iPhone 7 Plus ไอโฟน 7 พลัส ราคา
iPhone 7 Plus ราคา 17,900 บาท (32GB), 21,900 บาท (128GB) (ณ วันที่ 31 ม.ค. 63)
iPhone 7 Plus มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ 1.สีเทา 2.สีทอง 3.สีโรสโกลด์ 4.สีดำ 5.สีดำเจ็ทแบล็ค 6.สีแดง
– iPhone 7 ยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPhone ในส่วนที่สำคัญที่สุดให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นระบบกล้องสุดล้ำแบบใหม่ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone ลำโพงสเตอริโอที่ให้เสียงเต็มอิ่มสมจริง จอภาพ iPhone ที่สว่างและมีสีสันสดใสที่สุด อีกทั้งยังทนน้ำและน้ำที่กระเด็นใส่1 และมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูทรงพลังไม่แพ้ภายในนี่แหละคือ iPhone 7 ที่ใช่
การออกแบบ
– ทั้งโดนใจ ทั้งโดนน้ำได้ iPhone 7 ได้ก้าวสู่อีกระดับของคำว่านวัตกรรมและความแม่นยำ เริ่มตั้งแต่ สีดำเจ็ทแบล็คที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากทุกสิ่งที่เราเคยสร้างมา ตัวเครื่องที่สามารถทนน้ำและน้ำที่กระเด็นใส่1 ไปจนถึงปุ่มโฮมที่ถูกสร้างขึ้นใหม่หมด ในทุกรายละเอียดและดีไซน์ Unibody แบบใหม่ที่เรียบเนียนไร้รอยต่อ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ iPhone 7 จะรู้สึกยอดเยี่ยมเมื่อถืออยู่ในมือ ไม่แพ้รูปลักษณ์ภายนอกที่เห็น
สีโรสโกลด์
สีทอง
สีดำ
สีดำเจ็ทแบล็ค
– 2 ขนาด 5 สีสัน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมสีดำที่สวยโดดเด่น ทั้งในแบบผิวด้านและผิวมันเงาสูงอย่างสีดำเจ็ทแบล็ค นอกจากนี้ท้ังรุ่น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ยังทำมาจากอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ที่แข็งแรงทนทาน และมีให้เลือกในหลายสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเรา ทั้งสีเงิน สีทอง และสีโรสโกลด์
– มาตรฐานใหม่ของสีดำ จากการสรรค์สร้างอย่างพิถีพิถันด้วยอะลูมิเนียมแบบผิวกระแทก ทำให้ได้สีดำรุ่นใหม่ที่มีพื้นผิวด้านและดำสนิท ส่วนผิวมันเงาสูงของสีดำเจ็ทแบล็คนั้น กว่าจะได้มาต้องผ่านขั้นตอนการชุบผิวและขัดเงาที่มีความแม่นยำเหลือเชื่อถึง 9 ขั้นตอนเรียกว่าเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญในด้านวิศวกรรมการออกแบบเลยทีเดียว2 และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือสีดำที่มีความบริสุทธิ์และต่อเนื่องเป็นเนื้อเดียวจนคุณแยกไม่ออกเลยว่าตรงไหนคือจุดที่อะลูมิเนียมและกระจกบรรจบกัน อย่าแปลกใจถ้าคุณจะลืมสีดำแบบอื่นๆ ไปเลย
– สร้างสรรค์มาให้ทนน้ำได้ iPhone 7 มาพร้อมตัวเครื่องที่ออกแบบขึ้นใหม่หมดเพื่อให้เป็น iPhone รุ่นแรกที่สามารถทนน้ำได้1 คราวนี้ไม่ว่าจะโดนน้ำกระเด็นหรือหกใส่ หรือแม้แต่ฝุ่นเล็กๆ คุณก็จะได้รับการปกป้องในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
– ปุ่มโฮมแบบใหม่หมด ปุ่มโฮมของ iPhone 7 เป็นปุ่มโซลิดสเตทอันล้ำสมัยที่ออกแบบมาให้มีความทนทานตอบสนองฉับไว และมีความไวต่อแรงกด ทั้งยังทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกับTaptic Engine ใหม่ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้อย่างแม่นยำเมื่อคุณกดยิ่งไปกว่านั้นยังปรับแต่งการทำงานได้ตามใจชอบ รับรองว่าคุณจะต้องติดใจโฉมใหม่ของปุ่มโฮมที่คุณคุ้นเคยนี้แน่ๆ
– Touch ID ปลดล็อค iPhone ของคุณได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยด้วย Touch ID ที่ใช้เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือสุดล้ำที่รวดเร็วไม่ต่างจากเดิม
กล้อง iPhone 7
– สิ่งที่ต้องโฟกัส คือกล้องใหม่ทั้งหมด กล้อง 12MP ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล กล้อง FaceTime HD 7MP แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง iPhone คือกล้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก และในวันนี้เราได้รังสรรค์กล้องที่ทุกคนชื่นชอบขึ้นใหม่ด้วยการเพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และชุดเลนส์ 6 ชิ้น เพื่อให้คุณถ่ายรูปและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้สวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสุดล้ำใหม่อย่างเช่น การบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้างที่จะทำให้รูปถ่ายและ Live Photosของคุณดูสวยงามสดใสยิ่งขึ้น
– ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล iPhone 7 มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลที่ช่วยลดการเบลอของภาพที่เกิดจากการเคลื่อนไหวและมือสั่น โดยเซ็นเซอร์จะช่วยเลนส์ชดเชยการขยับที่เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยทำให้สามารถเปิดรับแสงได้นานขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับ iPhone 6s
– รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ด้วยรูรับแสงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเซ็นเซอร์ของกล้องจึงสามารถรับแสงได้มากขึ้นอีกถึง 50%เมื่อเทียบกับ iPhone 6s คุณจึงถ่ายรูปในสภาวะแสงน้อยได้สวยงามยิ่งกว่าเดิม และเมื่อรวมกับชุดเลนส์ 6 ชิ้นใหม่ก็มั่นใจได้เลยว่ากล้องนี้จะถ่ายทอดภาพได้ทั้งสว่างสดใสและมีรายละเอียดที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น
– แฟลช True Tone แบบ LED สี่ดวง LED สี่ดวงสุดอัจฉริยะสามารถยิงแฟลชได้สว่างกว่า iPhone 6sถึง 50% นอกจากนี้แสงแฟลชจะปรับเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิสีโดยรอบในขณะนั้น ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดและสว่างพอดียิ่งขึ้น
– ตอนถ่ายน่ะเล่นๆ แต่ตอนฉายยังกับหนังจริงๆ วิดีโอที่ถ่ายในที่ที่ไม่ค่อยมีแสงด้วย iPhone 7 จะดูน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิม เพราะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 แบบใหม่หมดและกล้องความละเอียด 12MP ที่ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงได้ถึงระดับ 4K เพื่อให้คุณสามารถบันทึกช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่เก็บไว้เป็นภาพยนตร์สุดอลังการได้แม้จะเกิดขึ้นในเวลาที่มีแสงน้อยก็ตาม
– ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล เมื่อต้องเปิดรับแสงนานขึ้นระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลจะช่วยลดการเบลอของภาพที่เกิดจากการเคลื่อนไหวให้กับวิดีโอที่คุณถ่าย และรูรับแสงขนาดƒ/1.8 ยังช่วยให้คุณถ่ายวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นด้วย
– วิดีโอระดับ 4K iPhone 7 ให้คุณถ่ายวิดีโอด้วยความละเอียด 4K ซึ่งมากกว่า 8 ล้านพิกเซล และคุณยังสามารถตัดต่อวิดีโอใน iMovie แล้วแชร์ได้เลยทันทีอีกด้วย
– วิดีโอสโลว์โมชั่น แล้วช่วงเวลาโปรดของคุณก็จะยาวนานยิ่งกว่าเดิมด้วย iPhone 7 ที่รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่นแบบ HDได้ทั้งความละเอียด 1080p และ 720p
– วิดีโอไทม์แลปส์ ถ่ายฟุตเทจตามช่วงห่างของเวลาที่เลือกไว้อย่างเหมาะสมเพื่อสร้างเป็นวิดีโอไทม์แลปส์ที่นำไปแชร์ต่อได้ง่ายและรวดเร็ว
– กล้องหน้า 7MP ใหม่ จะตกหลุมรักเซลฟี่ก็คราวนี้ กล้อง FaceTime HD ไม่ได้มีแค่ความละเอียดที่สูงขึ้น แต่ยังสามารถบันทึกภาพด้วยขอบเขตสีกว้างได้อีกด้วย คราวนี้คุณก็ถ่ายเซลฟี่ได้คมชัดและสวยงามสดใสยิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าห่วงว่าแสงจะไม่สวยRetina Flash จะช่วยจัดแสงให้พอดีกับสภาพแสงโดยรอบ เพื่อสีผิวที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ “ลองดูสิ คนสวย”
– มันสมองที่มากขึ้นด้านหลังกล้อง โปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพที่ฉลาดขึ้น รู้มั้ยทำไมกล้อง iPhone 7 ถึงล้ำหน้าได้ขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะโปรเซสเซอร์รับสัญญาณภาพปรับปรุงใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งติดตั้งอยู่ในชิพ A10 Fusion และเมื่อคุณถ่ายภาพหรือวิดีโอ ISP ก็จะประมวลผลการทำงานกว่า 1 แสนล้านขั้นตอน และใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อทำให้ภาพที่คุณถ่ายสวยงามน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นโฟกัสที่เร็วขึ้น รวมถึงการแมปโทนและไวท์บาลานซ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย
– แอพรูปภาพสำหรับ iOS ให้ความทรงจำเก่าๆ กลับมารู้สึกเหมือนใหม่อีกครั้ง นี่อาจเป็นประสบการณ์ภาพถ่ายที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน เพราะแอพรูปภาพมีเครื่องมือที่ช่วยคุณค้นหาแชร์ และปรับแต่งภาพถ่ายของคุณในแบบใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้คุณสมบัติ”ความทรงจำ” จะใช้เทคโนโลยีการค้นหาสุดล้ำในการจัดกลุ่มรูปภาพแยกเป็นอัลบั้มและภาพยนตร์ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับช่วงเวลาประทับใจได้แบบไม่ยุ่งยาก
กล้อง iPhone 7 Plus
– สองกล้องที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว กล้องมุมกว้าง และเทเลโฟโต้ 12MP ซูมออปติคอล 2 เท่า ซูมดิจิตอลสูงสุด 10 เท่า iPhone 7 Plus ไม่ได้มีแค่หนึ่งระบบกล้องที่ออกแบบขึ้นใหม่หมด แต่มีถึงสองนั่นคือกล้องมุมกว้างความละเอียด 12MP ตัวเดียวกันกับใน iPhone 7 ซึ่งทำงานควบคู่กับกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 12MP ที่ทำให้คุณเข้าใกล้ได้มากยิ่งขึ้นแปลว่าคุณจะสามารถซูมภาพด้วยคุณภาพที่สูงขึ้นแม้จะอยู่ไกล และด้วยเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกแบบใหม่หมด (เร็วๆ นี้) จะช่วยให้คุณถ่ายภาพบุคคลได้ดูดียิ่งกว่าที่เคยเอาล่ะ โอกาสแจ้งเกิดในวงการภาพถ่ายมาถึงแล้ว
– ซูมสู่เบื้องหน้า ต้องขอบคุณระบบกล้องคู่และเทคโนโลยี ISP สุดล้ำที่อยู่ใน iPhone 7 Plus คุณจึงสามารถถ่ายภาพและวิดีโอระยะใกล้ได้อย่างคมชัดสุดๆ ด้วยการซูมแบบออปติคอลที่ถ่ายได้ใกล้ 2 เท่า นอกจากนี้คุณยังสามารถซูมเข้าไปได้ใกล้ยิ่งขึ้นอีก ด้วยการซูมแบบดิจิตอลที่ดีกว่าเดิมที่ให้คุณถ่ายภาพได้ใกล้ถึง 10 เท่า และถ่ายวิดีโอได้ใกล้ถึง 6 เท่าเลยทีเดียว
– เอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึก ระยะชัดลึกช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพใบหน้าที่คมชัดในขณะที่ฉากหลังเบลอได้เพราะเมื่อคุณถ่ายภาพด้วย iPhone 7 Plus ระบบกล้องคู่จะใช้กล้องทั้งสองตัวร่วมกับการเรียนรู้ของระบบอันล้ำสมัย เพื่อทำให้สิ่งที่คุณต้องการถ่ายมีความคมชัด ในขณะเดียวกันก็ทำให้ฉากหลังเบลอแบบหลุดโฟกัส หรือที่เรียกว่าเอฟเฟ็กต์แบบโบเก้ ซึ่งแต่เดิมต้องถ่ายด้วยกล้อง DSLR เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในฉากหลัง การถ่ายภาพบุคคลแบบสวยงามก็ทำได้ง่ายๆ
จอภาพ Retina HD
– จอภาพ iPhone ที่สว่าง และสดใสที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขอบเขตสีกว้างสว่างขึ้น 25% 3D Touch แทบทุกประสบการณ์การใช้งานบน iPhone ของคุณ ล้วนเกิดขึ้นบนจอภาพอันมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นการดูรูปภาพ อ่านข้อความ ข่าว และอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่คุณทำเป็นประจำทุกวัน และยิ่งเป็นจอภาพของ iPhone 7 ที่ใช้มาตรฐานสีระดับเดียวกันกับที่ใช้ในวงการภาพยนตร์ดิจิตอลด้วยแล้วทุกอย่างที่คุณเห็นก็จะดูสวยสดงดงามยิ่งขึ้นจนคุณสังเกตได้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากให้ทุกวันเป็นวันที่สดใสขึ้นอีกนิด จริงมั้ย
– สีสันมากขึ้น สมจริงมากขึ้น จอภาพ Retina HD ใหม่มาพร้อมขอบเขตสีที่กว้าง จึงสามารถถ่ายทอดสีสันในมาตรฐานเดียวกันกับที่ใช้ในภาพยนตร์ได้ อีกทั้งยังสามารถจัดการสีได้ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนด้วยกัน และยิ่งมีเฉดสีให้ใช้ในการแสดงภาพมากขึ้นเท่าไหร่ ทุกสิ่งที่คุณเห็นบนหน้าจอก็จะยิ่งถูกต้องตามความเป็นจริงไม่ต่างจากที่ตาเห็น คราวนี้ไม่ว่าคุณจะเปิดดูเดรสตัวสวย หรือ Live Photos ที่คุณถ่ายตอนไปเที่ยวทะเล สีสันในภาพก็จะถูกต้องแม่นยำราวกับว่าคุณอยู่ที่นั่นจริงๆ
– 3D Touch ที่มีประโยชน์และใกล้มือกว่าที่เคย เมื่อคุณใช้ 3D Touch คุณจะได้รับการตอบสนองจาก iPhone ด้วยการสั่นเบาๆ คราวนี้จึงไม่ใช่แค่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกด หากแต่คุณจะรู้สึกไปด้วยในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้จอภาพ Retina HD ใหม่บน iPhone 7 ยังผสาน 3D Touch เข้าไปในทุกส่วนของ iOS เพื่อให้คุณสามารถโต้ตอบกับแอพข้อความปฏิทิน เมล และอีกมากมายในแบบที่ทรงพลังและรวดเร็วทันใจยิ่งกว่าที่เคย
ชิพ A10 Fusion
– ชิพที่ทรงพลังที่สุดที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน เร็วกว่า iPhone 6 2 เท่าแบตเตอรี่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีใน iPhone เบื้องหลังการทำงานที่เร็วสุดแรงของ iPhone 7 คือชิพที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน และก็ไม่ใช่แค่เร็วกว่า iPhone ทุกรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ยังประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย
นั่นเป็นเพราะชิพ A10 Fusion ใช้สถาปัตยกรรมแบบใหม่หมดที่ช่วยให้การประมวลผลรวดเร็วยิ่งขึ้นในเวลาที่คุณต้องการ และใชพลังงานน้อยลงกว่าเดิมในยามที่คุณไม่ได้ใช้ ยิ่งกว่านั้นยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมาอีกด้วยคุณจึงสามารถทำอะไรๆ ได้เร็วกว่า iPhone 6 ถึง 2 เท่า และในขณะเดียวกันก็ยังใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
– เร็วยิ่งกว่า ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น CPU ของชิพ A10 Fusion มาพร้อมดีไซน์ 4 คอร์แบบใหม่หมดที่ประกอบด้วยคอร์ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูงอีก 2 คอร์ โดยคอร์ประสิทธิภาพสูงสามารถทำงานได้เร็วกว่า iPhone 6 ถึง 2 เท่าในขณะที่คอร์ประหยัดพลังงานสูงจะใช้พลังงานเพียง 1 ใน 5 ของคอร์ประสิทธิภาพสูงเท่านั้นเรียกว่าเป็นที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน ไม่ว่าในเวลานั้นคุณจะต้องการแบบไหน
– ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีใน iPhone ชิพ A10 Fusion ให้คุณใช้งานได้นานยิ่งกว่าที่เคยต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยคุณสามารถใช้ iPhone 7 ได้นานขึ้นอีกถึง 2 ชั่วโมง และใช้ iPhone 7 Plus ได้นานขึ้นอีกถึง 1 ชั่วโมงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน3
– เบิ้ลความจุสูงสุดเป็น 256GB iPhone 7 มีความจุให้เลือกระหว่าง 32GB, 128GB และ 256GB หรือมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่าในทุกๆ รุ่น คราวนี้ไม่ว่าจะมีแอพเยอะแค่ไหน หรือถ่ายวิดีโอมากเท่าไหร่ iPhone 7 ก็รับไหว จริงๆ เชื่อเรา
ระบบเสียง
– iPhone วันนี้กับเสียงสเตอริโอ ระบบลำโพงสเตอริโอแบบใหม่ดังกว่า iPhone 6s สองเท่า นี่คือครั้งแรกที่ iPhone มาพร้อมลำโพงสเตอริโอที่ให้กำลังเสียงมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า และช่วงไดนามิกที่ขยายกว้างขึ้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะฟังเพลง ดูวิดีโอ หรือคุยโทรศัพท์ผ่านสปีกเกอร์โฟนด้วย iPhone 7 ก็ลองเปิดเสียงให้ดัง แล้วก็ดังขึ้นไปอีก
– EarPods พร้อมหัวต่อ Lightning iPhone 7 มาพร้อม EarPods ที่ใช้หัวต่อ Lightning แต่ถ้าคุณยังอยากใช้ หูฟังคู่เดิมก็ไม่มีปัญหา เพราะสามารถเสียบผ่านอะแดปเตอร์ที่ให้มาเพื่อแปลงเป็นแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ได้
– ขอแนะนำ AirPods AirPods ใหม่จะพลิกโฉมประสบการณ์การฟังของคุณไปโดยสิ้นเชิง เพราะถึงจะเป็นหูฟังไร้สายเล็กๆ แต่ก็อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตมากมายภายใน เพื่อผสมผสานเสียงใสชัดเจนเข้ากับความรู้สึกอิสระในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
– ไม่มีสาย ไม่มีความยุ่งยาก มีแต่ความมหัศจรรย์ล้วนๆ เพียงหยิบออกมาก็พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณแค่ใส่เข้าไปในหู ก็จะเชื่อมต่อได้เลยทันที และเมื่อพูด เสียงก็ทั้งคมทั้งชัดขอแนะนำ AirPods หูฟังที่ผสานความเรียบง่ายเข้ากับเทคโนโลยีในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความมหัศจรรย์ล้วนๆ
– หูฟังไร้สาย ในที่สุดก็คลายทุกปมความยุ่งเหยิง หลังจากตั้งค่าง่ายๆ ด้วยการแตะแค่ครั้งเดียว AirPods ก็จะเปิดโดยอัตโนมัติและเชื่อมต่ออยู่ตลอดเวลา1 ซึ่งการใช้งานนั้นก็ง่ายไม่แพ้กันเพราะหูฟังจะรู้ได้เองว่าเมื่อไหร่ที่อยู่ในหูคุณ และจะหยุดเล่นเมื่อคุณถอดออก ที่สำคัญคือ ประสบการณ์การฟังจาก AirPods จะน่าทึ่งไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าคุณจะฟังจาก iPhone, Apple Watch,iPad หรือ Mac ก็ตาม
– แตะเพื่อคุยกับ Siri พูดคุยกับผู้ช่วยส่วนตัวคนโปรดได้ง่ายๆ แค่แตะสองครั้งที่ AirPods ข้างใดข้างหนึ่งก็เปิดใช้งาน Siri ได้เลยโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ออกจากกระเป๋า
– เหตุผลที่มีชิพเล็กๆ ในหูฟังบอกเลยว่าเพียบ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสามารถสุดล้ำทั้งหมดของ AirPods ก็คือชิพ W1 ที่ออกแบบมาเฉพาะโดย Apple เพราะสามารถรับส่งสัญญาณไร้สายด้วยประสิทธิภาพสูงสุด จึงเชื่อมต่อได้ดีกว่าและถ่ายทอดเสียงได้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ชิพ W1 ยังจัดการกับการใช้แบตเตอรี่ได้ดีจนคุณสามารถฟังได้นานถึง 5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จหนึ่งครั้ง3ประสิทธิภาพระดับนี้ในอุปกรณ์ขนาดเล็กแบบนี้ รับรองว่าต้องไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนแน่ๆ
– รู้ทุกครั้งเมื่อคุณกำลังคุย อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจากเสียงสามารถบอกได้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณพูด และจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่งเพื่อกรองเสียงรบกวนรอบข้าง และให้ความสำคัญกับเสียงของคุณเป็นหลัก
– รู้ทันทีเมื่อคุณฟัง เซ็นเซอร์แบบออปติคอลและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวจากการขยับจะทำงานร่วมกับชิพ W1 เพื่อควบคุมเสียงและการทำงานร่วมกับไมโครโฟนโดยอัตโนมัติ คราวนี้ไม่ว่าจะใส่AirPods ข้างเดียวหรือสองข้างก็แน่นอนว่าดังฟังชัด อีกทั้งยังทำให้ AirPods สามารถเล่นเสียงได้ทันทีที่อยู่ในหูคุณอีกด้วย
– ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ 24 ชั่วโมง เล็กแต่ทรงพลัง AirPods นั้นเป็นหูฟังระดับแนวหน้าของวงการ ที่มาพร้อมการฟังที่นานถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังออกแบบมาให้พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ เพราะมีกล่องชาร์จที่สามารถชาร์จได้อีกหลายครั้ง รวมใช้งานได้นานกว่า 24 ชั่วโมง
หรือถ้าต้องรีบใช้ก็ไม่มีปัญหา เพราะใส่ในกล่องแค่ 15 นาที ก็สามารถฟังได้นานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว และถ้าอยากรู้ว่แบตเตอรี่เหลือเท่าไหร่ ก็เพียงหยิบ AirPods มาไว้ข้างๆ iPhone หรือถาม Siri ว่า “AirPods เหลือแบตเตอรี่เท่าไหร่” ง่ายๆ แค่นี้เอง แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง เมื่อมีกล่องชาร์จ แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน3 ชั่วโมง เมื่อชาร์จ 15 นาที
– คุณภาพเสียง ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ไม่ว่าเสียงอะไรก็ดีไปหมด ทั้งฟังเพลง ดูหนัง และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะAirPods ให้เสียงที่เต็มอิ่มในรูปแบบ AAC คุณภาพสูง และเมื่อไหร่ที่คุณอยากพูด ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่งก็จะกรองเสียงรบกวนรอบข้างในขณะที่คุณโทรศัพท์หรือคุยกับ Siri
– ตั้งค่าโดยอัตโนมัติสลับใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อ AirPods จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ iPhoneและ Apple Watch ได้พร้อมกันอีกด้วย คุณจึงสามารถสลับสัญญาณเสียงระหว่างอุปกรณ์ได้ทันทีแล้วถ้าอยากฟังจาก Mac หรือ iPad ล่ะ ก็แค่เลือก AirPods จากอุปกรณ์นั้นๆ ก็เรียบร้อย
Wi-Fi และระบบเซลลูลาร์
– ระบบไร้สายเร็วสุดแรง พร้อมการโรมมิ่งที่ดีที่สุดทั่วโลก iPhone 7 มาพร้อม 4G LTE ที่รองรับได้สูงสุดถึง 25 ย่านความถี่ LTE นับเป็นสมาร์ทโฟนที่พร้อมให้คุณใช้บริการโรมมิ่งทั่วโลกได้ดีที่สุดนั่นจึงหมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายความเร็วสูงได้มากกว่าที่เคย ซึ่งก็รวมไปถึง 4G LTE Advanced ในเวลาที่คุณต้องเดินทางไปต่างประเทศ
– การโทรผ่าน VoLTE และ Wi-Fi ทั้งเสียงใสและฟังชัด iPhone 7 รองรับการโทรคุณภาพสูงในย่านความถี่กว้างหรือ Voice over LTE ที่ให้คุณสนทนาด้วยเสียงที่คมชัดเหมือนนั่งคุยกันอยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ในกรณีที่คุณไม่สามารถใช้บริการเซลลูลาร์ได้การโทรผ่าน Wi-Fi ก็ยังช่วยให้คุณโทรออกและรับสายผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi แทนได้ง่ายๆ อีกด้วย และในวันนี้การโทรทั้งสองระบบก็ได้รับการรองรับจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
– รับสายจากแอพอย่าง FaceBook Messenger และอื่นๆ ไม่ว่าการโทรเข้านั้นจะมาจากไหน iPhone 7 ก็รับสายได้เหมือนกับการโทรแบบปกติ และคุณยังสามารถเรียกดูรายชื่อหรือใช้บริการสายเรียกซ้อนได้ด้วย
ซอฟต์แวร์
– iOS 10 กับเหตุผลที่ ทำให้ไม่มีอะไรเหมือน iPhone
สเปคเครื่อง iPhone 7 Plus
Features | iPhone 7 Plus |
วันเปิดตัว : | – 7 กันยายน 2559 |
ราคา : | – 17,900 บาท (32GB) |
– 21,900 บาท (128GB) (ณ วันที่ 31 ม.ค. 63) | |
ระบบปฏิบัติการ : | – iOS 10 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ IPS LCD |
– ขนาด 5.5 นิ้ว | |
– 3D Touch | |
– ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล | |
– Multitouch | |
– home button | |
– Display Zoom | |
– Ion-strengthened glass | |
CPU : | – Apple A10 Fusion Quad-core |
GPU : | – six-core graphics |
RAM : | – 3GB |
ความจำตัวเครื่อง : | – 32GB |
– 128GB | |
– 256GB | |
– ไม่รองรับ microSD card | |
กล้องหลัง : | – Dual 12 ล้านพิกเซล |
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.8 | |
– phase detection autofocus | |
– OIS | |
– 2x optical zoom | |
– quad-LED (dual tone) flash | |
– Geo-tagging | |
– touch focus | |
– face/smile detection | |
– HDR | |
– panorama | |
กล้องหน้า : | – 7 ล้านพิกเซล |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– Retina Flash | |
– HDR | |
– face detection | |
– panorama | |
Video : | – video 4K |
Battery : | – Li-Ion |
ขนาด : | – 158.2 x 77.9 x 7.3 มม. |
น้ำหนัก : | – 188 กรัม |
รองรับซิม : | – Nano-SIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP67 |
ระบบเครือข่าย : | – 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz, CDMA 800/1900/2100 MHz |
– 3G : HSDPA 850/900/1700/1900/2100 MHz | |
– 4G LTE | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
– Bluetooth 4.2 | |
– NFC (Apple Pay only) | |
– VoLTE | |
– FaceTime | |
– Lightning | |
– Apple Pay | |
– USB 2.0 | |
GPS : | – GPRS |
– A-GPS | |
– GLONASS | |
Sensor : | – Fingerprint |
– accelerometer | |
– gyro | |
– proximity | |
– compass | |
– barometer | |
สี : | – โรสโกลด์ |
– ทอง | |
– เงิน | |
– ดำ | |
– ดำเจ็ทแบล็ค |
*********************************************************
(28 มี.ค. 60) สวยดุ! แชร์ภาพ iPhone 7 เฉดสีแดง (Product)RED ที่ด้านหน้าเป็นสีดำสุดหรู
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่ Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เวอร์ชั่นสีแดง (Product)RED Special Edition ที่ทุกๆ การจำหน่ายจะนำไปสมทบทุนให้กองทุนโลกเพื่อสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับ HIV/AIDS และช่วยสร้างยุคใหม่ที่ปราศจากโรคเอดส์ แต่โดยรวมแล้วหลังจากเปิดตัวแฟนๆ บ่นว่าขัดใจตรงด้านหน้าที่เป็นสีขาว แทนที่จะดูสวยหรูแบบสีดำ
ล่าสุด phonearena เว็บไซต์สื่อข่าวชื่อดังได้เผยภาพคอนเซ็ปต์ iPhone 7 เวอร์ชั่นสีแดงที่ด้านหน้ามาพร้อมสีดำสุดลงตัวดูสวยดุออกมาเอาใจแฟนๆ อย่างไรก็ดีเพื่อนๆ จะต้องไม่ลืมว่าภาพดังกล่าวเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปต์เท่านั้นส่วนของจริงด้านหน้าจะเป็นสีขาว เนื่องจากโครงการ RED มีสัญลักษณ์ที่ใช้สีขาวและสีแดงนั่นเอง
ส่วนใครที่ขัดใจในส่วนนี้ทาง The Verge แนะนำให้ติดฟิล์มกระจกทับไปเลยแต่ข้อเสียอาจเห็นขอบตัวเครื่องอยู่เล็กน้อย, ใส่เคสหรือสกินสีแดง และเปลี่ยนอะไหล่กรอบหน้าจอเป็นสีดำ เป็นต้น อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนอะไหล่หน้าจอก็อาจจะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นไปอีก และการแกะแผงด้านหน้านั้นอาจจะกระทบกระเทือนไปถึงปุ่มโฮมที่ฝัง Touch ID เอาไว้ได้ ทางที่ดีใช้งานแบบเดิมๆ ก็สวยหรูอยู่แล้ว
ทั้งนี้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เวอร์ชั่นสีแดง (Product)RED Special Edition เปิดให้สั่งซื้อแล้วในประเทศไทย โดย iPhone 7 รุ่นความจุ 128GB ราคา 30,500 บาท รุ่นความจุ 256GB ราคา 34,500 บาท ขณะที่ iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB ราคา 35,500 บาท รุ่นความจุ 256GB ราคา 39,500 บาท
ชมคลิป
ชมคลิป
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.phonearena.com, www.theverge.com
*********************************************************
(23 มี.ค. 60) แกะกล่องรีวิว iPhone 7 Plus เฉดสีแดงรุ่นพิเศษ ก่อนวางขายในไทย 24 มีนาคมนี้!
หลังจากที่เปิดตัวกันไปหมาดๆ สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เฉดสีแดงรุ่นพิเศษ (PRODUCT)RED ซึ่งรายได้จะถูกนำไปสมทบทุนให้กองทุนโลกเพื่อสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับ HIV/AIDS และช่วยสร้างยุคใหม่ที่ปราศจากโรคเอดส์ ล่าสุดพบว่ามีคลิปวิดีโอแกะกล่องรีวิว iPhone 7 Plus เฉดสีแดง Special Edition จาก CNET และ Marques Brownlee ช่องชาแนลบนเว็บไซต์ YouTuber เผยออกมาให้เราได้ชมกันแบบชัดๆ เป็นที่เรียบร้อย ส่วนจะสวยงามแค่ไหนเราไปชมกันเลยค่ะ
ทั้งนี้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เฉดสีแดง (Product) RED จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่ 24 มีนาคม 2560 เวลา 22.01 น. เป็นต้นไป iPhone 7 เริ่มต้นที่ 30,500 บาท และ iPhone 7 Plus เริ่มต้นที่ 35,500 บาท เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ : http://www.apple.com/th/shop/buy-iphone/special-edition-iphone-7
ชมคลิป
ชมคลิป
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ CNET, Marques Brownlee
*********************************************************
(22 มี.ค. 60) เปิดตัว iPhone 7 | iPhone 7 Plus เฉดสีแดงรุ่นพิเศษ และ iPhone SE อัพเกรดความจุใหม่ พร้อมขายในไทย 24 มีนาคมนี้!!
หลังจากที่มีข่าวลือก่อนหน้านี้ไม่นานว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เฉดสีแดงรุ่นพิเศษ พร้อมกับ iPhone SE อัพเกรดความจุใหม่ (ดูเพิ่มเติม) ล่าสุดเป็นไปตามข่าวลือที่ว่าจริงๆ Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus รุ่น Special Editon สีแดงสดใส รวมถึงเปิดตัว iPhone SE รุ่นอัพเกรดใหม่ทั้งหมด 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ ความจุ 32GB และ 128GB เราไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ
iPhone 7 เวอร์ชั่นสีแดง
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,500 บาท
iPhone 7 Plus เวอร์ชั่นสีแดง
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,500 บาท
iPhone SE เวอร์ชั่นอัพเกรดความจุ
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 16,800 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 20,800 บาท
ทั้งนี้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เวอร์ชั่นสีแดงจะเป็น (Product) RED ที่ทุกๆ การจำหน่ายจะนำไปสมทบทุนให้กองทุนโลกเพื่อสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับ HIV/AIDS และช่วยสร้างยุคใหม่ที่ปราศจากโรคเอดส์ โดยอุปกรณ์เวอร์ชั่นใหม่ทั้งหมดนี้มีสเปคตามเดิม และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกับเปิดให้สั่งซื้อใน Apple Online Store Thailand ได้ตั้งแต่ 24 มีนาคม 2560 เวลา 22.01 น. เป็นต้นไป
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.apple.com
*********************************************************
(16 พ.ย. 59) นักวิเคราะห์ชี้! iPhone 7 จะมียอดขายลดลงต่อเนื่อง ในช่วง 2 เดือนหลังนับแต่นี้
เมื่อไม่นานมานี้สื่อข่าวต่างประเทศมีรายงานออกมาว่า Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ของ KGI Securities ได้เปิดเผยว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ขณะนี้มียอดวางจำหน่ายในตลาดในจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งคาดว่าต่อจากนี้ไปยอดจำหน่าย และความต้องการของสมาร์ทโฟนทั้งสองในตลาดสมาร์ทโฟนจะไม่สูงไปกว่านี้อีกแล้ว และในช่วง 2 เดือนหลังนับแต่นี้ก็จะเริ่มมียอดจำหน่ายที่ลดลงเรื่อยๆ
อย่างไรก็ดี Ming-Chi Kuo เปิดเผยว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ Apple จะวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้จำนวนที่น้อยลงประมาณ 5-15% เนื่องจากสเปครวมถึงดีไซน์ยังไม่ได้รับการปรับปรุง และไม่มีอะไรใหม่ๆ ความต้องการในตลาดสมาร์ทโฟนจึงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ และยังเปิดเผยอีกด้วยว่าสินค้าจะขาดตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้แม้ความต้องการจะมีไม่มาก เนื่องจากมียอดการผลิตที่จำกัด
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.macrumors.com
*********************************************************
(14 พ.ย. 59) บร๊ะเจ้า!! iPhone 7 Plus ใช้งานได้ 2 วันหน้าจอเสีย มีประกันเครื่อง AIS ก็ไม่ช่วยอะไร
หลังจากที่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เริ่มมีเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศ ก็มีเพื่อนๆ บางส่วนพบปัญหาที่แตกต่างกันออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน หรือแม้แต่ปัญหาจากผู้ให้บริการต่างๆ ที่เป็นผู้วางจำหน่ายเองก็ดี ล่าสุดอีกหนึ่งบทความจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 3528656 จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ซื้อ iPhone 7 Plus มา 2 วันแล้วหน้าจอทัชสกรีนเสีย” ซึ่งเราจะนำมาฝากให้ได้ชมกันในวันนี้
ประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางเจ้าของกระทู้ท่านนี้ได้เดินทางไปซื้อเครื่อง iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB สีดำเจ็ทแบล็คที่ช้อป AIS แห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 33,100 บาท ซึ่งทางพนักงานในช้อปได้พูดจาโน้มน้าวให้ทางเจ้าของกระทู้ซื้อประกันเพิ่มปีละ 999 บาท ที่สามารถเปลี่ยนเครื่องได้ในทุกกรณีแม้แต่อุบัติเหตุ แต่แล้วผ่านไปเพียง 2 วันเท่านั้น iPhone 7 Plus ที่เพิ่งถอยมาใหม่เกิดอาการเครื่องค้างปุ่มกดไม่ได้
หน้าจอมีปัญหารวนกระพริบแต่ทุกอย่างก็กลับมาปกติอีกครั้ง ทางเจ้าของกระทู้จึงได้เดินทางไปสอบถามที่ช้อป AIS สาขาที่ตนเองซื้อเครื่อง พนักงานแจ้งมาว่าอาจเป็นที่โปรแกรมรวน พร้อมกับให้เจ้าของกระทู้ไปติดต่อที่ iCare เพราะหากเป็นที่โปรแกรม AIS ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าของกระทู้จึงได้เดินทางไปที่ iCare ผลปรากฏว่าหน้าจอทัชสกรีนเสีย และจะต้องเปลี่ยนหน้าจอโดยเสียเงินค่าเปลี่ยน 25% ของค่าเครื่อง หรือราว 9,000 กว่าบาท
เจ้าของกระทู้จึงได้สอบถามว่าตนเองเพิ่งซื้อมาได้เพียง 2 วัน สามารถเปลี่ยนเครื่องได้หรือไม่ พนักงานจึงแจ้งว่า iPhone นั้นจะไม่มีเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วันเหมือนสมาร์ทโฟนค่ายอื่นๆ จากนั้นเจ้าของกระทู้จึงฉุกคิดได้ว่าตนเองได้ทำประกันเครื่องกับ AIS เอาไว้ จึงได้ไปติดต่อที่ช้อป AIS แต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วันด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจจากพนักงาน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นเราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ
ขอสอบถามหน่อยนะคะ คือดิฉันซื้อ iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB เครื่องสี Jet Black มาเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2559 ที่ AIS พนักงานก็แนะนำให้ซื้อประกันเพิ่มปีละ 999 บาท สามารถเปลี่ยนเครื่องได้ในทุกกรณีแม้แต่อุบัติเหตุพี่ก็จัดตามนั้น และแล้ววันนี้ 12 พฤศจิกายน 2559 อยู่ๆ เครื่องค้างปุ่มกดไม่ได้ หน้าจอรวนสักพักหน้าจอกระพริบๆ แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ
พี่เลยไปสอบถามที่ช้อป AIS พนักงานบอกโปรแกรมคงรวนให้ไป iCare ถ้าเป็นที่โปรแกรม AIS ไม่เกี่ยว ดิฉันก็ไป iCare ปรากฎกลายเป็นว่าหน้าจอทัชสกรีนเสีย iCare บอกจะส่งเปลี่ยนหน้าจอให้ ดิฉันเลยบอกว่าพี่ซื้อมา 2 วันเองนะคะไม่มีเปลี่ยนเครื่องหรอ พนักงานตอบว่า iPhone ไม่มีเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วันเหมือนเจ้าอื่นหรอก ดิฉันเลยบอกแต่พี่มีซื้อประกันของ AIS ไว้ค่ะ
พนักงานเลยให้ไปติดต่อ AIS ดิฉันไป AIS อีกรอบ พนักงานบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่าถ้าลูกค้าเคยใช้ iPhone ก็ต้องรู้สิคะว่า iPhone ไม่มีเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วันตั้งแต่ iPhone 4 ส่วนเรื่องประกันรบกวนโทรไปถามเอง คือยืนอยู่ AIS ต้องโทรอีกนะ พอโทรไปเค้าถามทำเครื่องหล่นรึเปล่า ดิฉันก็บอกเปล่าค่ะ พนักงานก็บอกถ้าคุณอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่คุณก็ต้องจ่ายค่าเปลี่ยน 25% ของค่าเครื่อง
ซึ่งเป็นเงิน 9,000 กว่าบาท คือตอนซื้อประกันไม่เห็นมีบอกเลยว่าต้องจ่าย แล้วนี่เครื่องก็เสียเองตั้งแต่โรงงาน แล้วซื้อมาแค่ 2 วันนะคะ ไม่ใช่เงินน้อยๆ 33,100 บาท สรุปดิฉันเลยก็ต้องยอมส่งซ่อมโดยไม่มีทางเลือก ไป iCare อีกรอบ พนักงานก็เล่าว่าของพี่ยังดีนะคะ 2 วัน บางคนยังไม่ 24 ชั่วโมง เครื่องก็เปิดไม่ติดละค่ะ นี่คือทางออกที่ดิฉันสมควรได้รับแล้วใช่มั้ยคะ กลายเป็นความซวยของลูกค้าสินะคะ
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของลูกค้าเลย ตอนขายพยายามโน้มน้าวให้ซื้อ พูดดี แต่รายละเอียดหมกเม็ด พอซื้อไปแล้วเครื่องมีปัญหาก็รีบปัดความรับผิดชอบ พูดจาด้วยน้ำเสียงที่แย่มากๆ และทำท่าทางดูถูกลูกค้าว่าไม่มีความรู้พอนี่เหรอคะพนักงาน AIS ที่งงมากคือถ้าซื้อเครื่องที่ iStudio สามารถเปลี่ยนเครื่องได้ภายใน 14 วัน แต่ถ้าซื้อที่อื่นเปลี่ยนไม่ได้คืออะไร เครื่องเหมือนกันแต่สิ่งที่ได้รับไม่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างเขียนนโยบายมาเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง โดยไม่สนใจผู้บริโภคว่าจะได้รับความเดือดร้อนยังไง เงินทองไม่ได้หามาง่ายๆ นะคะเห็นใจกันบ้าง
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 3528656 จาก www.pantip.com
*********************************************************
(7 พ.ย. 59) ซื้อ iPhone 7 Plus กับช้อปค่ายดัง โดนรูดเงินเกินไป 2 รอบ สุดท้ายต้องตามเรื่องเอง!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สำหรับท่านใดที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตของธนาคารต่างๆ แล้วไม่ได้สมัคร SMS แจ้งเตือนเวลามีการทำธุรกรรมการเงินจะต้องไม่พลาดบทความที่เราจะนำมาฝากกันในวันนี้โดยเด็ดขาด ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปพบกระทู้บทความของ คุณ สมาชิกหมายเลข 1844701 จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ซื้อ iPhone 7 Plus โดนรูดเงินเกินไป 2 รอบ จนป่านนี้ยังไม่ได้เงินคืน เสียเวลา เสียความรู้สึก!!! ”
เรื่องมันเกิดเมื่อ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของกระทู้ท่านนี้ได้เดินทางไปซื้อ iPhone 7 Plus ที่ช้อปบริการชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยใช้บัตรเดบิตของธนาคารหนึ่งรูดซื้อ แต่ปรากฏว่าพนักงานของช้อปดังกล่าวได้ทำการรูดไปทั้งหมด 2 ยอด แต่พนักงานก็ยังยืนยันว่าไม่มีรายการแจ้งว่ารูดออกไปทั้ง 2 รอบ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อตรวจสอบดูในแมสเสจข้อความ และแอพฯ ของธนาคารที่ใช้อยู่ ก็พบว่ามีการตัดยอดออกไป 2 รายการจริงๆ
ทางด้านพนักงานจึงได้ติดต่อไปยังธนาคารที่เป็นเจ้าของเครื่อง สุดท้ายเจ้าของกระทู้ได้ใบคอนเฟิร์มการคืนยอดเงินมา จนผ่านไปหลายวันก็ยังไม่ได้คืน จนกระทั่งเจ้าของกระทู้ต้องเดินทางไปแจ้งเรื่องกับธนาคารที่ตนเองใช้อยู่ ทำให้เจ้าของกระทู้เสียเวลา และเสียความรู้สึกเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และหากไม่สมัคร SMS แจ้งเตือนไว้ก็คงไม่มีหลักฐานยืนยันว่าถูกตัดยอดไป 2 ครั้ง ส่วนเรื่องราวจะลงเอยอย่างไรเราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ
อันนี้เป็นโพสต์ที่จอยโพสต์ลงในแฟนเพจเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559
จะซื้ออะไร ต้องดูให้ดี! เรื่องมีอยู่ว่าาา… เมื่อวันก่อน 27 ตุลาคม 2559 เวลาประมาณบ่าย 2 ไปซื้อ iPhone 7 Plus สีโรสโกล์ด ความจุ 256GB ที่ TrueMove H สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
โดยใช้เป็นบัตร Debit ของกสิกรรูดซื้อ แล้วพนักงานทำการรูดไป 2 ยอด โดยมันมีแมสเสจเด้งว่าตัดยอดไปทั้ง 2 ยอด
จอยเลยบอกพนักงานนางก็บอกว่าเครื่องรูดไม่มีรายการว่ารูด 2 รอบ มีแค่รอบเดียว จอยเลยให้ดูแมสเสจ และเช็คในแอพฯ กสิกรให้ดู และทำการโทรเช็คยอดกับธนาคาร ซึ่งก็ออก 2 ยอดจริงๆ
พนักงานทรูเลยติดต่อธนาคารกรุงเทพ ที่เป็นเจ้าของเครื่องรูด เสียเวลาแบบมากๆ สุดท้ายทางธนาคารกรุงเทพให้ใบคอนเฟิร์มการคืนยอดเงิน และบอกจะคืนยอดภายในเช้าพรุ่งนี้ แล้วพนักงานทรูก็ให้เบอร์ 086-3336003 บอกว่าถ้าเงินยังไม่เข้าติดต่อมาได้เลยนะคะ
ดีออก!!! จนตอนนี้ยอดก็ไม่เข้า โทรก็ไม่รับ โทรไป TrueMove Call Center ก็ไม่คืบหน้า ล่าสุดต้องมาแจ้งเรื่องที่กสิกร ความผิดใครตอบสิ! มันรูด 2 ครั้ง เวลาต่างกัน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแมสเสจธนาคารนี่จำเป็นนะ แล้วคำยืนยันจากปากพนักงาน พร้อมเบอร์โทรนี่เชื่อไม่ได้ใช่มั๊ย?
ล่าสุดทางด้านเจ้าของกระทู้ได้มาอัพเดตข้อมูลดังนี้ค่ะ
อัพเดทความคืบหน้านะคะ ตอนนี้ได้เงินคืนเรียบร้อยแล้ว โดยมีทางธนาคารกรุงเทพโทรมาแจ้งว่าได้ประสานงานกับทางกสิกรแล้ว แล้วทางกสิกรได้คืนยอดให้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 เวลา 01.33 น. รบกวนลูกค้าเช็คย้อนให้หน่อยเพราะทางเราไม่สามารถตรวจสอบได้ จอยก็แบบ เอ้า!! แล้วทำไมทางกสิกรไม่แจ้งอะไรเลย
แม้กระทั่งแมสเสจก็ไม่มี (ซึ่งปกติ SMS ขยันบอกจัง แต่ทีงี้ไม่มี) ไม่มีการโทรแจ้งใดๆ ทั้งๆ ที่เราเองต้องถ่อไปดำเนินการด้วยตัวเองที่สาขา แล้วธนาคารกรุงเทพก็มาบอกให้รอเช็คยอดในเช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนพนักงานทรูคนนั้นก็หายไปเลย เออดี แต่หลังจากได้ตั้งกระทู้ ทุกๆ ที่ก็แสดงความรับผิดชอบดีค่ะ
เริ่มจากทรูโดยมีทางผู้จัดการสาขาใช้เบอร์ส่วนตัวโทรมาเองเลย เพื่อให้จอยสามารถตามเรื่องได้ แต่นางก็บอกว่าแต่ไม่อยากให้ลูกค้าต้องตามอีกจะเร่งตามให้ค่ะ ด้านธนาคารกรุงเทพก็มีการประสานงานติดต่อกับทางธนาคารกสิกร ไม่งั้นคงไม่มีทางรู้ว่ายอดโอนมาแล้ว ส่วนธนาคารกสิกรก็มีตอบกลับมาให้บอกรายละเอียดอย่างที่ทุกคนเห็น แต่ไม่มีการโทรมาเจรจาหรือแจ้งข้อมูลใดๆ จบข่าวค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ให้คำแนะนำที่คอยเอาใจช่วย ถ้าไม่ได้พันทิป และทุกคนในนี้ จอยคงไม่ได้ความกระจ่างจากหน่วยงานใดๆ เลย ทิ้งท้ายนิดนึง คืออยากให้ทุกหน่วยงานดูแล และคอยติดตามความผิดพลาดให้มากกว่านี้ค่ะ มันเสียเวลา และเสียความรู้สึก
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 1844701 จาก www.pantip.com
*********************************************************
(3 พ.ย. 59) ผู้ใช้งานโวย iPhone 7 Plus ใช้งานราว 1 สัปดาห์ ตัวเครื่องสีลอกซะแล้ว!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผู้ติดตาม 9thaiphone ทุกท่าน ต้องยอมรับเลยว่าหลังจากที่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เข้ามาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ผู้ใช้งานหลายรายมักจะประสบปัญหาที่แตกต่างกันออกไป อาทิ หน้าจอเกิดเป็นเส้นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ, เครื่องรีเซ็ตเองบ่อยครั้ง, เครื่องสมาร์ทโฟนโก่งไม่สามารถติดฟิล์มกันรอยได้ หรือแม้กระทั่งปัญหาสีลอกง่ายด้วยเช่นกัน
ล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เราได้ไปพบกระทู้บทความหนึ่งของคุณ physics_boy จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ยังตามมาหลอกหลอน!! iPhone 7 Plus” ซึ่งเราจะขอนำมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เนื้อหาภายในบทความเจ้าของกระทู้ได้มาเล่าประสบการณ์การใช้งาน iPhone 7 Plus ที่เพิ่งซื้อมาได้ราว 1 สัปดาห์
ในตอนแรกเจ้าของกระทู้ได้ใช้งาน iPhone 6s Plus ตัวเครื่องสีทองเป็นระยะราวเวลา 9 เดือน แล้วพบว่าตัวเครื่องประสบปัญหาสีลอกจึงได้ติดต่อขอเคลมไปที่ Apple สิงคโปร์ และเมื่อได้เครื่องใหม่มาจึงรีบขายต่อทันที จากนั้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมทีผ่านมาเจ้าของกระทู้ได้ซื้อ iPhone 7 Plus เครื่องใหม่มาใช้งาน แต่เมื่อใช้งานได้ราว 1 สัปดาห์ ก็พบปัญหาตัวเครื่องสีลอกเช่นเดิมขึ้นอีก เราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ
ตอนแรกใช้ iPhone 6s Plus สีทองครับ ใช้ได้ 9 เดือนสภาพเป็นแบบนี้ครับ หลังจากนั้นผมก็โทรไป Apple สิงคโปร์แล้วเคลมครับ ได้เครื่องใหม่เลยรีบขายกลัวลอกอีก
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ได้ถอย iPhone 7 Plus มาครับ และแล้ววันนี้แค่อาทิตย์เดียวเอง ผมกะจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ iPhone 7 Plus ตอนแรกคิดว่าเศษอะไรติดที่ตรงลำโพงด้านล่าง ลองใช้นิ้วแคะดูตกลงเป็นสีที่ลอกครับ ยังตามมาหลอกหลอนอีกครับ!!
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ physics_boy www.pantip.com
*********************************************************
(31 ต.ค. 59) โหดแท้! iPhone 7 Plus ซื้อไม่ถึง 5 นาที ทำเอาชีวิตทั้งวันวุ่นวายสุดๆ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ดูเหมือนว่าช่วงนี้ผู้ใช้งาน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในประเทศไทยบางส่วนจะเริ่มพบปัญหาในตัวสมาร์ทโฟนกันบ้างแล้ว ล่าสุดเราไปพบกระทู้บทความของ คุณ SinGleNeSS จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “ซื้อ iPhone 7 Plus ไม่ถึงห้านาที เกิดเรื่องวุ่นวายในชีวิตสุดๆ” ซึ่งเราจะขอนำมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้
เริ่มเรื่องจากการที่เจ้าของกระทู้ท่านดังกล่าวได้เดินทางไปซื้อ iPhone 7 Plus ตัวเครื่องสีดำรุ่นความจุ 128GB ที่ร้านเทเลวิชสาขาหนึ่งในราคา 32,XXX บาท พนักงานที่ร้านได้จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพโดยที่เจ้าของกระทู้ไม่ได้เช็คตัวเครื่องด้วยตัวเอง โดยเจ้าของกระทู้ให้เหตุผลว่าถึงเช็คไปตนเองก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าเครื่องมีปัญหาอะไร
จากนั้นพนักงานได้พาเจ้าของกระทู้ไปติดฟิล์มกันรอยที่ร้านข้างๆ ช็อปเทเลวิช แต่ปรากกว่าครั้งแรกนั้นไม่สามารถติดฟิล์มกันรอยได้ จึงได้เปลี่ยนแผ่นใหม่แล้วก็มาพบว่าตัวเครื่องนั้นโก่งทำให้ไม่สามารถติดฟิล์มได้ เจ้าของกระทู้จึงได้แจ้งไปยังพนักงานในช็อปเทเลวิชถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่ซื้อมาไม่กี่นาที
ทางด้านพนักงานจึงได้แจ้งกับทางเจ้าของกระทู้ว่าจะต้องนำเครื่องไปเคลมที่ iCare เจ้าของกระทู้จึงรับคำไปแบบงงๆ จากนั้นจึงได้เดินทางไปยังร้าน iCare โดยทางร้านแจ้งว่าอาการนี้ต้องส่งซ่อมอย่างเดียวใช้ระยะเวลา 7-14 วัน ทั้งๆ ที่เครื่องราคา 3 หมื่นกว่าบาทซื้อมาในระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ต้องส่งซ่อมเสียแล้ว… เจ้าของกระทู้จึงได้ติดต่อไปยังร้านเทเลวิชแต่ทางร้านก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ให้ได้เลย เราไปชมบทความนี้กันเลยค่ะ
ก่อนอื่นเลยนี่เป็นกระทู้แรกของเจ้าของกระทู้หากสะกดคำผิดขออภัยไว้ที่นี้ด้วย มือถือเจ้าของกระทู้ที่ใช้ปัจจุบันอายุกว่า 3 ปี มีค้าง มีรวน ตามอายุ ดังนั้นจึงคิดว่าอยากซื้อใหม่ โดยเลือกจากเครือข่ายสีเขียวเดิมที่ใช้อยู่เกือบ 10 ปี เมื่อวันเสาร์ 29 ตุลาคม 2559 ได้ไปติดต่อที่ร้านเทเลวิซ สาขา บิ๊กซี วงสว่าง เวลา 11.00 น.
ได้ซื้อ iPhone 7 Plus สีดำ 128GB จ่ายเงินสดไป 32,XXX บาท น้องก็จัดการทำอะไรให้เสร็จสรรพ โดยที่ผมก็ไม่ได้ตรวจเครื่องเลยด้วยซ้ำ ซึ่งถึงตรวจก็คงไม่ทราบอยู่ดีว่าเครื่องมีปัญหา พอรับเครื่องมาน้องก็พาไปติดฟิล์มร้านข้างๆ Shop เลย ติดอันแรกติดไม่ได้ พนักงานคิดว่าเป็นที่ฟิล์ม กันรอย
เปลี่ยนแผ่นใหม่ติดไม่ได้ดี ปรากฏว่าเครื่องโก่งทำให้ติดฟิล์มไม่ได้เรียกน้องร้านเทเลวิชมาดู น้องแจ้งว่าพี่แจ้งเคลมกับร้าน iCare ของ Apple เลย เราก็งงๆ ได้แต่โอเคเดี๋ยวไปที่ร้าน iCare วันเดียวกันเวลา 17.30 น. ที่ร้าน iCare แจ้งว่าอาการนี้ต้องส่งซ่อมอย่างเดียวใช้เวลา 7-14 วัน เฮ้ยของซื้อมายังไม่ข้ามวันต้องซ่อมและรอเลยหรอ โทรกลับไปที่ร้านเทเลวิชนี่คือบทสนทนาระหว่างผม และผู้จัดการร้านนั้น
ผู้จัดการ: ทางร้านไม่มีนโยบายคืนเงิน หรือเปลี่ยนเครื่อง เนื่องจากลงทะเบียนเครื่องไปแล้ว
เจ้าของกระทู้: ผมเพิ่งซื้อนะครับ และออกจากร้านคุณไม่ถึง 5 นาที ผมก็เจอปัญหา น้องในร้านก็เป็นคนบอกให้ผมไป iCare ผมต้องเสียเวลาขับรถมาเคลมเอง แต่เคลมคือซ่อมรอ 7-14 วัน ผมรับไม่ได้เลย
ผู้จัดการ: งั้นคุณต้องโทรหา CC แล้วแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางร้านไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เจ้าของกระทู้: สรุปผมต้องตามเองทุกอย่างเลยหรอ นี่ผมก็มาที่ iCare ตามที่น้องคุณแจ้ง ทำไมคุณไม่ประสานงานภายในกันเองว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะจัดการยังไง มาให้ลูกค้าจัดการเอง ซื้อก็จ่ายเงินทันที แล้วก็พบว่าของมีปัญหา คุณควรจะรับคืนแล้วไปจัดการต่อเองภายใน ไม่ใช่ผลักภาระให้ลูกค้าดำเนินการเองนี่หรอ
ผู้จัดการ: คุณต้องโทรหา 1175 เองครับ ทางนั้นจะดำเนินการให้คุณเอง
วันเดียวกันเวลา 18.30 น. โทรหา CC แจ้งว่าจะประสานงานให้จบของวันนี้ เสียเวลาไปหา iCare หมดไปหนึ่งวัน ยังไม่สามารถใช้เครื่องได้ วันที่ 30 ตุลาคม 2559 เวลา 7.30 น. มี SMS แจ้งว่าประสานงานให้แล้วจะติดต่อกลับภายในวันนี้ เวลา 14.00 น. โทรไปหา CC แจ้งว่ายังไม่มีเจ้าหน้าติดต่อมาเลย ทาง CC แจ้งว่าจะเร่งดำเนินการให้ภายในวันนี้ เวลา 17.00 น คุณธนัชชัย ซึ่งเป็นผู้จัดการร้านเทเลวิช สาขา บิ๊กซี วงสว่าง โทรกลับมาหาผมตามบทสนทนาด้านล่าง
ผู้จัดการ: ขออธิบายเรื่องเครื่อง iPhone มีความโค้งทำให้ไม่สามารถติดฟิล์มกระจกได้ เป็นค่ามาตรฐานจากผู้ผลิต
เจ้าของกระทู้: อันนี้ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการนะครับ ผมต้องการแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่อธิบายเรื่องค่ามาตรฐาน สรุปผมต้องโทรหา CC ดำเนินการใหม่ต่อเองใช่มั้ย
ผู้จัดการ: ใช่ครับ ทางร้านไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ
เวลา 17.30 น. โทรหา CC ทาง CC แจ้งว่าให้ไปติดต่อที่ Shop จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ จบแบบไม่สามารถทำอะไรได้ ผมต้องเดินทางไป Shop เอง ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่เสนอแนะมาครับ เรื่องตรวจสอบยอมรับว่าไม่ได้ตรวจ ถึงตรวจก็คงไม่ทราบและไม่กล้าที่จะเสี่ยงทำอะไร โดยการหมุนนะครับ กลัวเกิดรอยเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมา ส่วนเรื่องเอาไม้บรรทัดทาบได้ลองแล้วครับเห็นเป็นช่อง
ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นมาตรฐานที่ยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากมันโค้งเว้าด้านเดียว อันนี้ทาง Shop รับเครื่องไปแล้วครับ ซึ่งทาง Shop AIS ก็ดูแลให้ผิดกับเทเลวิชจริงๆ ถ้าแย่ขนาดนี้จะมีเทเลวิชทำไมให้เสียชื่อบริษัท และเข้าใจนะครับว่าผมไม่หาข้อมูลสินค้าหรือการซื้อผ่านทาง Operator เพราะผมไม่มีเวลาศึกษา
และคิดว่า Apple ควรมีมาตรฐานในการผลิต ผมพลาดจุดนี้เองเนื่องจากประสบการณ์ตรงเคยซื้อ iPhone 4s แล้วจอเหลือง ทางค่ายสีฟ้าเปลี่ยนเครื่องให้เลย ต่อนะครับทาง Shop AIS รับเรื่องเพราะเห็นตรงกันว่าตัวเครื่องอาจจะไม่ได้มาตรฐาน ใช้เวลาดำเนินการ 14 วัน ซึ่งทาง Shop ก็พยายามที่จะช่วยเหลือผม ผิดกลับที่เมื่อวานผมต้องดำเนินการเองทุกอย่าง
สุดท้ายผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะมาอัพเดทต่อนะครับ สุดท้ายที่มาตั้งกระทู้แรกเลยเนื่องจากอยากแชร์เรื่องราวประสบการณ์ตรงที่ประสบมา และขอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากท่านอื่น เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเจอในการซื้อมือถือที่คิดว่าดีที่สุดในตอนนี้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ หากมีข้อเสนอแนะยินดีรับฟังเพื่อเป็นความรู้ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ SinGleNeSS จาก www.pantip.com
*********************************************************
( 25 ต.ค. 59) ตัวอย่างภาพถ่ายจากของ Portrait Mode บน iPhone 7 Plus หลังอัพเดต iOS 10.1
ขณะนี้ Apple ได้ปล่อยอัพเดต iOS เป็นเวอร์ชั่น 10.1 แล้ว ซึ่งเพิ่ม Portrait Mode ให้กับ iPhone 7 Plus ให้ได้ถ่ายภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพจากกล้องคู่ด้านหลัง ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้สวยงามเป็นธรรมชาติ ถือเป็นจุดขายที่สำคัญของ iPhone 7 Plus ที่เหนือชั้นกว่าสมาร์ทโฟนคู่แข่งหลายรุ่นในตลาดระดับบน (ราคาเกิน 20,000 บาท)
จากภาพเปรียบเทียบก่อนอัพเดต iOS ซึ่งยังไม่มี Portrait Mode กับหลังอัพเดตและถ่ายภาพด้วย Portrait Mode จะเห็นได้ว่าวัตถุในภาพถ่ายมีความคมชัดเหมือนเดิม แต่ละลายฉากหลังได้เบลอสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ขอบวัตถุด้านหน้าไม่ฟุ้ง โดยรวมดูเนียนตา น่าพอใจ
เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายกัน
สวยงามขนาดนี้ ทำเอาหลายคนอยากได้ iPhone 7 Plus กันขึ้นมาทันที เพราะถ่ายภาพได้สวยใกล้เคียงกับกล้องถ่ายรูปแบบเปลี่ยนเลนส์ได้
บางคนที่กำลังลังเลว่าจะเลือก iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus ดี เห็นตัวอย่างภาพถ่ายล่าสุดในบทความนี้แล้ว น่าจะตัดสินใจได้ไม่ยาก เพราะ iPhone 7 Plus ถ่ายภาพได้สวยกว่า หน้าจอความละเอียดสูงกว่า แบตเตอรี่อึดกว่า ใช้งานได้เกินหนึ่งวัน ไม่ต้องพก Power Bank กับราคาที่เพิ่มขึ้นไม่มาก ก็ถือว่าคุ้ม หากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้
*********************************************************
(25 ต.ค. 59) รู้หรือไม่? iPhone 7 ที่ใช้โมเด็ม Intel คุณภาพด้อยกว่าโมเด็ม Qualcomm พร้อมบอกวิธีเช็คง่ายๆ
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ต้องบอกเลยว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้นผลิตออกมาโดยใช้ชิปโมเด็มรับสัญญาณ LTE ที่แตกต่างกัน โดย Apple เลือกใช้ชิปของค่าย Intel และ Qualcomm ที่มีความแตกต่างกันตามการผลิตในแต่ละล็อต (มีความคล้ายกับการที่ Samsung เลือกใช้ชิป Snapdragon และ Exynos เพื่อวางจำหน่ายในภูมิภาคที่ต่างกัน)
ล่าสุดได้มีการเปิดเผยข้อมูลผลการทดสอบประสิทธิภาพของชิป Intel และ Qualcomm ที่ถูกใช้อยู่บน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ออกมาให้เราได้ทราบกันแล้ว โดยพบว่าชิปโมเด็มของทั้ง 2 ค่ายนี้มีความแตกต่างกันไม่น้อยเลยทีเดียว จากรายงานระบุว่า iPhone 7 เครื่องเปล่านั้นใช้ชิปโมเด็ม Qualcomm MDM9645M แต่บางล็อตโดยเฉพาะรุ่นที่มีการล็อคเครือข่ายมือถือจะใช้โมเด็ม Intel XMM7360
ทางเว็บไซต์ Cellular Insights ได้ลองนำโมเด็มทั้งสองค่ายนี้มาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการรับส่งสัญญาณ LTE band 4, 7 และ 12 (ความถี่ 1700MHz, 2600MHz และ 700MHz) ผลปรากฏว่าโมเด็ม Intel และ Qualcomm ที่ใช้อยู่ใน iPhone 7 Plus สามารถรับส่งสัญญาณได้ดีพอกันในที่สัญญาณแรงๆ แต่ทว่าในที่ที่สัญญาณอ่อนกลับพบว่าโมเด็ม Qualcomm สามารถทำความเร็วได้มากกว่าของ Intel
และเมื่อเปลี่ยนมาทดสอบบน band 4 โมเด็ม Qualcomm ก็ยังมีประสิทธิภาพการทำความเร็วได้ดีกว่าโมเด็ม Intel เช่นเดียวกัน และเมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วพบว่า Qualcomm มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า Intel ประมาณ 30% (จากกราฟ) สำหรับการเช็คว่า iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus ที่ใช้อยู่นั้นใช้ชิปของค่ายไหน สามารถเข้าไปหาคำตอบได้ที่ Settings (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > About (เกี่ยวกับ) > Legel (ทางกฏหมาย) > Regulatory (กฎเกณฑ์) แล้วเลือกดูที่เลขโมเดลด้านบนสุดค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.tmonews.com, www.macrumors.com, cellularinsights.com
*********************************************************
(24 ต.ค. 59) ซื้อ iPhone 7 Plus จากร้านดังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเครื่องมีปัญหา พนักงานตอกกลับ! “ไปฟ้องเอาค่ะ”
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่ Apple ได้วางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อศุกร์ที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผู้ใช้งานต่างๆ ที่ได้รับเครื่องแล้วจะมาแชร์ประสบการณ์กันมากมายทั้งในส่วนที่ดีและไม่ดี ล่าสุดอีกหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับลูกค้าเมื่อมีกระทู้บทความหนึ่งของคุณ Pannie Pan P จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “iPhone 7 Plus มีปัญหา… ทำแบบนี้ก็ได้หรอคะ?”
ซึ่งเราจะขอนำมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เริ่มเรื่องจากการที่เจ้าของกระทู้ท่านนี้ได้ไปซื้อ iPhone 7 Plus เครื่องสีดำรุ่นความจุ 32GB จากร้านค้าดังสาขาหนึ่งในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากเช็คเครื่องตามใบเช็คลิสต์ที่พนักงานได้ยื่นให้ ในขณะเช็คเครื่องอยู่ที่ร้านก็ไม่พบปัญหาใดๆ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านก็เกิดกรณีตัวเครื่องทำการรีเซ็ตเครื่องเองโดยอัตโนมัติ
รุ่งเช้าเจ้าของกระทู้จึงได้นำเครื่องไปติดต่อร้านที่ตนเองได้ซื้อมาเพื่อขอให้ทางร้านช่วยแก้ไขให้ ทางพนักงานจึงได้ทำการรีเซ็ตเครื่องให้ใหม่เหมือนเพิ่งซื้อครั้งแรก เมื่อเสร็จสิ้นแล้วเจ้าของกระทู้ได้ยืนเช็คเครื่องอยู่พักใหญ่ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก จนเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบปัญหาเดิมอีกครั้ง เจ้าของกระทู้จึงได้โทรไปสอบถามที่สาขาดังกล่าวถึงกรณีเครื่องรีเซ็ตเองหลายรอบ พร้อมขอคำแนะนำว่าควรจะทำอย่างไรดี
ทางพนักงานปลายสายกล่าวว่าเจ้าของกระทู้จะต้องส่งเครื่องไปซ่อมที่ iCare (ซื้อมาไม่กี่วันส่งซ่อมศูนย์แล้วหรอคะ?) ใช้ระยะเวลาราว 1 เดือน และการขอเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วันก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขตามที่กำหนดในใบเช็คลิสต์ด้วย สรุปแล้วไม่สามารถทำอะไรได้เลยค่ะต้องส่งซ่อมที่ iCare อย่างเดียวเท่านั้น จากนั้นเจ้าของกระทู้ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แฟนตนเองฟัง แล้วจึงได้ตัดสินใจว่าจะส่งเครื่องไปที่ iCare
แต่ทางแฟนเจ้าของกระทู้จึงได้ขอเบอร์เพื่อโทรไปสอบถามอีกครั้งปรากฏว่าก็ได้คำตอบแบบเดิมเช่นเดียวกัน โดยพนักงานระบุว่าเป็นนโยบายของทางบริษัทที่ไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องให้ได้ พร้อมกับถามมายังแฟนเจ้าของกระทู้ด้วยว่าได้อ่านในใบเช็คลิสต์หรือไม่ เพราะในใบกระดาษดังกล่าวมีระบุไว้แล้วว่าถ้าเสียบซิมแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องได้
และจะรันประกันทันทีที่เสียบซิม ซึ่งเสียงปลายสายยังระบุมาอีกด้วยว่าจะฟ้องก็ไปฟ้องเลยค่ะ และได้บอกชื่ออีเมลที่เจ้าของกระทู้สามารถฟ้อง พร้อมกับย้ำด้วยว่าควรจะไปฟ้องที่ไหน เป็นเหตุให้เจ้าของกระทู้ถึงกับรับไม่ได้กับเหตุการณ์นี้ และนโยบายการตอกกลับลูกค้าของร้านค้าชื่อดัง ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้นเราไปชมเนื้อหาภายในบทความกันเลยค่ะ
ชมคลิป
เรื่องของเรื่องคือเราได้ซื้อ iPhone 7 Plus 32GB สีดำที่ i_ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _7 สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2016 ซื้อช่วงเวลาประมาณทุ่มกว่าค่ะ หลังจากเช็คเครื่องตามเช็คลิสต์ที่พนักงานให้เช็คแล้ว เครื่องก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการเช็คเครื่อง จนกลับบ้านช่วงเวลาประมาณ 4-5 ทุ่มก็เกิดเหตุการณ์ อยู่ๆ เครื่องก็รีเซ็ทเครื่องโดยอัตโนมัติซึ่งเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย จนต้องหาทางปิดเครื่องและรอเวลาเพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้ไปติดต่อให้ทางร้านช่วยแก้ไข
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากซื้อไม่เกิน 4 ชั่วโมงมันทำการรีตัวเอง
วันที่ 22 ตุลาคม 2016 พอไปถึงก็ได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่พนักงานผู้ชาย ซึ่งเค้าก็ช่วยดูเครื่องและพบว่าเครื่องยังไม่ถูกตั้งค่าใดๆ เลย พี่พนักงานชายจึงทำการเซ็ตเครื่องให้ใหม่เหมือนเพิ่งซื้อใหม่เลย (แต่เราก็บอกพี่เค้าว่าเครื่องตั้งค่าเสร็จตั้งแต่ก่อนออกจากร้านเมื่อวานนะคะ แต่กลับบ้านอยู่ๆเครื่องก็รีค่ะ)
เมื่อเสร็จแล้วพี่เค้ายังให้เรายืนลองเทสเครื่องว่ามีปัญหาอีกหรือไม่ ก็ยืนเทสอยู่สักพักใหญ่ๆไม่มีปัญหาอะไรจึงกลับออกมาจากร้าน ระหว่างทางกลับได้ทำการเล่นระหว่างทางเพื่อเช็คเครื่องตลอดเวลาไม่มีปัญหาอะไร จนกลับมาปรากฏว่าอยู่ๆ เครื่องก็ได้ทำการรีเครื่องด้วยตนเองอีกครั้ง
ชมคลิป
อันนี้คือหลังจากเพิ่งกลับจากเซ็นทรัล
จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามตามเบอร์ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ต 02- 9370422, 085 -1558196 ซึ่งได้โทรเข้าเบอร์ 02 ไม่มีพนักงานรับสาย เลยโทรเข้าเบอร์มือถือ มีผู้หญิงรับสายเวลาประมาณ 13.30 – 14.00 น.
เรา : รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ คือได้ซื้อเครื่อง iPhone 7 Plus ไปเมื่อวานค่ะ แล้วพอกลับบ้านเครื่องก็ได้ทำการรีตัวเองเป็นเวลาหลายรอบ แล้วเมื่อกี๊เพิ่งไปให้ที่สาขาเช็คค่ะ พอกลับมาก็มีอาการแบบเดิมอีก ทำยังไงได้บ้างคะ
พนักงาน : ลูกค้าต้องส่งเครื่องไปซ่อมที่ iCare ค่ะ
เรา : ต้องใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ค่ะ
พนักงาน : ประมาณ 1 เดือนค่ะ
เรา : ไม่มีทางแก้อย่างอื่นนอกจากส่งเครื่องไป iCare หรอคะ คือเราเพิ่งซื้อเครื่องไปจากคุณเมื่อวานนี้เองนะ ไม่มีทางไหนทำได้เร็วกว่านี้หรอค่ะ ทำไมนานจังใช้เวลาตั้ง 1 เดือน
พนักงาน : ถ้าเร็วกว่านั้น “ลูกค้าต้องส่งเรื่องเคลมที่ iCare เองค่ะ” เพราะว่าถ้าส่งไปที่ istudio ก็ต้องรอส่งต่อไป iCare ต่ออยู่ดี (เราเริ่มมีอารมณ์เพราะเค้าไม่คิดจะช่วยอะไรเราเลย เราเลยส่งต่อให้น้องคุยแทนแล้วบอกว่ามันทำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ)
น้อง:….. มีแบบเปลี่ยนเครื่องใน 7 วันอะไรแบบนั้นไหมคะ
พนักงาน : จะไม่รับเปลี่ยนเครื่องของ iPhone นะคะ ตามเงื่อนไขค่ะ
น้อง:….. (ในใบเสร็จด้านหลังมีเขียนเงื่อนไขการเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้ *ไว้ว่ายกเว้นสินค้า iPhone) อยากทราบว่าเพราะอะไรถึงเปลี่ยนเครื่องของ iPhone ไม่ได้คะ
พนักงาน : เพราะประกันรันไปแล้วตั้งแต่ตอนเสียบซิม ทางร้านเคลมเองไม่ได้ลูกค้าต้องทำเรื่องเคลมเอง
น้อง:….. ประกันมันรันไปตอนเสียบซิมหรอคะ เพราะทางเราไม่เคยทราบมาก่อนเลยจริงๆ ถึงเงื่อนไขข้อนี้จนกระทั่งพนักงานในสายแจ้งข้อมูล พนักงานทางร้านก็ไม่ได้แจ้งในตอนที่เช็คเครื่อง เพราะเวลาเช็คเครื่องยังไงเราก็ต้องใส่ซิม คือในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เกิดเหตุการณ์แบบเดิม ไม่มีอะไรเยียวยาได้เลยหรอ
น้อง :….. โอเคค่ะ ไม่สามารถทำอะไรได้เลยใช่มั้ยค่ะ จะได้บอกต่อคนอื่นไม่ต้องใช้บริการ ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้แฟนฟังและตัดสินใจว่าคงต้องส่ง iCare แฟนเราเลยขอเบอร์เพื่อโทรไปอีกครั้ง ปรากฏว่าแฟนโทรไปถามแต่คำตอบที่ได้ก็เป็นแบบเดิม เป็นนโยบายของทางบริษัทที่ไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องให้ได้ และถามกลับมาว่าลูกค้าได้อ่านในใบเช็คลิสต์รึเปล่าคะ ในนั้นมีบอกว่าถ้าเสียบซิมแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องได้
และจะรันประกันทันทีที่เสียบซิม (แต่ความเป็นจริงเราก็ไม่มีสมาธิที่จะโฟกัสกระดาษทุกบรรทัดขนาดนั้น เพราะถูกดึงความสนใจจากพนักงานที่เข้ามาตรวจสอบสินค้าตามใบเช็คลิสต์ ซึ่งพนักงานก็ไม่ได้แจ้งว่ามีข้อความสำคัญอื่นๆ นอกจากเช็คสภาพเครื่องตามใบเช็ค ถ้าเป็นข้อความสำคัญพนักงานน่าจะแจ้งให้ครบถ้วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เสียความรูสึกแบบนี้)
และพนักงานที่รับสายได้พูดว่าจะฟ้องก็ไปฟ้องเลยค่ะ และได้บอกชื่ออีเมลที่ให้เราไปฟ้องได้ และย้ำว่าฟ้องที่ไหนก็ได้เลยค่ะ เราไม่เข้าใจเลยค่ะบริษัทมีนโยบายให้พนักงานตอกกลับลูกค้าด้วยการให้เราไปฟ้องหรือคะ จากตอนแรกเราตัดใจจะไป iCare โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นแล้วว่าคงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้
พอหลังจากที่เราฟังแฟนเราพูดเรายอมรับค่ะว่าเราโมโหถึงข้อปฏิบัติที่เกิดขึ้น เราแค่รู้สึกว่าเราก็ทำงานบริการเหมือนกันไม่ต่างกับเค้า คิดว่าเค้าจะเข้าใจและช่วยอะไรเราได้มากกว่านี้ เช่นบอกเราก็ได้ว่าลองกลับมาดูอีกซักรอบไหมคะ ก่อนที่จะบอกเราว่าฟ้องเลยค่ะ ไปฟ้อง i _ _ _ _ _ o สาขาไหนก็ได้เข้าไปฟ้องเลยค่ะ
มันทำให้เราเสียความรู้สึกมากเลยค่ะกับการปฏิบัติที่เค้าทำ ซึ่งมันทำให้เราคิดว่าเค้าแค่จะขายอย่างเดียวพอมีปัญหา (ซึ่งปัญหาที่เกิดยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง) ก็ผลักภาระให้เราไป iCare อย่างเดียว และเราไม่รู้ด้วยว่าการใส่ซิมเป็นการรันประกันเครื่องเลย เรางงว่าถ้าไม่ใส่ซิมเราจะเช็คเครื่องยังไงเพราะพนักงานแกะเครื่องมาก็ถามหาซิมก่อนเลยว่าลูกค้ามีซิมไหม
คือถ้าเราไม่มีซิมยังไงพนักงานเค้าก็ต้องเอาซิมที่ร้านมาใส่เพื่อเช็คเครื่องให้เราอยู่ดีคือถ้าไม่ใส่ซิมก็จะเช็คเครื่องไม่ได้ แต่พอใส่ซิมประกันก็รันทันที มันดูขัดแย้งในตัวไปไหมคะ พอเรื่องเกิดขึ้นพนักงานก็อ้างถึงแต่กระดาษใบเช็คลิสต์ว่าเราได้อ่านรึเปล่า บอกเลยค่ะเราสะเพร่าเองเพราะเรามัวแต่เช็คนู่นนี่ตามพนักงานและพวกอุปการณ์เสริมอื่นๆ
ที่ไม่มีตามในใบเช็ค ตอนเช็คเรายังเช็คไม่ทันเสร็จดีพนักงานคนที่เช็คเครื่องให้เราก็ได้บอกเพื่อนเค้าว่าเคสนี้เสร็จแล้วนะ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ (เราคิดในใจคือแค่ในเช็คลิสต์เท่านี้เสร็จแล้วหรอ แล้วเรายังดูเครื่องไม่เสร็จเลย) และสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราคือเครื่องมันรีเอง มันไม่ได้ไปเกี่ยวกับลิสต์ที่เช็คตัวเครื่องเลย เรายังไม่ได้ทำอะไรมันเลยมันแค่เกิดขึ้นหลังจากกลับมาบ้านเท่านั้นเองแล้ว
และอีกอย่างใบเช็คลิสต์ก็ไม่ได้มีใบก๊อปปี้ให้เรากลับมาเลย สิ่งที่ได้คือใบเสร็จแผ่นเดียวเท่านั้น เราสามารถทำอะไรอย่างอื่นนอกจากการไป iCareไหมค่ะ เรารู้สึกว่าเค้าผลักภาระไปให้ผู้บริโภคเผชิญชะตากรรมเองค่ะ เพราะอย่างที่บอกเหตุการณ์ของเรานั้นเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลย ซึ่งถ้าเป็นผู้บริการที่ดีจริงๆ ก็ไม่สมควรจะปิดบังหรือบิดเบือนข้อมูลที่สำคัญแก่ผู้บริโภคสิคะ
ชมคลิป
อันนี้คือหลังจากที่เปิดเครื่องโดยไม่ใส่ซิมดู หลังจากเปิดได้ประมาณ 40 นาทีเครื่องก็รีตัวเองอีก เราเลยหาทางปิดหลายรอบมากกว่าจะปิดทันก่อนที่มันจะรีอีก รบกวนผู้บริหารอบรมพนักงานเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุดด้วยนะคะ ปล. มีเหตุการณ์ก่อนที่เราจะเช็คเครื่อง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพนักงานคนที่เช็คเครื่องให้เราระบุว่าต้องการเอา iPhone 7 ของเค้าเข้ามาคืนเพราะพบรอยบุบ (ตรงไหนไม่แน่ใจค่ะ)
พนักงานก็พูดกับเราและแฟนว่าผมก็ให้เค้าเช็คเครื่องแล้วนะ ดังนั้นการตรวจสอบสินค้าเบื้องต้นก็ต้องเช็คเหมือนกันไหมคะ? แล้วทำไมกรณีเราไม่ได้รับการดูแลแบบนั้นบ้างคะ หรือเพียงเพราะผู้หญิงคนนั้นถามหาผู้จัดการคะ เลยรีบจัดการรับเครื่องและคืนเงินให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างรวดเร็ว
อันนี้เป็นหลังใบเสร็จที่ไม่รับเปลี่ยนสินค้าเลย
เราจะไม่ตั้งกระทู้เลยถ้าไม่เจอพนักงานผู้หญิงคนที่รับสายพูดว่าไปฟ้องเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้ถามชื่อมาด้วย (ตอนนั้นสตั๊นมากค่ะ) ขอบคุณพี่ผู้ชายพนักงานคนที่เราเดินเข้าไปหาวันนั้นที่พยายามช่วยแก้ไขเบื้องต้นให้เราค่ะ *ก่อนติเตียนกันช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ตอนนี้เราคงไป iCare ได้อย่างเดียว แต่เพราะพนักงานแนะนำให้ไปฟ้องค่ะเราต้องดำเนินการยังไงได้บ้างคะ ด่าได้แต่อย่าแรงนะคะเจ็บมามากพอแล้วค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ Pannie Pan P จาก www.pantip.com
*********************************************************
(24 ต.ค. 59) เผยความรู้สึกหลังจับ iPhone 7 Plus จากผู้ใช้งานจริง ปัญหาเยอะใช่เล่น!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วสำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีไม่น้อยสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังดูเชิงสินค้าล็อตแรกที่วางจำหน่ายในบ้านเรา หรือกำลังหาข้อมูลซื้อสมาร์ทโฟนทั้งสองอยู่ เมื่อเราไปพบบทความหนึ่งของคุณ thainn จาก Pantip.com ที่มีชื่อบทความว่า “หลังจากได้ iPhone 7 Plus 128GB ดำด้านมาเมื่อวานนี้ มาสรุปเลยว่าเจออะไรบ้าง”
ซึ่งเราจะขอนำมาฝากให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ โดยเจ้าของกระทู้ผู้ใจดีได้มาแชร์ความรู้สึกหลังใช้งาน iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB เครื่องสีดำด้าน พร้อมทั้งแชร์ข้อดีและข้อเสียที่ได้พบเจอมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ถือว่ามีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้ออยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ว่าแล้วอย่ารอช้าเราไปติดตามเนื้อหาในบทความนี้กันเลย
Ok คงไม่ต้องบอกอะไรมากเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมาผมเป็นคนหนึ่งที่ไปเอา iPhone จากศูนย์เป็น iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 128GB ผมจะพูดถึง iPhone 7 Plus ที่ได้มาละกันว่าเจออะไรดี อะไรไม่ดีบ้าง เผื่อท่านไหนเจออะไรคล้ายๆ กันนี้
1. ได้มาทดสอบเครื่องที่ร้านแล้วไม่เจอปัญหาอะไร พอกลับถึงบ้านมา reset ค่าโรงงาน ตั้งค่า ติดตั้งอะไรนั่นนี่ สุดท้ายเข้าโหมดเปลี่ยนเสียงเรียกเข้า อ้าว เห้ย!! ลำโพงแตก ไม่แตกธรรมดานะแตกแบบเสียงกระตุกเลย ไอ้เราก็เอ๋อแดรกสิครับตอนลองที่ร้านไม่ได้ test เรื่องเสียงมัวแต่ดูตำหนิหน้าจอกับรายละเอียดอื่นๆ
เลยจัดการปิดเปิดเครื่องใหม่ ทีนี้งานงอกเครื่องเจอล็อคทั้งๆ ที่รหัสผ่านผมไม่มีทางจำไม่ได้หรอกเพราะใช้มาตั้งแต่ iPhone ก่อนหน้านี้หลายปีละเป็นรหัสเดียวกันหมด เลยรีบไปที่ร้าน ok ล้างข้อมูลปลดล็อคอะไรใหม่หมดมาลอง test ลำโพงกันกับที่ร้านปรากฏว่าหายครับเสียงแตกนั้นหายไป
2. จอเหลือง เอ่… เทียบกับ iPhone SE และ iPhone 6s plus ที่มีอยู่มันเหลืองกว่าจริงๆ แหะ ปรับอุณภูมิสีก็แล้วอะไรก็แล้วก็ยังรู้สึกว่ามันเหลืองกว่าอยู่ดี เอาเถอะคิดซะว่าถนอมสายตาแล้วกัน เอามือถือที่ผมใช้มาเรียงให้ดูเทียบเลยว่าเหลืองจริงไหม เริ่มจากซ้ายไปขวา / iPhone SE / iPhone 6s Plus / iPhone 7 Plus และ Samsung Galaxy S7 edge จะเห็นว่าพี่แกเหลืองได้โล่เลย
3. โหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอไม่มีนะครับ อัพเดทเป็น 10.3 แล้วก็ไม่มีหรือคนอื่นมีถ่ายภาพมาให้ชมหน่อย
4. เหมือนชาร์จช้าขึ้นนะ แต่ก็เข้าใจแหล่ะแบตเตอรี่มันมากกว่า iPhone 6s นิดนึง
5. การจับสัญญาณอ่อนลงมากขอบอก ทั้ง Wi-Fi และสัญญาณโทรศัพท์ ปกติ True ที่บ้านได้เต็มไม่ก็เกือบเต็มไม่ใช่ 3 ขีดแบบนี้ครับ (คาดว่าคงมีการแก้ปัญหาในทีหลัง)
6. มันหนักขึ้น!!! ไม่มีกิโลให้ชั่งครับ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หนักกว่า iPhone 6s แน่ๆ ใครมีตาชั่งลองเทียบหน่อย
7. เพิ่งเจออีกเรื่องมาหมาดๆ คือการใช้พูดแทนพิมพ์ลองกันดูครับ เหมือนมันจะหน่วงมากๆ จากเดิม iPhone 6s การพูดแทนพิมพ์นี่ข้อความมาตามเสียงเราเลย แต่ใน iPhone 7 กลับพบว่าข้อความมีการอั้น คือไม่ขึ้นจนเรากดเสร็จสิ้นนั่นแหล่ะถึงจะขึ้นประโยคที่เราพูดไป
ส่วนข้อดี
1. ไวดีสัมผัสปรู๊ดป้าด อันที่จริงก็ไม่รู้หรอกว่าไวกว่า iPhone 6s จริงไหม แค่มันเป็นของใหม่ความรู้สึกมันเลยพาไป
2 แบตเตอรี่อึดดี รอบนี้ชอบมากเทียบกับ iPhone 6s แล้วเหมือนจะอึดขึ้นมาเยอะเลย โดยเฉพาะจาก 100% ลงมา 99 % นี่หลายนาทีอยู่นะครับ
3. ถ่ายภาพ… อันนี้ขอบอกเลยปกติชอบภาพจากกล้อง Samsung มาเจอ iPhone 7 รอบนี้ถ่ายเองเทียบเองแล้วรู้สึกได้ว่า Samsung Galaxy S7 ทำออกมาได้ดีกว่าจริงๆ คือไม่นับภาพที่เขาถ่ายๆ กันในเน็ตนะครับ อันนี้คือความรู้สึกจากการใช้จริงมุมมองของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันมั้ง
4. ความสวยงามของหน้าจอยังเทียบ Samsung Galaxy S7 ไม่ได้ครับ ยิ่งใครได้เครื่องมาใช้ wallpaper ที่ติดมากับเครื่องที่เป็นสีเขียวๆ นี่จะเห็นเลยเหมือนภาพมันไม่ค่อยละเอียด ผมเลยเปลี่ยนสีดำไปตัดปัญหา
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ thainn จาก www.pantip.com
*********************************************************
(21 ต.ค. 59) สิ้นสุดการรอคอย! iPhone 7 และ iPhone 7 Plus วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สำหรับวันนี้ (21 ต.ค. 59) ฤกษ์งามยามดีที่บรรดาเหล่าสาวก Apple รอคอยได้มาถึงแล้ว เมื่อมีการวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus รวมถึง Apple Watch Series 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่โอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายในประเทศไทยอย่าง AIS, dtac และ TrueMove H
ได้เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ไปเมื่อ 7 ตุลาคม และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าไปเมื่อ 14 ตุลาคมที่ผ่านมาพร้อมกับเคาะราคาวางจำหน่ายทั้งราคาเครื่องเปล่า และราคาเครื่องพร้อมแพ็กเกจออกมาให้เราได้ทราบกันไปแล้ว ล่าสุดทางด้าน Apple Online Store Thailand ก็ได้ประกาศราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ออกมาอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกัน
พร้อมให้ผ่อนชำระ 0% นานถึง 10 เดือน (สำหรับการซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท) เพียงแค่เลือกการผ่อนชำระเมื่อทำการชำระเงิน และเลือกระยะเวลาการชำระเงิน โดยเลือกได้ 2 ธนาคารคือบัตรเครดิตของธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคาร Citibank ขณะที่ธนาคารอื่นๆ ก็สามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้ตั้งแต่ 0.69% – 0.89% นานสูงสุด 10 เดือน
ธนาคารที่ให้บริการ | ผ่อนชำระ 3 เดือน | ผ่อนชำระ 6 เดือน | ผ่อนชำระ 10 เดือน | การซื้อขั้นต่ำ |
Siam Commercial Bank | 0% | 0% | 0% | ฿5,000.00 |
Krungthai Card | 0.69% | 0.69% | 0.69% | ฿5,000.00 |
Bangkok Bank | 0.80% | 0.80% | 0.80% | ฿5,000.00 |
Kasikornbank | 0.80% | 0.80% | 0.80% | ฿5,000.00 |
Citibank | 0% | 0% | 0% | ฿5,000.00 |
Krungsri | 0.89% | 0.89% | 0.89% | ฿5,000.00 |
Thanachart Bank | – | 0.80% | 0.80% | ฿5,000.00 |
United Overseas Bank | – | 0.80% | 0.80% | ฿5,000.00 |
หากมีข้อสงสัยโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 001-800-65-6957
*สำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการอนุมัติ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://store.apple.com/th/help/payments
ราคาวางจำหน่ายจาก Apple Online Store Thailand
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,500 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,500 บาท
ทั้งนี้ ราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จาก Apple Online Store Thailand มีราคาเครื่องเปล่าเท่ากับทั้ง 3 ค่ายมือถือ ซึ่งเราได้นำเสนอไปตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้สั่งจองแล้ว (ดูเพิ่มเติม) เพื่อนๆ สามารถสั่งซื้อได้แล้วผ่านหน้าเว็บไซต์ใช้เวลาจัดส่งสินค้า 1-3 วันทำการ สำหรับใครที่ต้องการเป็นเจ้าของเครื่องสีดำเจ็ทแบล็คที่มีวางจำหน่ายเฉพาะรุ่นความจุ 128GB และ 256GB ก็คงต้องรีบกันหน่อยเนื่องจากสินค้าอาจหมดสต็อกได้
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.apple.com
*********************************************************
(16 ต.ค. 59) TrueMove H ปรับราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เท่ากับค่ายอื่นแล้ว!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่ เหล่าโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายในประเทศไทยอย่าง AIS, dtac และ TrueMove H ได้เปิดให้สั่งจอง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 21 ตุลาคมนี้ (ดูเพิ่มเติม) ซึ่งในวันนั้นพบว่า TrueMove H เปิดราคาวางจำหน่ายเครื่องเปล่าแพงกว่า AIS และ dtac ดังนี้
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,900 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,900 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,900 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,900 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,900 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,900 บาท
โดยที่ AIS และ dtac เคาะราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ถูกกว่า 400 บาท ดังนี้
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,500 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,500 บาท
จนล่าสุดทางหน้าเว็บไซต์ของ TrueMove H ได้มีการปรับราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เครื่องเปล่าให้มีราคาเท่ากับค่ายอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วดังภาพ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ truecorp
*********************************************************
(14 ต.ค. 59) มาแล้ว!! ราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ สิ้นสุดการรอคอยกันเสียทีเมื่อวันนี้เหล่าโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายในประเทศไทยอย่าง AIS, dtac และ TrueMove H ได้เปิดให้สั่งจอง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ล่วงหน้าก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 21 ตุลาคมนี้แล้ว โดยเคาะราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย แต่ด้วยเวลาที่น้อยและสินค้าที่มีจำกัดทำให้บางค่าย สินค้าถูกจองหมดในเวลาอันรวดเร็ว เราไปชมรายละเอียดของทั้ง 3 ค่ายกันเลยค่ะ
AIS
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,500 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,500 บาท
ซึ่งในขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจสั่งจอง iPhone7 และ iPhone 7 Plus ใช้สิทธิ์ครบแล้ว สำหรับลูกค้าที่พลาดการจองเครื่อง สามารถสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้ที่ AIS Online Store ตั้งแต่ 11.00 น. (สั่งซื้อโดยชำระเงินทันที ส่งฟรีถึงบ้าน)
dtac
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,500 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,500 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,500 บาท
ซึ่งในขณะนี้มีผู้สั่งจองล่วงหน้าครบตามจำนวนที่กำหนดแล้ว
TrueMove H (มีการปรับราคาวางจำหน่ายเพิ่มเติม)
ราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 26,900 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 30,900 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 34,900 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคาวางจำหน่าย 31,900 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคาวางจำหน่าย 35,900 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคาวางจำหน่าย 39,900 บาท
สำหรับ TrueMove H ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า iPhone 7 และ/หรือ iPhone 7 Plus ได้เป็นจำนวนสูงสุด 3 สิทธิ (เครื่อง) ต่อท่าน (รวมการสั่งซื้อล่วงหน้าจากทุกช่องทาง และเว็บไซต์ truemoveh/ เว็บไซต์ TrueYou) โดยยังเปิดให้สั่งจองอยู่ในขณะนี้
*** ล่าสุดทาง TrueMove H ได้มีการปรับราคาวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เครื่องเปล่าให้มีราคาเท่ากับค่ายอื่นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วดังภาพ
โดยรวมแล้ว iPhone 7 มีราคาเริ่มต้นที่ 26,500 บาท ขณะที่ iPhone 7 Plus มีราคาเริ่มต้นที่ 31,500 บาท ซึ่งราคาจำหน่ายของ TrueMove H จะสูงกว่าค่ายอื่นๆ อยู่เพียงเล็กน้อย และหากใครสั่งจองผ่านหน้าเว็บไซต์ของผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 ไม่ทัน ก็สามารถสั่งซื้อเครื่องได้โดยตรงผ่าน Apple Store Online ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และหากมีข้อมูลอัพเดทประการใดจะมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ TrueMove H, AIS, dtac
*********************************************************
(14 ต.ค. 59) iPhone 7 (128GB) บันทึกข้อมูลได้เร็วกว่า iPhone 7 Plus (32GB) หลายเท่าตัว!!
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เว็บไซต์ gsmarena สื่อต่างประเทศชื่อดังได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone 7 Plus รุ่นความจุ 32GB โดยเปรียบเทียบกับ iPhone 7 รุ่นความจุ 128GB และ iPhone 6 Plus รุ่นความจุ 64GB จากผลการทดสอบพบว่า iPhone 7 Plus (32GB) มีความเร็วในการอ่าน และบันทึกข้อมูลต่ำกว่า iPhone 7 (128GB) และ iPhone 6s Plus (64GB) อยู่หลายเท่าตัว
โดยทดสอบวัดประสิทธิภาพผ่าน Benchmark OS II อยู่หลายครั้ง กลับพบว่า iPhone 7 Plus (32GB) ได้ไม่เกิน 800 คะแนนสำหรับการทดสอบในแต่ละครั้ง ขณะเดียวกัน iPhone 7 (128GB) และ iPhone 6s Plus (64GB) สามารถทำคะแนนได้ประมาณ 1,422 และ 1,721 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้วัดประสิทธิภาพในส่วนของการบันทึกไฟล์วิดีโอ 4K ความยาว 10 นาทีอีกด้วย
โดยผลปรากฏว่า iPhone 7 Plus (32GB) ใช้เวลามากกว่า iPhone 7 (128GB) ถึง 3 เท่าในการบันทึกไฟล์วิดีโอ ทั้งยังมีความเร็วในการบันทึกข้อมูลต่ำกว่าถึง 8 เท่ากันเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีทาง gsmarena แสดงความคิดเห็นว่าหน่วยความจำอาจถูกผลิตคนละบริษัทกัน จึงอาจทำให้ประสิทธิภาพในการบันทึกข้อมูลแตกต่างกันได้
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.gsmarena.com
*********************************************************
(7 ต.ค. 59) เหตุผล 5 ข้อ!! ที่ทำให้ควรซื้อ Google Pixel XL มากกว่า iPhone 7 Plus
ก็เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานสำหรับ Google Pixel และ Google Pixel XL สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ Google เป็นผู้ผลิตเอง (ต่างจากสมาร์ทโฟนตระกูล Nexus ที่บริษัทพาร์ทเนอร์เป็นผู้ผลิตให้) มาพร้อมดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันแต่จะต่างกันที่ขนาดของหน้าจอ ล่าสุดสื่อต่างประเทศได้รวบรวมเหตุผล 5 ข้อ ที่ควรจะซื้อ Google Pixel XL มากกว่า iPhone 7 Plus ออกมาให้อ่านกันแบบเพลินๆ ส่วนจะมีเหตุผลใดบ้างนั้นเราไปชมกันเลยค่ะ
หน้าจอ Quad HD ที่มีความละเอียดสูงกว่า
Google Pixel และ Google Pixel XL มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) และความละเอียด Quad HD (2560×1440 พิกเซล) ตามลำดับ ซึ่งหน้าจอความละเอียดนี้เหมาะกับการใช้งาน VR ร่วมกับอุปกรณ์อย่าง Daydream View แต่ทางด้าน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมหน้าจอ LCD ความละเอียด HD (1280×720 พิกเซล) และความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ตามลำดับ
มีช่องแจ็คเสียบหูฟังนะ!
บางทีคุณอาจเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้คนนับล้านที่ยังต้องการใช้ช่องแจ็คเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้นถูกตัดช่องแจ็คออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อทำให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์คุณสมบัติใหม่ๆ เข้าไปได้ ทำให้ Google Pixel และ Google Pixel XL อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ช่องเสียบหูฟังแบบเก่า โดยที่ไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์หรือบลูทูธให้ยุ่งยาก
สามารถเก็บรูปภาพ และวิดีโอได้ไม่จำกัด
Google อนุญาตให้สามารถเก็บรูปภาพ และวิดีโอได้แบบไม่จำกัดจำนวนบน Google Photo ได้ฟรี โดยผู้ใช้งาน Google Pixel และ Google Pixel XL สามารถอัพโหลดภาพถ่ายและวิดีโอได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ แต่ทางด้านสมาร์ทโฟนของ Apple ได้เก็บค่าใช้จ่ายและให้พื้นที่การใช้งานในจำนวนที่จำกัดเพียง 5GB เท่านั้น
กล้องถ่ายภาพที่ดีกว่า และติดอันดับยอดนิยม
กล้องถ่ายภาพของ Google Pixel และ Pixel XL สามารถทำคะแนนการจัดอันดับสูงสุดของ DxOMark ได้สูงกว่า iPhone 7 และ Samsung Galaxy S7 edge โดยมาพร้อมกล้องความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 ขนาด 1.55 ไมครอนพิกเซล พร้อม LED flash, PDAF, LDAF สามารถถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาพแสง
มีบริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง!
บริการหลังการขายของ Google Pixel และ Google Pixel XL คือการสนับสนุนและบริการลูกค้าที่ประสบปัญหาในการใช้งานสมาร์ทโฟนทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
Google Pixel
– หน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้ว
– ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
– กระจก Gorilla Glass 4
– ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat
– CPU Snapdragon 821 Quad-Core ความเร็ว 2.15GHz
– GPU Adreno 530
– RAM 4GB
– ROM 32GB และ 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash, PDAF, LDAF
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– สนับสนุน 4G VoLTE
– รองรับ Wi-Fi 802.11ac MIMO, Bluetooth 4.2, GPS, USB Type-C
– แบตเตอรี่ความจุ 2770mAh รองรับ Fast charging
– ขนาดตัวเครื่อง 43.8 x 69.5 x 7.3 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 143 กรัม
Google Pixel XL
– หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว
– ความละเอียด 2560×1440 พิกเซล
– กระจก Gorilla Glass 4
– ระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat
– CPU Snapdragon 821 Quad-Core ความเร็ว 2.15GHz
– GPU Adreno 530
– RAM 4GB
– ROM 32GB และ 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อม LED flash, PDAF, LDAF
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– สนับสนุน 4G VoLTE
– รองรับ Wi-Fi 802.11ac MIMO, Bluetooth 4.2, GPS, USB Type-C
– แบตเตอรี่ความจุ 3450mAh รองรับ Fast charging
– ขนาดตัวเครื่อง 154.7 x 75.7 x 7.3 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 168 กรัม
ทั้งนี้ Google Pixel และ Google Pixel XL ตัวเครื่องมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเงิน (Very Silver), สีดำ (Quite Black) และสีน้ำเงิน (Really Blue) ที่เป็นสี Limited Edition สำหรับวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ $649 หรือประมาณ 22,600 บาท โดยจะเปิดให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้า 13 ตุลาคมนี้ ผ่านร้านค้า Best Buy, Verizon, Google Store ในประเทศอินเดีย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.technobuffalo.com
*********************************************************
(7 ต.ค. 59) AIS, dtac และ TrueMove H เปิดลงทะเบียน iPhone 7 พร้อมขายจริงในไทย 21 ตุลาคมนี้!
ล่าสุดวันนี้ 7 ตุลาคม 2559 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยทั้ง 3 ค่าย ได้แก่ AIS, dtac และ TrueMove H ก็เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แล้วค่ะ สำหรับการลงทะเบียนในครั้งนี้เพื่อรับสิทธิ์สั่งซื้อสมาร์ทโฟนทั้งสอง โดยทั้ง 3 ค่ายมือถือจะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 14 ตุลาคม เวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 21 ตุลาคมนี้ เราไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ
AIS
ลงทะเบียนแสดงความสนใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ AIS คลิกที่นี่
– เปิดรับลงทะเบียนแสดงความสนใจระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2559
– การลงทะเบียนนี้เพื่อแสดงความสนใจเท่านั้นไม่ใช่การจองเครื่อง
– รายการนี้เป็นการให้สิทธิ์เฉพาะลูกค้า เอไอเอสรายเดือน ประเภทบุคคลธรรมดาเท่านั้น
– สงวนสิทธิ์ 1 บัตรประชาชน / 1 หมายเลขโทรศัพท์ / 1 เครื่อง เท่านั้น
dtac
ลงทะเบียนแสดงความสนใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ dtac คลิกที่นี่
– จำกัดสิทธิ์ในการลงทะเบียนแสดงความสนใจ 1 ท่าน (เลขที่บัตรประชาชน) ต่อ 1 เครื่องเท่านั้น
– ผู้ที่ลงทะเบียนแสดงความสนใจเรียบร้อยจะรับได้รับ SMS และ email แจ้งรหัสผ่าน เพื่อใช้ในการสั่งซื้อเครื่อง ผ่าน dtac online store วันที่ 14 ต.ค. 59 เวลา 0.01-10.00 น.
– ในวันที่สั่งซื้อเครื่องผ่าน dtac online store ผู้ลงทะเบียนต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนไว้ พร้อม รหัสผ่านที่ได้รับทาง SMS และ email เพื่อเข้าสู่ระบบการสั่งซื้อเครื่อง
TrueMove H
บนหน้าเว็บไซต์ของ TrueMove H ยังไม่มีการระบุรายละเอียดให้ได้ทราบกันแต่อย่างใด เพียงแค่เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus โดยการกรอกข้อมูลต่างๆ เท่านั้น ลงทะเบียนแสดงความสนใจ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ TrueMove H คลิกที่นี่
ทั้งนี้หากเพื่อนๆ มีความต้องการที่จะซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จากค่ายมือถือข้างต้นอยู่แล้ว ก็อย่าลืมเข้าไปแสดงความสนใจและลงทะเบียนตามลิ้งค์ข้างต้นดูนะคะ แต่หากเพื่อนๆ ท่านใดสนใจจะสั่งซื้อกับทาง Apple Store Online ก็ไม่ต้องลงทะเบียน รอสั่งซื้อผ่านทางหน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
*********************************************************
(7 ต.ค. 59) กำเงินรอ!! TrueMove H เปิดจอง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ศุกร์ที่ 14 ตุลาคมนี้
TrueMove H จะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก Apple ได้แก่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ซึ่งเป็น iPhone ที่ดีที่สุดและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา และ Apple Watch Series 2 เจเนอเรชั่นใหม่ของสมาร์ทวอทช์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลกในวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2559
ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 ผ่าน www.truemoveh.com/iPhone7/Pre-order ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPhone และ Apple Watch ได้ที่ www.apple.com/th
*********************************************************
(5 ต.ค. 59) iPhone 7 Plus แบตเตอรี่บวมไม่ทราบสาเหตุ ดันแผงหน้าจอทะลัก!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ จะเรียกว่าเป็นอาถรรพ์เลข 7 ได้หรือไม่? เนื่องจากสมาร์ทโฟนจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy Note7 พร้อมกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ต่างประสบปัญหาในการใช้งานสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านจอแสดงผล ชิปเซ็ตประมวลผล เสียงสนทนา แบตเตอรี่ระเบิด จนตัวเครื่องลุกไหม้แบบไม่ทราบสาเหตุ จนกลายเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ซึ่งก็สร้างความหวาดระแวงให้กับผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อย
ล่าสุด พบอีกหนึ่งกรณีเมื่อสื่อข่าวต่างประเทศรายงานออกมาว่า iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นพี่ใหญ่ของ Apple เกิดอาการแบตเตอรี่บวมจนตัวเครื่องปริ และดันแผงหน้าจอทะลักออกมาแบบไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เกิดปัญหาตัวเครื่องระเบิดระหว่างขนส่งมาแล้วด้วย โดยภาพดังกล่าวกลายเป็นประเด็นดังที่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ My Drivers ของประเทศจีน
เป็นภาพ iPhone 7 Plus ในสภาพแบตเตอรี่บวมจนดันแผงหน้าจอทะลักมาจากตัวเครื่องอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ยังโชคดีที่ตัวเครื่องไม่ระเบิดจนลุกไหม้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าตัวเครื่องอาจตกกระแทกพื้นจนทำให้แบตเตอรี่เสียหาย แต่ก็เป็นไปได้ยากที่การตกกระแทกจะทำให้แผงหน้าจอแยกออกมา เนื่องจากเคยมีการทดสอบ Drop Test ที่ความสูง 3 เมตร หรือแม้แต่ทิ้งลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ก็ยังไม่ถึงกับหน้าจอทะลักออกมาเช่นนี้
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ bgr.com
*********************************************************
(4 ต.ค. 59) เช็คให้ชัวร์!! iPhone 7 และ iPhone 7 Plus พบปัญหาจอเหลืองในสินค้าล็อตแรก
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ OS X Daily ศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับอุปกรณ์ของ Apple ได้เปิดเผยออกมาว่ามีผู้ใช้งานบางส่วนพบปัญหา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus หน้าจอออกโทนเหลืองอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ iPhone 6s Plus พบว่ามีหน้าจอที่สว่างสดใสมากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เสียอีก
และเมื่อเข้าไปในเว็บบอร์ดของ Apple ก็พบว่ามีผู้ใช้งานที่พบกับปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยที่ผู้ใช้งานไม่ได้เปิดโหมด Night shift ถนอมสายตาขณะใช้งานช่วงกลางคืน อย่างไรนั้นยังไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่าอาการดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่ทาง Apple ก็ได้แนะนำวิธีการแก้ไขเบื้องต้นให้หน้าจอกลับมาเป็นปกติสีสันสดใสดังต่อไปนี้
เข้าไปที่ Settings (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > Accessibility (การช่วยการเข้าถึง) > Display Accommodations (การช่วยเหลือจอแสดงผล) กดเปิดให้เป็น On และเปิด Color Filters (ฟิลเตอร์สี) ให้เป็น On จากนั้นเลือก Color Tint (สีย้อม) และเลื่อนช่องปรับค่า HUE (สีสัน) ไปเรื่อยๆ เพื่อลดสีเหลืองบนหน้าจอลง และปรับความเข้มที่ช่อง Intensity จนหน้าจอแสดงสีที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ วิธีการแก้ไขปัญหาข้างต้นพบว่าสามารถช่วยลดอาการจอเหลืองได้จริง ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่ยืนยันว่าปัญหาจอเหลืองจะเป็นทุกเครื่องหรือไม่ หรืออาจเกิดจากกระบวนการผลิตในบางเครื่องเท่านั้น หากเพื่อนๆ ท่านใดซื้อใช้งานก็ขอให้ตรวจสอบกันให้ชัวร์ๆ กันก่อน เพราะหากทำเรื่องเคลมในภายหลังคาดว่าจะยุ่งยากและเสียเวลาไม่ใช่น้อยเลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ osxdaily.com, apple.com
*********************************************************
(4 ต.ค. 59) ย้ำอีกรอบ!! iPhone 7 เปิดจองในไทย 14 ตุลาคมนี้ พร้อมวางขายอย่างเป็นทางการ 21 ตุลาคม
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากเมื่อไม่นานมานี้เราได้นำเสนอข้อมูลที่ว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะมีเข้ามาวางจำหน่ายในไทย 21 ตุลาคมนี้แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือ (ที่มีน้ำหนัก) ล่าสุดมาย้ำชัดกันอีกสักรอบเมื่อเว็บไซต์ idownloadblog.com เปิดเผยว่าทาง Apple ได้ขยายการจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกไปในหลายๆ ประเทศ และหนึ่งในนั้นจะมีประเทศไทยด้วย
ซึ่งในวันที่ 7 ตุลาคม จะเริ่มวางจำหน่ายที่อินเดียและยูเครน ถัดมาในวันที่ 14 ตุลาคม จะวางจำหน่ายในมาเก๊า มาเลเซีย มาเซโดเนีย มอนเตเนโกร แอฟริกาใต้ และตุรกี จากนั้นในวันที่ 21 ตุลาคม ก็จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยและเกาหลีใต้ สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus นั้นขางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ 16 กันยายน ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และเยอรมันนี โดยมีราคาเปิดตัวดังนี้
iPhone 7
– รุ่นความจุ 32GB ราคา $649 หรือประมาณ 22,500 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคา $749 หรือประมาณ 26,000 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคา $849 หรือประมาณ 29,400 บาท
iPhone 7 Plus
– รุ่นความจุ 32GB ราคา $769 หรือประมาณ 26,700 บาท
– รุ่นความจุ 128GB ราคา $869 หรือประมาณ 30,100 บาท
– รุ่นความจุ 256GB ราคา $969 หรือประมาณ 33,600 บาท
ทั้งนี้ ราคาที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาในขณะนี้ หากมีข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมจะมาแจ้งให้ทราบทันทีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.idownloadblog.com
*********************************************************
Leave a Reply