เปรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ Xiaomi 13 Pro ปี 2023 รุ่นต่างค่าย สเปกตอบโจทย์ รุ่นไหนเด่นสุด มาเช็กกันเลย
สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ Xiaomi 13 Pro มาฝากให้ได้ชมกัน
โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับ HUAWEI Mate 50 ราคาจำหน่าย 36,990 บาท รัน EMUI 13 หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass
ขุมพลัง Snapdragon 8 + Gen 1 4G แรม 8GB ความจุ 256GB รองรับ SD NM สูงสุด 256GB กล้องหลัง 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash กันสั่น OIS รองรับ 5x Optical Zoom บันทึกวิดีโอ 4K
กล้องเซลฟี่ 13MP แบตอึด 4460mAh ชาร์จไว 66W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Silver
ขณะที่ Xiaomi 13 Pro ราคาจำหน่าย 39,990 บาท รัน Android 13 ครอบทับ MIUI 14 หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz รองรับ HDR 10+ ครอบกระจก Corning Gorilla Glass Victus
ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 แรม 12GB คู่ความจุ 512GB กล้องหลัง 50MP + 50MP + 50MP พร้อม Dual Tone LED Flash รองรับ 3.2x Optical Zoom มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 32MP
แบตอึด 4820mAh ชาร์จไว 120W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE และ 5G สแกนนิ้วใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Ceramic Black
ตารางเปรียบเทียบสเปก HUAWEI Mate 50 และ Xiaomi 13 Pro
| Features | HUAWEI Mate 50 | Xiaomi 13 Pro |
| วันเปิดตัว : | – พฤศจิกายน 2565 | – มีนาคม 2566 |
| ราคา : | – 36,990 บาท | – 39,990 บาท |
| OS : | – EMUI 13 | – Android 13 ครอบทับ MIUI 14 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ OLED | – หน้าจอ AMOLED |
| – ขนาด 6.7 นิ้ว | – ขนาด 6.73 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 2700×1224 พิกเซล | – ความละเอียด 3200×1440 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 90Hz | – Refresh Rate 120Hz | |
| – Huawei Kunlun Glass | – Corning Gorilla Glass Victus | |
| – | – HDR 10+ | |
| CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz |
– Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.19GHz
|
| GPU : | – Adreno 730 | – Adreno 740 |
| RAM : | – 8GB | – 12GB |
|
ROM :
|
– 256GB | – 512GB |
| – SD NM สูงสุด 256GB | – | |
|
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 13MP + 12MP | – 50MP + 50MP + 50MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 + f/2.0 + f/2.2 | |
| – LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
| – Auto Focus | – Auto Focus | |
| – PDAF | – PDAF | |
| – HDR | – HDR | |
| – Panorama | – Panorama | |
| – OIS | – OIS | |
| – 5x Optical Zoom | – 3.2x Optical Zoom | |
|
กล้องหน้า :
|
– 13MP | – 32MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.4 | – ค่ารูรับแสง f/2.0 | |
|
Video :
|
– | – 8K@24fps |
| – 4K@30/60fps | – 4K@24/30/60fps | |
|
Battery :
|
– 4460mAh | – 4820mAh |
| – SuperCharge 66W | – Hyper Charge 120W | |
| ขนาด : | – 161.5×76.1×7.98 มม. | – 162.9×74.6×8.38 มม. |
| น้ำหนัก : | – 206 กรัม | – 229 กรัม |
| รองรับซิม : | – Dual SIM | – Dual SIM |
| ระบบกันน้ำ : | – IP68 | – IP68 |
|
ระบบเครือข่าย :
|
– 4G LTE | – 4G LTE |
| – | – 5G | |
|
ระบบเชื่อมต่อ :
|
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax | – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e |
| – Bluetooth 5.2 | – Bluetooth 5.3 | |
| – USB Type-C | – USB Type-C | |
| – OTG | – OTG | |
| – NFC | – NFC | |
|
GPS :
|
– GPS | – GPS |
| – A-GPS | – A-GPS | |
| – BeiDou | – BeiDou | |
| – GLONASS | – GLONASS | |
| – GALILEO | – GALILEO | |
| – QZSS | – QZSS | |
|
Sensor :
|
– Fingerprint Under Display | – Fingerprint Under Display |
| – Accelerometer | – Accelerometer | |
| – Gyroscope | – Gyroscope | |
| – Proximity | – Proximity | |
| – Compass | – Compass | |
| – Barometer | – Barometer | |
|
สี :
|
– Black | – Ceramic White |
| – Silver | – Ceramic Black |
**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
| Features | HUAWEI Mate 50 | Xiaomi 13 Pro |
| ราคา : | – 36,990 บาท | – 39,990 บาท |
| OS : | – EMUI 13 | – Android 13 ครอบทับ MIUI 14 |
| CPU : | – Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz |
– Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.19GHz
|
| GPU : | – Adreno 730 | – Adreno 740 |
|
ROM :
|
– 256GB | – 512GB |
| – SD NM สูงสุด 256GB | – | |
|
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 13MP + 12MP | – 50MP + 50MP + 50MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4 | – ค่ารูรับแสง f/1.9 + f/2.0 + f/2.2 | |
| – LED Flash | – Dual Tone LED Flash | |
| – OIS | – OIS | |
| – 5x Optical Zoom | – 3.2x Optical Zoom | |
| ขนาด : | – 161.5×76.1×7.98 มม. | – 162.9×74.6×8.38 มม. |
| น้ำหนัก : | – 206 กรัม | – 229 กรัม |
|
สี :
|
– Black | – Ceramic White |
| – Silver | – Ceramic Black |
จุดเด่น HUAWEI Mate 50 คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน EMUI 13 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass
ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 ความจุ 256GB รองรับ SD NM สูงสุด 256GB
กล้องหลังคมชัด 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash รองรับ 5x Optical Zoom มีกันสั่น OIS บอดี้ที่บางและเบากว่า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Silver
| Features | Xiaomi 13 Pro | HUAWEI Mate 50 |
| วันเปิดตัว : | – มีนาคม 2566 | – พฤศจิกายน 2565 |
| OS : | – Android 13 ครอบทับ MIUI 14 | – EMUI 13 |
|
หน้าจอ :
|
– หน้าจอ AMOLED | – หน้าจอ OLED |
| – ขนาด 6.73 นิ้ว | – ขนาด 6.7 นิ้ว | |
| – ความละเอียด 3200×1440 พิกเซล | – ความละเอียด 2700×1224 พิกเซล | |
| – Refresh Rate 120Hz | – Refresh Rate 90Hz | |
| – Corning Gorilla Glass Victus | – Huawei Kunlun Glass | |
| – HDR 10+ | – | |
| CPU : | – Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.19GHz |
– Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
|
| GPU : | – Adreno 740 | – Adreno 730 |
| RAM : | – 12GB | – 8GB |
| ROM : | – 512GB | – 256GB |
|
กล้องหลัง :
|
– 50MP + 50MP + 50MP | – 50MP + 13MP + 12MP |
| – ค่ารูรับแสง f/1.9 + f/2.0 + f/2.2 | – ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4 | |
| – Dual Tone LED Flash | – LED Flash | |
| – OIS | – OIS | |
|
กล้องหน้า :
|
– 32MP | – 13MP |
| – ค่ารูรับแสง f/2.0 | – ค่ารูรับแสง f/2.4 | |
| Video : | – 8K@24fps | – |
|
Battery :
|
– 4820mAh | – 4460mAh |
| – Hyper Charge 120W | – SuperCharge 66W | |
| ระบบเครือข่าย : | – 5G | – |
| ระบบเชื่อมต่อ : | – Bluetooth 5.3 | – Bluetooth 5.2 |
|
สี :
|
– Ceramic White | – Black |
| – Ceramic Black | – Silver |
จุดเด่น Xiaomi 13 Pro คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ MIUI 14 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
ครอบกระจก Corning Gorilla Glass Victus ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.19GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 12GB ความจุ 512GB
กล้องหลังคมชัด 50MP + 50MP + 50MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0
แบตอึด 4820mAh ชาร์จไว 120W รองรับ Bluetooth 5.3 สนับสนุนเครือข่าย 5G ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Ceramic Black
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ Xiaomi 13 Pro ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน
อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายต่างกันที่ราว 3,000 บาท
หากเลือก HUAWEI Mate 50 จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน EMUI 13 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 ความจุ 256GB
รองรับ SD NM สูงสุด 256GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash รองรับ 5x Optical Zoom มีกันสั่น OIS บอดี้ที่บางและเบากว่า
หรือหากเลือก Xiaomi 13 Pro ก็จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน Android 13 ครอบทับ MIUI 14 ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว รองรับ HDR 10+ ค่า Refresh Rate ระดับ 120Hz
ครอบกระจก Corning Gorilla Glass Victus ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 แบบ Octa Core ความเร็ว 3.19GHz ชิปกราฟิก Adreno 740 แรม 12GB ความจุ 512GB
กล้องหลังคมชัด 50MP + 50MP + 50MP พร้อม Dual Tone LED Flash มีกันสั่น OIS บันทึกวิดีโอ 8K กล้องเซลฟี่ 32MP ค่ารูรับแสง f/2.0 แบตอึด 4820mAh ชาร์จไว 120W รองรับ Bluetooth 5.3 สนับสนุนเครือข่าย 5G
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ
[mobile-price]
Leave a Reply