iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว 2022 ไอแพด โปร รุ่น 12.9 นิ้ว ราคา
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว รุ่น Wi-Fi ราคา 37,900 บาท ( 128GB), 41,400 บาท (256GB), 48,400 บาท (512GB), 62,400 บาท (1TB), 76,400 บาท (2TB)
รุ่น Wi-Fi + Cellular ราคา 42,900 บาท (128GB), 46,400 บาท (256GB), 53,400 บาท (512GB), 67,400 บาท (1TB), 81,400 บาท (2TB) (ข้อมูล ณ เดือน มิ.ย. 65)
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ 1.สีเทาสเปซเกรย์ 2.สีเงิน
สเปกเครื่อง iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว
| Features | iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว |
| วันเปิดตัว : | – เมษายน 2564 |
|
ราคา :
|
– รุ่น Wi-Fi |
| – 37,900.- (128GB) | |
| – 41,400.- (256GB) | |
| – 48,400.- (512GB) | |
| – 62,400.- (1TB) | |
| – 76,400.- (2TB) | |
| – รุ่น Wi-Fi + Cellular | |
| – 42,900.- (128GB) | |
| – 46,400.- (256GB) | |
| – 53,400.- (512GB) | |
| – 67,400.- (1TB) | |
| – 81,400.- (2TB) | |
| OS : | – iPadOS 15 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ IPS Mini‑LED |
| – ขนาด 12.9 นิ้ว | |
| – จอภาพ Liquid Retina XDR | |
| – ความละเอียด 2732×2048 พิกเซล | |
| – HDR10 | |
| CPU : | – Apple M1 แบบ Octa-Core |
| GPU : | – Apple GPU (8-core graphics) |
|
RAM :
|
– 8GB (128GB, 256GB หรือ 512GB) |
| – 16GB (1TB หรือ 2TB) | |
|
ROM :
|
– 128GB |
| – 256GB | |
| – 512GB | |
| – 1TB | |
| – 2TB | |
|
กล้องหลัง :
|
– 12MP + 10MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.8 + f/2.4 | |
| – dual-tone LED flash | |
| – 2x Optical Zoom | |
| – 5x Digital Zoom | |
| – Auto Focus | |
| – HDR อัจฉริยะ 3 | |
| – PDAF | |
|
กล้องหน้า :
|
– 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.4 | |
| – Retina Flash | |
| – HDR อัจฉริยะ 3 | |
| – Panorama | |
|
Video :
|
– 4K@24//25/30/60fps |
| – 1080p@25/30/60fps | |
| – 720p@30fps | |
| Battery : | – 40.88 วัตต์ ชาร์จไว 18W |
| ขนาด : | – 280.6×214.9×6.4 มม. |
|
น้ำหนัก :
|
– 682 กรัม (Wi-Fi) |
| – 685 กรัม (Wi-Fi + Cellular) | |
| รองรับซิม : | – Nano‑SIM (Apple SIM) |
| ระบบกันน้ำ : | – |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE |
| – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
| – Bluetooth 5.0 | |
| – USB Type-C | |
| – Apple Pencil (รุ่นที่ 2) | |
| – ลำโพง 4 ตัว | |
| – ไมโครโฟน 5 ตัว | |
|
GPS :
|
– GPS |
| – GLONASS | |
| – Galileo | |
| – QZSS | |
|
Sensor :
|
– Face ID |
| – LiDAR Scanner | |
| – Gyro | |
| – Barometer | |
| – Proximity | |
|
สี :
|
– เทาสเปซเกรย์ |
| – เงิน |
• iPad Pro อัดฉีดพลังแรงโดยชิป Apple M1
• ประสิทธิภาพแรงเกินต้าน
• XDR ขั้นสุดของ Liquid Retina
• ระบบเซลลูลาร์ที่เร็วสุดขั้ว
• ที่สุดแห่งประสบการณ์ของ iPad ซึ่งวันนี้มาพร้อมประสิทธิภาพสุดล้ำจากชิป M1, จอภาพ XDR ที่สวยงามน่าทึ่ง และระบบไร้สายที่เร็วสุดแรงอย่าง 5G เอาละ เตรียมคาดเข็มขัดแล้วก็เร่งสปีดไปกันเลย
• iPad Pro และชิป M1 คู่นี้แรง
• ชิป M1 เมื่อมีชิป M1 ก็หมายความว่า iPad Pro จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่เร็วที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน เพราะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เหนือชั้นไปอีกขั้นนี้อย่างเต็มที่
รวมถึงจากเทคโนโลยีที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ อย่างโปรเซสเซอร์ประมวลผลสัญญาณภาพสุดล้ำและสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมของ M1
นอกจากนี้ด้วยความที่ชิป M1 นั้นประหยัดพลังงานอย่างน่าทึ่ง iPad Pro จึงยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวันบนความบางและเบาเหมือนเคย เรียกว่าทำให้ทั้งพกพาสะดวกและทรงพลังนั่นเอง
• ประสิทธิภาพและกราฟิกที่เร็วขึ้น CPU แบบ 8‑core ของชิป M1 มอบประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้นสูงสุด 50% และชิป M1 ก็ยังมาพร้อม GPU แบบ 8‑core ในระดับชั้นที่ไม่มีใครเทียบเท่า
ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพกราฟิกของ iPad Pro เร็วขึ้นสูงสุด 40% คุณจึงสร้างโมเดล AR ที่มีความสลับซับซ้อน เล่นเกมไปพร้อมกราฟิกคุณภาพระดับคอนโซลที่มีอัตราเฟรมสูง และอื่นๆ อีกมากมายได้
– ประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้น 50%
– กราฟิกเร็วขึ้น 40%
• จอภาพ Liquid Retina XDR 12.9″ ชัดเลยว่าเป็นที่สุดช่วงไดนามิกที่กว้างถึงขีดสุดมาอยู่บน iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วแล้ว จอภาพ Liquid Retina XDR สามารถถ่ายทอดรายละเอียดที่สมจริงด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1
ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการรับชมและปรับแต่งรูปภาพและวิดีโอแบบ HDR หรือสนุกกับภาพยนตร์และรายการทีวีที่คุณชื่นชอบ
นอกจากนี้ยังให้ความสว่างแบบเต็มหน้าจอได้อย่างน่าทึ่งที่ 1,000 นิต และมีความสว่างสูงสุดที่ 1,600 นิต ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพสุดล้ำอย่างขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การแสดงผลแบบ True Tone และ ProMotion อีกด้วย
– ความสว่างแบบเต็มหน้าจอ 1,000 นิต
– ความสว่างสูงสุด (HDR) 1,600 นิต
– True Tone เพื่อการดูที่สบายตา
– อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1
– อัตราการดึงข้อมูลใหม่แบบปรับได้ที่ 120Hz ProMotion
– ขอบเขตสีกว้าง P3
• พลังความสว่างจาก Mini‑LED 10,000 ดวง Mini‑LED ที่ผ่านมาเราใช้วิธีติดตั้งแผง LED บริเวณด้านหลังของจอภาพทั้งหมดเพื่อให้ได้ความสว่างที่สูงสุดขีด แต่เพื่อให้พอดีกับ iPad Pro ที่มีความบางอย่างเหลือเชื่อ เราได้หันมาใช้ Mini‑LED
ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 120 เท่า รวมถึงใช้ฟิล์มออปติคัลแบบเฉพาะและตัวกระจายแสงที่ผสมแสงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้ลงตัวพอดีในดีไซน์ที่บางเพียง 6.4 มม. เท่านั้น
• โซนหรี่แสงเฉพาะที่ เราได้นำ Mini‑LED กว่า 10,000 ดวงมาจัดกลุ่มให้เป็นโซนหรี่แสงเฉพาะที่มากกว่า 2,500 โซน
โดยที่แต่ละโซนสามารถปรับความสว่างตามคอนเทนต์ที่รับชมได้อย่างแม่นยำเพื่อให้ได้อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000,000:1 อันน่าทึ่ง
บอกเลยว่าแม้แต่คอนเทนต์ HDR ที่มีรายละเอียดมากที่สุดและมีไฮไลท์อลังการสุดๆ อย่างกาแล็คซี่และฉากระเบิดในภาพยนตร์แอ็คชั่นก็ดูสมจริงยิ่งกว่าที่เคย
• จอภาพ Liquid Retina 11″ สวยคมชัดในขนาดกะทัดรัด สวยสบายตา ถือสบายมือ จอภาพ Liquid Retina บน iPad Pro รุ่น 11 นิ้วไม่เพียงแต่สวยสดงดงามและพกพาสะดวกเท่านั้น
แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำอันเหลือเชื่อมากมาย2 ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ProMotion, การแสดงผลแบบ True Tone, ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และการสะท้อนของแสงที่ต่ำมาก ซึ่งทำให้ทุกอย่างดูสวยสะดุดตาและรู้สึกได้ถึงการตอบสนองที่ดีเยี่ยม
• 5G และ Wi‑Fi ทีมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อที่เร็วสุดแรง iPad เป็นอุปกรณ์พกพาที่ไม่เหมือนใครมาโดยตลอดกับตัวเลือก Wi‑Fi และเซลลูลาร์ที่เร็วสุดขั้วซึ่งตอนนี้ได้เพิ่มความสามารถด้าน 5G เข้ามาด้วย
คุณจึงเชื่อมต่อกับเครือข่ายไร้สายที่เร็วที่สุดได้ในเวลาที่คุณต้องการดาวน์โหลดไฟล์ สตรีมภาพยนตร์ ทำงานกับเพื่อนร่วมงาน หรืออัปโหลดคอนเทนต์ขณะเดินทาง
อีกอย่างคือ iPad Pro รองรับย่านความถี่ 5G มากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน ดังนั้นจึงรับ 5G ได้ในหลายที่มากขึ้นด้วย
• Wi‑Fi 6 การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วคือส่วนสำคัญในการทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จ และเมื่อมี Wi‑Fi 6 คุณก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้เชื่อมต่อกับ Wi‑Fi ที่เร็วที่สุดที่มีให้บริการ
• แล้วคุณจะอยากเปิดกล้องวิดีโอตลอดเวลา กล้องอัลตร้าไวด์พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” iPad Pro มาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ใหม่พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP และมุมมองภาพที่กว้างถึง 122 องศา
ซึ่งลงตัวมากสำหรับ FaceTime และคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ที่มาใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังเหมาะกับการถ่ายเซลฟี่ในโหมดภาพถ่ายบุคคลสุดอลังการ
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับกล้อง TrueDepth เพื่อปลดล็อค iPad Pro ด้วย Face ID ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
– กล้องอัลตร้าไวด์ 12MP
– TrueDepth ปลดล็อค iPad ด้วย Face ID
จัดให้อยู่ตรงกลาง คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” แบบใหม่หมดจะใช้ประโยชน์จากกล้องอัลตร้าไวด์และการเรียนรู้ของระบบ ซึ่งบอกเลยว่าการอยู่ในวิดีโอคอลของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เพราะตอนนี้กล้องจะแพนตามการเคลื่อนไหวของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณอยู่กลางเฟรมเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาเข้าร่วมเฟรมกับคุณหรือออกจากการโทร มุมมองภาพก็จะขยายออกหรือซูมเข้าโดยอัตโนมัติเช่นกัน
โดยคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” สามารถใช้งานได้ทั้งกับ FaceTime และแอปการประชุมทางวิดีโออื่นๆ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดึงดูดและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
• กล้องระดับโปร กล้องไวด์และกล้องอัลตร้าไวด์ช่วยให้คุณถ่ายภาพหรือวิดีโอได้อย่างสวยงามลงตัว
หรือจะเซ็ตถ่ายภาพยนตร์ที่ดูเหมือนใช้การริกกล้องหลายๆ ตัวก็ยังได้ และด้วย ISP ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นในชิป M1 ก็ทำให้ตอนนี้ iPad Pro มาพร้อม HDR อัจฉริยะ 3 ด้วย
– กล้องไวด์ 12MP
– กล้องอัลตร้าไวด์ 10MP
• LiDAR สแกนเนอร์ LiDAR จะวัดระยะเวลาที่แสงใช้ในการสะท้อนกลับมาจากวัตถุ จึงสามารถสร้างแผนผังแนวลึกของพื้นที่ที่คุณอยู่ได้ไม่ว่าจะที่ไหน และปลดล็อคประสบการณ์ AR ที่เต็มอิ่มสมจริง
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับ ISP อันทรงพลังเพื่อให้การโฟกัสภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยมีความแม่นยำยิ่งขึ้นและลดระยะเวลาในการบันทึกภาพ
• Thunderbolt พอร์ตที่เร็วราวสายฟ้า สำหรับเวิร์กโฟลว์งานสร้างสรรค์สุดทรงพลังวันนี้มาพร้อม Thunderbolt ซึ่งเป็นพอร์ตที่เร็วและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPad โดยสามารถใช้งานร่วมกับหัวต่อ USB‑C ที่มีอยู่แล้ว
และยังเป็นการเปิดประตูสู่ระบบนิเวศที่หลากหลายของอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพสูงสำหรับ iPad Pro เช่น ตัวจัดเก็บข้อมูลภายนอกที่รวดเร็ว จอภาพ และแท่นวาง
คุณจึงถ่ายโอนชิ้นงานขนาดใหญ่หรือแม้แต่เชื่อมต่อกับ Pro Display XDR แบบเต็มความละเอียด 6K ได้สบายๆ
• Magic Keyboard Apple Pencil ความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด อุปกรณ์เสริมระดับโปร Apple Pencil, Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio จะช่วยเปิดอีกหลากหลายวิธีในการใช้ iPad Pro ให้กับคุณ
ไม่ว่าจะวาดผลงานชิ้นเอก จดโน้ต หรือวางแผนธุรกิจ เพราะอุปกรณ์เสริมที่อเนกประสงค์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ของคุณให้เหนือชั้นไปอีกขั้น
•Apple Pencil ด้วยพลังของ Apple Pencil รุ่นที่ 2 คุณสามารถเปลี่ยน iPad Pro ให้กลายเป็นผืนผ้าใบที่สมจริงสำหรับการวาดภาพหรือเป็นอุปกรณ์สำหรับจดโน้ตที่ดีที่สุดในโลก
เรียกว่าสิ่งนี้ได้สร้างมาตรฐานให้กับวิธีการวาดและการทำเครื่องหมายบนเอกสารว่าควรจะให้ความรู้สึกดีๆแบบไหน นั่นก็คือ ใช้งานง่าย แม่นยำ และมหัศจรรย์
• Magic Keyboard Magic Keyboard มาพร้อมประสบการณ์การพิมพ์ที่ตอบสนองได้ฉับไวและแทร็คแพดในตัวที่เปิดประตูสู่วิธีใหม่ๆ ในการทำงานกับ iPadOS ให้กับคุณ
คราวนี้คุณจะเขียนนิยาย ปั่นรายงาน หรือจัดการกับอีเมลก็ลุยได้เลย อีกอย่างคือ ด้วยปุ่มแบบแบ็คไลท์ คุณก็ทำนั่นทำนี่ได้หมดไม่ว่าสภาพแสงรอบๆ จะเป็นแบบไหน
• วันนี้มาในสองสี โดยมีให้เลือกระหว่างสีดำและสีขาวสำหรับ Magic Keyboard ทั้งสองขนาด
• iPadOS ระบบปฏิบัติการที่ลื่นไหล ใช้งานง่าย ในแบบเฉพาะตัวของ iPad iPadOS สร้างขึ้นบนรากฐานอันทรงพลังเช่นเดียวกับ iOS แต่มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง
ซึ่งออกแบบมาสำหรับความสามารถของ iPad และวิธีการใช้งานของคุณโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะใช้การสัมผัส, Apple Pencil, คีย์บอร์ด หรือแทร็คแพด ยิ่งถ้าเป็น iPadOS คุณยังทำอะไรๆ ได้มากขึ้นไปอีก เช่น คัดลอกและวางโน้ตที่จดด้วยลายมือให้เป็นข้อความ
[iphone-price]
[mobile-price]
Leave a Reply