iPhone 12 ไอโฟน 12 ราคา
iPhone 12 ราคา 24,900 บาท (64GB), 26,900 บาท (128GB), 30,900 บาท (256GB) (ข้อมูล ณ เดือน ส.ค. 66)
iPhone 12 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ 1.สีขาว 2.สีดำ 3.สีน้ำเงิน 4.สีเขียว 5.สีแดง
สเปกเครื่อง iPhone 12
Features | iPhone 12 |
วันเปิดตัว : | – ตุลาคม 2563 |
ราคา : | – 24,900.- (64GB) |
– 26,900.- (128GB) | |
– 30,900.- (256GB) | |
– (ข้อมูล ณ เดือน ส.ค. 66) | |
OS : | – iOS 14 |
หน้าจอ : | – หน้าจอ OLED |
– ขนาด 6.1 นิ้ว | |
– จอภาพ Super Retina XDR | |
– ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล | |
– HDR 10 | |
CPU : | – Apple A14 Bionic แบบ Hexa-Core ความเร็ว 3.1GHz |
GPU : | – Apple GPU |
RAM : | – 4GB |
ROM : | – 64GB |
– 128GB | |
– 256GB | |
กล้องหลัง : | – 12MP + 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/1.6 + f/2.4 | |
– True Tone Flash | |
– Dual Pixel PDAF | |
– กันสั่น OIS | |
– Deep Fusion | |
– ออปติคอลซูม 2 เท่า | |
– ดิจิตอลซูม 5 เท่า | |
– HDR อัจฉริยะ 3 | |
กล้องหน้า : | – 12MP |
– ค่ารูรับแสง f/2.2 | |
– Retina Flash | |
– HDR อัจฉริยะ 3 | |
Video : | – 4K@24/30/60fps, 1080p@30/60/120/240fps |
Battery : | – เล่นวิดีโอสูงสุด 17 ชั่วโมง |
– ฟังเพลงสูงสุด 65 ชั่วโมง | |
ขนาด : | – 146.7×71.5×7.4 มม. |
น้ำหนัก : | – 162 กรัม |
รองรับซิม : | – Nano-SIM |
ระบบกันน้ำ : | – IP68 |
ระบบเครือข่าย : | – 4G LTE |
– 5G | |
ระบบเชื่อมต่อ : | – Wi‑Fi 802.11ax |
– Bluetooth 5.0 | |
– USB Lightning 2.0 | |
– NFC | |
– MagSafe | |
– Wireless Charging | |
GPS : | – GPS |
– GLONASS | |
– Galileo | |
– QZSS | |
– BeiDou | |
Sensor : | – Face ID |
– Accelerometer | |
– Gyroscope | |
– Proximity | |
– Compass | |
– Barometer | |
สี : | – ขาว |
– ดำ | |
– น้ำเงิน | |
– เขียว | |
– แดง |
• iPhone 12 เร็วยิ่งกว่าเร็ว ทั้งชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ตโฟนอย่าง A14 Bionic จอภาพ OLED แบบขอบจรดขอบ Ceramic Shield ที่ทนต่อ การตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า และโหมดกลางคืนบนกล้องทุกตัว iPhone 12 ก็มีหมดทุกอย่าง ในสองขนาดที่ลงตัว
– iPhone 12 จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 12 mini จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 5.4 นิ้ว
• จิ๋วแต่แจ๋ว
• Ceramic Shield แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน iPhone นั้นมีกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ตโฟนอยู่แล้ว ดังนั้นการที่จะเพิ่มความทนทานของ iPhone 12 ให้มากขึ้นไปอีก เราจึงต้องคิดค้นวัสดุแบบใหม่หมดขึ้นมา
• ผลึกเซรามิกระดับนาโน แล้วก็ถึงเวลาของ Ceramic Shield ซึ่งเกิดจากการนำผลึกเซรามิกระดับนาโนซึ่งแข็งแกร่งกว่าโลหะส่วนใหญ่ไปผสมลงในกระจก อาจจะฟังดูง่าย แต่จริง ๆ แล้วกระบวนการนี้ยากกว่าที่ใครหลายคนคิดเพราะเซรามิกส่วนมากนั้นไม่ได้มีความโปร่งใสดังนั้นเราจึงคิดค้นสูตรแบบเฉพาะตัวขึ้นมาในการควบคุมชนิดของผลึกและระดับความเป็นผลึกของเซรามิก
ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเซรามิกจนถึงขีดสุด ในขณะที่ยังคงความใสเอาไว้ได้ด้วย นี่คือความล้ำที่ทำให้ Ceramic Shield เหมาะที่จะนำมาทำเป็นจอภาพอย่างไร้ที่ติ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนกับความแข็งแกร่งที่มากกว่ากระจกบนสมาร์ตโฟนไหน ๆ อีกด้วย
• กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่ ถึงจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีเสมอไป ดังนั้นเราจึงใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่ของเราที่ใช้บนกระจกด้านหลัง เพื่อป้องกันจอภาพจากรอยเล็ก ๆ รอยขีดข่วน และร่องรอยจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน
• ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า นอกจาก Ceramic Shield แล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เสริมความทนทานของตัวเครื่องด้านหน้ายิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งก็คือจอภาพที่เรียบเสมอกันกับขอบของโทรศัพท์ซึ่งช่วยเพิ่มการป้องกันในอีกระดับ และจากทั้งหมดนี้เราจึงได้ iPhone ที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า นับเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone
• ขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ
• H2O โอเค ทนต่อน้ำที่หก และน้ำที่กระเด็นใส่ได้ดียิ่งขึ้น
• 5 สีสันสดใหม่
• 11 ล้านล้าน รายการ ประมวลผล ต่อวินาที A14 Bionic คือชิปที่เร็วที่สุดในสมาร์ตโฟนและยังสร้างขีดจำกัดใหม่ ๆ ให้ความเป็นไปได้ อย่างเช่น การประมวลผลนับล้านล้านรายการบน Neural Engine
หรือถ่ายวิดีโอในแบบ Dolby Vision ที่แม้แต่กล้องภาพยนตร์ระดับโปรยังทำไม่ได้แถมยังประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยมเพื่อแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และในขณะเดียวกันก็ล้ำหน้าไปไกลจนเรียกได้ว่าเป็นขุมพลังที่พร้อมรับมือได้แทบทุกอย่างที่รออยู่ข้างหน้าเลยล่ะ เป็นชิปแบบเดียวกับ iPhone 12 Pro
• จอภาพ Super Retina XDR โอ้โห OLED เริ่มจากคอนทราสต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไปจนถึงความแม่นยำของสีสันอันน่าทึ่ง และจำนวนพิกเซลที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เจอแบบนี้ก็มีแต่ว้าวกับว้าว เพราะ OLEDให้ความสว่างที่สว่างขึ้น และสีดำที่ดำสนิทยิ่งขึ้น พร้อมความละเอียดที่สูงขึ้นในทุกสิ่งที่คุณดู บอกเลยว่านี่คือจอภาพ iPhone ที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมา และยังยอดเยี่ยมไปจนสุดขอบด้วย
• ก้าวกระโดดที่ชัดเจนจาก LCD ไป OLED iPhone 12 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่อันทรงพลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกวิดีโอระดับ 4K ในแบบ Dolby Vision และรูปภาพ HDR ที่มีรายละเอียดสุดยอด ซึ่งมีแต่จอภาพแบบล้ำ ๆ เท่านั้นที่จะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ได้อย่างเต็มรูปแบบ เราจึงทุ่มสุดตัวเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด และผลลัพธ์ก็คือ จอภาพ Super Retina XDR
• ความสว่าง 1,200 นิต สำหรับ HDR อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 LCD จะใช้แบ็คไลท์เพื่อทำให้พิกเซลส่องสว่างพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งต่างจาก OLED ที่แต่ละพิกเซลสามารถเปล่งแสงด้วยตัวเองได้โดยพิกเซลเหล่านี้สามารถปิดการทำงานโดยสิ้นเชิงเพื่อถ่ายทอดสีดำที่ดำสนิท หรือให้ความสว่างได้สูงถึง 1,200 นิตสำหรับคอนเทนต์ HDR นี่คือเหตุผลว่าทำไมอัตราส่วนคอนทราสต์จึงสูงถึง 2,000,000:1 ไม่บอกก็รู้ว่าความแตกต่างจะน่าตื่นตาขนาดไหน
• สว่างยิ่งขึ้น ดำสนิทยิ่งขึ้น ข้อความและอีเมลต่างดูคมชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดของคุณรวมถึงความทรงจำโปรดก็จะดูสวยงามสมจริงยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ นอกจากนี้อะไรต่าง ๆ อย่างฉากระเบิดไฟลุกหรือสงครามอวกาศในภาพยนตร์ ก็มีความละเอียดอย่างน่าทึ่ง ส่วนที่สว่างก็สว่างสุด ๆ และส่วนที่ควรจะมืดก็มืดสนิทอย่างแท้จริง
• ระบบกล้องคู่ ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด ตอนนี้ทั้งกล้องไวด์หรืออัลตร้าไวด์ต่างก็มีโหมดกลางคืนแล้วทั้งคู่ ซึ่งทำให้การถ่ายภาพที่สวยงามน่าทึ่งในสภาวะแสงน้อยนั้นทำได้ดีกว่าครั้งไหน ๆ โดยที่กล้องไวด์ใหม่นั้นรับแสงได้มากขึ้นถึง 27% ดังนั้นไม่ว่าคุณจะถ่ายรูประหว่างวันหรือใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน คุณก็จะได้รายละเอียดและสีสันในระดับที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน
• ค่ำคืนนี้ยังถ่ายได้อีกยาวไกล
• โหมดกลางคืน รู้ว่าเมื่อไหร่ที่แสงน้อย และจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อคงความคมชัดในขณะที่ยังคงถ่ายทอดสีสันได้อย่างสวยสดงดงามซึ่งทั้งหมดที่คุณต้องทำก็แค่กดถ่าย
• จากภาพที่เคยถ่ายยาก ๆ อย่างภาพที่ถ่ายในบรรยากาศใต้แสงจันทร์สลัว ตอนนี้จะกลายเป็นคมชัดยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เลยล่ะ
• Deep Fusion จะวิเคราะห์ภาพจากหลายค่าแสงเพื่อให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียดออกมาได้มากที่สุดเมื่ออยู่ในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อย ไม่เชื่อลองดูรายละเอียดบนพื้นผิวของไม้ ผ้า และคริสตัลดูสิ ส่วนกล้องอัลตร้าไวด์ก็ยังช่วยเสริมมุมมองของคุณให้ยิ่งใหญ่อลังการด้วย
• HDR อัจฉริยะ 3 จะปรับองค์ประกอบในภาพอย่างสมดุล พร้อมดึงรายละเอียดของตัวแบบและต้นไม้ออกมา ขณะที่ยังคงความเข้มของสีท้องฟ้าไว้ แม้จะถ่ายในตอนที่มีแดดจัด
• ถึงแม้จะอยู่กลางแดดจ้า แต่ HDR อัจฉริยะ 3 ก็สามารถเก็บบันทึกรายละเอียดของพื้นผิว โทนสีผิว ความอิ่มของสี และรายละเอียดในแต่ละส่วนได้อย่างน่าทึ่ง เพื่อภาพที่
ให้ความรู้สึกสมจริง
• นอกเหนือจากใบหน้าแล้ว HDR อัจฉริยะ 3 ยังใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อแยกแยะฉากแบบต่าง ๆ แล้วปรับความคมชัด สีสัน และไวท์บาลานซ์ในบริเวณที่จำเป็นให้ออกมาอย่างลงตัว
• ไม่มีคำว่าน้อยหน้า สำหรับโหมดภาพถ่ายบุคคล
• โหมดภาพถ่ายบุคคล สามารถเบลอฉากหลังได้ดียิ่งขึ้นอย่างสวยงามเพื่อโฟกัสเต็ม ๆ ไปที่ตัวแบบของคุณ ถูกใจใช่มั้ยล่ะ
• ถ่ายภาพสวย ๆ ได้สวยยิ่งขึ้นด้วยเอฟเฟ็กต์ การจัดแสงสุดสร้างสรรค์ที่มีให้เลือกถึง 6 แบบ ทั้งแสงไฟขาวดำไฮคีย์ แสงไฟธรรมชาติ และแสงไฟสตูดิโอ
• วิดีโอแสงน้อยแต่ถ่ายได้สวยมาก ถ้าสงสัยว่าจะทำให้วิดีโอที่มีคุณภาพสูงที่สุดในสมาร์ตโฟนดีขึ้นอีกได้ยังไงคำตอบก็คือทำให้ถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้นนั่นเอง แล้วก็ต้องดีขึ้นแบบจัดเต็ม 27% ด้วย ซึ่งหมายความว่าจะช่วงเวลาไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการถ่ายวิดีโอในรายละเอียดที่สวยงามยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังมีไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืนด้วยเอาล่ะ ทีนี้ก็ติด iPhone ไว้กับอะไรซักอย่าง แล้วก็ปล่อยให้เส้นแสงได้โลดแล่นกันเลย
• อยู่ ๆ คุณก็เป็นเจ้าของสตูดิโอภาพยนตร์ วันนี้คุณสามารถบันทึกวิดีโอ 4K HDR ในแบบ Dolby Vision แล้วมาตัดต่อในแอพรูปภาพหรือ iMovie จากนั้นก็ส่งขึ้นทีวีโดยใช้ AirPlay5 เพื่อดูรายละเอียดและสีสันทั้งหมดแบบเต็มตา เรียกว่าเป็นประสบการณ์ระดับโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นจนจบที่มีเฉพาะบน iPhone เท่านั้น แถมยังคล่องมือขนาดที่ถ้าเมื่อไหร่น้องหมาของคุณทำอะไรน่ารัก ๆ ก็หยิบขึ้นมาถ่ายได้เลย
• เซลฟี่ในโหมดกลางคืนดูโดดเด่นในความมืด ตอนกลางคืนนี่แหละเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับเซลฟี่ เพราะโหมดกลางคืนและคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมทั้งหลายมาอยู่บนกล้องหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นDeep Fusion, HDR อัจฉริยะ 3, การบันทึกวิดีโอในแบบ Dolby Vision และอีกมากมายคราวนี้ก็ทำหน้าเก๋ ๆ แล้วก็ 3-2-1 ยิ้ม
• อุปกรณ์เสริม MagSafe อะไร ๆ ก็คลิก ไปซะหมด
• ซ้อนกันได้อย่างสวยงาม ติดเข้ากับเคสหรือกระเป๋าสตางค์ MagSafe ใหม่ หรือทั้งคู่ได้เลย (และไม่ต้องห่วง เพราะกระเป๋าสตางค์ ยังมีการป้องกันเพื่อความปลอดภัยสำหรับบัตรเครดิตอีกด้วย)
• พลังชาร์จติดเทอร์โบ แม่เหล็กจะประกบเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้งเพื่อการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วยิ่งขึ้น
• มิกซ์ก็ได้ แมทช์ก็ดี
• ระบบไร้สายเร่งความเร็วกันหน่อยดีกว่า iPhone 12 มี LTE ความเร็วสูงสุด 2Gbps คุณจึงดาวน์โหลดรายการ อัพโหลดรูปภาพและสตรีมวิดีโอคุณภาพสูงได้รวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย แถมยังทำทั้งหมดนี้ได้ในหลายที่มากขึ้นด้วย เพราะ iPhone 12 รองรับย่านความถี่ LTE สูงสุด 32 ย่าน และย่านความถี่ 5G สูงสุด 20 ย่าน ซึ่งมากกว่าสมาร์ตโฟนไหน ๆ เรียกได้ว่าพร้อมสำหรับ 5G ที่เร็วสุดแรงด้วย
• คุณสมบัติที่ใช่ พร้อมใช้เสมอ iOS 14 มาพร้อมทางลัดมากมายที่จะช่วยให้คุณได้ใช้สิ่งที่ต้องการ ในเวลาที่คุณต้องการ
• เราลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ ด้วยการคิดนอกกรอบ ให้กับสิ่งที่อยู่ในกล่อง iPhone 12 สามารถใช้กับอะแดปเตอร์แปลงไฟ, EarPods และสาย USB‑A เป็น Lightning ที่มีอยู่เดิมได้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้มีอยู่เกลื่อนโลกของเราอยู่แล้วนับพันล้านชิ้น จนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ ๆ ที่ออกมามักไม่ได้ถูกใช้งานด้วยซ้ำ เราจึงนำอุปกรณ์เหล่านี้ออกจากกล่องของผลิตภัณฑ์ iPhone ทั้งตระกูล
โดยการกระทำเช่นนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงหลีกเลี่ยงการทำเหมืองแร่และการใช้วัสดุอันมีค่า อีกทั้งยังทำให้บรรจุภัณฑ์มีขนาดเล็กลง ปริมาณของกล่องต่อรอบการจัดส่งมากขึ้น และนั่นหมายถึงรอบการจัดส่งโดยรวมที่น้อยลงกว่าเดิม
และยิ่งไปกว่านั้นเรายังให้พันธมิตรด้านการผลิตของเราเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่า 2 ล้านเมตริกตันต่อปีเลยทีเดียว
คุณสามารถใช้สาย USB‑A เป็น Lightning เพื่อชาร์จ iPhone เครื่องใหม่ของคุณต่อไปได้ หรือใช้ประโยชน์จากการชาร์จแบบเร็วด้วยสาย USB‑C เป็น Lightning ที่มีมาให้แล้วในกล่อง ซึ่งสามารถใช้กับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB‑C ที่มีอยู่เดิมและพอร์ตของคอมพิวเตอร์ได้
[iphone-price]
[mobile-price]
Leave a Reply