iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ไอแพด โปร ราคา

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ไอแพด โปร ราคา

 

10 

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ราคา 29,000 บาท  (Wi-Fi 32GB), 34,900 บาท  (Wi-Fi 128GB), 38,900 บาท (Wi-Fi 256GB), 29,900 บาท (Wi-Fi + Cellular 64GB), 35,300 บาท (Wi-Fi + Cellular 256GB), 42,500 บาท (Wi-Fi + Cellular 512GB) (ณ วันที่ 5 ก.พ. 62)

iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ 1.สีเงิน 2.สีเทา 3.สีเทา Space Glay

– iPad Pro ทั้งบาง ทั้งเบา ทั้งอลังการ  ที่ผ่านมา iPad มอบประสบการณ์ที่เรียบง่ายไม่มีใครเหมือน แต่กลับให้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มสมจริงมาโดยตลอด และในวันนี้ ด้วยจอภาพ Retina ขนาดใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว ประสิทธิภาพ CPU ที่แรงกว่า iPad Air 2 ถึงเกือบสองเท่า และเทคโนโลยี Multi-Touch ที่ทำงานได้ดีกว่าเดิม iPad Pro จะเพิ่มมิติใหม่ให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำ นี่จึงไม่ใช่แค่ iPad ที่ใหญ่ขึ้น แต่เป็น iPad ที่ให้คุณสรรค์สร้างและทำงานได้ดียิ่งกว่าเดิม ในระดับใหม่ที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

จอภาพ Retina

– ผืนผ้าใบที่ออกแบบมาสำหรับจินตนาการอันยิ่งใหญ่  iPad Pro มาพร้อมจอภาพ Retina ที่มีความละเอียดสูงที่สุดใน บรรดาอุปกรณ์ iOS โดยหน้าจอขนาด 12.9 นิ้วที่มีจำนวนพิกเซล สูงถึง 5.6 ล้านจะช่วยให้คุณทำทุกอย่างที่อยากทำได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นจนไม่อยากวาง ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวิดีโอระดับ 4K การออกแบบงานนำเสนอ หรือการจัดการธุรกิจ นอกจากนี้ระบบ Multi-Touch ซับซิสเต็มยังได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขึ้นใหม่เพื่อให้คุณสามารถโต้ตอบกับ iPad ได้ด้วยวิธีที่หลากหลายกว่าเดิม

ชิพ A9X

– ที่สุดของชิพอันทรงพลังสำหรับอุปกรณ์ที่มากความสามารถที่สุดของเรา หัวใจของ iPad Pro คือ A9X ใหม่ซึ่งเป็นชิพรุ่นที่ 3 ของเราที่ใช้สถาปัตยกรรม 64 บิตระดับเดสก์ท็อป ซึ่งนอกจากจะมาพร้อม CPUที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น 1.8 เท่าแล้ว ยังมีกราฟิกที่แรงขึ้นอีกถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Air 2 คราวนี้ไม่ว่าแอพจะต้องการพลังในการประมวลผลสูงแค่ไหน ก็ยังคงสามารถทำงานได้สบายๆ

iOS 9

– ประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าในทุกสัมผัส  iOS 9 คือระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ใช้งานง่าย ล้ำสมัย และปลอดภัยที่สุดในโลกและด้วยความสามารถใหม่ๆ อันทรงพลังที่ใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพอันเหลือล้นของ iPad Pro คุณก็จะยิ่งสามารถทำงานและสร้างสรรค์ได้มากกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังมีงานมัลติทาสก์ที่ช่วยให้การใช้แอพสองตัวในเวลาเดียวกันง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนคุณสมบัติต่างๆ ที่ได้รับการปรับปรุงมาทั้งระบบอย่าง Siri ก็จะทำให้ iPad มีประโยชน์มากกว่าเดิมยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานสอดประสานกันเป็นหนึ่ง iOS 9 และ iPad Pro จึงทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

– ประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าในทุกสัมผัส  iOS 9 คือระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ล้ำสมัย ใช้งานง่าย และปลอดภัยที่สุดในโลก
ถ้ารู้สึกเหมือนว่า iOS 9 ถูกออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะแล้วล่ะก็ คงต้องบอกเลยว่าใช่ ตั้งแต่อินเทอร์เฟซเรียบหรูสะอาดตา คุณสมบัติงานมัลติทาสก์อันทรงประสิทธิภาพ ไปจนถึงแอพที่มีประโยชน์ซึ่งมาพร้อมกับ iOS 9 ทั้งหมดต่างได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก iPad ได้สูงสุด

– เบิ้ลการทำงานได้เป็นสองเท่า  Slide Over, Split View และรูปภาพข้างในรูปภาพ คือวิธีการใหม่ในการทำงานแบบมัลติทาสก์บน iPad ส่วนคุณสมบัติพิมพ์เร็วหรือ QuickType แบบใหม่ก็จะช่วยให้การจัดรูปแบบและเลือกข้อความนั้นง่ายกว่าที่เคย แถมยังสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการจัดวางปุ่มลัดไว้ใกล้ๆ ปลายนิ้วคุณอีกด้วย

– Slide Over  จากนี้คุณจะสามารถเปิดแอพตัวที่สองได้โดยไม่ต้องออกจากแอพที่ใช้งานอยู่อีกต่อไป คุณจึงเปิดแอพเพื่อท่องเว็บ ตอบข้อความ หรือจดสิ่งต่างๆ ลงในโน้ต แล้วก็แค่เลื่อนแอพนั้นออกเพื่อกลับไปยังแอพที่ใช้งานค้างอยู่ได้แบบรวดเร็วทันใจ

– Split View  Split View บน iPad ช่วยให้คุณก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการเปิดใช้งานแอพสองตัวได้ในเวลาเดียวกัน คุณจึงสามารถสเก็ตช์ภาพไปและดูต้นฉบับไปพร้อมๆ กัน หรือจะคัดลอกข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือใน iBooks ระหว่างที่เขียนรายงานก็ยังได้ และเมื่อมีทุกสิ่งที่ต้องการอยู่ตรงหน้า ก็หมายความว่าคุณจะมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้มากขึ้นนั่นเอง

– รูปภาพข้างในรูปภาพ  ในระหว่างการใช้งาน FaceTime หรือดูวิดีโอ คุณสามารถกดที่ปุ่มโฮมเพื่อย่อขนาดหน้าจอวิดีโอลงไปอยู่ที่มุมของจอภาพ แล้วแตะเพื่อเปิดแอพตัวที่สอง โดยในระหว่างนี้วิดีโอจะยังคงเล่นต่อไปแม้ว่าคุณกำลังใช้งานอีกแอพหนึ่งอยู่ คุณจึงสามารถดูวิดีโอและตอบอีเมลที่เพิ่งส่งเข้ามาได้พร้อมๆ กันในเวลาเดียว

– ปุ่มลัดที่ปลายนิ้วของคุณ  ปรับแต่งข้อความของคุณได้ในเวลาไม่กี่อึดใจด้วยแถบปุ่มลัดที่ออกแบบมาใหม่หมด รวมถึงเครื่องมือแก้ไขที่ใช้งานง่ายและวิธีใหม่อันแสนสะดวกในการเลือกข้อความด้วยคำสั่งนิ้ว Multi-Touch และหากตอนนี้คุณใช้คีย์บอร์ดไร้สายร่วมกับ iPad คุณก็จะเพลิดเพลินไปกับการใช้งานปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

– คุณสมบัติและแอพที่มาพร้อมเครื่องที่จะให้ iPad ของคุณและคุณทำอะไรๆ ได้มากขึ้น  แอพอันทรงพลังที่มาพร้อม iPad ของคุณได้รับการออกแบบมาเพื่อสิ่งสำคัญต่างๆที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล ข้อความ การท่องเว็บ แผนที่การจดโน้ต และอีกมากมาย วันนี้ iOS 9 ได้ทำการปรับเสริมเติมส่วนสำคัญให้กับแอพเหล่านี้หลายๆ แอพเพื่อให้สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้ยิ่งกว่าที่เคย

– โน้ต  แอพโน้ตใหม่ วันนี้เป็นมากกว่าแค่การจดบันทึกด้วยตัวอักษร คุณสามารถเพิ่มรูปภาพ แผนที่ เว็บลิงก์ รายการตรวจสอบ หรือแม้แต่สเก็ตช์ภาพได้ด้วยปลายนิ้วแถมคุณยังสามารถอัพเดทโน้ตระหว่างอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณผ่าน iCloud และเปิดใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์เครื่องไหนก็ตาม

– เมล  ด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ อันทรงพลัง แอพเมลจะช่วยให้คุณติดต่อกับคนอื่นๆได้ในวิธีที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นผ่านอุปกรณ์ iOS ของคุณ ไม่ว่าจะใช้คุณสมบัติทำเครื่องหมายเพื่อเพิ่มรูปวาด คอมเมนท์ หรือเซ็นลายเซ็นลงบนรูปภาพและเอกสาร รวมไปถึงแนบไฟล์ได้ง่ายๆ จาก iCloud Drive

– กล้อง  เพียงแตะแค่ปุ่มเดียวก็ถ่ายรูปและวิดีโอสวยๆ ได้แล้ว ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นวิดีโอไทม์แลปส์ หรือภาพพาโนรามาสุดอลังการ และยังถ่ายเซลฟี่ได้สวยกว่าเดิมด้วยโหมดตั้งเวลาและภาพถ่ายต่อเนื่อง โดยตัวตั้งเวลาจะให้เวลาคุณเตรียมพร้อม 3 หรือ 10 วินาที จากนั้นก็จะถ่าย 10 ภาพต่อวินาทีในโหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง

– FaceTime  แค่แตะครั้งเดียว คุณก็สามารถวิดีโอคอลหรือออดิโอคอลจาก iPhone ของคุณไปยัง iPhone, iPad หรือ Mac ของคนอื่น ผ่าน Wi-Fi หรือเครือข่ายเซลลูลาร์ก็ได้คราวนี้ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กันเสมอ Safari

– Safari  จะเน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือเว็บ เมื่อคุณเปิดเว็บเพจ แถบที่อยู่และแถบนาวิเกชั่นจะถูกซ่อนไว้จนกว่าคุณจะต้องการใช้งาน ส่วนเรื่องการเพิ่มและแก้ไขที่คั่นหน้าก็ทำได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังมีคุณสมบัติรายการอ่าน ลิงก์ที่แชร์ และแท็บ iCloud ที่จะช่วยให้คุณพบเนื้อหาที่ต้องการได้ในเวลาที่คุณต้องการอีกด้วย

– iTunes Store  เลือกสิ่งที่คุณชอบจากบทเพลงเป็นล้านๆ และภาพยนตร์ HD นับพันๆ เรื่อง รวมถึงค้นหาเพลงและภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่คุณชอบได้ง่ายๆ ที่ iTunes Store และด้วย iCloud คุณจะเข้าถึงทุกอย่างที่คุณซื้อได้เลยบน iPad ของคุณ

– App Store  App Store มีแอพและเกมมากกว่า 1 ล้านรายการให้คุณเลือกสนุกได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส เลือกชมแอพในรายการแนะนำ หรือตามหมวดหมู่ เช่น ดนตรี การศึกษาแอพสำหรับเด็ก และอื่นๆ อีกมากมาย หรือแตะที่ ”สำรวจ” เพื่อดูแอพที่แนะนำตามความสนใจของคุณและสถานที่ที่คุณอยู่

– iBooks  ดาวน์โหลดและอ่านหนังสือได้ทุกแนว ตั้งแต่แนวคลาสสิกไปจนถึงแนวลุ้นระทึกเรื่องล่าสุด และยังสามารถใส่ที่คั่นหน้าและโน้ต รวมถึงปรับขนาดฟอนต์และสีพื้นหลังเพื่อให้อ่านได้ง่ายสบายตายิ่งขึ้น และ iCloud ยังช่วยให้คุณสามารถอ่านหนังสือบน iPad แล้วไปอ่านที่ค้างไว้ต่อบน iPhone, iPod touch หรือ Macได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

– iMovie  iMovie ให้คุณเลือกชมและแชร์วิดีโอ HD ที่คุณถ่ายไว้ได้อย่างง่ายๆ บน iPad ของคุณ และยังสามารถเปลี่ยนคลิปโปรดให้กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องดังหรือตัวอย่างหนังสไตล์ฮอลลีวูด รวมถึงนำผลงานชิ้นเอกขนาดย่อมๆ นี้ไปเปิดดูได้ทุกที่ด้วย iMovie Theater แล้วการเปิดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ของคุณก็เกิดขึ้นได้ด้วยการแตะไม่กี่ครั้ง ปัดนิ้วไม่กี่ทีแค่นั้นเองจริงๆ

– GarageBand  GarageBand คือแอพสุดฮิตในการสร้างสรรค์เสียงดนตรีสำหรับ iPad และก็แทบจะไม่ต้องอธิบายเหตุผลเลยว่าทำไม เพราะนี่คือแอพที่ให้คุณเล่น มิกซ์ และบันทึกเพลงของคุณเองได้ ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วและอยากจะแชร์ให้คนอื่นฟังก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง ทีนี้จะให้ไปถึงอีกมุมโลกหรือแค่อีกมุมห้องก็ทำได้สบายมาก แน่นอนว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่การสร้างสรรค์เพลงเพราะๆ และนำไปเปิดให้ใครต่อ

แอพสำหรับ iPad

– เมื่อเพิ่มขึ้นทั้งขนาดและความสามารถ แอพก็ทำอะไรได้มากกว่าที่เคย  iPad Pro มีแอพที่มาพร้อมเครื่องมากมายที่ช่วยให้คุณทำสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันได้ง่ายๆ และใน App Store ยังมีแอพอันน่าทึ่งอีกเยอะที่ออกแบบมาสำหรับ iPad โดยเฉพาะคุณจึงสามารถทำทุกอย่างได้แทบจะไร้ขีดจำกัดจริงๆ

GarageBand

iMovie

UMake

– แอพที่ออกแบบมาเพื่อ iPad และทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากทำ  แอพ iPad คือแอพที่ได้รับการสร้างมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะสมชื่อและใน App Store คุณก็จะได้พบกับแอพอันน่าทึ่งมากมายที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้ทุกตารางนิ้วของจอภาพ Retina อันน่าตื่นตาตื่นใจ และความสามารถอันทรงพลังของ iPad อย่างเต็มที่ไม่ว่าคุณจะอยากทำงาน เล่นเกมสนุกๆ หรือปรับแต่งรูปภาพ App Store ก็ช่วยให้คุณค้นหาและซื้อแอพที่ต้องการได้ง่ายๆ

– ประสบการณ์ไร้รอยต่อระหว่าง iPad, iPhoneและ Mac ของคุณ  อุปกรณ์แต่ละเครื่องต่างก็มีความสามารถอันน่าทึ่งที่พร้อมให้คุณใช้งานอยู่แล้ว แต่ยิ่งถ้าได้ใช้คุณสมบัติต่างๆ อย่าง Handoff, AirDrop, AirPlay, และ iCloud ที่ช่วยให้คุณทำงานระหว่างอุปกรณ์ได้ ความสามารถที่เคยมีก็จะยิ่งทวีความอัศจรรย์ขึ้นไปอีก

– Handoff ให้คุณทำต่อจากที่ค้างไว้ได้เลย  คุณสามารถเริ่มเขียนอีเมลบน iPhone แล้วกลับมานั่งเขียนต่อบน Mac จากที่ค้างไว้ได้ทันที หรือจะเปิดดูเว็บบน Mac แล้วไปดูลิงก์เดียวกันนี้ต่อบน iPad ก็ยังได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่ออุปกรณ์ของคุณลงชื่อเข้าใช้ iCloud บัญชีเดียวกัน โดยคุณสามารถใช้ Handoff กับแอพโปรดต่างๆ ได้ เช่น เมล, Safari, Pages, Numbers, Keynote, แผนที่, ข้อความ, เตือนความจำ, ปฏิทิน และรายชื่อ ในขณะที่นักพัฒนาก็สามารถสร้างให้แอพของตัวเองรองรับ Handoff ได้ด้วยเช่นกัน

– ส่งข้อความแบบไหนก็ได้จากเครื่องไหนก็ได้  เดี๋ยวนี้การพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวที่ไม่ได้ใช้ iPhone ช่างเป็น
เรื่องง่ายแสนง่าย นั่นเพราะคุณไม่เพียงแค่จะรับและส่งข้อความ SMS และ MMS จาก iPhone ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถส่งข้อความจาก iPad หรือแม้แต่เครื่อง Mac ได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าเพื่อนจะใช้โทรศัพท์อะไรส่งข้อความหาคุณ คุณก็จะตอบกลับได้ทันทีจากอุปกรณ์ที่คุณสะดวกในตอนนั้น หรือหากคุณต้องการส่งข้อความหาเพื่อนจาก iPad หรือ Mac ก็เพียงคลิกที่หมายเลขโทรศัพท์ในแอพต่างๆ อย่างเช่น Safari, รายชื่อ หรือปฏิทินเท่านั้นเอง

– AirPlay โชว์ทุกอย่างผ่านหน้าจอใหญ่  AirPlay ช่วยให้คุณสตรีมสิ่งที่อยู่บนอุปกรณ์ iOS ของคุณไปที่ HDTV และลำโพงผ่านทาง Apple TV ได้ในแบบไร้สาย หรือเชื่อมต่อสิ่งที่อยู่บนจอภาพของคุณให้ไปปรากฏบนหน้าจอใหญ่ จะรูปภาพวันหยุดหรือหนังยอดฮิต ก็เลือกได้เลยว่าอยากจะดูอะไรๆ ในขนาดแบบบิ๊กๆ บ้าง

– AirPrint สั่งพิมพ์ได้ง่ายๆ ในแบบไร้สาย  AirPrint ช่วยให้การสั่งพิมพ์อีเมลและเว็บเพจจาก iPad ไปยังเครื่องพิมพ์ที่รองรับ AirPrint เป็นเรื่องง่าย สำหรับการสั่งพิมพ์อีเมล ก็เพียงแตะปุ่ม “ตอบกลับ” จากนั้น เลือก “พิมพ์” และเมื่อต้องการสั่งพิมพ์เว็บเพจ ให้แตะปุ่มแชร์ แล้วเลือก “พิมพ์” นอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์ภาพถ่ายเอกสาร และอื่นๆ ได้ตามต้องการอีกด้วยแชร์ไฟล์แบบไร้สายด้วย AirDrop

– การแชร์ผ่าน AirDrop คือวิธีที่เร็วกว่าและสะดวกกว่าในการส่งอีเมลหรือข้อความ โดยเฉพาะถ้าคนที่คุณอยากแชร์ด้วยไม่ได้อยู่ในรายชื่อของคุณ เพียงแค่แตะ ก็สามารถส่งรูปภาพ วิดีโอ รายชื่อและอะไรก็ได้จากแอพไหนก็ได้ที่มีปุ่มแชร์ไปยังบุคคลที่อยู่ใกล้ๆ ที่ใช้ iOS หรือ OS X

– iCloud ทุกสิ่งที่คุณต้องการในทุกที่ที่คุณต้องการ  ด้วย iCloud มั่นใจได้เลยว่าสิ่งสำคัญที่สุดของคุณในอุปกรณ์ทุกเครื่องจะอยู่ในเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร รูป แอพ รายชื่อ กิจกรรมในปฏิทิน และอื่นๆ อีกมากมาย ไฟล์ทุกรูปแบบ บนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ

– iCloud Drive ให้คุณเข้าถึงทุกไฟล์ของคุณ ได้จากอุปกรณ์ทุกเครื่อง และด้วยคุณสมบัติการแชร์กันในครอบครัว คุณยังสามารถแชร์รูปภาพ วิดีโอ เพลง และทุกสิ่งที่ซื้อบน iTunes ให้กับครอบครัวผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ของ Apple ได้ง่ายๆ ส่วนคลังรูปภาพ iCloud ก็จะจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดที่คุณถ่ายไว้ในที่เดียว ให้เปิดดูได้เลยทันทีจาก iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac ของคุณและ iCloud.com

การออกแบบ

– ความยิ่งใหญ่ที่มีอยู่ในเกือบทุกด้าน  ถึงแม้จอภาพจะใหญ่มาก แต่ iPad Pro ก็มีดีไซน์ที่ทั้งบางและเบาเหลือเชื่อ โดยบางเพียง 6.9 มม. และหนักเพียง 713 กรัม แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่สมดุลและมั่นคง ซึ่งต้องยกข้อดีให้กับตัวเครื่อง Unibody แบบชิ้นเดียวที่แข็งแรงนี้ จะว่าไปแล้วจากความสามารถทั้งหมดที่มีเหลือล้น สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดเกี่ยวกับ iPad Pro คงจะเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าคุณไม่ได้ถืออะไรอยู่เลย

– ปรากฏการณ์แห่งความงามในมือคุณ  ในการสร้างสรรค์ iPad ที่ใหญ่ขนาดนี้ทำให้เราต้องใส่ใจทุกรายละเอียดแม้แต่ในจุดเล็กๆ ตั้งแต่การนำเสนอภาพให้สวยงามมีชีวิตชีวา ไปจนถึงการคำนึงถึงความอเนกประสงค์ เราได้พยายามฉีกทุกข้อจำกัดของ iPad เพื่อก้าวไปสู่อีกขั้นที่เหนือกว่า และผลลัพธ์ที่ได้ก็แน่นอนว่าเป็นอะไรที่ล้ำเกินกว่าแค่จอภาพที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยคุณจะรู้สึกได้ทันทีตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเริ่มใช้ ซึ่งต่างจากครั้งไหนๆ เพราะ iPad Pro คือประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมาอย่างแท้จริง

– 5.6 ล้านพิกเซล แต่ละพิกเซลล้วนสวยสมบูรณ์แบบในตัวเอง  iPad Pro มาพร้อมจอภาพ Retina ที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างมา ด้วยหน้าจอขนาด 12.9 นิ้วซึ่งมีพื้นที่แสดงผลมากกว่าจอภาพของ iPad Air 2 ถึง 78% และภายใต้กระจกนั้นก็คือระบบ Multi-Touchซับซิสเต็ม ที่ได้รับการปรับปรุงแบบยกเครื่องใหม่ ประกอบกับพิกเซลที่สว่างสดใสถึง 5.6 ล้านพิกเซล

นี่จึงเป็นจอภาพที่มีความละเอียดสูงที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ iOS ทั้งหมด และด้วยความละเอียดที่สูงขนาดนี้ อีกทั้งยังมีสีสันที่สวยงามสมจริงและสีดำที่ดำสนิท ทุกอย่างที่คุณทำตั้งแต่การปรับแต่งรูปภาพจนถึงการเล่นเกม 3D สุดมันส์ ก็จะมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นและน่าดึงดูดจนคุณวางไม่ลงเลยทีเดียวความละเอียดหน้าจอ 2732×2048 จอภาพ 12.9 นิ้ว ใหญ่กว่า iPad Air 2 78%

– 6.9 มม. นี่แหละคือการก้าวกระโดดทางวิศวกรรมครั้งใหญ่  จอภาพ Retina บน iPad Pro เกิดจากการนำเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดมาผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อความแม่นยำและการตอบสนองในระดับที่ยากจะหาใครเทียบ ส่วนระบบ Multi-Touch
ซับซิสเต็มนั้นก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการสัมผัสสองแบบ นั่นคือ จากนิ้วมือของคุณและ Apple Pencil

– การจัดเรียงผลึกเหลวด้วยแสง  เราใช้กระบวนการสุดล้ำที่เรียกว่า การจัดเรียงผลึกเหลวด้วยแสงหรือ Photo Alignment เพื่อปรับปรุงคอนทราสต์ขณะมองตรงๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในกระบวนการนี้จะมีการฉายแสง UV เพื่อสร้างพื้นผิวที่มีความสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่นฟิล์มที่เคลือบอยู่บนทรานซิสเตอร์ฟิล์มแบบบางหรือ Thin Film Transistor และฟิลเตอร์สี เพื่อให้โมเลกุลผลึกเหลวของจอภาพเรียงตัวอย่างแม่นยำในแบบที่ควรเป็น และโมเลกุลที่เรียงตัวกันได้ดีขึ้นกว่าเดิมนั้นก็จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นคอนทราสต์ได้ดีขึ้นเมื่อมองที่หน้าจอตรงๆ

– ออกไซด์ TFT  iPad Pro มีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีความละเอียดสูงกว่าอุปกรณ์ iOS อื่นๆ อยู่มาก และนั่นก็คือเหตุผลที่เราตัดสินใจนำทรานซิสเตอร์ฟิล์มออกไซด์แบบบางหรือ Oxide Thin Film Transistor สุดล้ำที่ใช้ใน iMac จอภาพ Retina 5K มาปรับใช้กับจอภาพ Retina ของ iPad Pro ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ TFT ที่สามารถชาร์จพิกเซลได้เร็วกว่า และมีความสว่างที่สม่ำเสมอกว่าทั่วทั้งหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น

– อัตราการรีเฟรชแบบแปรผัน  iPad Pro รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คอนเทนต์บนหน้าจอไม่เคลื่อนไหว และจะลดอัตราการรีเฟรชลงครึ่งหนึ่ง จาก 60 ครั้งเหลือเพียง 30 ครั้งต่อวินาที ซึ่งนับเป็นครั้งแรกสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดของเราเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เอง หน้าจอจึงไม่เพียงแค่ใหญ่ สวยงามและสว่างสดใสเท่านั้น แต่ยังประหยัดพลังงานเป็นเยี่ยมด้วย

– ตัวควบคุมจังหวะเวลา  ตัวควบคุมจังหวะเวลาหรือ “TCON” คือมันสมองของจอภาพ ซึ่งคอยบอกแต่ละพิกเซลว่าต้องทำ
อะไร เมื่อไหร่ และเนื่องจาก iPad Pro มีจำนวนพิกเซลมากกว่า iPad Air 2 อยู่ถึง 2.5 ล้านพิกเซล เราจึงออกแบบ TCON ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้สามารถรองรับความละเอียดที่สูงขึ้นได้โดยการเพิ่ม แบนด์วิดท์ให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ควบคุมพิกเซล ได้ด้วยความเร็วที่สุดยอด

– พบกับ Apple Pencil สรรค์สร้างมาอย่างแม่นยำเพื่อการสร้างสรรค์  ระบบ Multi-Touch ซับซิสเต็มใหม่ใน iPad Pro ช่วยให้ Apple Pencil มีความสามารถที่โดดเด่นและมีความแม่นยำที่เป็นเลิศลึกลงไปถึงระดับพิกเซล* โดย Apple Pencil นั้นมาพร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงกดและการเอียงซึ่งได้รับการปรับแต่งมาอย่างละเอียด จึงสามารถบอกได้ทันทีว่าคุณกำลังกดลงน้ำหนักมากขึ้นหรือเปลี่ยนองศาในการเอียง คุณจึงสามารถขีดเขียนลายเส้นด้วยน้ำหนักที่ต่างกัน แรเงาบางๆ และสร้างสรรค์ลวดลายศิลปะที่สวยงามได้หลากหลายเหมือนกับเวลาใช้ดินสอทั่วไป จะต่างกันก็ตรงที่ Apple Pencil ทำอะไรได้มากมายยิ่งกว่าเท่านั้นเอง เพราะจะใช้เป็นปากกาหมึกซึม พู่กันสีน้ำ หรือปากกาปลายแหลมสำหรับประดิษฐ์อักษรสวยๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น

– รูปทรงสวยสง่าที่ไม่ธรรมดาในความแข็งแกร่ง  ถึงแม้จะมีพื้นที่ในการแสดงผลมากกว่า iPad Air 2 ถึง 78% แต่ iPad Pro ก็ยังคงให้ความรู้สึกที่มั่นคงขณะถือโดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดมือ นั่นก็เป็นเพราะตัวเครื่อง Unibody แบบชิ้นเดียว ที่เป็นความสมดุลลงตัวระหว่างความเบาและความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา 713 กรัม บาง 6.9

– ระบบเสียง 4 ลำโพง ฟังแล้วจะรู้สึก  iPad Pro มาพร้อมกับลำโพงอันล้ำสมัย 4 ตัว ซึ่งให้มิติเสียงสเตอริโอที่ทั้งกระหึ่มและโอบล้อมรอบตัวคุณไม่ต่างจากความสวยงามอลังการของจอภาพ และยังเป็นครั้งแรกที่มีการทำช่องสำหรับลำโพงไว้ในตัวเครื่อง Unibody แบบชิ้นเดียวโดยตรง ซึ่งสถาปัตยกรรมแบบใหม่นี้ช่วยให้ลำโพงมีกำลังขับสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 61% เมื่อเทียบกับการออกแบบระบบเสียงของ iPad รุ่นก่อน โดยคุณจะได้ยินเสียงในช่วงความถี่ที่กว้างขึ้น และมีพลังเสียงสูงกว่า iPad รุ่นอื่นๆ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

– Smart Keyboard ใหม่ สิ่งเดียวที่เราไม่ได้คิดค้นขึ้นมาใหม่คือตัวอักษร  Smart Keyboard ใหม่สำหรับ iPad Pro มีครบทุกฟังก์ชั่นการทำงานของคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานทั่วไปแต่เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังนั้นกลับล้ำหน้าเกินคำว่ามาตรฐาน* เริ่มจากพื้นผิวที่ทำมาจากผ้าชิ้นเดียวที่ถักทอขึ้นโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีการใช้เลเซอร์ตัดปุ่มแต่ละปุ่มอย่างแม่นยำ

ซึ่งโครงสร้างที่ไม่เหมือนใครนี้เองคือสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ได้อย่างแม่นยำด้วยการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้ผ้ายังมีวัสดุนำสัญญาณและกระแสไฟชนิดใหม่ที่ทำให้สามารถจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลได้ สองทางอีกด้วย และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมใน Smart Keyboard จึงไม่มีแบตเตอรี่ สายไฟ หรือสวิตช์เปิดปิดใดๆ เลย และผ้าที่มีคุณสมบัตินำสัญญาณและกระแสไฟชนิดนี้ยังต่างจากสายไฟแบบธรรมดาทั่วไปตรงที่สามารถทนต่อการพับไปพับมาได้ตลอดอายุการใช้งาน ถึงแม้จะบางพอๆ กับกระดาษหนึ่งแผ่นก็ตาม

– เป็นมากกว่าแค่ตัวเชื่อมต่อ  Smart Connector คืออินเทอร์เฟซใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากผ้าที่มีคุณสมบัตินำสัญญาณและกระแสไฟสองทิศทางใน Smart Keyboard ซึ่งทำให้ iPad Pro สามารถจ่ายไฟให้กับ Smart Keyboard และในขณะเดียวก็ทำให้ Smart Keyboard สามารถส่งสัญญาณของการกดปุ่มแต่ละครั้งกลับมายัง iPad Pro ได้ด้วย

ส่วนการใช้งาน Smart Connector นั้นก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่วาง Smart Keyboard ให้ตรงกับ iPad Pro เหมือนกับเวลาที่จะใส่ Smart Cover จากนั้นก็เริ่มพิมพ์ได้เลย และวันนี้ ระยะทางระหว่างสิ่งที่อยู่ในใจคุณกับสิ่งที่อยู่บนจอก็สั้นลงยิ่งกว่าที่เคยเป็น

– พลังแบบดิบๆ ในรูปทรงที่สง่างาม

– ที่สุดของชิพอันทรงพลัง สำหรับอุปกรณ์ที่มากความสามารถที่สุดของเรา  ประสิทธิภาพการทำงานอันเหลือล้นของ iPad Pro นั้นขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีที่แรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นคือชิพ A9X รุ่นที่ 3 พร้อมสถาปัตยกรรม 64 บิตระดับเดสก์ท็อปจึงทำให้ iPad Pro สามารถจัดการกับงานต่างๆ ที่แต่เดิมต้องเก็บไว้ทำบนเวิร์กสเตชั่นหรือ PC เท่านั้นได้สบายๆ

หรือแม้แต่งานที่คุณไม่เคยคิดจะทำบน PC เลยด้วยซ้ำ ถึงแม้จะแรงทะลุทุกขีดจำกัดขนาดนี้ ชิพ A9X ก็ยังคงประหยัดพลังงาน ซึ่งก็ต้องยกข้อดีให้กับสถาปัตยกรรมที่เป็นพื้นฐานของชิพ จึงมั่นใจได้เลยว่า iPad Pro นั้นกินขาดในทุกเรื่องแต่ยกเว้นเรื่องกินแบตเตอรี่สถาปัตยกรรม 64บิตชิพ A9X

– การทำงานที่เร็วขึ้น  ชิพ A9X มาพร้อมความเร็วและการตอบสนองสุดฉับไวด้วย CPU ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า iPad Air 2 ถึง 1.8 เท่า iPad Pro จึงโต้ตอบกับคำสั่งนิ้วของคุณได้เร็วยิ่งกว่าที่เคย แม้แต่งานที่สลับซับซ้อนอย่างเช่นการสร้าง เรนเดอร์ หรือปรับแต่งโมเดล 3 มิติ รวมถึงการตัดต่อวิดีโอ 4K หลายสตรีม ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหลชนิดหาตัวจับยากประสิทธิภาพของ CPU เพิ่มขึ้น 22เท่า

– การเล่นที่สวยน่าทึ่งยิ่งขึ้น  ถึงแม้จำนวนพิกเซลในจอภาพ Retina จะมากกว่าบน iPad Air 2 อยู่เกือบสองเท่า แต่ iPad Pro ก็มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกเหนือกว่าถึงสองเท่าเช่นกัน แม้แต่การเรนเดอร์ภาพที่มีรายละเอียดซับซ้อนสุดๆ ก็ยังทำได้อย่างสวยงามและรวดเร็วจนยากจะหาใครเทียบ และเมื่อความเร็วระดับนี้มาอยู่คู่กับจอภาพที่ใหญ่ขนาดนี้แล้วก็บอกได้เลยว่าคุณอาจหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของภาพยนตร์และเกมที่คุณชอบได้ง่ายๆ ประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้น 360เท่า

– ตัวควบคุมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล พระเอกที่อยู่เบื้องหลังประสิทธิภาพเร็วสุดแรง  ชิพ A9X สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วมากจนต้องมีสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบใหม่มารองรับ iPad Pro จึงมาพร้อมตัวควบคุมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานจนเหนือกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปบางเครื่อง โดยจะช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูล คุณจึงสามารถเปิดไฟล์ใหญ่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพยนตร์ระดับ 4K ที่คุณเพิ่งตัดต่อไป หรือไฟล์ภาพแบบ RAW ที่อิมพอร์ตมาจากกล้อง HD

– Metal  สู่อีกขั้นของการเล่นเกม  Metal ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์เกมสไตล์คอนโซลที่สมจริงมาก รวมถึงแอพเร็วสุดแรงโดยการดึงเอาประสิทธิภาพด้านกราฟิกของชิพ A9X และ iOS 9 ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่และ Metal ยังช่วยปรับแต่งการทำงานของ CPU และกราฟิกเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการแสดงผลกราฟิกที่ละเอียดและเอฟเฟ็กต์ภาพที่ซับซ้อน โลกแห่งจินตนาการจะสมจริงยิ่งขึ้นก็คราวนี้เอง

– แอพประสิทธิภาพสูงที่วันนี้ได้ไต่ระดับขึ้นไปอีกขั้น  iPad Pro ไม่เพียงให้คุณทำได้ทุกอย่างที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปหรือเครื่องเล่นเกมคอนโซล แต่ยังทำได้ดีกว่าเดิมเลยด้วยซ้ำ เพราะด้วยขนาดและความละเอียดของจอภาพ ทุกอย่างที่คุณทำจึงให้ความรู้สึกที่เต็มอิ่มและสมจริงยิ่งกว่า อีกทั้งยังมีระบบ Multi-Touch ซับซิสเต็มที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดีพร้อมด้วยชิพ A9X ซึ่งถึงจะเป็นแอพที่คุณใช้บ่อยก็รับรองว่าจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างแน่นอน

– การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็ว  iPad Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac และ MIMO คุณจึงสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่เร็วสุดยอดได้ง่ายๆ และดาวน์โหลดได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 866 Mbps
ระบบเสียง 4 ลำโพง

– ประสบการณ์การฟังที่เต็มอิ่มเต็มอารมณ์จากทุกมุม  iPad Pro มาพร้อมลำโพงแบบใหม่ที่มีเสียงคมชัดสูง 4 ตัว ซึ่งติดตั้งรวมเป็นส่วนหนึ่งในตัวเครื่อง Unibody แบบชิ้นเดียวเพื่อให้คุณได้เต็มอิ่มกับ ประสบการณ์ในการฟังที่ยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้ขนาดของจอภาพ โดยดีไซน์ใหม่นี้ช่วยสร้างมิติเสียงที่โดดเด่นน่าฟัง อีกทั้งยังมีพลังเสียงเหนือกว่า iPad Air ถึง 3 เท่า และที่ยิ่งไปกว่านั้น iPad Pro ยังสามารถปรับแนวทิศทางของลำโพงเสียงแหลมได้โดยอัตโนมัติโดยดูว่าในขณะนั้น คุณกำลังถือเครื่องในแนวตั้งหรือแนวนอน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะกำลังเล่นเกมหรือดูหนัง เสียงที่ได้จาก iPad Pro ก็จะกระหึ่มสมจริงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

Smart Keyboard ใหม่ สำหรับ iPad Pro

– สิ่งเดียวที่เราไม่ได้คิดค้นขึ้นมาใหม่คือตัวอักษร  Smart Keyboard เกิดจากการนำเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ มากมายมาผสมผสานเข้าด้วยกันเป็นคีย์บอร์ดที่ไม่มีใครเหมือน1 เพราะนี่คือคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานที่พกไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย และเชื่อมต่อกับ iPad Pro ผ่านทาง Smart Connector ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซใหม่สุดล้ำที่สามารถจ่ายไฟและรับส่งข้อมูลได้สองทาง เพียงแค่ต่อ Smart Keyboard เข้ากับ iPad Pro ก็เริ่มพิมพ์ได้เลยทันที

ขอแนะนำ Apple Pencil สำหรับ iPad Pro

– ชัดเจนว่าคุ้นเคย ชัดเลยว่าปฏิวัติทุกอย่างใหม่หมด  Apple Pencil มาพร้อมความแม่นยำที่ลึกลงไปถึงระดับพิกเซลที่ช่วยขยายขอบเขตความสามารถของ Multi-Touch และเปิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์1 โดย Apple Pencil สามารถรับรู้ได้ทั้งการเอียงและแรงกด คุณจึงสามารถขีดเขียนเส้นสายและวาดลวดลายได้มากมายหลายแบบ ตั้งแต่ลายเส้นเล็กๆ ที่วิจิตรบรรจงจนถึงการแรเงาบางๆ และนอกจากจะเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับ iPad Pro แล้ว Apple Pencil ยังให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและการตอบสนองที่เป็นเยี่ยม ซึ่งคุณจะสัมผัสได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่หยิบ Apple Pencil ขึ้นมา

Touch ID

– ความปลอดภัยอันล้ำหน้า อยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วคุณ  iPad Pro มาพร้อมเทคโนโลยี Touch ID ซึ่งจะเปลี่ยนลายนิ้วมือของคุณให้เป็นรหัสผ่านที่ยังไงก็ไม่มีทางลืมได้อย่างแน่นอน แค่แตะเพียงครั้งเดียวก็ปลดล็อคอุปกรณ์ของคุณได้ และยังถือเป็นวิธีที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัยอยู่เสมอ แม้ว่าคุณจะใช้ iPad ร่วมกับคนอื่นๆ ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น Touch ID ยังช่วยให้คุณสามารถทำการซื้อจาก iTunes และ App Store ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

กล้อง iSight และ FaceTime HD

– สองกล้องที่เหลือเชื่อเพื่อเก็บทุกช่วงเวลาที่น่าจดจำ  ใครๆ ก็ชอบถ่ายรูปด้วย iPad และในวันนี้กล้อง iSight บน iPad Pro ก็มาพร้อมกับเซ็นเซอร์อันล้ำสมัยที่ให้คุณถ่ายภาพและวิดีโอออกมาได้สวยงาม โดยมีตัวประมวลผลสัญญาณภาพที่ออกแบบโดย Apple มาช่วยเพิ่มความเยี่ยมยอดให้กับภาพที่คุณถ่าย ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพพาโนรามา ใช้โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง หรือตั้งเวลาถ่ายภาพ นอกจากนี้คุณยังสามารถถ่ายวิดีโอไทม์แลปส์และสโลว์โมชั่นในระดับ HD 720p ที่สวยงามคมชัด พร้อมกับมีช่องมองภาพที่ใหญ่ขึ้นที่ให้คุณมองเห็นรายละเอียดได้มากยิ่งกว่าเดิม

ส่วนกล้อง FaceTime HD ด้านหน้าก็มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ดีกว่าเดิมเช่นกัน ซึ่งเมื่อใช้คู่กับจอภาพที่ใหญ่ขึ้นแล้วก็ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายที่กำลังวิดีโอคอลด้วยมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ และแม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยหรือถ่ายย้อนแสง รูปและวิดีโอของคุณก็จะออกมาดูดีแน่นอน

Wi-Fi + 4G LTE

– การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้น  iPad Pro จะเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi และเซลลูลาร์อันรวดเร็ว จึงช่วยให้คุณดาวน์โหลดภาพยนตร์ ท่องเว็บ และแชร์เอกสารต่างๆ จากที่ไหนก็ได้แทบจะทุกแห่งและถึงจะไม่อยู่ในระยะของ Wi-Fi ก็ไม่เป็นไร เพราะรุ่นWi-Fi + Cellular ที่เร็วสุดยอดนั้นรองรับ LTE หลายย่าน 2 อีกทั้งยังมี Apple SIM ในตัวที่ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาขณะเดินทางด้วยแผนบริการข้อมูลเซลลูลาร์สำหรับการใช้งานระยะสั้นที่เลือกตามต้องการได้ทันทีบน iPad Pro

– เครือข่ายมือถือและย่านความถี่ LTE ที่มากขึ้น  วันนี้คุณสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทุกที่ทุกเวลา เพราะ iPad Pro รุ่น Wi-Fi + Cellular รองรับย่านความถี่ LTE ถึง 20 ย่าน3 รองรับ 20 ย่านความถี่ LTE สูงสุด 150 Mbps ผ่าน 4G LTE

– Apple SIM วิธีต่างๆ มากมาย เพื่อให้คุณเชื่อมต่ออยู่เสมอ  ถ้าในระหว่างการเดินทาง คุณมี Apple SIM ติดตั้งอยู่ใน iPad Pro รุ่น Wi-Fi + Cellular แล้วก็เท่ากับว่าคุณสามารถซื้อแผนบริการข้อมูลสำหรับอุปกรณ์พกพาได้โดยตรงจาก iPad ในกว่า 90 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลกที่มีคู่ค้าของ Apple SIM อยู่ พูดอีกอย่างก็คือเมื่อเป็น Apple SIM คุณจะมีความยืดหยุ่นและตัวเลือกที่มากขึ้นในการซื้อบริการข้อมูลสำหรับอุปกรณ์พกพา ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่หรือต้องการใช้งานนานแค่ไหน โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดระยะยาวใดๆ

Smart Cover และเคสซิลิโคน

– เพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับ iPad Pro  เราออกแบบ Smart Cover และเคสซิลิโคนขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ iPad Pro1 โดยSmart Cover นั้นทำมาจากโพลียูรีเทนที่ทนทานและมีให้เลือก 2 สีด้วยกัน นั่นคือสีเทาชาร์โคลและสีขาว ส่วนเคสซิลิโคนก็จะทำหน้าที่ปกป้องด้านหลังของ iPad Proและยังได้รับการออกแบบมาให้เข้าคู่กับSmart Cover อย่างแนบสนิท เพื่อการปกป้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบ

– การรักษาความปลอดภัย คือหนึ่งในคุณสมบัติมาตรฐาน  iOS มีระบบรักษาความปลอดภัยในตัวตั้งแต่คุณเริ่มเปิดใช้เครื่อง นั่นเป็นเพราะว่า
ฮาร์ดแวร์ เฟิร์มแวร์ และระบบปฏิบัติการมีคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องอุปกรณ์ และสิ่งที่คุณเก็บไว้ภายในเครื่องให้ปลอดภัยเสมอ

– ความปลอดภัย  ตอนนี้ ทั้งมัลแวร์และไวรัสไม่ได้มีอยู่แต่ในเดสก์ท็อปอีกต่อไป เพราะมีสิทธิ์ที่จะปะปนมาถึงอุปกรณ์มือถือได้ด้วยเช่นกัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Apple ให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยอย่างจริงจังเมื่อเริ่มออกแบบ iOS โดยในขั้นต้น คุณสมบัติของฮาร์ดแวร์และเฟิร์มแวร์จะได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันมัลแวร์และไวรัส

ขณะที่คุณสมบัติต่างๆ ใน iOS จะช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัย การยืนยันตัวตนแบบ 2 ระดับจะขอให้คุณใส่รหัสยืนยันเมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้งานจากเบราเซอร์ใหม่หรือจากอุปกรณ์เครื่องใหม่* โดยรหัสยืนยันนี้จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติบนอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่น หรือถูกส่งไปยังโทรศัพท์ของคุณ

เพื่อให้คุณเข้าใช้งานบัญชีของคุณได้ทันที พร้อมทั้งป้องกันผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Touch ID ก็ให้คุณใช้ลายนิ้วมือเป็นรหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อไหร่ที่คุณใช้รหัสผ่าน ระบบก็จะเข้ารหัสและปกป้องอีเมล กิจกรรมในปฏิทิน รายชื่อ เตือนความจำ โน้ต ข้อความตลอดจนแอพของบริษัทอื่นให้โดยอัตโนมัติ

– ความเป็นส่วนตัว  iOS ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นอันดับแรก ดังนั้นหากแอพต้องการข้อมูลตำแหน่งของคุณ หรือข้อมูลจากปฏิทิน รายชื่อ เตือนความจำ หรือรูปภาพ ระบบจะขออนุญาตจากคุณก่อน ซึ่งคุณเองก็มีสิทธิ์เต็มที่ในการควบคุมวิธีการที่แอพสุขภาพและ HomeKit จะใช้ข้อมูลของคุณ ขณะที่การสนทนาผ่าน iMessage และ FaceTime ทั้งหมด

รวมทั้งระบบเดาคำก็จะถูกเข้ารหัส นั่นจึงหมายความว่า นอกจากตัวคุณและคู่สนทนาแล้ว ก็จะไม่มีใครรู้ว่ามีการพูดหรือส่งข้อความอะไรกันบ้าง นอกจากนี้คุณสมบัติต่างๆ ใน Safari ยังทำให้คุณสามารถท่องเว็บได้แบบเป็นส่วนตัว บล็อคคุกกี้และป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามการใช้งานของคุณอีกด้วย

– ค้นหา iPad ของฉัน  iOS ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นอันดับแรก ดังนั้นหากแอพต้องการข้อมูลตำแหน่งของคุณ หรือข้อมูลจากปฏิทิน รายชื่อ เตือนความจำ หรือรูปภาพ ระบบจะขออนุญาตจากคุณก่อน ซึ่งคุณเองก็มีสิทธิ์เต็มที่ในการควบคุมวิธีการที่แอพสุขภาพและ HomeKit จะใช้ข้อมูลของคุณ ขณะที่การสนทนาผ่าน iMessage และ FaceTime ทั้งหมด

รวมทั้งระบบเดาคำก็จะถูกเข้ารหัส นั่นจึงหมายความว่า นอกจากตัวคุณและคู่สนทนาแล้ว ก็จะไม่มีใครรู้ว่ามีการพูดหรือส่งข้อความอะไรกันบ้าง นอกจากนี้คุณสมบัติต่างๆ ใน Safari ยังทำให้คุณสามารถท่องเว็บได้แบบเป็นส่วนตัว บล็อคคุกกี้ และป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ติดตามการใช้งานของคุณอีกด้วย

– พวงกุญแจ iCloud  เพราะเดี๋ยวนี้เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่คุณเยี่ยมชมมักจะขอให้ระบุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน แน่นอนว่าการจะจำให้ได้ทั้งหมดนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะวันนี้พวงกุญแจ iCloud พร้อมทำหน้าที่แทนคุณ โดยคุณสมบัตินี้จะจัดเก็บชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของเว็บไซต์ไว้บนอุปกรณ์ที่คุณยินยอม และปกป้องรหัสผ่านด้วยการเข้ารหัส AES
แบบ 256 บิตที่แข็งแกร่ง

รวมถึงจะอัพเดทข้อมูลเหล่านั้นเสมอบนอุปกรณ์แต่ละเครื่อง ซึ่งพอคุณอยากจะใช้งานเมื่อไหร่ ระบบก็จะทำการป้อนรหัสผ่านเหล่านั้นให้โดยอัตโนมัติทันที นอกจากนี้ ยังมีตัวสร้างรหัสผ่านที่จะแนะนำรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำใครและเดายากให้กับบัญชีออนไลน์ของคุณอีกด้วย และไม่ใช่แค่นั้น พวงกุญแจ iCloud ยังทำงานร่วมกับข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งต่อไปนี้เรื่องจ่ายเงินก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่เสียเวลาอีกต่อไป

สเปคเครื่อง iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว

 Features iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว
วันเปิดตัว : – 9 กันยายน 2558
 ราคา :  – 20,900.- 32GB (Wi-Fi)
 – 34,900.- 128GB (Wi-Fi)
 – 38,900.- 256GB (Wi-Fi )
 – 29,900.- 64GB (Wi-Fi + Cellular)
35,300.- 256GB (Wi-Fi + Cellular)
 – 42,500.- 512GB (Wi-Fi + Cellular) (ณ วันที่ 5 ก.พ. 62)
ระบบปฏิบัติการ : – iOS9
หน้าจอ : – 12.9 นิ้ว
– หน้าจอ Retina
– ความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล
– เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ
– จอภาพแบบ Full Lamination
– เคลือบสารกันแสงสะท้อน
CPU : – Apple A9X 64-bit โปรเซสเซอร์ร่วม M9
RAM :
ความจำตัวเครื่อง : – 32GB
– 128GB
กล้องหลัง : – iSight 8 ล้านพิกเซล
– รูรับแสง ƒ/2.4
– Panorama
– Auto Focus
– Hybrid IR
– ระบบตรวจจับใบหน้าที่ดียิ่งขึ้น
– เซ็นเซอร์รับแสงด้วยส่วนหลัง
– ชุดเลนส์ห้าชิ้น
– คุณสมบัติควบคุมค่าแสง
– โหมดภาพถ่ายต่อเนื่อง
– ระบบการแตะเพื่อโฟกัส
– แนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งในภาพถ่าย
– โหมดตั้งเวลาถ่ายภาพ
กล้องหน้า : – 1.2 ล้านพิกเซล
Video : – Video 4K
– HD 1080 พิกเซล
Battery :
ขนาด : – 6.3 มม.
น้ำหนัก : – 713 กรัม
รองรับซิม : – Nano-SIM
– Apple SIM
ระบบกันน้ำ :
ระบบเครือข่าย : – GSM/EDGE
– CDMA EV-DO Rev. A,Rev. B
– UMTS/HSPA/​HSPA+/​DC‑HSDPA
– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ : – Wi‑Fi 802.11a/b/g/n/​ac
– Bluetooth 4.2
– Smart Keyboard
– ปากกา Stylus
– ลำโพงแบบสเตอริโอ 4 ตัว
– Smart Connector
– ช่องต่อสาย Lightning
– ช่องต่อหูฟังสเตอริโอ 3.5 มม.
GPS : – Assisted GPS
– GLONASS
Sensor : – Touch ID
– Gyro 3 แกน
– อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
– บารอมิเตอร์
– ระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ
สี : – เงิน
– เทา
– เทา Space Gray