OPPO จอเบิร์น, จอเสีย, จอแตก, จอเหลือง ทำอย่างไรดี? พร้อมแชร์วิธีป้องกัน และแก้ไขแบบง่าย ๆ
หากพูดถึงหน้าแผงหน้าจอที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบันนั้นก็มีมากมายหลายแบบ อาทิ หน้าจอ TFT, IPS, LCD, OLED, AMOLED และ Super AMOLED เป็นต้น ซึ่งแผงหน้าจอที่กล่าวมาข้างต้นนั้นถูกนำไปติดตั้งกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นระดับเริ่มต้นไปจนถึงรุ่นระดับเรือธง แต่ถ้าหากใช้งานไม่ระวังก็อาจทำให้เกิดปัญหาจอเบิร์นได้
โดยในวันนี้ทางทีมงานมีบทความ How To วิธีป้องกันจอเบิร์นบน OPPO พร้อมแชร์วิธีป้องกัน และแก้ไขเบื้องต้น รวมถึงราคาค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนหน้าจอสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นให้ทราบกันด้วยครับ
จอเบิร์นคืออะไร?
อาการจอเบิร์น หรือ Screen Burn-in คือ อาการจอค้างที่เกิดขึ้นกับ realme รุ่นที่ใช้หน้าจอ Super AMOLED หรือจอ OLED รวมถึงหน้าจอ LCD ทั่วไป โดยจะเกิดเป็นรอยจาง ๆ หรือภาพขึ้นค้างอยู่แบบนั้นบนหน้าจอ คล้ายกับอาการจอเสีย แม้ว่าเราจะเปลี่ยนภาพบนหน้าจอไปแล้ว แต่รอยนั้นก็ยังคงค้างอยู่ไม่หายไปไหน
สาเหตุมาจากการแสดงภาพหรือตัวอักษรบนหน้าจอเป็นระยะเวลานานเกินไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง มักจะเกิดในบริเวณหน้าจอที่มีแสงสว่างมากๆ แล้วทำให้เม็ดพิกเซลบริเวณนั้นเกิดอาการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ทำให้บนหน้าจอเกิดเงาของภาพขึ้นมาแบบจาง ๆ
รวมถึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของเราด้วย ถึงแม้ว่าอาการจอเบิร์นจะไม่ส่งผลใด ๆ กับแอปฯ และฟังก์ชันการใช้งานในเครื่อง แต่ก็สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานได้ไม่น้อยเลย ทั้งยังบดบังรายละเอียดบนหน้าจอทำให้มองเห็นไม่ถนัด และไม่สะดวกสบายตาเวลาใช้งานด้วย
วิธีการป้องกันจอเบิร์น
– ควรเปิด Auto-Brightness หรือการปรับแสดงสว่างอัตโนมัติช่วยได้ โดยจะเป็นการปรับแสงอยู่ตลอดเวลาบนหน้าจอตามสภาพแวดล้อม
– ตั้งค่าปิดหน้าจออัตโนมัติโดยใช้ระยะเวลาที่น้อยลง อาจจะตั้งไว้ที่ 30 วินาที หรือ 1 นาทีก็ได้ เพื่อที่จะไม่ให้หน้าจอทำงานหนักจนเกินไป
– การปรับค่าหน้าจอให้มีความสว่างสุดก็เช่นกัน เพื่อยืดอายุการใช้งานของเม็ดสี ควรปรับให้อยู่ในระดับพอเหมาะ
– หลีกเลี่ยงการแสดงภาพนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวของภาพที่สว่าง ๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป
– เปิดใช้งาน Dark Mode เพื่อช่วยรักษาหน้าจอ แถมยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีก
– เลือกใช้วอลเปเปอร์โทนสีมืด ๆ เพื่อรักษาหน้าจอ
– ปิดหน้าจอเมื่อไม่ใช้งาน
วิธีแก้ไข OPPO จอเบิร์น เบื้องต้น
หากเพื่อน ๆ เจอปัญหา OPPO จอเบิร์น ให้ลองปิดเครื่องไว้สักพักแล้วค่อยเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ หรือหากยังไม่หายอาจต้องปิดเครื่องทิ้งไว้เป็นวันแล้วแต่อาการ รวมถึงลองอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด เผื่อเกิดจากความผิดพลาดของระบบ
การล้างแคชของระบบก็ช่วยได้ในระดับนึง หรืออาจจะลองรีเซ็ตเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน สุดท้ายหากยังไม่หายอีกแนะนำให้ส่งศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบและเช็คเครื่อง หากมีอาการรุนแรงอาจต้องเปลี่ยนหน้าจอใหม่ โดยเราได้มีราคาซ่อมหน้าจอของ OPPO รุ่นต่าง ๆ มาอัปเดตให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันด้วยดังนี้
รุ่นของ OPPO | การซ่อมหน้าจอ |
OPPO Find X2 Pro | 12,000.- |
OPPO Find X2 | 9,500.- |
OPPO Find X | 10,500.- |
OPPO A3s | 1,500.- |
OPPO A5s | 1,500.- |
OPPO A37 | 1,200.- |
OPPO A3s | 1,000.- |
OPPO A7 | 1,000.- |
OPPO A77 | 2,500.- |
OPPO A57 | 1,900.- |
OPPO A71 | 1,200.- |
OPPO A1k | 2,000.- |
OPPO A31 | 1,600.- |
OPPO A83 | 2,000.- |
OPPO A91 | 1,800.- |
OPPO A39 | 1,200.- |
OPPO A5 2020 | 1,400.- |
OPPO A9 2020 | 1100.- |
OPPO R15 Pro | 3,500.- |
OPPO R17 Pro | 5,000.- |
OPPO R9s | 3,500.- |
OPPO R9s Plus | 4,800.- |
OPPO F1s | 2,000.- |
OPPO F11 Pro | 2,000.- |
OPPO F5 Youth | 1,950.- |
OPPO F5 | 1,950.- |
OPPO F7 | 2,700.- |
OPPO F5 Pro | 1,950.- |
OPPO F9 | 2,000.- |
OPPO Reno | 3,400.- |
OPPO Reno 10X Zoom | 7,500.- |
OPPO Reno2 | 3,500.- |
OPPO Reno2 F | 2,200.- |
*ข้อมูล ณ พ.ย. 63
อัปเดตราคาซ่อมหน้าจอได้ที่ : oppo-th.custhelp.com
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ my.carousell.com, smzone.com.au, www.ebay.co.uk
Leave a Reply