เปรียบเทียบ realme C11 และ Vivo Y11 สเปกคุ้มค่า! จอใหญ่ แบตอึด ราคาย่อมเยา รุ่นไหนตอบโจทย์ มาดูกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ 🙂 วันนี้เรามีบทความรีวิวเปรียบเทียบ realme C11 และ Vivo Y11 มาฝากให้ได้ชมกัน ซึ่งเป็นบทความเปรียบเทียบในส่วนของ ข้อมูลสเปกการใช้งานเด่น ๆ, ดีไซน์, จอแสดงผล, ชิปเซ็ต, ความจุแบตเตอรี่ และราคาวางจำหน่าย เป็นต้น
โดยทั้ง realme C11 และ Vivo Y11 มาพร้อมสเปกการใช้งานที่คุ้มค่า ดีไซน์สวยทันสมัย และราคาจำหน่ายย่อมเยาเข้าถึงได้ง่าย ส่วนสมาร์ตโฟนรุ่นไหน จากแบรนด์ไหนจะน่าสนใจ และตอบโจทย์การใช้งานของเพื่อน ๆ กันบ้างนั้น เราไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
จอแสดงผล
เริ่มที่จอแสดงผลกันก่อนเลย realme C11 มาพร้อมหน้าจอ Full Screen ชนิด IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ จอมีรอยบากทรงหยดน้ำขนาดเล็ก ที่เป็นตำแหน่งของกล้องเซลฟี่ ให้มุมมองภาพที่กว้างเต็มตามากยิ่งขึ้น ไม่บดบังรายละเอียดต่าง ๆ ขณะใช้งาน
ขณะที่ Vivo Y11 ใช้หน้าจอ Halo FullView ชนิด IPS LCD เช่นเดียวกัน แต่มีขนาดเล็กกว่านิดหน่อยอยู่ที่ 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ พื้นที่ขอบหน้าจอแคบลง แต่มุมมองกว้างขึ้น
และถึงแม้ว่าทั้ง 2 รุ่น จะใช้หน้าจอความละเอียด HD+ เท่ากัน แต่ของ realme C11 มีค่าอยู่ที่ 1600×720 พิกเซล ส่วนของ Vivo Y11 อยู่ที่ 1544×720 พิกเซล ซึ่งก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ไม่ต้องแปลกใจค่ะ
ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัย
สำหรับ realme C11 มาพร้อมฟีเจอร์ Face Unlock หรือการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้าด้วยกล้องเซลฟี่ สามารถตอบสนองได้อย่างฉับไว
ส่วนของ Vivo Y11 มาพร้อมทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และการสแกนใบหน้าเลยค่ะ
รูปลักษณ์ดีไซน์
realme C11 มาพร้อมบอดี้ Geometric Art Design หรือดีไซน์การออกแบบรูปทรงเรขาคณิต ฝาหลังใช้เอฟเฟกต์แสงสะท้อนสวยงาม ขั้นตอนการผลิตจะแตกต่างกับสมาร์ตโฟนในตระกูล C Series รุ่นก่อน ๆ
โดยฝาหลังของ C11 ใช้เครื่องแกะสลักเรเดียม มีความแม่นยำแบบห้าแกนจากประเทศเยอรมนี พร้อมการขัดอีก 300 นาที มีการแกะสลักออกมาเป็นเส้นโค้งสุดบางเพียง 0.1 มม. กว่า 450 เส้น จนเกิดเป็นเอฟเฟกต์แสงสะท้อนสวยงาม ป้องกันรอยขีดข่วน และรอยนิ้วมือได้อย่างชัดเจน สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องสวมใส่เคสเลยก็ยังได้ค่ะ
ตัวเครื่องขนาดกำลังดี ถือจับกระชับมือ พกพาง่ายไม่เทอะทะเกินไป มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Mint Green และ Pepper Grey ส่วนแถบลายแนวขวางที่พาดอยู่ด้านหลังเครื่องมีการสกรีนชื่อแบรนด์ realme แบบหนาลงไปด้วย ช่วยสร้างความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ Vivo Y11 ฝาหลังใช้เทคนิคการผลิตสีระดับพรีเมียม ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของอัญมณี มีความเงางาม
ไล่เฉดสีอย่างมีระดับสวยงามเมื่อกระทบกับแสงในมุมมองต่าง ๆ โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีเช่นกัน ได้แก่ Mineral Blue และ Agate Red
ชิปประมวลผล
ด้านชิปเซ็ต realme C11 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio G35 จาก MediaTek ซึ่งนับได้ว่า realme C11 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ตรุ่นดังกล่าวเลยก็ว่าได้ และมีคะแนนการทดสอบ Benchmark สูงกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ในเรทราคาเดียวกัน
ส่วน Vivo Y11 ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 439 จาก Qualcomm โดยทั้งคู่ใช้ชิปประมวลผลแบบ Octa-Core หรือจำนวน 8 แกน แต่ชิปของ realme C11 จะมีความเร็วมากกว่าอยู่ที่ 2.3GHz ส่วนของ Vivo Y11 มีความเร็ว 2.0GHz
สำหรับ Helio G35 ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 12 นาโนเมตร แบบ FinFET ใช้ซีพียู ARM Cortex-A53 จำนวน 8 แกน ความเร็วอยู่ที่ 2.3GHz ชิปกราฟิก IMG PowerVR GE8320 ความเร็วสัญญาณ 680MHz ใช้เล่นเกมปรับกราฟิกสูง ๆ ได้ พร้อมมีเทคโนโลยี HyperEngine เพิ่มประสิทธิภาพ CPU และ GPU ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
รองรับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ที่มีประสิทธิภาพกราฟิกดีขึ้นเมื่อเทียบกับ LPDDR3 ถึง 20% และประสิทธิภาพของ RAM เพิ่มขึ้น 100% ส่วน ROM ใช้แบบ eMMC 5.1 ความถี่ 1600 MHz ใช้โมเด็มแบบ 4G ในตัว พร้อมรองรับ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0, Dual SIM แบบ Dual 4G, วิทยุ FM รองรับการดาวน์โหลดสูงสุด 300Mbps และการอัปโหลด 150Mbps
ส่วน Snapdragon 439 เป็นชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนระดับล่าง ใช้สถาปัตยกรรมระดับ 12 นาโนเมตร แบบ FinFET จำนวน 8 แกน ความเร็วอยู่ที่ 2.0GHz เร็วขึ้น 25% และกินพลังงานน้อยลง ซีพียู ARM Cortex A53 โมเด็ม X6 LTE มีชิปกราฟิก Adreno 505 รองรับ Dual SIM แบบ Dual 4G, Bluetooth 5.0, RAM แบบ LPDDR3, Wi-Fi 5 รองรับการดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps และการอัปโหลด 75Mbps
RAM และ ROM
realme C11 มาพร้อมหน่วยความจำ RAM 2GB ส่วน Vivo Y11 หน่วยความจำ RAM จะมากกว่าหน่อยอยู่ที่ 3GB ส่วนความจุภายในตัวเครื่องเท่ากันอยู่ที่ 32GB และทั้ง 2 รุ่น รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 256GB
ระบบปฏิบัติการ
realme C11 ทำงานบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุด Android 10 ครอบทับ realme UI ตั้งแต่แกะกล่อง ส่วนของ Vivo Y11 มาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่ากว่าคือ Android 9 ครอบทับ Funtouch OS 9.1 ค่ะ
กล้องหลัง
สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่เช่นเดียวกัน และมีความละเอียดเท่ากันอยู่ที่ 13MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4
โดย realme C11 กล้องหลังดีไซน์ในตำแหน่งสี่เหลี่ยมจตุรัส รองรับ PDAF สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซูมได้สูงสุด 4 เท่า รองรับโหมดการใช้งานมากมาย อาทิ Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ, Chroma Boost เพิ่มความสีสดคมชัดให้ภาพถ่าย, รองรับการบันทึกวิดีโอ Slo-mo และมาพร้อมโหมด Nightscape AI สำหรับถ่ายภาพช่วงเวลากลางคืน หรือแสงน้อยโดยเฉพาะ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่มีความสว่างคมชัดมากขึ้น เป็นต้น
ส่วนของ Vivo Y11 ดีไซน์กล้องหลังวงรีแนวตั้ง รองรับ PDAF เช่นกัน ส่วนโหมดการใช้งานก็มีให้เลือกใช้มากมาย อาทิ Portrait Bokeh ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ, Panorama ถ่ายภาพแนวกว้าง, AI Face Beauty ปรับค่าความสวยเนียนทันใจ และฟิลเตอร์สีหลากสไตล์ เป็นต้น แต่ Vivo Y11 ไม่ได้มาพร้อมโหมดถ่ายภาพกลางคืนเหมือนกับรุ่น realme C11 นะคะ ทำให้มีจุดด้อยกว่าในส่วนนี้เล็กน้อย
กล้องหน้า
ในส่วนของกล้องหน้าสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมเลนส์เดี่ยวฝังในจอ จัดวางในตำแหน่งกึ่งกลางด้านบนบริเวณหยดน้ำขนาดเล็ก
เริ่มที่ realme C11 กล้องเซลฟี่มีความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสง f/2.4 รองรับ AI Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนทันใจภายในพริบตา
ส่วนของ Vivo Y11 มาพร้อมกล้องเซลฟี่ที่มีความละเอียดมากกว่าหน่อยอยู่ที่ 8MP ค่ารูรับแสง f/1.8 และรองรับ AI Face Beauty ปรับค่าสวยเนียนเช่นเดียวกัน
แบตเตอรี่
ทั้ง realme C11 และ Vivo Y11 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุเท่ากันเลยอยู่ที่ 5000 mAh ชาร์จด้วยกำลังไฟ 10W ผ่านพอร์ต Micro USB 2.0 และรองรับแจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ที่ด้านล่างเครื่องเหมือนกันทั้งคู่
ส่วนที่พิเศษมากยิ่งขึ้นคือ realme C11 มาพร้อมรองรับฟีเจอร์ Reverse Charging ที่สามารถใช้ชาร์จให้อุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านสาย USB ได้ พูดง่าย ๆ คือทำหน้าที่เป็น Power Bank ขนาดย่อม ๆ ที่สามารถถ่ายโอนความจุแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นผ่านสายชาร์จได้นั่นเอง
ขณะที่ Vivo Y11 จะไม่มีฟีเจอร์ถ่ายโอนแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์เครื่องอื่นเหมือนกับของ realme C11 ค่ะ
ราคาวางจำหน่าย
สุดท้ายมาดูกันที่ราคาวางจำหน่ายกันบ้าง โดย realme C11 ล่าสุดยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และยังไม่ระบุราคาวางจำหน่ายออกมาให้เราได้ทราบกัน แต่ด้วยสเปกการใช้งานเด่น ๆ ทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ realme UI ใหม่แกะกล่อง, ใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz
กล้องหลังมีโหมด Nightscape AI สำหรับถ่ายภาพกลางคืนโดยเฉพาะ หรือรองรับ Reverse Charging ที่สามารถใช้ชาร์จให้อุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านสาย USB ได้ เป็นต้น ก็เลยอยากจะให้เพื่อน ๆ ทายกันว่า realme C11 ที่มาพร้อมสเปกการใช้งานอันคุ้มค่าแบบนี้ จะเคาะราคาค่าตัวมาที่เท่าไหร่ แต่แอบกระซิบไว้เลยว่ามีราคาวางจำหน่ายถูกกว่ารุ่น Vivo Y11 ที่วางจำหน่ายในราคา 4,299 บาท อย่างแน่นอนค่ะ
อัปเดตใหม่! ล่าสุด realme C11 เปิดตัวออกมาแล้วอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย เคาะราคาเพียง 3,499 บาท โดยวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ realme Brand Shop, Banana, BKK, KingKongPhone, TG FONE, Jaymart, IT City และ CSC พิเศษ!! สำหรับลูกค้า AIS และ dtac สามารถเป็นเจ้าของ realme C11 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,489 บาท
สำหรับช่องทางออนไลน์วางจำหน่ายในวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ realme Official Store ใน Lazada , Shopee และ Thisshop ในราคาเพียง 3,499 บาท สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Lazada รับ Lazada wallet cashback สำหรับทุกคำสั่งซื้อ, Shopee รับ 280 Shopee coins สำหรับทุกคำสั่งซื้อ ตั้งแต่วันที่ 17-31 กรกฎาคม 2563
ช่องทางการสั่งซื้อ
Lazada: https://bit.ly/C11LZDth
Shopee: https://bit.ly/C11SHPTH
Thisshop : https://bit.ly/C11THISSHOP
ตารางสรุปเปรียบเทียบ realme C11 และ Vivo Y11
Features | realme C11 | Vivo Y11 |
วันเปิดตัว : | – กรกฎาคม 2563 | – พฤศจิกายน 2562 |
ราคา : | – 3,499.- | – 4,299 บาท |
OS : | – Android 10 ครอบทับ realme UI | – Android 9.0 Pie ครอบทับ Funtouch OS 9.1 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 6.52 นิ้ว | – ขนาด 6.35 นิ้ว | |
– ความละเอียด 1600×720 พิกเซล (HD+) | – ความละเอียด 1544×720 พิกเซล (HD+) | |
CPU : | – Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz | – Snapdragon 439 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz |
RAM : | – 2GB | – 3GB |
ROM : | – 32GB | – 32GB |
– microSD Card สูงสุด 256GB | – microSD Card สูงสุด 256GB | |
กล้องหลัง : | – 13MP + 2MP | – 13MP + 2MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 + f/2.4 | |
– LED flash | – LED flash | |
– PDAF | – PDAF | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– Nightscape AI | – | |
กล้องหน้า : | – 5MP | – 8MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.8 | |
Video : | – 1080p@30fps | – 1080p@30fps |
Battery : | – 5000 mAh | – 5000 mAh |
– Charging 10W | – Charging 10W | |
– Reverse Charging | – | |
ขนาด : | – 164.4×75.9×9.1 มม. | – 159.43×76.77×8.92 มม. |
น้ำหนัก : | – 196 กรัม | – 190.5 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Dual SIM |
กันน้ำ : | – | – |
ระบบเครือข่าย : | – 3G : HSDPA 850/900/2100 MHz | – 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz |
– 4G LTE | – 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 b/g/n | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
– Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 4.0 | |
– microUSB 2.0 | – microUSB 2.0 | |
– OTG | – OTG | |
– 3.5mm jack | – 3.5mm jack | |
GPS | – GPS | – GPS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– Glonass | – Glonass | |
– Beidou | – Beidou | |
Sensor : | – Face Unlock | – Face Unlock |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
– | – Fingerprint | |
สี : | – Mint Green | – Mineral Blue |
– Pepper Grey | – Agate Red |
จุดเด่นของ realme C11 จุดเด่นของ realme C11 คือ ทำงานบนระบบปฎิบัติการเวอร์ชันใหม่กว่า Android 10 ครอบทับ realme UI ตั้งแต่แกะกล่อง ใช้หน้าจอชนิดเดียวกันแต่มีขนาดใหญ่กว่าอยู่ที่ 6.52 นิ้ว ความละเอียด 1600×720 พิกเซล (HD+)
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังรุ่นใหม่กว่าและความเร็วมากกว่าอย่าง Helio G35 แบบ Octa-Core ความเร็ว 2.3GHz กล้องหลังความละเอียดเท่ากันแต่ของ realme C11 มีโหมด Nightscape AI สำหรับถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืนมาให้โดยเฉพาะ
พร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 5000 mAh เท่ากัน แต่ของ realme C11 รองรับฟีเจอร์ Reverse Charging ใช้ถ่ายโอนแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์รุ่นอื่น ๆ ผ่านสายชาร์จได้ง่าย ๆ และรองรับ Bluetooth 5.0 รวมถึงมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่ารุ่น Vivo Y11 ในราคาเพียง 3,499 บาท
จุดเด่นของ Vivo Y11 ที่เหนือกว่าของ realme C11 คือ มาพร้อมหน่วยความจำ RAM 3GB ที่มากกว่า กล้องหน้าความละเอียดสูงกว่าอยู่ที่ 8MP พร้อมค่ารูรับแสง f/1.8 ตัวเครื่องมีขนาดบางเบากว่าเล็กน้อย และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง ขณะที่ของ realme C11 มีฟีเจอร์ Face Unlock เท่านั้น ไม่รองรับสแกนลายนิ้วมือค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ realme C11 และ Vivo Y11 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมสเปกการใช้งานที่ตอบโจทย์ และเมื่อดูจากสเปกการใช้งานข้างต้นพบว่าฝั่ง realme C11 จะเด่นกว่าหลายส่วน
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหน จากแบรนด์ไหน และรุ่นไหนตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ากัน เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อใช้งาน พร้อมตอบโจทย์ตนเองมากกว่ากัน สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้เลยค่ะ 🙂
Leave a Reply