เปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 13 ปี 2022 รุ่นจอต่างไซส์ สเปกครบเครื่อง เลือกรุ่นไหนดี มาเช็กกัน!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 13 มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
โดย iPhone 14 Plus ราคาจำหน่าย 37,900 บาท (128GB), 41,900 บาท (256GB) และ 50,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10
ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash
แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีมิดไนท์, สีม่วง, สีสตาร์ไลท์, สีฟ้า และสีแดง
ขณะที่ iPhone 13 ราคาจำหน่าย 29,900 บาท (128GB), 33,900 บาท (256GB) และ 42,900 บาท (512GB) รัน iOS 15 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับ HDR 10 ชิปเซ็ต A15 Bionic แรม 4GB มีให้เลือก 3 ความจุ คือ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP
กล้องหน้าเซลฟี่ 12MP แบตอึด 3240mAh รองรับ Fast Charging 23W บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Face ID และมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีเขียว, สีสตาร์ไลท์, สีชมพู, สีมิดไนท์ และสีแดง
ตารางเปรียบเทียบสเปกการใช้งาน iPhone 14 Plus และ iPhone 13
Features | iPhone 14 Plus | iPhone 13 |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2565 | – กันยายน 2564 |
ราคา :
|
– 37,900 บาท (128GB) | – 29,900 บาท (128GB) |
– 41,900 บาท (256GB) | – 33,900 บาท (256GB) | |
– 50,900 บาท (512GB) | – 41,900 บาท (512GB) | |
OS : | – iOS 16 | – iOS 15 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– HDR 10 | – HDR 10 | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Apple GPU (4-core graphics) |
RAM : | – 6GB | – 4GB |
ROM :
|
– 128GB | – 128GB |
– 256GB | – 256GB | |
– 512GB | – 512GB | |
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.4 | |
– Dual Tone LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
– 2x Optical Zoom | – 2x Optical Zoom | |
– 5x Digital Zoom | – 5x Digital Zoom | |
– Auto Focus | – Auto Focus | |
– PDAF | – PDAF | |
– OIS | – OIS | |
– HDR | – HDR | |
– Panorama | – Panorama | |
– Deep Fusion | – Deep Fusion | |
– Photonic Engine | – | |
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– Retina Flash | – Retina Flash | |
– HDR | – HDR | |
– Auto Focus | – | |
Video :
|
– 4K@24/25/30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps |
– 1080p@25/30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
– 720p@30fps | – 720p@30fps | |
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 19 ชั่วโมง |
– เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | – ฟังเพลงสูงสุด 75 ชั่วโมง | |
– Fast Charging, 50% in 30 min | – Fast Charging, 50% in 30 min | |
– MagSafe Wireless Charging 15W | – MagSafe Wireless Charging 15W | |
– Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W |
– Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W
|
|
ขนาด : | – 160.8×78.1×7.8 มม. | – 146.7×71.5×7.65 มม. |
น้ำหนัก : | – 203 กรัม | – 173 กรัม |
รองรับซิม : | – Nano-SIM และ eSIM | – Nano-SIM และ eSIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
– 5G | – 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.0 | |
– NFC | – NFC | |
– USB Lightning | – USB Lightning | |
– Siri | – Siri | |
– SOS ฉุกเฉิน | – | |
GPS :
|
– GPS | – GPS |
– A-GPS | – A-GPS | |
– GLONASS | – GLONASS | |
– Galileo | – Galileo | |
– QZSS | – QZSS | |
– BeiDou | – BeiDou | |
Sensor :
|
– Face ID | – Face ID |
– Accelerometer | – Accelerometer | |
– Gyroscope | – Gyroscope | |
– Proximity | – Proximity | |
– Compass | – Compass | |
– Barometer | – Barometer | |
สี :
|
– มิดไนท์ | – มิดไนท์ |
– ม่วง | – เขียว | |
– สตาร์ไลท์ | – สตาร์ไลท์ | |
– ฟ้า | – น้ำเงิน | |
– แดง | – แดง | |
– | – ชมพู |
Features | iPhone 14 Plus | iPhone 13 |
วันเปิดตัว : | – กันยายน 2565 | – กันยายน 2564 |
OS : | – iOS 16 | – iOS 15 |
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
– HDR 10 | – HDR 10 | |
CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz |
– A15 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.23GHz
|
GPU : | – Apple GPU (5-core graphics) | – Apple GPU (4-core graphics) |
RAM : | – 6GB | – 4GB |
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.4 | |
– Photonic Engine | – | |
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.9 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– Retina Flash | – Retina Flash | |
– HDR | – HDR | |
– Auto Focus | – | |
Battery :
|
– เล่นวิดีโอสูงสุด 26 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 19 ชั่วโมง |
– เล่นเสียงสูงสุด 100 ชั่วโมง | – ฟังเพลงสูงสุด 75 ชั่วโมง | |
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.0 |
– SOS ฉุกเฉิน | – | |
สี :
|
– มิดไนท์ | – มิดไนท์ |
– ม่วง | – เขียว | |
– สตาร์ไลท์ | – สตาร์ไลท์ | |
– ฟ้า | – น้ำเงิน | |
– แดง | – แดง | |
– | – ชมพู |
จุดเด่น iPhone 14 Plus คือ เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รันระบบปฏิบัติการใหม่ iOS 16 ส่วนหน้าจอทั้ง 2 รุ่น ใช้จอ OLED จอภาพ Super Retina XDR ที่รองรับ HDR 10 เหมือนกัน แต่รุ่น iPhone 14 Plus จอใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว และความละเอียดสูงกว่าที่ 2778×1284 พิกเซล
ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic ความเร็ว 3.23GHz ผสาน Apple GPU แบบ 5 Core แรมมากกว่าที่ 6GB กล้องหลังและกล้องหน้าค่ารูรับแสงดีขึ้น พร้อมรองรับเทคโนโลยี Photonic Engine และกล้องหน้าเซลฟี่ยังรองรับ Auto Focus อีกด้วย
ด้านแบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 26 ชั่วโมง เล่นเสียงได้สูงสุด 100 ชั่วโมง พร้อมรองรับ Bluetooth 5.3 และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่สุดล้ำอย่าง SOS ฉุกเฉิน ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, ฟ้า และแดง
Features | iPhone 13 | iPhone 14 Plus |
ราคา :
|
– 29,900 บาท (128GB) | – 37,900 บาท (128GB) |
– 33,900 บาท (256GB) | – 41,900 บาท (256GB) | |
– 41,900 บาท (512GB) | – 50,900 บาท (512GB) | |
ขนาด : | – 146.7×71.5×7.65 มม. | – 160.8×78.1×7.8 มม. |
น้ำหนัก : | – 173 กรัม | – 203 กรัม |
สี :
|
– มิดไนท์ | – มิดไนท์ |
– เขียว | – ม่วง | |
– สตาร์ไลท์ | – สตาร์ไลท์ | |
– น้ำเงิน | – ฟ้า | |
– แดง | – แดง | |
– ชมพู | – |
จุดเด่น iPhone 13 คือ มีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า ตัวเครื่องขนาดบางและเบามากกว่า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ มิดไนท์, เขียว, สตาร์ไลท์, น้ำเงิน, แดง และชมพู
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ iPhone 14 Plus และ iPhone 13 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, ขนาดและความละเอียดหน้าจอ, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ค่ารูรับแสงกล้องหน้าและหลัง หรือความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาต่างกันที่ 8,000 – 9,000 บาท
ซึ่งหากเลือกเป็น iPhone 14 Plus ก็จะได้รุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รันระบบปฏิบัติการใหม่ iOS 16 ได้จอขนาดใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว และความละเอียดสูงกว่าที่ 2778×1284 พิกเซล
ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic ความเร็ว 3.23GHz ผสาน Apple GPU แบบ 5 Core แรมมากกว่าที่ 6GB กล้องหลังและกล้องหน้าค่ารูรับแสงดีขึ้น พร้อมรองรับเทคโนโลยี Photonic Engine และกล้องหน้าเซลฟี่ยังรองรับ Auto Focus
อีกทั้งแบตเตอรี่ยังสามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 26 ชั่วโมง เล่นเสียงได้สูงสุด 100 ชั่วโมง พร้อมรองรับ Bluetooth 5.3 และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่สุดล้ำอย่าง SOS ฉุกเฉินด้วย
แต่หากเลือก iPhone 13 ก็จะจ่ายในราคาที่ถูกกว่า และตัวเครื่องขนาดบางและเบามากกว่านิดหน่อย ส่วนสเปกอื่น ๆ ที่เหมือนกับรุ่น iPhone 14 Plus ได้แก่ ใช้จอ OLED จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10
มีให้เลือก 3 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ความละเอียด 12MP + 12MP กล้องเซลฟี่ 12MP บอดี้กันน้ำ IP68 และรองรับชาร์จไว ชาร์จได้ 50% ภายใน 30 นาที เป็นต้น
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply