เปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ Xiaomi 12T ปี 2023 สเปกครบครัน เลือกรุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น มาดูกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ Xiaomi 12T มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ realme 10 Pro+ ราคาจำหน่าย 15,999 บาท รัน Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
ขุมพลัง Dimensity 920 5G แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP พร้อม LED Flash กันสั่น EIS บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 16MP
แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 67W ผ่านพอร์ต USB Type-C สนับสนุนเครือข่าย 5G เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Hyperspace และ Black
ขณะที่ Xiaomi 12T ราคาวางจำหน่าย 17,990 บาท รัน Android 12 ครอบทับ MIUI 13 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว รองรับ HDR 10+
ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz กระจก Corning Gorilla Glass 5 ขุมพลัง Dimensity 8100 Ultra แรม 8GB ความจุ 256GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP
พร้อม Dual Tone LED Flash กันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 20MP รองรับ HDR แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับเทคโนโลยี Vapor Chamber ลำโพงคู่ระบบเสียง Dolby Atmos เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Blue, Silver และ Black
ตารางเปรียบเทียบสเปก realme 10 Pro+ และ Xiaomi 12T
| Features | realme 10 Pro+ | Xiaomi 12T |
| วันเปิดตัว : | – ธันวาคม 2565 | – ตุลาคม 2565 |
| ราคา : | – 15,999 บาท | – 17,990 บาท |
| OS : | – Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 | – Android 12 ครอบทับ MIUI 13 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.67 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2412×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 120Hz | – Refresh Rate 120Hz | |
| – HDR 10+ | – HDR 10+ | |
| – | – Corning Gorilla Glass 5 | |
| CPU : | – Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz |
– Dimensity 8100 Ultra แบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz
|
| GPU : | – Mali G68 | – Mali G610 |
| RAM : | – 12GB | – 8GB |
| ROM : | – 256GB | – 256GB |
|
กล้องหลัง :
|
– 108MP + 8MP + 2MP | – 108MP + 8MP + 2MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
| – Auto Focus | – Auto Focus | |
| – PDAF | – PDAF | |
| – HDR | – HDR | |
| – Panorama | – Panorama | |
| – EIS | – OIS | |
|
กล้องหน้า :
|
– 16MP | – 20MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
|
Video :
|
– 4K@30fps | – 4K@30fps |
| – 1080p@120/60/30fps | – 1080p@30/60fps | |
|
Battery :
|
– 5000mAh | – 5000mAh |
| – SuperVOOC 67W | – Turbo Charger 120W | |
|
ขนาด :
|
– 161.5×73.9×7.78 มม. (Black) | – 163.1×75.9×8.6 มม. |
| – 161.5×73.9×7.95 มม. (Hyperspace) | – | |
|
น้ำหนัก :
|
– 172.5 กรัม (Black) | – 202 กรัม |
| – 174.5 กรัม (Hyperspace) | – | |
| รองรับซิม : | – Dual SIM | – Dual SIM |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
| – 5G | – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
| – Bluetooth 5.2 | – Bluetooth 5.3 | |
| – USB Type-C | – USB Type-C | |
| – NFC | – NFC | |
| – OTG | – OTG | |
|
GPS :
|
– GPS | – GPS |
| – Beidou | – Beidou | |
| – Glonass | – Glonass | |
| – Galileo | – Galileo | |
|
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
| – Accelerometer | – Accelerometer | |
| – Gyroscope | – Gyroscope | |
| – Proximity | – Proximity | |
| – Ambient Light | – Ambient Light | |
| – Compass | – Compass | |
|
สี :
|
– Hyperspace | – Blue |
| – Black | – Silver | |
| – | – Black |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
| Features | realme 10 Pro+ | Xiaomi 12T |
| วันเปิดตัว : | – ธันวาคม 2565 | – ตุลาคม 2565 |
| ราคา : | – 15,999 บาท | – 17,990 บาท |
| OS : | – Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 | – Android 12 ครอบทับ MIUI 13 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.67 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2412×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 120Hz | – Refresh Rate 120Hz | |
| – HDR 10+ | – HDR 10+ | |
| CPU : | – Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz |
– Dimensity 8100 Ultra แบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz
|
| GPU : | – Mali G68 | – Mali G610 |
| RAM : | – 12GB | – 8GB |
|
กล้องหลัง :
|
– 108MP + 8MP + 2MP | – 108MP + 8MP + 2MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
| – EIS | – OIS | |
|
ขนาด :
|
– 161.5×73.9×7.78 มม. (Black) | – 163.1×75.9×8.6 มม. |
| – 161.5×73.9×7.95 มม. (Hyperspace) | – | |
|
น้ำหนัก :
|
– 172.5 กรัม (Black) | – 202 กรัม |
| – 174.5 กรัม (Hyperspace) | – | |
|
สี :
|
– Hyperspace | – Blue |
| – Black | – Silver | |
| – | – Black |
จุดเด่น realme 10 Pro+ คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
ชิปเซ็ต Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz ชิปกราฟิก Mali G68 แรม 12GB กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4
พร้อม LED Flash มีกันสั่น EIS และบันทึกวิดีโอ 4K บอดี้ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Hyperspace และ Black
| Features | Xiaomi 12T | realme 10 Pro+ |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.67 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล | – ความละเอียด 2412×1080 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 120Hz | – Refresh Rate 120Hz | |
| – HDR 10+ | – HDR 10+ | |
| – Corning Gorilla Glass 5 | – | |
| CPU : | – Dimensity 8100 Ultra แบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz |
– Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz
|
| GPU : | – Mali G610 | – Mali G68 |
|
กล้องหลัง :
|
– 108MP + 8MP + 2MP | – 108MP + 8MP + 2MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – Dual Tone LED Flash | – LED Flash | |
| – OIS | – EIS | |
|
กล้องหน้า :
|
– 20MP | – 16MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.4 | |
|
Battery :
|
– 5000mAh | – 5000mAh |
| – Turbo Charger 120W | – SuperVOOC 67W | |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.2 |
|
สี :
|
– Blue | – Hyperspace |
| – Silver | – Black | |
| – Black | – |
จุดเด่น Xiaomi 12T คือ ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ครอบกระจก Corning Gorilla Glass 5
ชิปเซ็ต Dimensity 8100 Ultra แบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz ชิปกราฟิก Mali G610 กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.7 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 4K
กล้องเซลฟี่ 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W รองรับ Bluetooth 5.3 ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Blue, Silver และ Black
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ realme 10 Pro+ และ Xiaomi 12T ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความละเอียดกล้องหน้า, ความไวการชาร์จ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันที่ราว 2,000 บาท
หากเลือก realme 10 Pro+ จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ realme UI 4.0
ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ชิปเซ็ต Dimensity 920 5G แบบ Octa Core ความเร็ว 2.5GHz ชิปกราฟิก Mali G68 แรม 12GB
กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.75 + f/2.2 + f/2.4 พร้อม LED Flash มีกันสั่น EIS และบันทึกวิดีโอ 4K บอดี้ที่บางและเบากว่าเล็กน้อย
หรือหากเลือก Xiaomi 12T จะได้เครื่องหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712×1220 พิกเซล รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz ครอบกระจก Corning Gorilla Glass 5
ชิปเซ็ต Dimensity 8100 Ultra แบบ Octa Core ความเร็ว 2.85GHz ชิปกราฟิก Mali G610 กล้องหลังคมชัด 108MP + 8MP + 2MP ค่ารูรับแสง f/1.7 + f/2.2 + f/2.4
พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 4K กล้องเซลฟี่ 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 แบตอึด 5000mAh ชาร์จไว 120W รองรับ Bluetooth 5.3
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply