Review Apple Music : ทดลองใช้ Apple Music ได้แล้ววันนี้ ฟรี 3 เดือน!!

Review Apple Music : ทดลองใช้ Apple Music ได้แล้ววันนี้ ฟรี 3 เดือน!!

สวัสดีค่ะ เรามีแอพพลิเคชั่นใหม่มาเอาใจเพื่อนๆ ที่รักในเสียงเพลงมาฝากกันค่ะ ล่าสุด Apple เปิดตัวบริการใหม่ Apple Music หรือบริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง (Music Streaming) โดยเปิดให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเริ่มใช้บริการนี้ได้พร้อมกับการอัพเดท iOS 8.4 ทุกสิ่งที่เพื่อนๆ รักเกี่ยวกับเพลงรวมไว้ในในที่ที่เดียว ที่ที่ศิลปินและ แฟนเพลงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ที่ที่แฟนเพลงสามารถโต้ตอบกับศิลปินคนโปรดได้ นอกจากนี้ยังมีเพลงใหม่ๆ การสัมภาษณ์ ตลอดจนเรื่องราว ลฟ์สไตล์มานำเสนอตลอด 24 ชม. ทุกวันอีกด้วยค่ะ

บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง (Music Streaming) คืออะไร ?

ก่อนที่จะกล่าวถึงบริการ Apple Music เราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนค่ะ ว่าบริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง (ซึ่ง Apple Music ก็อยู่ในหมวดนี้) คืออะไร …บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง คือบริการฟังและดาวน์โหลดเพลง โดยผู้ใช้สามารถเลือกฟังเพลงได้แบบ “ไม่อั้น” ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และจำนวนเพลง สามารถเลือกฟังเพลงใดๆ ก็ได้ที่มีอยู่ใน Library ของบริการนั้นๆ ต่างจากการซื้อ/ดาวน์โหลดเพลงแบบเดิมที่เป็นการ “ซื้อขาด” เป็นเพลงๆ ไป มาเป็นการเสียค่าบริการเป็น “รายเดือน” แล้วฟังได้ไม่จำกัด หากเดือนไหนหยุดจ่ายเงิน เราก็ไม่สามารถฟังเพลงที่ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ได้อีกด้วย

สำหรับ Apple Music ไม่ใช่บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งเจ้าแรก (เทรนด์นี้กำลังมาแรง แซงหน้าการดาวน์โหลดเพลงแบบเดิม Apple อาจจะกลัวไม่ทันกระแสเลยต้องรีบปรับตัวทำตาม) ก่อนหน้านี้มีบริการอื่นๆ ที่เปิดตัวและได้รับความนิยมมาก่อนแล้ว เช่น Spotify, Tidal, Rdio, KKBOX, LINE Music, Google Music, Deezer และอื่นๆ

รายละเอียดบริการ Apple Music

– รองรับอุปกรณ์ทั้ง iOS, Mac, PC และ Android (Android จะตามมาช่วงปลายปี)
– ค่าบริการรายเดือน (ประเทศไทย) เดือนละ $4.99 หรือประมาณ 170 บาท
– เปิดให้ผู้ใช้สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 3 เดือนแรก (เริ่มเก็บเงินจริงเดือนที่ 4)

สำหรับการใช้งาน Apple Music นั้น ถ้าเป็นผู้ใช้ iOS ไม่ต้องดาวน์โหลดแอพใดๆ มาเพิ่มค่ะ เพราะบริการนี้มันอยู่ในแอพ Music หรือแอพฟังเพลงตัวเดิม แต่ความสามารถในการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งจะมาพร้อมกับ iOS 8.4 ดังนั้นใครจะใช้ Apple Music ต้องอัพเดท iOS ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดกันก่อนนะคะ

หลังจากกดทดลองใช้แล้ว ก็จะมีหน้าให้อ่านข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน พร้อมกับให้กดยืนยันว่าจะจ่ายเงินเมื่อครบกำหนดทดลองใช้ 3 เดือนแล้ว

หลังจากผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนทดลองใช้แล้ว ก็จะมาที่หน้า My Music หรือเพลงเดิมที่เราเคยซื้อผ่าน iTunes มาก่อนแล้ว ซึ่งเพลงพวกนี้จะยังคงฟังได้ไปตลอด แม้เราจะไม่ได้จ่ายเงินให้บริการ Apple Music แล้วค่ะ

เรามาสำรวจแท็บแรกของแอพนี้กันค่ะ นั่นคือแท็บ “For You” เป็นแท็บที่สำหรับใช้เลือกแนวเพลงและค้นหาเพลงใหม่ๆ ที่ตรงกับสไตล์การฟังเพลงของเรา เพราะเมื่อใช้งานครั้งแรก แอพมันจะถามว่าเราชอบเพลงแนวไหน หรือศิลปินคนไหน เปิดแอพเข้ามาครั้งแรก จะมีข้อความเชิญชวนให้เราทดลองใช้ Apple Music ฟรี 3 เดือน หรือหากใครไม่สนใจใช้บริการนี้ก็กด “Go to music” ข้ามไปได้ค่ะ ก็จะเป็นแอพฟังเพลงแบบเดิมๆ

เมื่อจัดการเลือกแนวเพลงที่เราชอบแล้ว แท็บ “For You” จะเป็นหน้าที่แสดงแนวเพลงที่เราชื่นชอบ สามารถกดฟังได้เลย

หน้าตัวเล่นเพลงหรือ Music Player ก็คล้ายกับแอพฟังเพลงเดิมค่ะ

เราสามารถกดที่ไอคอนรูป Play list เพื่อดูคิวเพลงที่แอพจัดมาให้เราได้ค่ะ

ในส่วนของเมนู ตรงมุมขวาล่าง เป็นเมนูที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ

– Start Station : ให้แอพเล่นเพลงแบบสุ่ม โดยอิงจากแนวเพลงที่เราฟังอยู่ปัจจุบัน
– Add to My Music : เป็นการสั่งให้แอพดาวน์โหลดเพลงนี้มาเก็บไว้ในเครื่องเรา เพื่อฟังแบบ Offline
– Show in iTunes Store : แสดงเพลงนี้ใน iTunes Store สำหรับใครที่อยากซื้อขาดเพลงนี้

หรือถ้าการให้แอพเลือกเพลงมาให้เราฟังมันไม่ถูกใจ ก็สามารถค้นหาเพลงที่ต้องการได้เลย เพลงอะไรก็ได้ สามารถเอามาจัดเป็น playlist ส่วนตัวได้

นอกจากฟังเพลงทั่วไปแล้ว Apple Music ยังมีในส่วนของ Music Video ด้วย

แท็บ “Radio” ฟีเจอร์นี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ Apple พยายามเน้น นั่นคือ Beat 1 หรือวิทยุออนไลน์ที่จัดเพลงโดยศิลปินชื่อดังให้ฟังได้พร้อมกันทั่วโลก หรือจะเลื่อนลงมาก็จะเป็น Radio แยกย่อยของแต่ละแนวเพลงด้วย

ส่วนอีกแท็บนึงเป็นแท็บ “Connect” หรือพูดง่ายๆ มันคือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กระหว่างศิลปินกับแฟนเพลง ให้ผู้ฟังได้ไปติดตามกิจกรรมหรือทักทายศิลปินตัวจริงเสียงจริงได้ (คล้ายๆ Twitter ค่ะ)

สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยคือ Apple Music จะมีเพลงเหมือนกับใน iTunes Music Store ไหม ? เพราะในนั้นมีเพลงเยอะมากทั้งไทยและต่างประเทศ รายการเพลงทั้งหมดใน Apple Music มีน้อยกว่า iTunes Music Store แบบเดิมอยู่พอสมควรค่ะ

ส่วนประเด็นดราม่าของ Taylor Swift ก็จบลงด้วยดี บริการ Apple Music เป็นบริการมิวสิคสตรีมมิ่งเดียวที่มีเพลงในอัลบัม 1989

ทดลองใช้ Apple Music ได้แล้ววันนี้ ฟรี 3 เดือน มาสัมผัสกับประสบการณ์ Apple Music กันค่ะ ไม่ว่าเพื่อนๆ จะฟังคนเดียว หรืออยากสนุกกันทั้งครอบครัว Apple Music ก็มีรูปแบบสมาชิกให้เพื่อนๆ เลือกสมัครได้ตรงกับ ความต้องการ โดยตัวเลือกสำหรับบุคคลทั่วไปมีค่าบริการ อยู่ที่ $4.99 ต่อเดือน ส่วนตัวเลือกสำหรับครอบครัวมี ค่าบริการเพียง $7.99 ต่อเดือน แต่ถึงแม้จะไม่สมัครสมาชิก เพื่อนๆ ก็ยังสามารถฟังวิทยุ Beats 1 และดูอะไรต่างๆ ที่ศิลปินโพสต์ลงใน Connect ได้ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ http://www.9tana.com/node/review-apple-music/