LINE เป็นมากกว่า Chat App สู่อีกขั้นของ Platform เพื่อ Lifestyle และ Business

LINE ชี้เทรนด์คนไทยยุคใหม่ใช้ชีวิตบนดิจิตอลแพลตฟอร์ม เผยกลยุทธ์สร้าง LINE ให้เป็นมากกว่าแอพฯ แชท สู่สุดยอดแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์และธุรกิจแห่งอนาคต

LINE ผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือยอดนิยมระดับโลก ชี้เทรนด์คนไทยยุคใหม่ใช้ชีวิตบนดิจิตอลแพลตฟอร์ม 1) Mobile First อัตราการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตพุ่งสูง 2) Smartphone Becoming the Main TV Screen สมาร์ทโฟนคือหน้าจอหลัก 3) m-commerce และ social commerce ขยายช่องทางสู่การซื้อสินค้าบนมือถือ และ 4) O2O โอกาสทางธุรกิจจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ เดินหน้าวางกลยุทธ์ในการสร้าง LINE ให้เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นแชท สู่สุดยอดแพลตฟอร์มสำหรับไลฟ์สไตล์และธุรกิจแห่งอนาคต ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเกม ธุรกิจคอนเทนต์ ธุรกิจโซลูชั่นสำหรับองค์กร ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจเพย์เมนต์

SONY DSC

LINE 2015 Success (TH) LINE's 5 Businesses

นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในปีนี้มีความเคลื่อนไหวในโลกดิจิตอลในเมืองไทยที่น่าจับตามองอยู่ 4 ประการ ได้แก่ Mobile First ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศ Mobile Firstประมาณ 2 ปี ด้วยอัตราการใช้โมบายอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงถึง 40 ล้านคน โดย 33 ล้านคนเป็นผู้ใช้งาน LINE และคาดการณ์ว่าภายในปี 2560 นี้ ยอดผู้ใช้โมบายอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มขึ้นถึง 50 ล้านคน หลังจากการเปิดให้บริการ 4G โดยคนไทยใช้เวลากับสมาร์ทโฟนเฉลี่ยสูงถึง 5.7  ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลากับ LINE ในการแชทนานถึง 83.7 นาทีต่อวัน เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น LINE จึงมีบริการ Official Account (OA) สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรในการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจโดยการสื่อสารและสร้างการ มีส่วนร่วม ด้วยข้อมูลที่กลุ่มเป้าหมายสนใจในเวลาและช่องทางที่เหมาะสม ตลอดจนเพิ่มยอดขายให้กับองค์กรได้มากขึ้น สำหรับธุรกิจ SME ที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 2.8 ล้านรายในเมืองไทย  LINE มีบริการ LINE@ ที่ใช้งานง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่สูง ในการช่วยให้ลูกค้า SME และสตาร์ทอัพสื่อสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มีประสิทธิภาพ และช่วยในการขยายธุรกิจ

เทรนด์ที่ 2 Smartphones are becoming the Main TV Screen 41% ของคอนเทนต์ทีวีและวิดีโอชมผ่านหน้าจอทีวี ในขณะที่ 31% ชมผ่านสมาร์ทโฟน LINE เปิดตัว LINE TV กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Free Fresh Fast ที่ให้ผู้ใช้ได้รับชมคอนเทนต์บันเทิงฟรีได้ก่อนใคร จากพันธมิตรความบันเทิงมากมาย อาทิ จีเอ็มเอ็ม ทีวี, จีเอ็มเอ็ม 25, ช่องวัน, เวิร์คพอยท์, ไทยรัฐ ทีวี, GDH559, ดรีม เอ็กซ์เพรส (เดกซ์), Vithita Animation, TrueVisions, TNN, TrueMusic, ทีไอจีเอ และเสือร้องไห้

ความ เคลื่อนไหวประการที่ 3 ที่น่าจับตามอง คือ m-commerce และ social commerce ผู้บริโภคที่ใช้ e-commerce เป็นประจำมีแนวโน้มที่จะเริ่มใช้ m-commerce และ social commerce ในการซื้อสินค้าและบริการ โดยจำนวนการซื้อขายออนไลน์ผ่านโมบายดีไวซ์มีสัดส่วนถึง 60% จากจำนวนการซื้อขายออนไลน์ทั้งหมด พร้อมกันนี้ได้มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตของโมบายแบงก์กิ้งว่าจะสูงถึง 33% LINE มีบริการ LINE Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่สะดวกสบายและปลอดภัย ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้วกว่า 1.5 ล้านคน พร้อมกับ Pay by Official Account อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจเปิดการขายสินค้าผ่านหน้า Official Account ของตนเองได้ทันที นอกจากนี้ยังมี LINE GIFTSHOP บริการส่งของขวัญรูปแบบใหม่ให้เพื่อนผ่าน LINE ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน โดยพบว่าผู้ใช้บริการ 55% ซื้อสินค้าเป็นของขวัญให้เพื่อน ส่วนที่เหลือซื้อให้กับตนเอง จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของนวัตกรรม social commerce สำหรับผู้ประกอบการและผู้ใช้งาน ทั้งหมดนี้ถือเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าประเทศไทยได้เข้าสู่ยุค m-commerce และ social commerce แล้ว

เทรนด์ที่ 4 ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ในปีนี้ คือ บริการ O2O หรือการขยายโอกาสทางธุรกิจจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ โดยใช้สื่อออนไลน์ผลักดันให้เกิดทราฟฟิกหรือยอดขายทางออฟไลน์ ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดมากมาย ซึ่งคนส่ วนใหญ่ดาวน์โหลดเฉลี่ยเพียง 39 แอพฯ[5] ต่อหนึ่งดีไวซ์ และใช้งานจริงเพียง 17 แอพฯ LINE มีความเชื่อว่าแนวคิด ‘Apps within an App’ จะช่วยตอบโจทย์ได้ ทำให้การเข้าถึงบริการในชีวิตประจำวันผ่าน LINE เพียงช่องทางเดียวแทนที่การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมากมาย LINE ตั้งเป้าที่จะพัฒนาบริการในลักษณะนี้ ทั้งการพัฒนาขึ้นเองและการจับมือกับสตาร์ทอัพในเมืองไทย

ในปีนี้เป้า หมายสำคัญ คือ การสร้าง LINE ให้เป็นมากกว่าแอพพลิเคชั่นแชท ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มทั้งสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กรธุรกิจ ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้บริการต่างๆ เพื่อเพิ่มความสุขในชีวิตผ่าน LINE ในขณะที่ลูกค้าองค์กรสามารถใช้ LINE ในการสร้างการรับรู้ สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มยอดขายให้กับสินค้าและบริการ ทำการซื้อขาย ในที่เดียวผ่าน LINE สมกับที่เป็น ‘LINE Beyond Chat’ ผ่าน 5 กลุ่มธุรกิจหลักของ LINE ได้แก่ ธุรกิจเกม (LINE GAME) ธุรกิจคอนเทนต์ (LINE TV, LINE MUSIC) ธุรกิจโซลูชั่นสำหรับองค์กร (LINE Official Account, LINE@) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (LINE GIFTSHOP) และธุรกิจเพย์เมนต์ (LINE Pay) โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการเหล่านี้ให้เทียบเท่ากับบริการแชท และยังมีแผนในการผนวกบริการที่มีอยู่เข้าด้วยกันภายใต้แอพพลิเคชั่นเดียว เป็นซิงเกิ้ลแพลตฟอร์มเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่าย เข้ามาอยู่ในทุกส่วนของชีวิตประจำวันของคน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้ผู้บริโภคสะดวกสบายและมี ความสุขในชีวิตมากขึ้นแล้ว ยังเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบรนด์ LINE เป็นที่ยอมรับและชื่นชอบในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย โดยล่าสุดจากการจัดอันดับ ‘Best Brand 2015’ โดยYouGov BrandIndex LINE ติดอันดับ 2 จากทั้งหมด 250 แบรนด์ที่ได้รับการกล่าวถึงในทางบวกมากที่สุดในเมืองไทย