iPhone 14 Pro Max ไอโฟน 14 โปร แม็กซ์ ราคา
iPhone 14 Pro Max ราคา 44,900 บาท (128GB), 48,900 บาท (256GB), 57,900 บาท (512GB), 66,900 บาท (1TB) (ข้อมูล ณ เดือน ส.ค. 66)
iPhone 14 Pro Max มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ 1.สีม่วงเข้ม 2.สีทอง 3.สีเงิน 4.สีดำสเปซแบล็ค
สเปกเครื่อง iPhone 14 Pro Max
| Features | iPhone 14 Pro Max |
| วันเปิดตัว : | – กันยายน 2565 |
|
ราคา :
|
– 44,900.- (128GB) |
| – 48,900.- (256GB) | |
| – 57,900.- (512GB) | |
| – 66,900.- (1TB) | |
| – (ข้อมูล ณ เดือน ส.ค. 66) | |
| OS : | – iOS 16 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED |
| – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
| – จอภาพ Super Retina XDR | |
| – ความละเอียด 2796×1290 พิกเซล | |
| – Dynamic Island | |
| – จอภาพแบบติดตลอด | |
| – ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต (กลางแจ้ง) | |
| – Always-On Display | |
| – HDR 10 | |
| – Refresh Rate 120Hz | |
| CPU : | – A16 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.46GHz |
| GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) |
| RAM : | – 6GB |
|
ROM :
|
– 128GB |
| – 256GB | |
| – 512GB | |
| – 1TB | |
|
กล้องหลัง :
|
– 48MP + 12MP + 12MP + 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.78 + f/1.78 + f/2.2 + f/2.8 | |
| – Dual Tone LED Flash (ปรับตามสภาวะ) | |
| – Auto Focus | |
| – PDAF | |
| – OIS | |
| – 6x Optical Zoom | |
| – 15x Digital Zoom | |
| – Photonic Engine | |
| – Deep Fusion | |
| – Apple ProRAW | |
| – HDR | |
| – Panorama | |
|
กล้องหน้า :
|
– 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.9 | |
| – Retina Flash | |
| – Auto Focus | |
| – HDR | |
|
Video :
|
– 4K@24/25/30/60fps |
| – 1080p@25/30/60fps | |
| – 720p@30fps | |
|
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 29 ชั่วโมง |
| – เล่นเสียงสูงสุด 95 ชั่วโมง | |
| – Fast Charging, 50% in 30 min | |
| – MagSafe Wireless Charging 15W | |
| – Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W | |
| ขนาด : | – 160.7×77.6×7.85 มม. |
| น้ำหนัก : | – 240 กรัม |
| รองรับซิม : | – Nano-SIM และ eSIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE |
| – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
| – Bluetooth 5.3 | |
| – NFC | |
| – USB Lightning | |
| – Siri | |
| – SOS ฉุกเฉิน | |
|
GPS :
|
– GPS |
| – A-GPS | |
| – GLONASS | |
| – Galileo | |
| – QZSS | |
| – BeiDou | |
|
Sensor :
|
– Face ID |
| – Accelerometer | |
| – Gyroscope | |
| – Proximity | |
| – Compass | |
| – Barometer | |
|
สี :
|
– ม่วงเข้ม |
| – ทอง | |
| – เงิน | |
| – ดำสเปซแบล็ค |
• iPhone 14 Pro วิธีใหม่ที่มหัศจรรย์ในการโต้ตอบกับ iPhone พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยใหม่ที่สำคัญ ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยชีวิตรวมถึงนวัตกรรมแห่งกล้องความละเอียด 48MP ที่ให้รายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจ และทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนด้วยที่สุดแห่งชิปสมาร์ตโฟน
• โปรยิ่งกว่าโปร iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย. เริ่มต้นที่ ฿41,900
• ออกแบบมาเพื่อความทนทาน ด้วย Ceramic Shield ซึ่งแข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ตโฟน ความสามารถในการทนน้ำ
เสริมด้วยสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม พร้อมด้วยจอภาพขนาด 6.1″ และ 6.7″ ทั้งหมดนี้มาใน 4 สีตามแบบฉบับโปร
• ทักทายหน้าใหม่ของ iPhone ขอแนะนำ Dynamic Island ที่เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมของ Apple อย่างแท้จริงเพราะเป็นทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
และทั้งสองรวมกัน ซึ่งจะเด้งเพลง ผลการแข่งขันกีฬา หรือ FaceTime และอีกมากมายขึ้นมาโดยไม่ไปขัดจังหวะสิ่งที่คุณทำอยู่
• ขอต้อนรับสู่ประสบการณ์ iPhone ที่เปลี่ยนรูปร่าง ทำหลายอย่างพร้อมกัน และพร้อมสะกดทุกสายตา เรียกได้ว่าพลิกวงการอย่างแท้จริง
Dynamic Island ผสมผสานความสนุกและฟังก์ชั่นเข้าด้วยกันในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยการนำการแจ้งเตือน การเตือน และกิจกรรมต่างๆ
มารวมไว้ในที่เดียวในแบบที่คุณโต้ตอบได้ อีกทั้งยังรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ iOS 16 และทำงานได้กับแอปทุกประเภท เพื่อแสดงสิ่งที่คุณต้องการในเวลาที่ใช่ได้อย่างไม่มีสะดุด
โดย Dynamic Island จะขยายออกอย่างไหลลื่นเพื่อเรียกความสนใจของคุณ อย่างตอนที่ทีมโปรดของคุณทำคะแนนได้ จากนั้นก็หดกลับเหมือนเดิม และยังสามารถดูการเลี้ยวครั้งต่อไปในแอปแผนที่
แตะค้างไว้เพื่อควบคุมเพลง หรือแม้แต่จับตาดูนาฬิกานับถอยหลังขณะที่กำลังพิมพ์คุยอยู่กับเพื่อนได้ ทั้งง่าย เป็นธรรมชาติ และก็เพลินตามากๆ
• จากหลายนวัตกรรมสุดล้ำสู่นวัตกรรมที่ล้ำสุด นวัตกรรมจะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อทีมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และ Silicon ร่วมมือกัน อย่างที่มีแต่ Apple เท่านั้นที่ทำได้
– ระบบกล้อง TrueDepth ที่เล็กลง 31% ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้จอภาพและมากความสามารถยิ่งขึ้น
– เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ วันนี้สามารถตรวจจับแสงได้จากหลังจอภาพ ซึ่งจะช่วยในเรื่องการประหยัดพื้นที่
– อัลกอริทึมจอภาพที่ล้ำหน้า ทำให้ Dynamic Island ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ ไม่ว่าคุณจะแตะ ปัด หรือกดค้างที่ตรงไหน
– แอนิเมชั่นออกแบบมาให้ดูและรู้สึกเป็นเหมือนของเหลว ซึ่งเป็นจริงได้ก็เพราะการลบรอยหยักด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มี Apple Silicon เป็นขุมพลัง
• จอภาพแบบติดตลอด พร้อมอยู่ตลอด นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดกับหน้าตาของ iPhone ตั้งแต่เราเปลี่ยนเป็นแบบหน้าจอทั้งหมด
วันนี้หน้าจอล็อคจะมีอะไรให้คุณเหลือบมองเสมอ เพื่อให้คุณสามารถต่อติดได้กับทุกเรื่องราวโดยไม่ต้องแตะอะไร แล้วเมื่อคุณวาง iPhone คว่ำหน้าลง
หรือเก็บในกระเป๋า หน้าจอก็จะมืดลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน แม้จะมาพร้อมความสามารถใหม่ๆ มากมาย
• รูปของคุณ ฟอนต์ของคุณ วิดเจ็ตของคุณ เพราะนี่คือ iPhone ของคุณ iOS 16 ให้คุณปรับแต่งหน้าจอล็อคด้วยวิธีใหม่ๆ ในแบบที่สนุก อย่างการวางรูปภาพซ้อนลงไปให้ดูสะดุดตา หรือติดตามวงแหวนกิจกรรม และดูอัปเดตแบบสดๆ จากแอปที่คุณใช้ประจำ
• จอภาพที่สว่างขึ้นสูงสุด 2 เท่าเมื่ออยู่กลางแดด แจ่มจริงๆ
• วันนี้จอภาพ Super Retina XDR เพิ่มความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดได้ถึง 2,000 นิต ขณะอยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่แดดจ้า
ซึ่งมากขึ้นจากเดิม 2 เท่า และยังมีความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดเหนือกว่าทุกสมาร์ตโฟน อย่าแปลกใจถ้าข้อความจะชัดเหมือนลอยออกมาจากหน้าจอ
• รูปภาพและวิดีโอ HDR ก็ได้ประโยชน์ไปด้วยแบบเต็มๆ ด้วยความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดที่เพิ่มได้ถึง 1,600 นิต ทำให้ iPhone ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับ Pro Display XDR ทีนี้ภาพยนตร์และรายการทีวี หรือแม้แต่วิดีโอที่คุณถ่ายไว้บน iPhone ก็จะดูสมจริงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
• เทคโนโลยี ProMotion ทำให้สามารถปรับอัตรารีเฟรชแบบแปรผันได้ตั้งแต่ 10 ถึง 120 ครั้งต่อวินาที โดยจะค่อยๆ เพิ่มอัตรารีเฟรชขึ้นอย่างลื่นไหล และชาญฉลาดเมื่อคุณต้องการประสิทธิภาพกราฟิกแบบเน้นๆ และปรับลดเพื่อประหยัดพลังงานเมื่อไม่ต้องการ บอกเลยว่าถูกใจคอเกมแน่นอน
• การตรวจจับการชนกันพร้อมโทรขอความช่วยเหลือเมื่อคุณไม่สามารถ
• iPhone 14 Pro สามารถตรวจจับเหตุรถชนอย่างรุนแรง และจะโทรหาบริการฉุกเฉินพร้อมกับแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ในรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของคุณ
iPhone รู้สึก ได้ยิน และประเมินว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนได้ยังไง
– การเปลี่ยนแปลงความเร็วกะทันหัน อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบแรง g สูงใหม่สามารถรับรู้เมื่อเกิดการเร่งหรือลดความเร็วฉับพลันด้วยแรง g สูงสุดถึง 256
– การเปลี่ยนแปลงทิศทางกะทันหัน ไจโรสโคปแบบช่วงไดนามิกสูงจะคอยตรวจสอบว่ารถเกิดการเปลี่ยนทิศทางแบบทันทีทันใดหรือไม่
– การทดสอบการชนในห้องปฏิบัติการ เราพัฒนาอัลกอริทึมการเคลื่อนที่ขั้นสูงจากการทดสอบการชนแบบต่างๆ ทั้งการชนด้านหน้า การชนท้าย การชนด้านข้าง และการพลิกคว่ำ
– การเปลี่ยนแปลงของค่าความดันในห้องโดยสาร บารอมิเตอร์สามารถตรวจจับค่าความดันที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
– ระดับของเสียงปะทะที่ดังอย่างรุนแรง ขณะขับขี่ ไมโครโฟนจะคอยตรวจจับระดับเสียงที่ดังมากที่เกิดจากการชน โดยจะประมวลผลข้อมูลทั้งหมดบน iPhone ของคุณเพื่อความเป็นส่วนตัว
– ข้อมูลการชนในชีวิตจริง เราใช้ข้อมูลการชนจากอุบัติเหตุต่างๆ เพื่อทำให้คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันทำงานได้ถูกต้องแม่นยำที่สุด
• ระบบกล้องระดับโปรที่โปรอย่างยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ ขอแนะนำกล้องหลักความละเอียด 48MP แบบใหม่หมด พร้อมเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ที่ล้ำสมัย
• ความละเอียดมากขึ้นสูงสุดถึง 4 เท่า ครอปแล้วครอปอีกก็ยังว้าว iPhone 14 Pro สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสิ่งที่ 48 เมกะพิกเซลทำได้
นั่นคือการบันทึกภาพด้วยความละเอียดที่มากขึ้นถึง 4 เท่าในแบบ ProRAW แล้วคุณจะตื่นตาตื่นใจไปกับรายละเอียดในทุกการครอป เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น 65% เมื่อเทียบกับ iPhone 13 Pro
• เซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel บนกล้องหลักใช้ประโยชน์สูงสุดจาก 48 เมกะพิกเซล โดยปรับการทำงานให้เข้ากับสิ่งที่คุณกำลังถ่าย สำหรับภาพถ่ายส่วนใหญ่ เรามักจะปรับแต่งเพื่อเน้นไปที่การรับแสง
ดังนั้นเซ็นเซอร์ใหม่จึงรวม 4 พิกเซลเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งควอดพิกเซลขนาดใหญ่ที่สามารถรับแสงได้มากขึ้น 4 เท่า และสร้างสรรค์เป็นรูปภาพที่สวยเด่นยิ่งขึ้นอย่างชัดเจนในขนาด 12MP ที่เหมาะกับการใช้งานจริง
แต่บางที มันก็ดีกว่าถ้าเราจะปรับแต่งเพื่อเน้นรายละเอียด ซึ่งในกรณีนี้ เซ็นเซอร์จะใช้ประโยชน์จากแต่ละพิกเซลเพื่อให้คุณมีทางเลือกในการสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นสำหรับการถ่ายภาพและปรับแต่งในเวิร์กโฟลว์ระดับโปร
หากต้องการที่สุดของความลงตัวทั้งในด้านรายละเอียดและความยืดหยุ่นแล้วละก็ ลองถ่ายในแบบ ProRAW ที่ความละเอียด 48MP
ซึ่งมาพร้อมโมเดลใหม่ด้านการเรียนรู้ของระบบที่ช่วยให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้นและมีนอยซ์น้อยลงจนเห็นรายละเอียดในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน
ทีนี้คุณก็สามารถจัดเฟรมภาพใหม่ได้โดยที่ยังคงความละเอียดในระดับที่น่าทึ่ง ขอต้อนรับสู่โลกที่การสร้างสรรค์อยู่ในการควบคุมของคุณอย่างแท้จริง
• ภาพนิยามของคำว่าอเนกประสงค์ ระบบกล้องระดับโปรใหม่เพิ่มเทเลโฟโต้ 2 เท่า ที่มีคุณภาพระดับออปติคัลเข้ามาในช่วงซูม
ช่วยให้คุณเลือกจัดเฟรมภาพได้อย่างยืดหยุ่นมากมายหลายแบบด้วยอุปกรณ์ที่เล็กขนาดพกพาใส่กระเป๋าได้ มายกระดับทักษะด้านการจัดเฟรมของคุณกัน
– กล้องหลัก 1 เท่า | 24 มม.
– อัลตร้าไวด์มาโคร 0.5 เท่า | 13 มม.
– เทเลโฟโต้ 2 เท่า ใหม่ | 48 มม.
– อัลตร้าไวด์ 0.5 เท่า | 13 มม.
– เทเลโฟโต้ 3 เท่า | 77 มม.
• เซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ช่วยให้เราสามารถก้าวข้ามเลนส์ฟิกซ์ 3 ตัวของระบบกล้องระดับโปรไปอีกขั้นและสร้างเทเลโฟโต้ 2 เท่า เพิ่มอีกหนึ่งตัวได้ ช่วยให้คุณมีตัวเลือกในการซูมเพิ่มขึ้นเป็น 0.5, 1, 2 และ 3 เท่า
เทเลโฟโต้ใหม่นี้ใช้พื้นที่ 12 เมกะพิกเซลตรงกลางเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ในการเก็บบันทึกรูปภาพแบบเต็มความละเอียดและวิดีโอระดับ 4K โดยที่ไม่ต้องซูมแบบดิจิทัล
• แถมยังใช้งานได้ทั้งในโหมดภาพถ่ายบุคคล ไทม์แลปส์ และพาโนรามา ทีนี้คุณก็สามารถถ่ายภาพและวิดีโอระยะใกล้ที่สวยสดงดงามได้ง่ายๆ ด้วยการแตะครั้งเดียว
• 2 เท่า เป็นทางยาวโฟกัสยอดนิยมและมีความละเอียดยอดเยี่ยม จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมลงตัวสำหรับการจัดเฟรมในโหมดภาพถ่ายบุคคล
• ต่อให้แสงน้อยลงมาก ก็ยังเห็นรายละเอียดเพิ่มขึ้นมาก
– ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 3 เท่า บนกล้องอัลตร้าไวด์
– ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า บนกล้องหลัก
– ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า บนกล้องเทเลโฟโต้
• การจะขยายขีดจำกัดของการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยนั้น เราต้องเริ่มจากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นที่รับแสงได้มากขึ้นในระดับที่ไม่ธรรมดา
• จากนั้นเราจึงเพิ่มกระบวนการจัดการภาพระดับพลิกวงการของเราอย่าง Photonic Engine แบบใหม่หมด เพื่อช่วยให้ Deep Fusion
ซึ่งเป็นการรวมพิกเซลที่ดีที่สุดจากหลายค่าแสงเป็นหนึ่งภาพสุดอลังการนั้นสามารถเกิดขึ้นบนไฟล์ภาพที่ไม่มีการบีบอัดได้ตั้งแต่ในช่วงแรกๆ ของกระบวนการ
ซึ่งวิธีนี้ช่วยรักษาข้อมูลไว้ได้มากยิ่งกว่าเดิม ทำให้สามารถถ่ายทอดสีสันที่สว่างสดใสและสมจริงมากขึ้น พร้อมรายละเอียดที่ครบถ้วนสวยงาม
แม้จะอยู่ในสภาวะที่แสงน้อยกว่าก็ตาม Apple Silicon รุ่นล่าสุดสามารถประมวลผลได้สูงสุด 4 ล้านล้านรายการต่อภาพ
• แฟลช True Tone ใหม่ ที่ปรับตามสภาวะจะปรับรูปแบบและความเข้มของ LED ทั้ง 9 ดวงตามทางยาวโฟกัสของรูปภาพเพื่อให้แสงบนตัวแบบดูสวยงามลงตัวที่สุดเสมอ
แฟลชสว่างขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อถ่ายด้วยเทเลโฟโต้ แสงแฟลชสม่ำเสมอขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อถ่ายด้วยอัลตร้าไวด์พร้อมแฟลช
• ยี่ สิบ สี่ เฟรม สวย สวย ต่อ วิ นา ที วันนี้โหมดภาพยนตร์สามารถถ่ายแบบ 4K HDR ที่ 24 fps ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์ได้แล้ว เตรียมตัวขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับคิวทองคนต่อไปได้เลย
• แล้วคุณก็สามารถตัดต่อร่วมกับฟุตเทจระดับโปรอื่นๆ ในแบบ 4K ที่ 24 หรือ 30 fps ได้อย่างไหลลื่น และยังสามารถปรับแต่งเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกหลังจากถ่ายเสร็จแล้วได้ด้วย วิดีโอคุณภาพสูงที่สุดในสมาร์ตโฟน
• ช็อตแอ็คชั่นสั่นๆ แก้ตอนถ่ายได้เลย ไม่ว่าคุณจะถ่ายวิดีโอจากบนรถ SUV แบบออฟโรด หรือวิ่งตีคู่ไปกับตัวแบบ ก็ลองใช้โหมดแอ็คชั่นเพื่อช่วยให้วิดีโอแบบถือถ่ายของคุณดูนิ่งและไหลลื่น
แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์กันสั่นได้เลย สมาร์ตโฟนรุ่นเดียวในโลกที่ให้คุณถ่าย ดู ตัดต่อ และแชร์ในแบบ ProRes หรือ Dolby Vision HDR
• กล้องหลัก 48MP ที่มีความละเอียดมากขึ้นสูงสุดถึง 4 เท่า เทเลโฟโต้ ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้นสูงสุด 2 เท่า อัลตร้าไวด์ ภาพมาโครที่คมชัดและสว่างขึ้น
• กล้องหน้าใหม่ที่เป็นหน้าเป็นตาด้านเซลฟี่ ถ่ายภาพระยะใกล้และ ภาพหมู่ที่คมชัดและมีสีสัน สดใสที่สุดด้วยกล้องหน้า TrueDepth ใหม่ที่มาพร้อมออโต้โฟกัสและรูรับแสงที่กว้างขึ้น ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า
• 1 2 3 สวยทุกคน เพราะวันนี้กล้อง TrueDepth สามารถโฟกัสหลายๆ ตัวแบบได้พร้อมกันทีเดียวโดยอัตโนมัติ ภาพเซลฟี่ทั้งหมดของคุณจึงดูคมชัดที่สุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายระยะใกล้อันน่าทึ่งไปจนถึงภาพหมู่
• และรูรับแสงที่กว้างขึ้นยังเปิดรับแสงได้มากขึ้นด้วย ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยจึงมีสีสันที่สว่างขึ้นและมีรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม ประสิทธิภาพในการรวมแสงดีขึ้น 38% เพื่อรายละเอียดที่มากขึ้นและนอยซ์ที่ลดลงในภาพถ่ายและวิดีโอ
• กล้อง TrueDepth และชิป A16 Bionic ยังเป็นพลังขับเคลื่อน Face ID ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ปลอดภัยที่สุดในสมาร์ตโฟน
• มันสมองที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง ทักทาย A16 Bionic ที่สุดแห่งชิปสมาร์ตโฟนกันหน่อย
– ทรานซิสเตอร์เกือบ 1.6 หมื่นล้านตัว เพื่อความเร็วและการประหยัดพลังงานชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม
– CPU แบบ 6‑core ที่เร็วขึ้น สามารถจัดการกับเวิร์กโหลดหนักๆ ได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ
– Neural Engine ประมวลผลถึงเกือบ 17 ล้านล้านรายการต่อวินาที จึงสามารถวิเคราะห์ทุกภาพที่คุณถ่ายได้แบบพิกเซลต่อพิกเซล
– GPU แบบ 5‑core มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำมากขึ้น 50% เพื่อรองรับกราฟิกที่ซับซ้อนในเกมมือถือใหม่ล่าสุด
– ISP สุดล้ำ คือขุมพลังเบื้องหลังความยืดหยุ่นในการสร้างสรรค์ของเซ็นเซอร์แบบ Quad‑pixel
– ประสิทธิภาพที่ประหยัดพลังงาน ช่วยให้ชิป A16 Bionic สามารถทำงานที่ความเร็วแบบสุดขั้วได้นานขึ้น
• แบตเตอรี่ที่ทุ่มเต็มที่ให้ทั้งวัน แม้จะมีความสามารถใหม่เพียบบบบบบ แบตเตอรี่ของ iPhone 14 Pro ก็ยังใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดวัน
[iphone-price]
[mobile-price]
Leave a Reply