8 วิธี ที่จะทำให้สมาร์ตโฟน Android ของคุณกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น!! แก้ปัญหาเครื่องอืด ทำงานช้า

8 วิธี ที่จะทำให้สมาร์ตโฟน Android ของคุณกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น!! แก้ปัญหาเครื่องอืด ทำงานช้า

Android

หากเพื่อน ๆ เป็นอีกคนที่ใช้สมาร์ตโฟนตกรุ่นสเปกไม่แรง หรือใช้สมาร์ตโฟน Android เรือธงแต่เครื่องทำงานได้ช้า และกำลังเครียดกับปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้ทางทีมงานมีบทความดี ๆ จากเว็บชื่อดังในแวดวงมือถือสมาร์ตโฟนมาฝากให้ได้ชมกัน โดยเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาสมาร์ตโฟน Android ทำงานช้า ให้กลับมาลื่นไหล ใช้งานได้แบบเพลิน ๆ มาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยครับ

1. อัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ๆ อยู่เสมอ : การอัปเดตระบบปฏิบัติการถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้งานควรที่จะรีบทำการอัปเดต เพราะในแต่ละเวอร์ชันที่มีการปล่อยออกมานั้น จะเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของสมาร์ตโฟนให้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

2. เคลียร์หน้า Home Screen : การเคลียร์หน้า Home Screen ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำคัญ เพราะในช่วงระหว่างวันเชื่อว่าหลายคนคงเปิดเข้าใช้งานแอปฯ ต่าง ๆ โดยไม่ได้ทำการเคลียร์หน้าจอ หรือมี Widget เยอะจนเกินไป บวกกับภาพ Wallpaper ที่อาจทำให้สมาร์ตโฟนทำงานหนักจนเกินไป เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรเคลียร์ Widget ที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างก็ดี

3. ปิด Interface / ให้ GPU ช่วยประมวลผล : เข้าไปที่ > Settings > กดที่เลขเวอร์ชัน (Build Number) ติดกัน 7 ครั้ง > Developer Options แล้วก็ปิดได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการช่วยลดการทำงานของเครื่องให้น้อยลง นอกจากนั้นใน Developer Options ยังสามารถปรับให้ GPU ช่วยประมวลผลแทนซอฟแวร์ และจะทำให้การแสดงผลภาพเคลื่อนไหวทำงานได้ลื่นไหลขึ้นอีกด้วย

4. เปิดโหมดประหยัดเน็ตใน Google Chrome : หากต้องการเพิ่มความเร็วในการท่องเว็บให้ลองเปิดใช้งานโหมดประหยัดอินเทอร์เน็ตใน Google Chrome ซึ่งจะทำให้มีการบีบอัดหน้าเว็บเพื่อให้สามารถใช้งานข้อมูลได้น้อยลง และโหลดข้อมูลเร็วขึ้นได้

Phone

5. ล้างของมูลในแคช : ไปที่ App info > Storage > Clear Cache จะช่วยให้การทำงานเร็วยิ่งขึ้น

6. ปิดการซิงค์อัตโนมัติ : หากคุณใช้งานสมาร์ตโฟนที่มีสเปกดีในระดับหนึ่ง ตัวเครื่องอาจตั้งค่าการซิงค์อัตโนมัติกับแอปฯ ไว้ ซึ่งอาจจะมีบ้างบางแอปฯ ฉะนั้นให้ทำการปิดการซิงค์อัตโนมัตินั้น โดยจะทำให้ประหยัดเน็ต ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และทำให้เครื่องทำงานเร็วขึ้นอีกด้วย

7. ไม่ควรใช้ Task Killer : ซึ่งการใช้ Task Killer จะเป็นการปิดแอปฯ ออกจากการใช้งาน ซึ่งเมื่อเวลาที่เราต้องการจะเข้าไปใช้งานแอปฯ ที่ได้ปิดไปแล้วนั้น จะต้องทำการโหลดใหม่ ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าปกติ

8. รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน : ก่อนที่จะทำการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ควรทำการสำรองข้อมูลไว้ก่อน หรือนำข้อมูลสำคัญ ๆ ไปเก็บไว้ที่อุปกรณ์อื่นก่อนแล้วค่อยทำการรีเซ็ต ซึ่งจะเป็นการล้างข้อมูลออกแทบทั้งหมด และทำให้เครื่องทำงานได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ก็ลองทำตามทั้ง 8 วิธีนี้กันดูนะครับ เผื่อจะช่วยให้สมาร์ตโฟนในระบบ Android ที่ใช้อยู่ทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถ้าหากทางทีมงานไปเจอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ เพิ่มเติมอีก จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยเร็วครับ ท้ายที่สุดนี้ก็ขอฝากให้เพื่อน ๆ ทุกท่านเข้าไปติดตามข้อมูลข่าวสารจากพวกเรา www.ninethaiphone.com ด้วยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.androidauthority.com