รีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ เรือธงสเปคทรงพลัง ต่างกันแค่ไหน มาหาคำตอบกัน!!
สวัสดีเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ วันนี้เรามีบทความรีวิวเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดจากตระกูล S Series ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่มาฝากให้ได้ชมกัน หลังจากที่เราได้ทำบทความรีวิวฉบับเต็มกันไปแล้วก่อนหน้านี้ คลิกชม >> รีวิว Samsung Galaxy S10+, คลิกชม >> รีวิว Samsung Galaxy S10
โดยเป็นการรีวิวที่เจาะลึกมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของข้อมูลสเปคการใช้งานเด่น, ดีไซน์การออกแบบ, ราคาวางจำหน่าย, คะแนนการทดสอบ และรายละเอียดอื่นๆ หากใครที่กำลังสนใจสมาร์ทโฟน 2 รุ่นนี้อยู่ และอยากจะทราบข้อมูลเปรียบเทียบสเปคกันแบบเน้นๆ ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งาน ห้ามพลาดบทความนี้เด็ดขาดเลยค่ะ
สำหรับ Samsung Galaxy S10 มีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวคือ 128GB ราคา 31,900 บาท มาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ กันรอย Corning Gorilla Glass 6 ขับเคลื่อนด้วย Exynos 9820 หน่วยความจำแรม 8GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512GB ด้านหลังติดตั้งกล้อง 3 ตัว 12MP + 12MP + 16MP เป็นเลนส์ Wide + Telephoto + Ultra Wide
กล้องหน้าเลนส์เดี่ยว 10MP แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W รันบน Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI บอดี้ดีไซน์สวยกันน้ำ IP68 รองรับสแกนลายนิ้วมือใต้จอ มีตัวเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่ Prism Black, Prism White และ Prism Green
ขณะที่ Samsung Galaxy S10+ พี่ใหญ่มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ 128GB, 512GB และสูงสุด 1TB ราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท มาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ กันรอย Corning Gorilla Glass 6 ขุมพลัง Exynos 9820 หน่วยความจำแรม 8GB และ 12GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512GB ด้านหลังติดตั้งกล้อง 3 ตัว 12MP + 12MP + 16MP เป็นเลนส์ Wide + Telephoto + Ultra Wide เช่นเดียวกัน
กล้องหน้าเลนส์คู่ 10MP (Wide) + 8MP (RGB Depth) แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W รันบน Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI บอดี้กันน้ำ IP68 พร้อมรองรับสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ มีตัวเครื่องให้เลือก 5 สี Prism Black, Prism White, Prism Green, Ceramic Black และ Ceramic White ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะแตกต่างกันแค่ไหน เราไปชมเปรียบเทียบSamsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ กันเลยค่ะ
ตารางเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy S10 และ Samsung Galaxy S10+
Features | Samsung Galaxy S10 | Samsung Galaxy S10+ |
วันเปิดตัว : | – กุมภาพันธ์ 2562 | – กุมภาพันธ์ 2562 |
ราคา : | – 31,900 บาท (128GB) | – 35,900.- (128GB) |
– | – 44,900.- (512GB) | |
– | – 55,900.- (1TB) | |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O | – หน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O |
– ขนาด 6.1 นิ้ว | – ขนาด 6.4 นิ้ว |
|
– ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) | – ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) | |
– อัตราส่วน 19:9 | – อัตราส่วน 19:9 | |
– กระจก Corning Gorilla Glass 6 | – กระจก Corning Gorilla Glass 6 | |
– HDR10+ | – HDR10+ | |
– Always-on display | – Always-on display | |
CPU : | – Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz | – Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz |
GPU : | – Mali-G76 MP12 | – Mali-G76 MP12 |
RAM : | – 8GB | – 8GB และ 12GB |
ROM : | – 128GB | – 128GB |
– | – 512GB | |
– | – 1TB | |
– microSD Card สูงสุด 512GB | – microSD Card สูงสุด 512GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 12MP + 16MP | – 12MP + 12MP + 16MP |
– เลนส์ Wide + Telephoto + Ultra Wide | – เลนส์ Wide + Telephoto + Ultra Wide | |
– ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.4 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.4 + f/2.2 | |
– LED flash | – LED flash | |
– Dual Pixel PDAF | – Dual Pixel PDAF | |
– Digital Zoom up to 10x | – Digital Zoom up to 10x | |
– 2x optical zoom | – 2x optical zoom | |
– กันสั่น OIS | – กันสั่น OIS | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– auto-HDR | – auto-HDR | |
– panorama | – panorama | |
กล้องหน้า : | – 10MP (wide) | – 10MP (wide) + 8MP (RGB Depth) |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 + f/2.2 | |
– Dual Pixel PDAF | – Dual Pixel PDAF | |
– Auto-HDR | – Auto-HDR | |
Video : | – 2160p@60fps, 1080p@240fps, 720p@960fps | – 2160p@60fps, 1080p@240fps, 720p@960fps |
Battery : | – 3400 mAh | – 4100 mAh |
– สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W | – สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W | |
ขนาด : | – 149.9×70.4×7.8 มม. | – 157.6×74.1×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 157 กรัม | – 175 กรัม |
รองรับซิม : | – Hybrid Dual SIM | – Hybrid Dual SIM |
กันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | – 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | – 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax |
– Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 5.0 | |
– NFC | – NFC | |
– USB Type-C | – USB Type-C | |
– FM radio | – FM radio | |
– ANT+ | – ANT+ | |
– 3.5mm jack | – 3.5mm jack | |
GPS : | – GPS | – GPS |
– Glonass | – Glonass | |
– Beidou | – Beidou | |
– Galileo | – Galileo | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyro | – Gyro | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
– Barometer | – Barometer | |
– Heart rate | – Heart rate | |
– SpO2 | – SpO2 | |
สี : | – Prism Black | – Prism Black |
– Prism White | – Prism White | |
– Prism Green | – Prism Green | |
– | – Ceramic Black | |
– | – Ceramic White |
Features | Samsung Galaxy S10 | Samsung Galaxy S10+ |
ราคา : | – 31,900 บาท (128GB) | – 35,900.- (128GB) |
– | – 44,900.- (512GB) | |
– | – 55,900.- (1TB) | |
ระบบปฏิบัติการ : | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI | – Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O | – หน้าจอ Dynamic AMOLED ดีไซน์ Infinity O |
– ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) | – ความละเอียด 1440×3040 พิกเซล (Quad HD+) | |
– อัตราส่วน 19:9 | – อัตราส่วน 19:9 | |
– กระจก Corning Gorilla Glass 6 | – กระจก Corning Gorilla Glass 6 | |
– HDR10+ | – HDR10+ | |
– Always-on display | – Always-on display | |
CPU : | – Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz | – Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz |
GPU : | – Mali-G76 MP12 | – Mali-G76 MP12 |
ROM : | – 128GB | – 128GB |
– | – 512GB | |
– | – 1TB | |
– microSD Card สูงสุด 512GB | – microSD Card สูงสุด 512GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 12MP + 16MP | – 12MP + 12MP + 16MP |
– เลนส์ Wide + Telephoto + Ultrawide | – เลนส์ Wide + Telephoto + Ultrawide | |
– ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.4 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.5-2.4 + f/2.4 + f/2.2 | |
Battery : | – สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W | – สนับสนุน Fast Charging และ Wireless Charging 15W |
ขนาด : | – 149.9×70.4×7.8 มม. | – 157.6×74.1×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 157 กรัม | – 175 กรัม |
กันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
สี : | – Prism Black | – Prism Black |
– Prism White | – Prism White | |
– Prism Green | – Prism Green | |
– | – Ceramic Black | |
– | – Ceramic White |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S10 คือมีราคาถูกกว่าอยู่ที่ 31,900 บาท สำหรับรุ่นความจุเดียว 128GB ขณะที่ Galaxy S10+ ความจุเริ่มต้นที่ 128GB เช่นเดียวกัน แต่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 35,900 บาท ตัวเครื่องและน้ำหนักของ S10 จะเบากว่าเล็กน้อย ส่วนสเปคการใช้งานอื่นๆ จะคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Dynamic AMOLED Quad HD+ อัตราส่วน 19:9 มีกระจก Corning Gorilla Glass 6 ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9820 หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12 รองรับ microSD Card สูงสุด 512GB กล้องหลัง 3 ตัว แบตเตอรี่รองรับชาร์จเร็ว และชาร์จไร้สาย หรือมีสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล เป็นต้น
Features | Samsung Galaxy S10+ | Samsung Galaxy S10 |
ราคา : | – 35,900.- (128GB) | – 31,900 บาท (128GB) |
– 44,900.- (512GB) | – | |
– 55,900.- (1TB) | – | |
หน้าจอ : | – ขนาด 6.4 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว |
RAM : | – 8GB และ 12GB | – 8GB |
ROM : | – 128GB | – 128GB |
– 512GB | – | |
– 1TB | – | |
กล้องหน้า : | – 10MP (wide) + 8MP (RGB Depth) | – 10MP (wide) |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
Battery : | – 4100 mAh | – 3400 mAh |
สี : | – Prism Black | – Prism Black |
– Prism White | – Prism White | |
– Prism Green | – Prism Green | |
– Ceramic Black | – | |
– Ceramic White | – |
จุดเด่นของ Samsung Galaxy S10+ คือมีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 512GB และ 1TB โดยราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.4 นิ้ว หน่วยความจำแรมมีทั้ง 8GB และ 12GB กล้องหน้าพิเศษขึ้นเป็นเลนส์คู่ความละเอียด 10MP (wide) + 8MP (RGB Depth) แตกต่างจาก S10 ที่มีกล้องหน้าเลนส์เดี่ยว พร้อมอัพความจุแบตเตอรี่ขึ้นเป็น 4100 mAh นอกจากนี้ยังมีสีพิเศษให้เลือกเพิ่มอีก 2 สี ได้แก่ Ceramic Black และ Ceramic White สำหรับรุ่น 512GB
เปรียบเทียบรูปลักษณ์ดีไซน์
มาเริ่มกันที่ด้านหน้ากันก่อนเลยค่ะ สำหรับ Samsung Galaxy S10 และ S10+ มาพร้อมดีไซน์หน้าจอไร้ขอบ Infinity-O ให้การแสดงผลแบบเต็มจอมากยิ่งขึ้น ขอบบนและขอบล่างเหลือน้อย ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเยอะ
และถือเป็นครั้งแรกกับนวัตกรรมจอภาพ Dynamic AMOLED รองรับการแสดงผลระดับ HDR10+ มีค่า Contrast สูง ให้ภาพสีสันสดใส ในโทนสีที่กว้างและสมจริงยิ่งขึ้น พร้อมรองรับระบบจดจำใบหน้าด้วย
หน้าจอมีการปรับอัตราส่วนความยาวจากรุ่นก่อน 18.5:9 เป็น 19:9 โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ใช้ดีไซน์หน้าจอเดียวกันแต่มีขนาดที่แตกต่างกัน Galaxy S10 ใช้หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ส่วนรุ่น Galaxy S10+ ใช้หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ Quad HD+ หรือ 1440×3040 พิกเซล โดยสามารถปรับการใช้งานได้ตั้งแต่ระดับ HD+, Full HD+ และ WQHD+ เลยค่ะ
ขอบจอด้านล่างแคบลงอย่างเห็นได้ชัด พวกปุ่มนำทางต่างๆ อยู่บนจอแสดงผล ประกอบไปด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
กระจกกันรอยใช้เป็น Corning Gorilla Glass 6 รุ่นล่าสุด แข็งแกร่ง ทนทานต่อรอยขีดข่วน รวมถึงติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ไว้ใต้จอแสดงผลอีกด้วย โดยเทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นเสียงในการสแกนแบบ 3D ทำให้แม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น
ขอบหน้าจอด้านบนสุดมีการเว้นไว้สำหรับติดตั้งลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ ด้วยการที่เป็นดีไซน์แบบ Infinity-O เลนส์กล้องจึงถูกฝังอยู่บนหน้าจอเลยค่ะ
ข้อแตกต่างที่เห็นกันได้แบบชัดๆ และแยกออกได้ทันทีว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน คือ Galaxy S10 ติดตั้งกล้องเลนส์เดี่ยว ส่วนรุ่น Galaxy S10+ มาพร้อมกล้องหน้าเลนส์คู่นั่นเอง
โดย Galaxy S10 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 10MP
ส่วนรุ่น Galaxy S10+ กล้องหน้าเลนส์คู่ประกอบด้วย เลนส์เซลฟี่ความละเอียด 10MP + เซ็นเซอร์ RGB Depth 8MP
มาต่อกันที่ด้านหลังตัวเครื่องกันบ้าง ยังคงมาพร้อมดีไซน์กระจกโค้ง ใช้วัสดุกระจก Corning Gorilla Glass 5 สะท้อนแสงสวยงาม ตัวเครื่องของ Galaxy S10 น้ำหนักเพียง 157 กรัม ขณะที่ Galaxy S10+ น้ำหนัก 175 กรัม
รูปลักษณ์โดยรวมก็ไม่แตกต่างกัน ขนาดตัวเครื่องรุ่น Galaxy S10 ที่มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว มีขนาดเล็กกว่ารุ่น Galaxy S10+ มาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว เพียงเล็กน้อย
ตำแหน่งของเลนส์กล้องหลังสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกล้อง 3 ตัว จัดวางกันในรูปแบบแนวนอน
เริ่มจากฝั่งซ้ายสุดเป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP + เลนส์ Wide 12MP + เลนส์ Ultra Wide 16MP
ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่มาพร้อมดีไซน์กล้องที่เหมือนกันเป๊ะๆ เลยค่ะ
ส่วนข้างๆ กันเป็น LED flash และมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ด้านล่างเลนส์กล้องมีชื่อแบรนด์สกรีนไว้ค่ะ
ด้านขวาตัวเครื่องพบแค่เพียงปุ่มพาวเวอร์ สำหรับเปิด/ปิดตัวเครื่อง, รีสตาร์ทเครื่อง และเปิดโหมดฉุกเฉิน ขนาดตัวเครื่อง S10 เล็กกว่านิดหน่อย ความบางก็แทบจะไม่แตกต่างกันมากด้วย กรอบเครื่องใช้แบบมันวาวนิดๆ ตัดขอบด้วย Diamond Cut โดยปุ่มพาวเวอร์มีการเลื่อนขึ้นไปเล็กน้อย
ด้านซ้ายตัวเครื่องพบปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่มเรียกใช้งานผู้ช่วย Bixby
โดยปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่เหนือปุ่ม Bixby ค่ะ
ด้านบนตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย รูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM
ซึ่งช่องใส่ซิมการ์ดจะเป็นแบบ Hybrid Dual SIM รองรับได้ 2 ซิมการ์ด แต่จะต้องเลือกใช้งานระหว่าง SIM + SIM หรือ SIM + microSD Card ที่รองรับสูงสุด 512GB
ด้านล่างตัวเครื่อง พบช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, รูไมค์โครโฟน และลำโพงตัวหลักเพื่อความบันเทิง โดยลำโพงคู่ Stereo ระบบเสียง 24 bit รองรับ Dolby Admos surround 3D sound ปรับจูนเสียงโดย AKG
นอกจากนี้ทั้ง Galaxy S10 และ Galaxy S10+ ยังรองรับ Wireless PowerShare ซึ่งเป็นการแชร์แบตเตอรี่แบบไร้สาย และมีวิธีการใช้งานที่ง่ายมากๆ สะดวกรวดเร็วสุดๆ คือหันหลังสมาร์ทโฟน Samsung ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งแบตเตอรี่ จากนั้นนำสมาร์ทโฟนเครื่องที่จะรับแบตเตอรี่มาวางบริเวณตรงกลางติดกับด้านหลังอุปกรณ์ตัวแบ่ง
เพียงเท่านี้ก็สามารถชาร์จและแชร์แบตเตอรี่ได้อย่างง่ายดายแล้วค่ะ และไม่เพียงแต่แชร์แบตเตอรี่สมาร์ทโฟนสู่สมาร์ทโฟนได้แล้ว พวกอุปกรณ์เสริมต่างๆ อย่างเช่น สมาร์ทวอทช์ หูฟังต่างๆ ที่รองรับมาตรฐาน QI ก็ยังรองรับ โดยจ่ายไฟที่ 5 โวลต์ 2 แอมป์ และมี Dual Charging ที่สามารถเสียบชาร์จไฟให้กับสมาร์ทโฟนไปพร้อมๆ กับวางอุปกรณ์อื่นๆ ที่ด้านหลังเครื่องสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพ
เมื่อนำ Samsung Galaxy S10 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 325716 คะแนน ถือว่าทำออกมาได้ดีสำหรับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และทำคะแนนได้ดีกว่า Galaxy S9 ที่เราได้รีวิวไปให้ชมก่อนหน้านี้ (คลิกชมรีวิว)
เมื่อนำ Samsung Galaxy S10+ ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Exynos 9820 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.7GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Mali-G76 MP12 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับ One UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น AnTuTu เวอร์ชั่นล่าสุด พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 330152 คะแนน ซึ่งทำออกมาได้มากกว่ารุ่น Galaxy S10 เพียงเล็กน้อย ถือว่ามีประสิทธิภาพดีพอๆ กันค่ะ
และเมื่อนำไปทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมโดยเราได้ลองดาวน์โหลดเกม PUBG Mobile มาลองเล่นกันดู พบว่าประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ทำงานได้อย่างลื่นไหลดีเยี่ยมสุดๆ จอภาพกราฟิกสวยสมจริง สีสันคมชัดมาก ระบบทัชสกรีนทำงานได้ดี ทำให้เล่นกันได้แบบเพลินๆ ไม่มีกระตุกหรือสะดุดเลยค่ะ
แรกเริ่มเข้าสู่เกม ระบบได้ปรับค่าความละเอียดอยู่ที่ระดับสูงมาให้ ตามระดับของอุปกรณ์ซึ่งมีฮาร์ดแวร์สเปคสูงเป็นที่เรียบร้อย
จอภาพกราฟิกสวยสมจริง สีสันคมชัดสุดๆ ระบบทัชสกรีนทำงานได้ดี ทำให้เล่นกันได้แบบเพลินๆ
และระหว่างที่กำลังเล่นเกมโปรด ยังมีแถบ Game Tools สำหรับปิดกั้นแจ้งเตือนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ หรือสายเรียกเข้า พร้อมเปิดระบบเสียง Dolby Atmos และคุณสมบัติเกมขั้นสูงอีกด้วย
ราคาวางจำหน่าย
Samsung Galaxy S10
• ราคาจำหน่าย 31,900 บาท สำหรับรุ่น 128GB
Samsung Galaxy S10+
• ราคาจำหน่าย 35,900 บาท สำหรับรุ่น 128GB
• ราคาจำหน่าย 44,900 บาท สำหรับรุ่น 512GB
• ราคาจำหน่าย 55,900 บาท สำหรับรุ่น 1TB
ซึ่งช่วงนี้หากใครซื้อ Samsung Galaxy S10 และ Galaxy S10+ รับส่วนลดพิเศษทันที 4,000 บาท รวมถึงมีโปรโมชั่นเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเก่ามาเป็น Galaxy S10 และ Galaxy S10+ โดยการนำมือถือเก่ามาแลกรับเป็นส่วนลดเพิ่ม 1,000 บาทอีกด้วย
ได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน กับบัตรเครดิตธนาคารที่ร่วมรายการ ระยะเวลาโปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2562 เท่านั้น เพื่อนๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ที่ Samsung Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการเท่านั้นค่ะ 🙂
Leave a Reply