รีวิว realme 7 5G จอลื่น 120Hz ขุมพลัง Dimensity 800U แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 30W รองรับ Dual 5G ในราคาจับต้องได้!!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ราคาคุ้ม ๆ มาพร้อมสเปกการใช้งานครบครัน เพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเอง หรือคนที่รักในช่วงสิ้นปีนี้ เรามีบทความรีวิว realme 7 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดมาฝากให้ได้ชมกันค่ะ
realme 7 5G หน้าจอสุดลื่น 120Hz ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Dimensity 800U ผสานหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card ทำงานบนระบบปฏิบัติการ realme UI บนพื้นฐาน Android 10
กล้องหลัง AI 4 ตัว คมชัดสุด 48MP มาครบทั้งเลนส์ Ultra Wide-Angle, Portrait และ Macro บันทึกวิดีโอระดับ 4K กล้องหน้าเซลฟี่สวย 16MP พร้อม AI Face Beauty ใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จไว 30W Dart Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C
พร้อมได้รับการออกแบบดีไซน์นำเทรนด์ มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ ติดตั้งสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับ 5G แบบ Dual เชื่อมต่อเครือข่าย 5G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อินเทอร์เน็ตสูงที่รวดเร็วและครอบคลุมมากที่สุด
realme 7 5G ราคาจำหน่ายเพียง 9,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mist Blue และ Flash Silver เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟน Dual 5G รุ่นแรก ในระดับราคาเดียวกัน ที่มาพร้อมราคาจับต้องได้เข้าถึงง่าย และมีราคาที่เหมาะสมมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้
โดยสามารถ Pre-order ตั้งแต่วันนี้ – 4 ธันวาคม 2563 เท่านั้น รับฟรี!! VIP Card ประกันจอแตก 1 ปี และ Special Gift มูลค่ารวมกว่า 5,299 บาท พร้อมขยายระยะเวลาการรับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี มีโปรโมชั่นผ่อน 0% นานสุดสูง 10 เดือน
พร้อมโปรโมชั่นร่วมกับ AIS, TrueMove H และ dtac เป็นเจ้าของ realme 7 5G ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,099 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจตามที่กำหนด
ส่วนช่องทางออนไลน์สามารถสั่งจองได้ที่ Lazada, Shopee, Thisshop และ JD Central
ก่อนวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 5 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ผ่าน realme Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เดี๋ยวเราไปชมรายละเอียดรีวิวทั้งหมดกันเลยค่ะ
ข้อมูลสเปก realme 7 5G
Features | realme 7 5G |
วันเปิดตัว : | – พฤศจิกายน 2563 |
ราคา : | – 9,999.- (ณ วันที่ 25 พ.ย. 63) |
OS : | – Android 10 ครอบทับ realme UI |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.5 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล | |
– อัตรา Refresh Rate 120Hz | |
– กระจก Corning Gorilla Glass | |
CPU : | – Dimensity 800U แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.4GHz |
GPU : | – ARM Mali-G57 MC3 |
RAM : | – 8GB |
ROM : | – 128GB |
– รองรับ microSD Card | |
กล้องหลัง : | – 48MP + 8MP + 2MP + 2MP |
– Samsung S5KGM1ST + Ultra Wide-Angle + Portrait + Macro | |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4 | |
– LED flash | |
– PDAF | |
– HDR | |
– Panorama | |
กล้องหน้า : | – 16MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.1 | |
Video : | – 4K@30fps, 1080p@30/60/120fps, 720p@30/60fps |
Battery : | – 5000mAh สนับสนุน 30W Dart Charge |
ขนาด : | – 162.2×75.1×9.1 มม. |
น้ำหนัก : | – 195 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM |
ระบบกันน้ำ : | – |
ระบบเครือข่าย : | – 4G LTE |
– 5G SA/NSA | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4/5GHz |
– Bluetooth 5.0 | |
– NFC | |
– USB Type-C | |
GPS : | – GPS |
– A-GPS | |
– Glonass | |
– Beidou | |
Sensor : | – Fingerprint (ด้านข้างตัวเครื่อง) |
– Accelerometer | |
– Gyro | |
– Proximity | |
– Compass | |
สี : | – Mist Blue |
– Flash Silver |
แกะกล่อง realme 7 5G
อุปกรณ์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
– realme 7 5G ตัวเครื่องสี Mist Blue
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ สนับสนุน 30W Dart Charge
– สายชาร์จ USB Type-C
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วกับตัวเครื่อง)
– คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกัน
– เคสกันรอยซิลิโคนแบบใส
เคสกันรอยที่แถมมาให้เป็นเคสซิลิโคนแบบใสค่ะ สวมใส่ไว้ป้องกันรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วนต่าง ๆ
realme 7 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาอันสั้น หรือใช้เวลาเพียง 26 นาที ก็สามารถชาร์จได้เกือบ 50% พร้อมรองรับการชาร์จ 15W PD ทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับการชาร์จใน 1 ครั้ง สามารถสแตนด์บายเครื่องได้นาน 23 วัน, โทรสนทนาได้ 35 ชั่วโมง, ใช้งาน GPS นาน 18 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นาน 42 ชั่วโมง รองรับโหมดการชาร์จแบบ Trickle Charge เพิ่มประสิทธิภาพถึง 200% พร้อมมีระบบป้องกัน 5 ชั้น รับรองความปลอดภัยในการชาร์จตั้งแต่หัวชาร์จ, สายชาร์จ และตัวเครื่องสมาร์ตโฟนเลย
มีอัตรา Conversion สูงถึง 99% หน้าจอสว่างขณะชาร์จเร็ว และทำให้เครื่องไม่ร้อน ทั้งยังมีโหมด Super Power Saving หรือโหมดเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งจะเป็นการลดความสว่างของหน้าจอ, ลดเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติลงเหลือ 15 วินาที และปิดการใช้งานแอปฯ ให้หายไปจากหน้าจออย่างสมบูรณ์
สามารถสแตนด์บายเครื่องได้นานกว่า 28 ชั่วโมง แม้จะเหลือแบตเตอรี่แค่ 5% แถมยังโทรได้ 9 นาที และฟังเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 97 นาที รวมถึงสามารถเลือกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ 6 แอปฯ เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และไม่กระทบกับการใช้งานในแต่ละวัน
นอกจากนี้ยังรองรับ App Quick Freeze ฟังก์ชันที่จะช่วยพักการทำงานของแอปฯ ที่ไม่มีการใช้งาน, รองรับ Sleep Standby ฟีเจอร์ช่วยประหยัดพลังงานขณะนอนหลับ และสามารถถ่ายโอนแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่น ๆ ผ่าน OTG ได้อีกด้วย
ทำความรู้จัก realme 7 5G
ด้านหน้า ใช้จอแสดงผล IPS LCD แบบ Ultra Smooth ขนาดใหญ่เต็มตา 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ จอมีอัตราส่วน 20:9 สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 90.7% ค่าความสว่าง 480nits พร้อมครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass หน้าจอสามารถใช้งานได้กว้างเต็มตา จะดูหนัง ดูละคร เล่นเกม หรือท่องโซเชียลต่าง ๆ ก็ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายเลยค่ะ
พร้อมมีอัตรา Refresh Rate สูงถึง 120Hz แสดง 120 ภาพต่อวินาที ซึ่งเป็นอัตรา Refresh Rate ที่สูงขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับระดับ 60Hz แบบทั่วไป เพื่อเปิดประสบการณ์การรับชม และการสัมผัสที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น และอัตรา Sampling Rate สูง 180Hz ตอบสนองได้ดีมากยิ่งขึ้้นขณะเล่นเกม
ด้านหน้าส่วนบน มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่แบบ In-Display ความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.1 ติดตั้งที่มุมซ้ายบน โดยกล้องหน้าของ realme 7 5G รองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าฉับไว ใช้งานง่ายเพียงปลดล็อกในคลิกเดียว หรือแค่มองไปที่หน้าจอ สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ และเหนือหน้าจอมีช่องลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา
ด้านหน้าส่วนล่าง ประกอบด้วย ปุ่มการใช้งานแบบ On-Screen เริ่มจากทางซ้ายสุด ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
ด้านหลัง ได้รับการออกแบบดีไซน์นำเทรนด์ มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ มาด้วยกันทั้งหมด 2 สีค่ะ ได้แก่ Mist Blue ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพสะท้อนเสมือนเงาสะท้อนในกระจก ที่เราสามารถพบได้จากธรรมชาติ
มีการแบ่งฝาหลังออกเป็น 2 ส่วน มีเอฟเฟกต์แสงสะท้อนสวยงาม พร้อมเคลือบด้วยเทคโนโลยีแบบ AG Split Design ทำให้เกิดเป็นมุมมองที่กลมกลืน และดูพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ถัดมาเป็นสี Flash Silver นับได้ว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่มีการนำเอาโลโก้แบรนด์ realme มาดีไซน์อยู่บนฝาหลัง ซึ่งโลโก้มีพื้นผิวที่ให้เอฟเฟ็กต์แบบ Glasses-Free 3D เมื่อขยับฝาหลังโลโก้ realme จะมองเห็นเป็นแบบ 3 มิติ มีความตื้นลึก พร้อมด้วยการเคลือบผิวสัมผัสแบบ AG Split Design เช่นกัน ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มลื่น และลดการเกิดรอยนิ้วมือ
ด้านหลังส่วนบน มุมซ้ายบนติดตั้งกล้องหลัง AI 4 ตัว ความละเอียด 48MP + 8MP + 2MP + 2MP ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลัก Samsung S5KGM1ST, เลนส์ Ultra Wide-Angle, Portrait และ Macro พร้อมไฟแฟลช LED จัดวางในโมดูลทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้งมนแนวตั้ง ที่รองรับโหมดการใช้งานมากมาย ซึ่งเดี๋ยวเราจะไปทำความรู้จักกันในส่วนของโหมดการใช้งานกล้องกันค่ะ
ด้านหลังส่วนล่าง พบโลโก้แบรนด์ realme สีเงินสกรีนไว้
ด้านบนตัวเครื่อง มีแค่เพียงรูไมโครโฟน
ด้านล่างตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., รูไมโครโฟน, ช่องเสียบพอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos คุณภาพระดับ Hi-Res เพิ่มประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ด และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียง
โดยช่องใส่ถาดซิมการ์ดจะอยู่เหนือช่องปรับระดับเสียงค่ะ
ถาดใส่ซิมการ์ดของ realme 7 5G เป็นแบบ 2 ช่อง รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับ microSD Card ด้วย แต่จะต้องเลือกเอานะคะว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนระหว่าง SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD Card
ซึ่งหากเลือกใช้งาน 2 ซิมการ์ดเลยจะรองรับ 5G แบบ Dual เชื่อมต่อเครือข่าย 5G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อินเทอร์เน็ตสูงที่รวดเร็วและครอบคลุม รองรับได้ 12 คลื่นความถี่ 5G ทั่วโลก พร้อมรองรับ 5G-CA ซึ่งเป็นการนำเอาความถี่หลายย่านมารวมกันเพื่อประสิทธิภาพ และความเสถียรในการรับสัญญาณ นอกจากนี้ยังรองรับคลื่นความถี่ 2G, 3G และ 4G อีกด้วย
ด้านขวาตัวเครื่อง พบแค่เพียงปุ่มพาว์เวอร์สำหรับปิด-เปิด หรือรีสตาร์ทตัวเครื่อง พร้อมฝังเซ็นเซอร์แสกนลายนิ้วมือไว้บนปุ่มพาวเวอร์นี้ด้วย
โดยเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultra-Fast มีความชาญฉลาด และสามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ทันทีภายในพริบตา
Performance
เมื่อนำ realme 7 5G ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 800U นวัตกรรมการผลิตระดับ 7 นาโนเมตร ให้ประสิทธิภาพสูงพร้อมลดการใช้พลังงาน แบบ Octa-Core ที่ประกอบไปด้วย Cortex-A76 จำนวน 2 คอร์ ความเร็ว 2.4GHz และ Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.0GHz
ผสานหน่วยประมวลภาพกราฟิก ARM Mali-G57 MC3 และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI พร้อมรองรับ 5G + 5G Dual Standby มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล เมื่อเปรียบเทียบกับชิปเซ็ต Dimensity 700 เวลาการเปิดแอปฯ ของ Dimensity 800U มีความเร็วกว่า 1.4 เท่า ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 11% และ GPU เร็วขึ้น 28%
และเมื่อนำ realme 7 5G เข้าทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานบางส่วนผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark, Geekbench 5 และ CPU-Z เริ่มที่ AnTuTu Benchmark พบว่า realme 7 5G สามารถทำคะแนนการทดสอบรวมสูงถึง 331711 คะแนน
ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ตามข้อมูลระบุว่ามาพร้อมรหัสโมเดล RMX 2111 รันบน Android 10 ชิปเซ็ตโมเดล MT6853V จีพียู ARM Mali-G57 MC3 หน้าจอ Full HD+ หน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมด 4626MB ความจุที่ใช้งานเหลือ 97.84GB พร้อมรองรับ NFC เป็นต้น
ด้านการทดสอบของ Geekbench 5 สามารถทำคะแนนด้าน Single-Core อยู่ที่ 598 คะแนน และด้าน Multi-Core อยู่ที่ 1798 คะแนน
และข้อมูลตามแอปฯ CPU-Z ระบุว่าหน่วยความจำแรมที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 3267MB และความจุที่ใช้งานได้ทั้งหมดเหลือ 109.37GB ใช้ชิปแบบ 8 คอร์ จีพียู Mali-G57 MC3 หน้าจอระดับ Full HD+ และรันบนระบบปฏิบัติการ Android 10 เป็นต้น
ด้านประสิทธิภาพการเล่นเกม ทางเราได้ลองดาวน์โหลดเกมยอดนิยมอย่าง Legacy of Discord (เทพ) เกมต่อสู้แบบเรียลไทม์บนโลกแฟนตาซีสุดยิ่งใหญ่ และ PUBG MOBILE เกมแนว Survival สุดฮิต มาทดสอบความลื่นไหลกันดูค่ะ
เริ่มที่ Legacy of Discord ภาพกราฟิกสีสวยคมชัด ตัวเกมลื่นไหลดี ไม่มีอาการค้าง หรือกระตุก
และ PUBG MOBILE ภาพคมชัดสวยสมจริง ระบบทัชสกรีนตอบสนองได้ไว ตัวเกมไหลลื่น ทำให้เล่นได้แบบเพลิน ๆ เลยค่ะ
ด้านการรับชม YouTube สามารถรับชมความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างจุใจ
Interface
เริ่มที่หน้าจอ Lock Screen สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการสไลด์หน้าจอขึ้นด้านบน เพื่อกดรหัสผ่านที่ตั้งไว้ หรือเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการเลื่อนมุมขวาขึ้น แต่สำหรับใครที่ลงทะเบียนฟีเจอร์ Face Unlock และสแกนลายนิ้วมือแล้ว จะมีไอคอนปรากฏบนหน้าจอ จากนั้นก็สามารถสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง หรือปลุกหน้าจอแล้วสแกนใบหน้าได้เลยค่ะ
หลังจากปลดล็อกหน้าจอเข้ามาแล้ว จะพาเข้าสู่หน้า Home Screen ที่มีมาให้จำนวน 3 หน้า สามารถเพิ่มหน้าใช้งานได้เองภายหลัง แอปฯ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องถูกจัดวางเป็นระเบียบไม่รก UI แบบใหม่จาก realme ภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ให้สีสันสดใส และสามารถปรับแต่งไอคอนได้เอง
เมื่อเลื่อนหน้าจอด้านบนลงจะพาเข้าสู่หน้า Quick Settings มีเมนูแถบแจ้งเตือน และสามารถเข้าถึงการใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และหากปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้ารวมเมนูการใช้งานทั้งหมดในเครื่อง
หากกดค้างไปยังพื้นที่ว่างบนหน้าจอจะสามารถปรับแต่งวิดเจ็ตได้เอง รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และตั้งค่าการใช้งานหน้าจออื่น ๆ
ศูนย์รวมแอปฯ จาก Google มีให้ใช้งานครบครัน อาทิ แผนที่, Google Chrome, Gmail, YT Music หรือ YouTube เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ที่ต้องการเพิ่มเติมได้จาก Google Play หรือ App Market ได้อีกด้วย
รองรับการใช้งาน Google Assistant สามารถสั่งการค้นหาหรืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยเสียงพูด
เมนูหน้าโทรศัพท์, การรับส่งข้อความ
เครื่องมือการใช้งานมีมาให้ครบครัน อาทิ เครื่องบันทึกเสียง, เข็มทิศ
นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, แอปฯ วัดสภาพอากาศ
รองรับการโคลนโทรศัพท์ สามารถย้ายข้อมูลทั้งหมดที่มีในเครื่องเก่าไปยังมือถือเครื่องใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
รองรับ Phone Manager หรือตัวจัดการโทรศัพท์ ช่วยจัดการไฟล์ต่าง ๆ บนสมาร์ตโฟนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำรองข้อมูล สแกนไวรัส และทำความสะอาดไฟล์ขยะในเครื่อง เป็นต้น
เมนูการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในตัวเครื่อง
หน้าจอของ realme 7 5G รองรับฟังก์ชันการปรับใช้งานหน้าจอต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปรับความสว่างอัตโนมัติ, การเปิดโหมดถนอมสายตา ลดการแผ่รังสีของหน้าจอเพื่อป้องกันการปวดตา, ปรับตั้งค่าตัวกรองแสงสีฟ้า เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นสีเหลืองนวลสบายตา, โหมดกลางคืนเปลี่ยนไปใช้งานหน้าจอโทนสีมืด เป็นต้น
พร้อมรองรับอัตรา Refresh Rate สูง 120Hz การใช้งานจริงสามารถปรับได้อัตโนมัติ เพื่อเลือกระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ค่ะ โดยที่ระดับ 60Hz เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และระดับ 120Hz เพื่อการใช้งานจอแสดงผลที่ลื่นไหลเป็นพิเศษ หรือจะเลือกใช้งานอัตโนมัติก็ได้
นอกจากนี้ยังรองรับเอฟเฟ็กต์ภาพ OSIE Vision Effect เพื่อการรับชมภาพและวิดีโอที่คมชัดมากขึ้น รองรับการปรับขนาดของจอแสดงผล และยังมีเอฟเฟ็กต์แสงสว่างเมื่อใช้ฟีเจอร์ปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้าอีกด้วย
สำหรับฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัย realme 7 5G รองรับทั้งฟีเจอร์สแกนใบหน้า และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องเลยค่ะ
รองรับ Smart Lock ปลดล็อกตัวเครื่องง่าย ๆ ด้วยการจดจำสัญญาณต่าง ๆ อาทิ การตรวจจับร่างกาย, การเพิ่มสถานที่ หรือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
รองรับบริการ Smart ตัวช่วยดี ๆ ระหว่างการขับขี่แบบชาญฉลาด และการขับขี่
รองรับเครื่องมืออำนวยความสะดวก ต่าง ๆ อาทิ เรียกใช้งาน Google Assistant ด้วยปุ่มพาวเวอร์, การใช้แถบด้านข้างอัจฉริยะ และการใช้ปุ่มนำทาง เป็นต้น
รองรับการเปิดโหมดประหยัดพลังงาน ปิดแอปฯ ที่ใช้พลังงานแบบสิ้นเปลือง ลดการทำงานเบื้องหลัง หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง เป็นต้น
รองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานสื่อดิจิทัล ที่จะแสดงรายละเอียดในการใช้สื่อของผู้ใช้งานทั้งหมดในแต่ละวัน และการควบคุมโดยผู้ปกครองในกรณีที่ให้บุตรหลานใช้งาน แต่ทางผู้ปกครองต้องการที่จะปิดกั้นไม่ให้เด็ก ๆ เข้าถึงสื่อใดสื่อหนึ่งที่ไม่เป็นประโยชน์
หน้าอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ๆ, หน้าแสดงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับสมาร์ตโฟน และหน้าการจัดการหน่วยความจำในเครื่อง
รองรับการโคลนแอปฯ ใช้งานแอปฯ แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชี ทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการล็อกอินหลายบัญชี
รองรับโหมดการใช้งาน 2 หน้าจอ สามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ ใช้ 3 นิ้วลากบนหน้าจอ และกดไปที่ปุ่ม Recent Apps เป็นต้น
รองรับ realme Lab ทดลองใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ในเวอร์ชัน Beta ได้ก่อนใคร
รองรับ Game Space ใช้ตั้งค่าต่าง ๆ ขณะเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น ล็อกความสว่างหน้าจอ, ปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปฏิเสธสายเรียกเข้า, ตั้งค่าโหมดเกม, ตั้งค่าแบตเตอรี่ เป็นต้น
หากกดไปที่ปุ่ม Recent Apps จะขึ้นหน้าแอปฯ ที่ใช้งานไปแล้วทั้งหมด สามารถเคลียร์แอปฯ ได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่กากบาท หรือปัดขึ้นทีละแอปฯ ก็ได้ โดยจะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ RAM ภายในตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ยังสามารถล็อกแอปฯ ที่ใช้งานบ่อย ๆ ได้ด้วยการกดไปที่มุมขวาบน แล้วเลือกปิดล็อก หรือจะใช้งาน 2 หน้าจอก็ให้กดไปที่ไอคอนแยกหน้าจอได้อีกด้วย
สามารถถ่ายโอนข้อมูลภายในเครื่องได้อย่างรวดเร็วเมื่อเสียบสายชาร์จ USB Type-C เข้ากับตัวเครื่องแล้วต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ถัดมาเป็นมุมมองหน้าจอขณะชาร์จไว และหากกดค้างไปที่ปุ่มพาวเวอร์ค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Google Assistant หรือหากกดค้างไปไว้ราว 5 วินาที จะปรากฏไอคอนรีสตาร์ท และปิดเครื่อง หรือล็อกเครื่องแบบนิรภัยขึ้นมาค่ะ
โหมดการใช้งานของกล้องถ่ายภาพ
เริ่มที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหน้าก่อนเลยค่ะ โดย realme 7 5G มาพร้อมกล้องหน้าแบบ In-Display ความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.1 รองรับ Bokeh Effect และ AI Beauty พร้อมอัลกอริธึมที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับทุกเพศ ทุกสภาพผิว ทุกรูปทรงใบหน้า และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ออกมาได้สวยงามเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เดี๋ยวเราไปชมโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ กันเลยค่ะ
เริ่มที่ Night Selfie Mode ถ่ายภาพเซลฟี่สวยแม้ในที่มืดหรือที่แสงน้อย รองรับ AI Beauty ที่สามารถปรับรายละเอียดค่าสวยเนียนต่าง ๆ ได้เองถึง 100 ระดับ อาทิ ผิวเนียน, ใบหน้าเรียว, ตาโต, จมูกได้รูป เป็นต้น พร้อมปรับอัตราส่วนภาพ และเปิดใช้งานไฟแฟลชขณะถ่ายภาพได้
ตัวอย่างภาพถ่าย Night Selfie
Video Mode รองรับการบันทึกที่ความละเอียดระดับ HD หรือ 720p และ Full HD หรือ 1080p รองรับระบบกันสั่น UIS ขณะถ่ายวิดีโอ พร้อมมี AI Beauty ปรับค่าขาวเนียนได้ 100 ระดับ และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย
Photo Mode รองรับการเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR ให้ภาพคมชัดมากยิ่งขึ้น, มีฟิลเตอร์สีสวย ๆ และรองรับ AI Beauty ที่เลือกปรับรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากถึง 100 ระดับ อาทิ ผิวเรียบเนียน, ใบหน้าเรียว, ตาโต, จมูกเล็กลง, รูปคาง, ใบหน้าเล็กลง, เสริมแต่ง, แบบ 3 มิติ เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 50
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode
Portrait Mode ใช้ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ หรือ Bokeh รองรับการปรับค่าผิวสวย AI Beauty ที่สามารถปรับรายละเอียดต่าง ๆ บนใบหน้าได้ 100 ระดับเช่นกัน พร้อมมี Bokeh Effect ปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง 100 ระดับ และมีฟิลเตอร์สีสวย ๆ ให้เลือกใช้งานมากมาย
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode ระดับ 50
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait Mode ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter
ส่วนโหมดถ่ายภาพพิเศษของกล้องหน้า มีให้เลือกใช้งาน 2 โหมด ได้แก่ Panorama Selfie ถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างมากยิ่งขึ้น และ Time-Lapse Mode ถ่ายวิดีโอแบบเร่งความเร็ว ที่สามารถปรับค่าความเร็วได้เอง
ต่อกันที่โหมดถ่ายภาพของกล้องหลัง โดย realme 7 5G มาพร้อมกล้องหลัง AI 4 เลนส์ใหม่ล่าสุดที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ ความละเอียด 48MP + 8MP + 2MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.3 + f/2.4 + f/2.4 มาครบทั้งเลนส์ Ultra Wide-Angle, Portrait และ Macro พร้อมไฟแฟลช LED
เซ็นเซอร์หลักจาก Samsung S5KGM1ST ความละเอียด 48MP รับแสงได้ดีมากยิ่งขึ้น ถัดมาเป็นเลนส์ Ultra Wide-Angle คมชัด 8MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ 119 องศา กว้างกว่าเลนส์ทั่วไป 4 เท่า เก็บภาพวิวทิวทัศน์ หรือแม้แต่กลุ่มคนมาก ๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย
จากนั้นเป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายวัตถุใกล้ในระยะ 4 ซม. และสุดท้ายเป็นเลนส์ Portrait B&W ความละเอียด 2MP มาพร้อมระบบฟิลเตอร์สีใหม่ช่วยให้เลนส์ถ่ายภาพบุคคลจับแสงได้กว่างขึ้น จับแสงได้ดีขึ้น เพิ่มความแตกต่างของภาพ ช่วยสร้างภาพสไตล์ Retro และเพิ่มรายละเอียดให้กับภาพถ่ายบุคคลมากขึ้น เราไปชมโหมดการใช้งานต่าง ๆ กันเลยค่ะ
เริ่มที่โหมด Super Nightscape Mode ถ่ายภาพสุดคมชัดในช่วงเวลากลางคืน หรือในที่แสงน้อย ระบบอัลกอริธึมจะทำการถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบแสง และรวมเป็นภาพถ่ายกลางคืนที่ดีที่สุด ทำให้ได้ภาพถ่ายช่วงกลางคืนที่สวยงามเป็นธรรมชาติ รองรับการเก็บภาพมุมกว้าง และซูมได้สูงสุด 10 เท่า พร้อมรองรับ HDR ใช้เวลาในการถ่ายภาพน้อย แต่ได้คุณภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น
มีโหมดขาตั้งกล้อง สามารถถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง ใช้เวลาถ่ายภาพนาน คุณภาพของภาพถ่ายออกมาอย่างยอดเยี่ยม และมี Night Filters ยอดนิยมถึง 3 แบบ ได้แก่ Cyberpunk, Flamingo และ Modern Gold เพิ่มความสนุกให้กับภาพถ่ายกลางคืนมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Nightscape
Video Mode อัตราเฟรมบันทึกวีดีโอระดับ 4K, 1080p และ 720p อัตราเฟรม 30fps และ 60fps ซูมได้สูงสุด 10 เท่า และรองรับการเก็บภาพมุมกว้าง Ultra Wide
ระหว่างบันทึกวิดีโอรองรับการปรับค่าผิวสวย AI Beauty ที่สามารถปรับค่าสวยเนียนได้ 100 ระดับ รองรับกันสั่น UIS และ UIS Max พร้อมมีฟิลเตอร์หลากสีให้เลือกใช้งานเพียบ
Photo Mode รองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง Ultra Wide , ซูมได้สูงสุด 10 เท่า สามารถเปิดใช้งานไฟแฟลช, HDR เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้คมชัด
ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra Wide
รองรับ AI Beauty สำหรับเพิ่มความขาวเนียนให้กับใบหน้าได้ 100 ระดับ พร้อมรองรับ AI Dazzle Color เพิ่มสีสดให้กับภาพถ่ายทันที รวมถึงมีฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ ให้เลือกใช้งานด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Dazzle Color
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 50
ตัวอย่างภาพถ่าย AI Beauty ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่าย Filter Mode
Portrait Mode ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ รองรับ AI Beauty ปรับค่าผิวสวยเนียน พร้อมมี Bokeh Effect ปรับความเบลอของฉากหลังได้เอง 100 ระดับ และมีฟิลเตอร์เก๋ ๆ ให้เลือกใช้งาน
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ระดับ 50
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ระดับ 100
ตัวอย่างภาพถ่าย Portrait ปรับ Filter
Ultra 48MP Mode เก็บทุกรายละเอียดแบบ High Res สามารถถ่ายรูปได้ความละเอียดสูงสุด 48MP
ตัวอย่างภาพถ่าย Ultra 48MP
ด้านโหมดการใช้งานพิเศษกล้องหลังรองรับทุกฟังก์ชันเลยค่ะ เริ่มที่โหมดถ่ายวิดีโอ Time Lapse หรือบันทึกวิดีโอแบบเร่งเวลา, โหมดสแกนข้อความ จับภาพเฉพาะ Text ในเอกสารค่ะ
Mode Pro สามารถปรับค่าแสง White Balance, ISO หรือระบบ Auto Focus ได้เอง, Panorama Mode จับภาพมุมกว้างได้แบบเต็มตามากยิ่งขึ้น
Super Macro Mode เก็บภาพ Close-Up ระยะใกล้สุดเพียง 4 ซม. พร้อมรองรับฟิลเตอร์สีเก๋ ๆ, Video Slo-Mo รองรับที่ระดับ 1080p@120fps และ 720p@240fps
ตัวอย่างภาพถ่าย Super Macro
ตัวอย่างวิดีโอ Slo-Mo
นอกจากนี้ยังรองรับบันทึกวิดีโอโหมดภาพยนตร์อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก realme 7 5G
สรุป
- เป็นสมาร์ตโฟน Dual 5G รุ่นแรก มาพร้อมราคาที่จับต้องได้ เข้าถึงได้ง่าย
- จอลื่นไหล 120Hz ขนาดใหญ่เต็มตา 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
- ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Dimensity 800U จาก MediaTek ผสานหน่วยความจำ RAM 8GB + ROM 128GB รองรับ microSD Card
- กล้องหลัง AI 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP เซ็นเซอร์หลักใช้ของ Samsung S5KGM1ST และมาครบทั้งเลนส์ Ultra Wide-Angle, Portrait และ Macro บันทึกวิดีโอระดับ 4K
- กล้องเซลฟี่แบบ In-Display คมชัด 16MP พร้อม AI Face Beauty เซลฟี่สวยเนียนทันใจ
- แบตเตอรี่ความจุสูง 5000mAh สนับสนุนชาร์จไว 30W Dart Charge ผ่านพอร์ต USB Type-C
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฉับไวด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้า
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos คุณภาพระดับ Hi-Res เพิ่มประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น
- ดีไซน์นำเทรนด์ มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ มาด้วยกันทั้งหมด 2 สีค่ะ ได้แก่ Mist Blue และ Flash Silver
ข้อสังเกต
- ภายในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้
- ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ 2 ช่อง ต้องเลือกว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนระหว่าง SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD Card
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
- Huawei nova 7i
- OPPO Reno2 F
- realme narzo 20 Pro
- Samsung Galaxy A51
- Vivo V20 SE
- Xiaomi Redmi Note 9 Pro
ขอขอบคุณ realme Thailand
Written by : Nan Kanyarat Thongpeng
[realme-price]
[mobile-price]
Leave a Reply