เปรียบเทียบ iPhone 13 mini และ iPhone 12 Pro Max ปี 2022 รุ่นไหนดี รุ่นไหนเด็ด มาเช็กกัน!
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ iPhone 13 mini และ iPhone 12 Pro Max มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
เบื้องต้น iPhone 13 mini ราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท (128GB) รัน iOS 15 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 5.4 นิ้ว รองรับ HDR 10 ชิปเซ็ต A15 Bionic แรม 4GB มีให้เลือก 3 ความจุ คือ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP
กล้องหน้าเซลฟี่ 12MP แบตอึด 2438mAh รองรับ Fast Charging 18W บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Face ID และมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเขียว, สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และสีแดง
ขณะที่ iPhone 12 Pro Max ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท (128GB) รัน iOS 14 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว รองรับ HDR 10 ชิปเซ็ต A14 Bionic แรม 6GB มีให้เลือก 3 ความจุ คือ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลัง 12MP + 12MP + 12MP + TOF 3D
กล้องหน้าเซลฟี่ 12MP แบตอึด 3687mAh รองรับ Fast Charging 22W บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Face ID และมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีกราไฟต์, สีแปซิฟิกบลู, สีเงิน และสีทอง
ตารางเปรียบเทียบสเปกการใช้งาน iPhone 13 mini และ iPhone 12 Pro Max
| Features | iPhone 13 mini | iPhone 12 Pro Max |
| วันเปิดตัว : | – กันยายน 2564 | – ตุลาคม 2563 |
|
ราคา :
|
– 25,900 บาท (128GB) | – 39,900 บาท (128GB) |
| – 29,900 บาท (256GB) | – 43,900 บาท (256GB) | |
| – 37,900 บาท (512GB) | – 51,900 บาท (512GB) | |
| OS : | – iOS 15 | – iOS 14 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
| – ขนาด 5.4 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล | – ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | |
| – จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
| – HDR 10 | – HDR 10 | |
| CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa-core ความเร็ว 3.23GHz |
– Apple A14 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.1GHz
|
| GPU : | – Apple GPU (4-core graphics) | – Apple GPU (4-core graphics) |
| RAM : | – 4GB | – 6GB |
|
ROM :
|
– 128GB | – 128GB |
| – 256GB | – 256GB | |
| – 512GB | – 512GB | |
|
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP |
– 12MP + 12MP + 12MP + TOF 3D LiDAR Scanner
|
| – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.2 + f/2.4 | |
| – dual-tone LED flash | – dual-tone LED flash | |
| – Dual Pixel PDAF | – Dual Pixel PDAF | |
| – OIS | – OIS | |
| – 2x Optical Zoom | – 5x Optical Zoom | |
| – 5x Digital Zoom | – 12x Digital Zoom | |
| – HDR | – HDR | |
| – Panorama | – Panorama | |
| – Deep Fusion | – Deep Fusion | |
| – Night Mode | – Night Mode | |
|
กล้องหน้า :
|
– 12MP | – 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
| – Retina Flash | – Retina Flash | |
| – Night Mode | – Night Mode | |
| – HDR | – HDR | |
|
Video :
|
– 4K@24/25/30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps |
| – 1080p@25/30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
| – 720p@30fps | – 720p@30fps | |
| – HDR แบบ Dolby Vision สูงสุด 4K@60fps | – | |
|
Battery :
|
– 2438mAh | – 3687mAh |
| – Fast Charging 18W | – Fast Charging 22W | |
| – เล่นวิดีโอสูงสุด 17 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง | |
| – ฟังเพลงสูงสุด 55 ชั่วโมง | – ฟังเพลงสูงสุด 80 ชั่วโมง | |
| ขนาด : | – 131.5×64.2×7.65 มม. | – 160.8×78.1×7.4 มม. |
| น้ำหนัก : | – 140 กรัม | – 226 กรัม |
| รองรับซิม : | – Nano-SIM | – Nano-SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
| – 5G | – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
| – Bluetooth 5.0 | – Bluetooth 5.0 | |
| – USB Lightning 2.0 | – USB Lightning 2.0 | |
| – NFC | – NFC | |
| – MagSafe Wireless Charging 15W | – MagSafe Wireless Charging 15W | |
| – Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W |
– Qi Magnetic Fast Wireless Charging 7.5W
|
|
|
GPS :
|
– GPS | – GPS |
| – GLONASS | – GLONASS | |
| – Galileo | – Galileo | |
| – QZSS | – QZSS | |
| – BeiDou | – BeiDou | |
|
Sensor :
|
– Face ID | – Face ID |
| – LiDAR Scanner | – LiDAR Scanner | |
| – Accelerometer | – Accelerometer | |
| – Gyro | – Gyro | |
| – Proximity | – Proximity | |
| – Compass | – Compass | |
| – Barometer | – Barometer | |
|
สี :
|
– เขียว | – กราไฟต์ |
| – น้ำเงิน | – แปซิฟิกบลู | |
| – มิดไนท์ | – เงิน | |
| – สตาร์ไลท์ | – ทอง | |
| – แดง | – | |
| – ชมพู | – |
| Features | iPhone 13 mini | iPhone 12 Pro Max |
| วันเปิดตัว : | – กันยายน 2564 | – ตุลาคม 2563 |
|
ราคา :
|
– 25,900 บาท (128GB) | – 39,900 บาท (128GB) |
| – 29,900 บาท (256GB) | – 43,900 บาท (256GB) | |
| – 37,900 บาท (512GB) | – 51,900 บาท (512GB) | |
| OS : | – iOS 15 | – iOS 14 |
| CPU : | – A15 Bionic แบบ Hexa-core ความเร็ว 3.23GHz |
– Apple A14 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.1GHz
|
|
Video :
|
– 4K@24/25/30/60fps | – 4K@24/25/30/60fps |
| – 1080p@25/30/60fps | – 1080p@25/30/60fps | |
| – 720p@30fps | – 720p@30fps | |
| – HDR แบบ Dolby Vision สูงสุด 4K@60fps | – | |
| ขนาด : | – 131.5×64.2×7.65 มม. | – 160.8×78.1×7.4 มม. |
| น้ำหนัก : | – 140 กรัม | – 226 กรัม |
|
สี :
|
– เขียว | – กราไฟต์ |
| – น้ำเงิน | – แปซิฟิกบลู | |
| – มิดไนท์ | – เงิน | |
| – สตาร์ไลท์ | – ทอง | |
| – แดง | – | |
| – ชมพู | – |
จุดเด่น iPhone 13 mini มีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า ซึ่งราคาส่วนต่างในแต่ละรุ่นอยู่ที่ 14,000 บาท รัน iOS 15 ใช้ชิป A15 Bionic ความเร็ว 3.23GHz
กล้องหลังบันทึกวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision สูงสุด 4K@60fps ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัดกว่า และน้ำหนักเบากว่าของรุ่น 12 Pro Max ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ เขียว, น้ำเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์, แดง และชมพู
| Features | iPhone 12 Pro Max | iPhone 13 mini |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ OLED |
| – ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 5.4 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2778×1284 พิกเซล | – ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล | |
| – จอภาพ Super Retina XDR | – จอภาพ Super Retina XDR | |
| – HDR 10 | – HDR 10 | |
| RAM : | – 6GB | – 4GB |
|
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 12MP + 12MP + TOF 3D LiDAR Scanner | – 12MP + 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.2 + f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.4 | |
| – 5x Optical Zoom | – 2x Optical Zoom | |
| – 12x Digital Zoom | – 5x Digital Zoom | |
|
Battery :
|
– 3687mAh | – 2438mAh |
| – Fast Charging 22W | – Fast Charging 18W | |
| – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง | – เล่นวิดีโอสูงสุด 17 ชั่วโมง | |
| – ฟังเพลงสูงสุด 80 ชั่วโมง | – ฟังเพลงสูงสุด 55 ชั่วโมง | |
|
สี :
|
– กราไฟต์ | – เขียว |
| – แปซิฟิกบลู | – น้ำเงิน | |
| – เงิน | – มิดไนท์ | |
| – ทอง | – สตาร์ไลท์ | |
| – | – แดง | |
| – | – ชมพู |
จุดเด่น iPhone 12 Pro Max คือ มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่กว่าที่ 6.7 นิ้ว ความละเอียดสูงกว่าอยู่ที่ 2778×1284 พิกเซล และแรมสูงกว่า 6GB
นอกจากนี้ iPhone 12 Pro Max ยังมาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ 12MP + 12MP + 12MP + TOF 3D LiDAR Scanner ซึ่งกล้องได้รับการอัปเกรดที่ดีขึ้น ขณะที่ iPhone 13 mini มาพร้อมกล้องหลังคู่ 12MP
อีกทั้ง iPhone 12 Pro Max ยังมีแบตเตอรี่ความจุสูงกว่าอยู่ที่ 3687mAh และชาร์จไวกว่าที่ 22W ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ กราไฟต์, แปซิฟิกบลู, เงิน และทอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ iPhone 13 mini และ iPhone 12 Pro Max ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ขนาดหน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ RAM, กล้องหลัง, แบตเตอรี่ หรือขนาดตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ มีราคาต่างกันสำหรับทุกรุ่นอยู่ที่ 14,000 บาท
iPhone 13 mini เริ่มต้นที่ 25,900 บาท และ iPhone 12 Pro Max เริ่มต้นที่ 39,900 บาท ซึ่งหากเลือกซื้อเป็น iPhone 13 mini จะได้เครื่องที่ราคาถูกกว่า ชิปประมวลผลใหม่กว่า ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด และเบากว่า
หรือหากเลือกซื้อเป็น iPhone 12 Pro Max ก็จะได้รุ่นที่หน้าจอใหญ่กว่าถึง 6.7 นิ้ว แรมเยอะกว่า กล้องดี และแบตเตอรี่ความจุสูงแถมชาร์จไวกว่าอีกด้วย
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply