รีวิว realme C12 แบตทรงพลัง 6000mAh กล้องหลัง 3 เลนส์ จอใหญ่ 6.5 นิ้ว ดีไซน์งามหยด ราคาสุดประหยัด!!

รีวิว realme C12 แบตทรงพลัง 6000mAh กล้องหลัง 3 เลนส์ จอใหญ่ 6.5 นิ้ว ดีไซน์งามหยด ราคาสุดประหยัด!!

realme C12

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ มีใครกำลังมองหาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ราคาเบา ๆ จอใหญ่ แบตอึด สเปกครบครันกันอยู่มั้ยเอ่ย? ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะวันนี้เรามีบทความรีวิว realme C12 น้องเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมสโลแกน “6000mAh แบตทรงพลัง กล้องหลัง 3 เลนส์”  มาฝากให้ได้ชมกัน

C12_7i_Smart Scale_Smart Cam_Prices.006_resize

realme C12 ราคาจำหน่ายเพียง 3,999 บาท และมีโปรโมชั่นสุดคุ้มร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย อาทิ AIS เป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,289 บาท และ TrueMove H เป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,499 บาท ทั้งยังสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 6 เดือนอีกด้วย

7

realme C12 มาพร้อมหน้าจอ Mini-drop แบบ Fullscreen ขนาด 6.5 นิ้ว มีการเพิ่มขนาดหน้าจอขึ้นและลดขนาดรอยหยดน้ำลง ใช้ชิปเซ็ต Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz ผสานจีพียู PowerVR GE8320 หน่วยความจำ RAM 3GB + ROM 32GB รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 256GB

27

ด้านหลังติดตั้งกล้อง AI 3 ตัว ความละเอียด 13MP พร้อมเลนส์ Macro และ Portrait B&W พร้อม PDAF โฟกัสรวดเร็วแม่นยำ พร้อมโหมดการใช้งาน อาทิ Super Nightscape ถ่ายภาพกลางคืนให้สวยคมชัด, Ultra Macro ถ่ายวัตถุใกล้ในระยะ 4 ซม. และ Chroma Boost เพิ่มสีสดให้แก่ภาพถ่าย เป็นต้น ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ 5MP พร้อม AI Beauty ปรับค่าสวยเนียนทันใจ

26

ติดตั้งสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และมีสแกนใบหน้าอันฉับไว รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Triple Slot ส่วนแบตเตอรี่มาพร้อมความจุไซส์ยักษ์ 6000mAh มีโหมดประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode

23

realme C12 ใช้ดีไซน์การออกแบบฝาหลังไล่เฉดสีรูปทรงเรขาคณิต ฝาหลังเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ถูกไล่ระดับเป็น 3 เฉดสี มุมกับเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์สีและแสงที่แตกต่างกันในแต่ละมุมมอง สีสันมีความสวยงามน่าสัมผัส พร้อมป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือ โดยตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Coral Red และ Marine Blue พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปก realme C12

Features realme C12
วันเปิดตัว :  – ตุลาคม 2563
ราคา :  – 3,999.- (ณ วันที่ 15 ต.ค. 63)
OS :  – Android 10 ครอบทับ realme UI
หน้าจอ :  – หน้าจอ IPS LCD
 – ขนาด 6.5 นิ้ว
 – ความละเอียด 1600×720 พิกเซล
 – กระจก Corning Gorilla Glass
CPU :  – Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz
GPU :  – PowerVR GE8320
RAM :  – 3GB
ROM :  – 32GB
 – microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :  – 13MP + 2MP + 2MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 + f/2.4
 – LED flash
 – HDR
 – Panorama
กล้องหน้า :  – 5MP
 – ค่ารูรับแสง f/2.4
Video :  – 1080p@30fps
Battery :  – 6000mAh (10W Charge)
ขนาด :  – 164.5×75.9×9.8 มม.
น้ำหนัก :  – 209 กรัม
รองรับซิม :  – Dual SIM
ระบบกันน้ำ :  –
ระบบเครือข่าย :  – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz
 – 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :  – Wi-Fi 802.11 b/g/n
 – Bluetooth 5.0
 – microUSB 2.0
 – OTG
 – 3.5mm jack
GPS :  – GPS
 – A-GPS
 – Beidou
 – Glonass
Sensor :  – Fingerprint
 – Accelerometer
 – Proximity
 – Compass
สี :  – Coral Red
 – Marine Blue

แกะกล่อง realme C12

(51)

อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย

– realme C12 ตัวเครื่องสี Marine Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ microUSB 2.0
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน

(47)

realme C12 มีแบตเตอรี่ความจุไซส์ยักษ์ 6000mAh ใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่องยิ่งขึ้น แต่มาพร้อม Adapter ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟเพียง 10W  (5V, 2A) เท่านั้น ทั้งยังรองรับการชาร์จในรูปแบบ OTG สามารถถ่ายโอนแบตเตอรี่ของ realme C12 ไปยังอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ได้ และจากผลการทดสอบใน realme Lab ยังพบด้วยว่า realme C12 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 57 วันในโหมดสแตนด์บายเลยทีเดียว

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีฟังก์ชันเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ด้วย อาทิ App Quick Freeze พักการทำงานของแอปฯ ที่ไม่ได้ใช้งาน, Screen Battery ลดการแสดงเอฟเฟกต์บางส่วนลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ และ Sleep Standby ช่วยประหยัดพลังงานขณะนอนหลับ เป็นต้น

1

นอกจากนี้ยังรองรับ Super Power Saving Mode ที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อยได้ 6 แอปฯ เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และช่วยประหยัดพลังงานในตัวเครื่องได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งโหมดนี้จะสามารถใช้งานได้แบบไม่กระทบต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันเลย

ทำความรู้จัก realme C12

(37)

ด้านหน้า realme C12 มาพร้อมหน้าจอ Mini-drop แบบ Fullscreen ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอจุใจ 20:9 จะดูหนัง หรือเล่นเกมก็ครบทุกอรรถรส โดยมีการเพิ่มขนาดหน้าจอและลดขนาดรอยหยดน้ำลง

(48)

สำหรับดีไซน์ Mini-drop ถูกอัปเกรดด้วยการใช้กระบวนการทับซ้อนกันแบบ Stack Process ที่ดึงชิ้นส่วน และส่วนประกอบต่าง ๆ ให้เข้าใกล้กันอย่างลงตัว เพื่อให้พื้นที่หยดน้ำลดลงถึง 30.9% เมื่อเทียบกับรอยหยดน้ำแบบปกติทั่วไป พร้อมเพิ่มสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 88.7%

(33)

ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5MP ติดตั้งอยู่บนรอยบากทรงหยดน้ำ รองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าอันฉับไว ใช้งานง่ายเพียงปลดล็อกในคลิ๊กเดียว หรือมองไปที่หน้าจอ สะดวกมากต่อการใช้งาน และปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลภายในตัวเครื่อง เหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา

(32)

ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

22

ด้านหลัง realme C12 ใช้ดีไซน์การออกแบบฝาหลังไล่เฉดสีรูปทรงเรขาคณิต เหมือนกับที่เคยถูกนำไปใช้ครั้งแรกกับ realme C11 แล้วนำมาต่อยอดในรุ่น C12 ที่ได้รับแรงบันดาลใจเดิม

5

ซึ่งฝาหลังเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ถูกไล่ระดับเป็น 3 เฉดสี ด้วยมุมกับเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์สีและแสงที่แตกต่างกันในแต่ละมุมมอง โดยตัวเครื่องที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Coral Red และ Marine Blue

DSCF6425

ฝาหลังผ่านกระบวนการเคลือบและขัดพื้นผิวอย่างแม่นยำถึง 300 นาที โดยใช้เครื่องแกะสลักเรเดียม 5 แกนชั้นนำจากเยอรมัน เพื่อให้ได้เส้นแกะสลักที่มีความโค้งมนและเอฟเฟ็กต์แสงสะท้อนพิเศษ สีสันมีความสวยงามน่าสัมผัส พร้อมป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมืออีกด้วย

(29)

ด้านหลังส่วนบน ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED จัดวางกันในโมดูลทรงสี่เหลี่ยมมุมโค้งมนดูลงตัวที่มุมซ้ายบน ประกอบด้วย Main Sensor + Macro + Portrait B&W โมดูลกล้องหลังตอบรับกับมุมและองศา ทำให้เกิดความสมดุลและลงตัวที่สุด

(10)

ตรงกลางเครื่องเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultra Fast

(30)

ด้านหลังส่วนล่าง พบแค่เพียงโลโก้แบรนด์ realme สีเงินสกรีนไว้

(40)

ด้านบนตัวเครื่อง ไร้ฟังก์ชันการใช้งานใด ๆ

(41)

ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย แจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต microUSB 2.0 และลำโพงเสียง

(44) (45)

ด้านซ้ายตัวเครื่อง พบแค่เพียงช่องใส่ถาดซิมการ์ด

(46)

โดย realme C12 มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slot รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Nano SIM พร้อมกับเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุด 256GB หรือกล่าวง่าย ๆ ใช้งานในรูปแบบ SIM 1 + SIM 2 +  microSD Card นั่นเอง

(42) (43)

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่องค่ะ

Performance

Screenshot_2020-10-14-14-35-57-17_682db042e245bdfe41a756ea434d7a9e_resize-horz

เมื่อนำ realme C12 ที่มาพร้อมชิปประมวลผล Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชั่น Geekbench 5 และ CPU-Z พบว่าสามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 168 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 927 คะแนน

โดยชิปเซ็ต Helio G35 จาก MediaTek ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 12 นาโนเมตร มาพร้อม Cortex A53 ที่เร็วและใหม่ล่าสุดในระดับราคาเดียวกัน สามารถรองรับแอปพลิเคชั่นเกมระดับกลางได้สบาย ๆ

Screenshot_2020-10-14-14-35-29-43_resize-horz

ส่วนข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 1139MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 12.29GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ การผลิตระดับ 12 นาโนเมตร ชิปประมวลภาพกราฟิก PowerVR GE8320 หน้าจอ HD+ เป็นต้น

Screenshot_2020-10-14-22-55-29-74_dac7cc7571c39b392df64923967cf7da_resize Screenshot_2020-10-14-22-37-43-05_dac7cc7571c39b392df64923967cf7da_resize

สำหรับประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิตมาทดลองเล่นกันดูค่ะ โดยพบว่าภาพในเกมมีความสวยเป็นธรรมชาติ ระบบทัชสกรีนถือว่าตอบสนองได้ดี ตัวเกมลื่น ไม่กระตุกค่ะ

(39)

ด้านความบันเทิงสามารถรับชมภาพได้อย่างเต็มตา รอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็กไม่บดบังรายละเอียดใด ๆ บนจอแสดงผลเลยค่ะ

Interface

(19)

เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน เพื่อกดรหัสผ่านที่ตั้งไว้ และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น แต่สำหรับใครที่ลงทะเบียนฟีเจอร์ Face Unlock และสแกนลายนิ้วมือแล้ว จะมีไอคอนปรากฏบนหน้าจอ ก็สามารถสแกนด้านหลังเครื่อง หรือปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลยทันที

(25)

เมื่อปลดล็อกหน้าจอแล้วก็จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้จำนวน 23 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้ภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก realme ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ให้สีสันสดใสมากขึ้น สามารถปรับแต่งไอคอนได้เอง

(21)

หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่น ๆ ได้

(20)

หรือหากเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings มีเมนูแถบแจ้งเตือน และสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้ารวมเมนูการใช้งานทั้งหมดในเครื่องค่ะ

(22)

ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน อาทิ แผนที่, Google Chrome, Gmail, YT Music หรือ YouTube เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play หรือ App Market

(11)

รองรับ Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียง

(12)

เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ

(15)

พวกเครื่องมือการใช้งานก็มีให้ใช้งานครบครัน เริ่มที่ เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ

(13)

นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, วิทยุ FM

(17)

แอปฯ วัดสภาพอากาศ, เปลี่ยนธีมและภาพพื้นหลังสวย ๆ ได้ที่ร้านขายธีม, ดาวน์โหลดเกมฮิตเพิ่มเติมได้ที่ Game Center

(16)

รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว

(1)

เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง

(2)

หน้าจอของ realme C12 รองรับโหมดกลางคืนที่จะเปลี่ยนไปใช้งานหน้าจอโทนสีมืด และรองรับการปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้าได้ที่โหมดถนอมสายตา เพื่อลดรังสีแสงสีฟ้า ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการปวดตา ตาหล้า และสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติได้

(3)

ด้านฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัย realme C12 รองรับทั้งฟีเจอร์สแกนใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งก่อนจะใช้งานต้องตั้งรหัสผ่านก่อนค่ะ

(4)

รองรับเครื่องมืออำนวยความสะดวก ต่าง ๆ อาทิ ปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ด้วยปุ่มพาวเวอร์, การใช้แถบด้านข้างอัจฉริยะ และการใช้ปุ่มนำทาง เป็นต้น

(14)

ส่วนนี้เป็น Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น

(5)

รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ

(6)

ในส่วนของแบตเตอรี่มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน หากต้องการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยจะมีลดความสว่างของหน้าจอ ลดเวลาล็อกหน้าจอแบบอัตโนมัติลงเหลือ 15 วินาที และปิดการใช้งานแอปฯ ให้หายไปจากหน้าจออย่างสมบูรณ์ พร้อมมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงอีกด้วย

(7)

รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกันไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

(8)

ส่วนนี้เป็นหน้าการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด, หน้าแสดงข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์ และ realme Lab ที่ทดลองใช้ฟีเจอร์เด่น ๆ หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ในเวอร์ชันเบต้า

(9)

รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น

(10)

รองรับฟังก์ชัน Split Screen หรือโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น

(18)

รองรับ Game Space ใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น ปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, ตั้งค่าโหมดเกม, ตั้งค่าแบตเตอรี่ เป็นต้น

(24)

หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะปรากฎหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ การเคลียร์แอปฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง พร้อมสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ หรือใช้งาน 2 หน้าจอได้ง่าย ๆ เลย

(23)

สามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างรวดเร็วเมื่อเสียบสายชาร์จ microUSB 2.0 เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ถัดมาเป็นหน้าจอขณะเสียบสายชาร์จ ถัดมาหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Google Assistant และหากกดค้างไปไว้ราว 5 วินาที จะปรากฏไอคอนรีสตาร์ท และปิดเครื่อง หรือล็อกเครื่องแบบนิรภัยขึ้นมาค่ะ

โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ

(34)

มาดูกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย realme C12 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับ AI Beauty, Bokeh Effect และมีโหมดการใช้งานเอาใจสายเซลฟี่ เดี๋ยวเราไปชมโหมดต่าง ๆ กันเลยค่ะ

หน้า (1)

เริ่มที่ โหมดบันทึกวิดีโอ รองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ HD หรือ 720p และ Full HD หรือ 1080p มีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน แต่ไม่รองรับ AI Beauty นะคะ

หน้า (2)

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ให้ภาพสวยคมชัดมากขึ้น รองรับ AI Beauty ที่สามารถปรับได้มากถึง 100 ระดับ พร้อมมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานเช่นเดียวกัน

ปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty

Beauty 50

ปรับ AI Beauty ระดับ 50

Beauty 100

ปรับ AI Beauty ระดับ 100

FT

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

หน้า (3)

โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังละลาย หรือ Bokeh นั่นเอง รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวสวยได้ 100 ระดับเช่นกัน สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งาน

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

PT + BT 50

ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 50

PT + BT 100

ภาพถ่าย Portrait ปรับ AI Beauty ระดับ 100

PT + FT

ภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter

หน้า (4)

ขณะที่โหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า มีให้เลือกใช้งาน 2 โหมด ได้แก่ เซลฟี่แบบ Panorama ให้มุมมองที่กว้างขึ้น และถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse

Pano (2)Pano (1)

ตัวอย่างภาพถ่าย Panorama Selfie

12

ต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme C12 มาพร้อมกล้องหลัง AI 3 ตัว ประกอบไปด้วย ความละเอียด 13MP (Main Sensor) + 2MP (Macro Lens) + 2MP (B&W Portrait) ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 + f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED

โดยเซ็นเซอร์หลักความละเอียด 13MP ถ่ายภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น พร้อมรองรับ PDAF โฟกัสได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ มีการเพิ่มการซูมเป็น 4 เท่า ถัดมาเป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายวัตถุใกล้ในระยะ 4 ซม.

18

และสุดท้ายเป็นเลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอได้สวยงามเป็นธรรมชาติ มีการเพิ่มเอฟเฟ็กต์ภาพขาวดำ ในโหมดจะมีการปรับค่าแสงอุณหภูมิสี เฉดสี และพารามิเตอร์อื่น ๆ ช่วยเพิ่มความโดดเด่น และความแตกต่างให้กับภาพ Portrait ลำดับถัดมาเราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ

หลัง (1)

เริ่มที่ Super Nightscape Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืน หรือช่วงสภาวะแสงน้อย ซูมได้สูงสุด 4 เท่า และรองรับการตั้งเวลาในการถ่ายภาพด้วย

IMG20201014211205_00_resize IMG20201014211533_00_resize

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Nightscape

หลัง (2)

โหมดบันทึกวิดีโอ อัตราเฟรมบันทึกวีดีโอระดับ 1080p และ 720p ซูมได้สูงสุด 4 เท่า รองรับการเปิดไฟแฟลช และมีฟิลเตอร์หลากสีให้เลือกใช้งาน

หลัง (3)

โหมดถ่ายภาพปกติ รองรับการเปิดไฟแฟลช LED, HDR เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้คมชัด เปิด Chroma Boost เพิ่มความสดให้กับภาพถ่าย รองรับ AI Beauty ปรับค่าสวยเนียนได้ถึง 100 ระดับ และมีฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งาน

Beauty

ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty Mode

ฟิลเตอร์

ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode

Chroma Boost

ตัวอย่างภาพถ่าย Chroma Boost

หลัง (4)

โหมด Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้เองถึง 100 ระดับ แถมยังตั้งเวลาในการถ่ายภาพได้อีกด้วย

PT

ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode

หลัง (5)

สำหรับโหมดการใช้งานพิเศษรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่โหมดถ่ายวิดีโอ Time Lapse หรือบันทึกวิดีโอแบบเร่งเวลา, Google Lens เป็นเทคโนโลยีการจดจำภาพที่พัฒนาโดย Google ออกแบบมาเพื่อนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ระบุ โดยใช้การวิเคราะห์ภาพตามเครือข่าย

หลัง (6)

โหมดบันทึกวิดีโอ Slo-Motion , โหมด Pro สามารถปรับค่าแสง White Balance, ISO หรือระบบ Auto Focus ได้เอง และโหมด Panorama จับภาพมุมกว้าง

ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo

หลัง (7)

และสุดท้ายเป็นโหมดSuper Macro ถ่ายได้ใกล้สุดในระยะ 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ พร้อมรองรับ Chroma Boost เพิ่มสีสดให้ภาพถ่ายอีกด้วย

(4)_resize (6)_resize

ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme C12

(50)_resize (47)_resize (46)_resize (45)_resize  (44)_resize (42)_resize (41)_resize (40)_resize (39)_resize (5)_resize (2)_resize (51)_resize

สรุป

3

  • อัดแบตเตอรี่ไซส์ยักษ์ 6000mAh ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน รองรับการถ่ายโอนแบตเตอรี่ และสแตนด์บายได้นานสุด 57 วัน
  • จอใหญ่ Mini-drop ขนาด 6.5 นิ้ว ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass
  • ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz รัน Android 10 ครอบทับ realme UI

20

  • กล้องหลัง AI 3 ตัว ความละเอียด 13MP พร้อมโหมด Nightscape กล้องหน้าเซลฟี่ 5MP พร้อม AI Beauty
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และมีฟีเจอร์สแกนใบหน้าที่ตอบสนองได้รวดเร็ว
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Triple Slot
  • บอดี้สวยดีไซน์การไล่เฉดสีรูปทรงเรขาคณิต ตัวเครื่องป้องกันรอยขีดข่วน และรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

4

ข้อสังเกต

  • แบตเตอรี่ความจุสูงแต่ไม่รองรับชาร์จไว
  • ภายในกล่องไม่แถมเคสกันรอย และหูฟังมาให้
  • กล้องหน้าหากถ่ายท่ามกลางแสงแดด จะดูแสงจ้าเกินไป

24

  • รองรับพอร์ต microUSB 2.0 ไม่ใช่ USB Type-C
  • หน้าจอความละเอียด HD+
  • หน่วยความจำน้อยไปหน่อยอาจไม่เพียงพอกับผู้ใช้งานบางท่าน แต่ยังดีที่สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

2

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

ขอขอบคุณ realme Thailand

Written by : Nan Kanyarat Thongpeng