เปรียบเทียบ iPad Pro M2 VS iPad Pro M1 ปี 2022 รุ่นจอ 11 นิ้ว ส่วนต่าง 5,000 บาท เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย!

เปรียบเทียบ iPad Pro M2 และ iPad Pro M1 ปี 2022 รุ่นจอ 11 นิ้ว ส่วนต่าง 5,000 บาท เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย!

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ iPad Pro M2 และ iPad Pro M1 รุ่นจอ 11 นิ้ว มาฝากให้ได้ชมกัน

โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น

สำหรับ iPad Pro M2 รุ่น 11 นิ้ว ราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และเริ่มต้นที่ 38,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

รัน iPadOS 16 หน้าจอ IPS LED ขนาด 11 นิ้ว มาพร้อมคุณสมบัติยกปลาย Apple Pencil ขุมพลัง Apple M2 แรม 8GB และ 16GB ความจุขนาด 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB

กล้องหลัง 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR กล้องเซลฟี่ 12MP สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Apple Pencil และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์

สำหรับ iPad Pro M1 รุ่น 11 นิ้ว ราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และเริ่มต้นที่ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular

รัน iPadOS 15 หน้าจอ IPS LED ขนาด 11 นิ้ว ขุมพลัง Apple M1 แรม 8GB และ 16GB ความจุขนาด 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB

กล้องหลัง 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR กล้องเซลฟี่ 12MP สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ Apple Pencil และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์

ตารางเปรียบเทียบสเปกการใช้งาน iPad Pro M2 และ iPad Pro M1 รุ่นจอ 11 นิ้ว

Features iPad Pro M2 รุ่น 11 นิ้ว iPad Pro M1 รุ่น 11 นิ้ว
วันเปิดตัว : – ตุลาคม 2565 – เมษายน 2564
ราคา :
– รุ่น Wi-Fi – รุ่น Wi-Fi
– 32,900 บาท (128GB) – 27,900.- (128GB)
– 36,900 บาท (256GB) – 31,400.- (256GB)
– 44,900 บาท (512GB) – 38,400.- (512GB)
– 60,900 บาท (1TB) – 52,400.- (1TB)
– 76,900 บาท (2TB) – 66,400.- (2TB)
– รุ่น Wi-Fi + Cellular – รุ่น Wi-Fi + Cellular
– 38,900 บาท (128GB) – 32,900.- (128GB)
– 42,900 บาท (256GB) – 36,400.- (256GB)
– 50,900 บาท (512GB) – 43,400.- (512GB)
– 66,900 บาท (1TB) – 57,400.- (1TB)
– 82,900 บาท (2TB) – 71,400.- (2TB)
OS : – iPadOS 16 – iPadOS 15
หน้าจอ :
– หน้าจอ IPS LED – หน้าจอ IPS LED
– ขนาด 11 นิ้ว – ขนาด 11 นิ้ว
– จอภาพ Liquid Retina – จอภาพ Liquid Retina
– ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล – ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล
– เทคโนโลยี ProMotion – เทคโนโลยี ProMotion
– คุณสมบัติยกปลาย Apple Pencil
CPU : – Apple M2 แบบ Octa Core – Apple M1 แบบ Octa Core
GPU : – Apple GPU (10-core graphics) – Apple GPU (8-core graphics)
RAM :
– 8GB (128GB, 256GB และ 512GB) – 8GB (128GB, 256GB และ 512GB)
– 16GB (1TB และ 2TB) – 16GB (1TB และ 2TB)
ROM :
– 128GB – 128GB
– 256GB – 256GB
– 512GB – 512GB
– 1TB – 1TB
– 2TB – 2TB
กล้องหลัง :
– 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR – 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4
– Quad LED Dual Tone Flash – Quad LED Dual Tone Flash
– 2x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
– 5x Digital Zoom – 5x Digital Zoom
– Auto Focus – Auto Focus
– PDAF – PDAF
– HDR อัจฉริยะ 4 – HDR อัจฉริยะ 3
– OIS
กล้องหน้า :
– 12MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/2.4
– Retina Flash – Retina Flash
– HDR อัจฉริยะ 4 – HDR อัจฉริยะ 3
Video :
– 4K@24/25/30/60fps – 4K@24/25/30/60fps
– 1080p@25/30/60fps – 1080p@25/30/60fps
– 720p@30fps – 720p@30fps
Battery :
– 28.65 วัตต์ – 28.65 วัตต์
– ท่องเว็บผ่าน Wi-Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
– ท่องเว็บผ่าน Wi-Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
– ท่องเว็บโดยใช้เซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง
– ท่องเว็บโดยใช้เซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง
ขนาด : – 247.6×178.5×5.9 มม. – 247.6×178.5×5.9 มม.
น้ำหนัก :
– 466 กรัม (Wi-Fi) – 466 กรัม (Wi-Fi)
– 468 กรัม (Wi-Fi + Cellular) – 470 กรัม (Wi-Fi + Cellular)
รองรับซิม : – Nano‑SIM และ eSIM – Nano‑SIM และ eSIM
ระบบกันน้ำ :
ระบบเครือข่าย :
– 4G LTE – 4G LTE
– 5G – 5G
ระบบเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
– Bluetooth 5.3 – Bluetooth 5.0
– USB Type-C – USB Type-C
– ลำโพง 4 ตัว – ลำโพง 4 ตัว
– ไมโครโฟน 5 ตัว – ไมโครโฟน 5 ตัว
– Apple Pencil (รุ่นที่ 2) – Apple Pencil (รุ่นที่ 2)
GPS :
– GPS – GPS
– A-GPS – A-GPS
– GLONASS – GLONASS
– Galileo – Galileo
– QZSS – QZSS
Sensor :
– Face ID – Face ID
– Accelerometer – Accelerometer
– Gyroscope – Gyroscope
– Compass – Compass
– Barometer – Barometer
สี :
– เงิน – เงิน
– เทาสเปซเกรย์ – เทาสเปซเกรย์

Features iPad Pro M2 รุ่น 11 นิ้ว iPad Pro M1 รุ่น 11 นิ้ว
วันเปิดตัว : – ตุลาคม 2565 – เมษายน 2564
OS : – iPadOS 16 – iPadOS 15
หน้าจอ :
– หน้าจอ IPS LED – หน้าจอ IPS LED
– ขนาด 11 นิ้ว – ขนาด 11 นิ้ว
– จอภาพ Liquid Retina – จอภาพ Liquid Retina
– ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล – ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล
– เทคโนโลยี ProMotion – เทคโนโลยี ProMotion
– คุณสมบัติยกปลาย Apple Pencil
CPU : – Apple M2 แบบ Octa Core – Apple M1 แบบ Octa Core
GPU : – Apple GPU (10-core graphics) – Apple GPU (8-core graphics)
กล้องหลัง :
– 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR – 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR
– ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4
– Quad LED Dual Tone Flash – Quad LED Dual Tone Flash
– 2x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
– 5x Digital Zoom – 5x Digital Zoom
– Auto Focus – Auto Focus
– PDAF – PDAF
– HDR อัจฉริยะ 4 – HDR อัจฉริยะ 3
– OIS
กล้องหน้า :
– 12MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/2.4
– Retina Flash – Retina Flash
– HDR อัจฉริยะ 4 – HDR อัจฉริยะ 3
ระบบเชื่อมต่อ : – Bluetooth 5.3 – Bluetooth 5.0
สี :
– เงิน – เงิน
– เทาสเปซเกรย์ – เทาสเปซเกรย์

จุดเด่น iPad Pro M2 รุ่นจอ 11 นิ้ว คือ เป็น iPad รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รัน iPadOS 16 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ทั้ง 2 รุ่น แม้จะใช้หน้าจอเหมือนกัน ได้แก่ หน้าจอ IPS LED ขนาด 11 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล

เทคโนโลยี ProMotion แต่ iPad Pro M2 นั้นหน้าจอรองรับคุณสมบัติยกปลาย Apple Pencil ขับเคลื่อนด้วย Apple M2 แบบ Octa Core ชิป Apple GPU แบบ 10 คอร์ รองรับ Bluetooth 5.3

ส่วนกล้องหลังคมชัด 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR พร้อม Quad LED Dual Tone Flash รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom

ซึ่ง iPad Pro M2 นั้นมาพร้อม HDR อัจฉริยะ 4 และมีกันสั่น OIS อีกทั้งกล้องหน้ายังรองรับ HDR เวอร์ชันใหม่กว่าด้วย ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์

Features iPad Pro M1 รุ่น 11 นิ้ว iPad Pro M2 รุ่น 11 นิ้ว
ราคา :
– รุ่น Wi-Fi – รุ่น Wi-Fi
– 27,900.- (128GB) – 32,900 บาท (128GB)
– 31,400.- (256GB) – 36,900 บาท (256GB)
– 38,400.- (512GB) – 44,900 บาท (512GB)
– 52,400.- (1TB) – 60,900 บาท (1TB)
– 66,400.- (2TB) – 76,900 บาท (2TB)
– รุ่น Wi-Fi + Cellular – รุ่น Wi-Fi + Cellular
– 32,900.- (128GB) – 38,900 บาท (128GB)
– 36,400.- (256GB) – 42,900 บาท (256GB)
– 43,400.- (512GB) – 50,900 บาท (512GB)
– 57,400.- (1TB) – 66,900 บาท (1TB)
– 71,400.- (2TB) – 82,900 บาท (2TB)
สี :
– เงิน – เงิน
– เทาสเปซเกรย์ – เทาสเปซเกรย์

จุดเด่น iPad Pro M1 รุ่นจอ 11 นิ้ว คือ มีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่า 5,000 – 6,000 บาท และมีสเปกบางส่วนที่คล้ายกับรุ่น M2 ด้วย ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ iPad Pro M2 และ iPad Pro M1 รุ่นจอ 11 นิ้ว ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน

อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, คุณสมบัติหน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก หรือเวอร์ชัน Bluetooth เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันอยู่ที่ 5,000 – 6,000 บาท

ซึ่งหากเลือก iPad Pro M2 ก็จะได้รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาพร้อม iPadOS 16 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ทั้ง 2 รุ่น แม้จะใช้หน้าจอเหมือนกันแต่ iPad Pro M2 หน้าจอรองรับคุณสมบัติยกปลาย Apple Pencil

ขับเคลื่อนด้วย Apple M2 แบบ Octa Core ชิป Apple GPU แบบ 10 คอร์ รองรับ Bluetooth 5.3 ส่วนกล้องหลังคมชัด 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR พร้อม Quad LED Dual Tone Flash

รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom ซึ่ง iPad Pro M2 นั้นมาพร้อม HDR อัจฉริยะ 4 และมีกันสั่น OIS อีกทั้งกล้องหน้ายังรองรับ HDR เวอร์ชันใหม่กว่าด้วย ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์

แต่หากเลือก iPad Pro M1 ก็จะจ่ายในราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งยังมีสเปกบางส่วนที่คล้ายกับรุ่น M2 อาทิ หน้าจอ IPS LED ขนาด 11 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina ความละเอียด 2388×1668 พิกเซล

รองรับเทคโนโลยี ProMotion มีแรม 8GB และ 16GB มีให้เลือก 5 ความจุ ได้แก่ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB กล้องหลัง 12MP + 10MP + TOF 3D LiDAR กล้องเซลฟี่ 12MP หรือรองรับ Apple Pencil และ Face ID เป็นต้น

ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ


[mobile-price]