตัวตน โหมดนี้มีการแยกภาพบุคคลและภาพพื้นหลังแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามเป็นธรรมชาติ
รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวเนียน, โทนสีผิว, ปรับผิวขาว, ใบหน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, แก้มเรียว, กราม, ดวงตากลมโต, ปรับรูปจมูก, ความเรียวของจมูก, รูปปาก, ช่วงตา และหน้าผาก พร้อมสามารถปรับค่า Bokeh หน้าชัดหลังเบลอได้เอง เริ่มตั้งแต่ f/0.95 – f/16 ค่ายิ่งน้อยฉากหลังจะยิ่งเบลอค่ะ
และหากถ่ายภาพ Night Portrait จะมีเอฟเฟกต์ Bokeh เพิ่มลูกเล่นเก๋ ๆ ให้กับภาพถ่ายได้ โดยสามารถเพิ่มลูกเล่นเปลี่ยนดวงไฟให้เป็นดีไซน์อื่น ๆ ได้ด้วย เช่น รูปหัวใจ, สามเหลี่ยม, ดวงดาว หรือแบบห้าเหลี่ยม เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Portrait
นอกจากนี้ยังรองรับ Pose Master ช่วยคิดท่าทางในการถ่ายภาพทั้งเซลฟี่คนเดียว, เซลฟี่กลุ่ม, ถ่ายภาพบุคคล และกลุ่ม พร้อมมีฟิลเตอร์หลากสี, เอฟเฟ็กแสง และสไตล์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode
ตัวอย่างภาพถ่ายฟิลเตอร์
ตัวอย่างภาพถ่ายสไตล์สี
ตัวอย่างภาพถ่ายเอฟเฟกต์แสง
โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการซูมสูงสุด 10 เท่า รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR มีโหมดถ่ายภาพ Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา (เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์จะเก็บภาพที่มุมมอง 108 องศา), โหมด Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอสวยงามเป็นธรรมชาติ และโหมด Super Macro ถ่ายภาพระยะใกล้สุดเพียง 2.5 ซม.
มีฟังก์ชัน Motion Auto focus เพียงแตะ 2 ครั้งที่บุคคล หรือวัตถุใดๆ ระบบก็จะติดตามสิ่งที่เราเลือก ทำให้ไม่หลุดโฟกัส ถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ กับเอฟเฟ็กแสงถ่ายภาพบุคคลเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งานอีกด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Wide-Angle
ตัวอย่างภาพถ่าย Bokeh
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
ต่อกันที่โหมดบันทึกวิดีโอ บันทึกที่ความละเอียดระดับ 4K, 1080p (Full HD) และ 720p (HD) อัตราเฟรม 30fps และ 60 fps พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Wide-Angle
รองรับฟีเจอร์ AI Face Beauty สามารถปรับรายละเอียดโทนสีผิวได้หลากหลายเหมือนกับกล้องหน้า อาทิ ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบางเรียว, กระชับผิว พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ฟิลเตอร์แนวภาพยนตร์ใช้ถ่ายแนว Art Portrait ให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ตัวอย่าง Art Portrait Video
รองรับ Dual-View Video เช่นเดียวกับกล้องหน้าเลยค่ะ โดยสามารถสร้างสรรค์วิดีโอเก๋ ๆ ด้วยการบันทึกกล้องหน้าและกล้องหลังในเวลาเดียวกัน มีมุมมองแบบ Picture-in-Picture และ Dual View
ตัวอย่าง Dual-View Video
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษ กล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่โหมดความละเอียดสูง 64MP ถ่ายภาพด้วยความคมชัดสูงสุด เก็บรายละเอียดได้อย่างชัดเจน, Panorama Mode เก็บภาพในแนวกว้างเต็มสายตา
ตัวอย่างภาพถ่ายความละเอียดสูง 64MP
Live Photo Mode สร้างภาพถ่ายที่เคลื่อนไหวได้ในจังหวะสั้น ๆ, Slo-Mo Mode บันทึกวิดีโอสโลวโมชั่น เก็บภาพวิดีโอได้อย่างช้า ๆ และชัดเจน, Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง
ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo
รองรับ Mode Pro สามารถปรับตั้งค่า White Balance, ควบคุมค่าแสง, ตั้งค่าขนาดรูรับแสง, ความไวชัตเตอร์ หรือ Auto Focus ได้เอง, AR Stickers Mode มีสติ๊กเกอร์สวย ๆ ให้ดาวน์โหลดใช้งานมากมาย เพิ่มความน่ารักให้กับภาพถ่าย
ตัวอย่างภาพ AR Stickers
มีโหมดแก้ไขเอกสาร จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสาร และสุดท้ายเป็นการถ่ายภาพรับแสง 2 เท่า รับแสงและฉากจากด้านหน้าและหลังได้แบบเรียลไทม์ เพื่อรวมการรับแสง 2 ครั้งเข้าด้วยกันเหมือนกับกล้องหน้าเลยค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Vivo V20 Pro 5G
สรุป
- กล้องสวย และราคาก็ดีมาก อยู่ในงบที่กำลังดี เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟน 5G สเปกครบ ดีไซน์ทันสมัย และที่สำคัญกล้องสวยมากทั้งหน้าและหลัง
- ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 765G ขนาด 7nm ผสานชิปกราฟิก Adreno 620 เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความลื่นไหลดี เล่นเกมสามารถปรับค่ากราฟิก และเฟรมเรทได้ในระดับสูง พร้อมหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11 บนพื้นฐาน Android 10 มีลูกเล่นใหม่ ๆ สามารถปรับแต่งหลากหลายมากขึ้น UI มีความเรียบง่ายสวยงาม
- กล้องหน้าคู่ความละเอียดสูง 44MP พร้อม Eye Autofocus และโหมดการใช้งานเด่น ๆ อาทิ Slo-Mo Selfie, 4K Selfie, Steadiface Selfie Video และ Dual-View Video ป็นต้น ถูกใจสายเซลฟี่ หรือคนทำ Vlog แน่นอน
- กล้องหลังก็สวยไม่แพ้กัน มาด้วยกันทั้งหมด 3 เลนส์ เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 64MP ถัดมาเป็นเซ็นเซอร์รองความละเอียด 8MP ใช้ถ่ายภาพ Super Wide Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา, Bokeh ถ่ายภาพบุคคล Bokeh ได้อย่างมืออาชีพ, Super Macro ในระยะใกล้เพียง 2.5 ซม. และสุดท้ายเป็นเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP ใช้ถ่ายเอฟเฟกต์ขาวดำ มีโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ Super Night Mode ถ่ายภาพช่วงกลางคืนหรือแสงน้อยออกมาได้สวยคมชัด, Super Wide-Angle ถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา และบันทึกวิดีโอ Dual-View เป็นต้น
- รองรับ 5G ทั้งแบบ SA&NSA ตั้งแต่แกะกล่อง มอบความเร็วในการสื่อสารที่เร็วขึ้น ลดความหน่วงของเครือข่าย ใช้งานได้อย่างราบรื่น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ด้วย
- แบตเตอรี่ความจุสูง 4000mAh สนับสนุนชาร์จไว 33W FlashCharge ผ่านพอร์ต USB Type-C และรองรับ Vivo Energy Guardian (VEG) ตัวจัดการพลังงานอัจฉริยะอีกด้วย
- ดีไซน์โฉบเฉี่ยวด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass ตัวเครื่องเรียบเนียน เพิ่มความหรูหราสวยงาม พื้นผิวทนทานต่อรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ
ข้อสังเกต
- ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ใช้เป็นพอร์ต USB Type-C แทน
- ไม่รองรับ microSD Card
- ไม่สนับสนุนชิปเสียง Hi-Fi (แต่คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio นะคะ)
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
ขอขอบคุณ Vivo Service (Thailand) Co.Ltd
Leave a Reply