เปรียบเทียบ OPPO Reno10 Pro+ 5G และ iPhone 14 ปี 2023 รุ่นต่างค่าย สเปกตอบโจทย์ เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ OPPO Reno10 Pro+ 5G และ iPhone 14 มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ OPPO Reno10 Pro+ 5G ราคาจำหน่าย 27,990 บาท รัน Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR 10+ กระจก Asahi Glass AGC DT-Star2
ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 แรม 12GB ความจุ 256GB กล้องหลัง 50MP + 64MP + 8MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น OIS รองรับ 3× Optical Zoom และ 120× Digital Zoom บันทึกวิดีโอ 4K กล้องหน้า 32MP
แบตเตอรี่ 4700mAh ชาร์จไว 100W ผ่านพอร์ต USB Type-C สนับสนุนเครือข่าย 5G ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Glossy Purple และ Silvery Grey
ขณะที่ iPhone 14 ราคาจำหน่าย 32,900 บาท (128GB), 36,900 บาท (256GB) และ 45,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10 ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB
ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash และ Auto Focus แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง
และเล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue, Red และ Yellow
ตารางเปรียบเทียบสเปก OPPO Reno10 Pro+ 5G และ iPhone 14
Features | OPPO Reno10 Pro+ 5G | iPhone 14 |
วันเปิดตัว : | – กรกฎาคม 2566 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– | – 32,900 บาท (128GB) |
– 27,990 บาท (256GB) | – 36,900 บาท (256GB) | |
– | – 45,900 บาท (512GB) | |
OS : | – Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.74 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2772×1240 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– HDR 10+ | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – | |
– Asahi Glass AGC DT-Star2 | – | |
– | – จอภาพ Super Retina XDR | |
CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Adreno 730 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
ROM :
|
– | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– | – 512GB | |
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 64MP + 8MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.5 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– OIS | – OIS | |
– 3× Optical Zoom | – 2x Optical Zoom | |
– 120× Digital Zoom | – 5x Digital Zoom | |
กล้องหน้า :
|
– 32MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
Video :
|
– 4K@30fps | – 4K@24/25/30/60fps |
– 1080p@30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
Battery :
|
– 4700mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง |
– SuperVOOC 100W | – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง | |
– | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
ขนาด : | – 162.9×74.0×8.28 มม. | – 146.7×71.5×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 194 กรัม | – 172 กรัม |
รองรับซิม : | – Dual SIM | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – | – IP68 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.3 | |
– USB Type-C | – USB Lightning | |
– NFC | – NFC | |
– OTG | – | |
– | – Siri | |
– | – SOS ฉุกเฉิน | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– Beidou | – Beidou | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– Galileo | – Galileo | |
– QZSS | – QZSS | |
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Face ID |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Ambient Light | – Ambient Light | |
– Gyroscopes | – Gyroscopes | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
สี :
|
– Glossy Purple | – Midnight |
– Silvery Grey | – Purple | |
– | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red | |
– | – Yellow |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
Features | OPPO Reno10 Pro+ 5G | iPhone 14 |
วันเปิดตัว : | – กรกฎาคม 2566 | – กันยายน 2565 |
ราคา :
|
– | – 32,900 บาท (128GB) |
– 27,990 บาท (256GB) | – 36,900 บาท (256GB) | |
– | – 45,900 บาท (512GB) | |
OS : | – Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 | – iOS 16 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.74 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2772×1240 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– HDR 10+ | – HDR 10 | |
– Refresh Rate 120Hz | – | |
– Asahi Glass AGC DT-Star2 | – | |
CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Adreno 730 | – Apple GPU (5-core graphics) |
RAM : | – 12GB | – 6GB |
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 64MP + 8MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.5 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | |
– LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– OIS | – OIS | |
– 3× Optical Zoom | – 2x Optical Zoom | |
– 120× Digital Zoom | – 5x Digital Zoom | |
กล้องหน้า :
|
– 32MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
Battery :
|
– 4700mAh | – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง |
– SuperVOOC 100W | – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง | |
– | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– USB Type-C | – USB Lightning |
– OTG | – | |
Sensor : | – Fingerprint Under Display | – Face ID |
สี :
|
– Glossy Purple | – Midnight |
– Silvery Grey | – Purple | |
– | – Starlight | |
– | – Blue | |
– | – Red | |
– | – Yellow |
จุดเด่น OPPO Reno10 Pro+ 5G คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR 10+ ครอบกระจก Asahi Glass AGC DT-Star2
ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 แรม 12GB กล้องหลัง 50MP + 64MP + 8MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น OIS รองรับ 3× Optical Zoom และ 120× Digital Zoom
กล้องหน้า 32MP แบตอึด 4700mAh ชาร์จไว 100W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C รองรับ OTG พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Glossy Purple และ Silvery Grey
Features | iPhone 14 | OPPO Reno10 Pro+ 5G |
OS : | – iOS 16 | – Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz |
– Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Adreno 730 |
ROM :
|
– 128GB | – |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – | |
ขนาด : | – 146.7×71.5×7.8 มม. | – 162.9×74.0×8.28 มม. |
น้ำหนัก : | – 172 กรัม | – 194 กรัม |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– USB Lightning | – USB Type-C |
– Siri | – | |
– SOS ฉุกเฉิน | – | |
Sensor : | – Face ID | – Fingerprint Under Display |
สี :
|
– Midnight | – Glossy Purple |
– Purple | – Silvery Grey | |
– Starlight | – | |
– Blue | – | |
– Red | – | |
– Yellow | – |
จุดเด่น iPhone 14 คือ รัน iOS 16 ใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz ชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่า
พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue, Red และ Yellow
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ OPPO Reno10 Pro+ 5G และ iPhone 14 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, พอร์ตเชื่อมต่อ, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ, ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันที่ราว 8,900 บาท สำหรับรุ่น 256GB
หากเลือก OPPO Reno10 Pro+ 5G ก็จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า และมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าด้วย พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ ColorOS 13.1 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.74 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
รองรับ HDR 10+ ครอบกระจก Asahi Glass AGC DT-Star2 ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.0GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 แรม 12GB กล้องหลัง 50MP + 64MP + 8MP พร้อม LED Flash มีกันสั่น OIS
รองรับ 3× Optical Zoom และ 120× Digital Zoom กล้องหน้า 32MP แบตอึด 4700mAh ชาร์จไว 100W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C รองรับ OTG พร้อมฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล
หรือหากเลือก iPhone 14 จะได้เครื่องรัน iOS 16 ใช้ชิปเซ็ต A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz ชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่า พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply