เปรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ iPhone 14 ปี 2023 ชิปไว กล้องสวย เลือกรุ่นไหนดี มาดูกันเลย

สวัสดีเพื่อน ๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่านค่ะ ? วันนี้แอดมินมีบทความรีวิวเปรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ iPhone 14 มาฝากให้ได้ชมกัน

โดยเป็นการเปรียบเทียบสเปกการใช้งานหลัก ๆ หลายด้าน อาทิ ราคาวางจำหน่าย, หน้าจอ, ระบบปฏิบัติการ, ชิปประมวลผล, หน่วยความจำ, ความละเอียดกล้อง และความจุแบตเตอรี่ เป็นต้น

สำหรับ HUAWEI Mate 50 ราคาจำหน่าย 36,990 บาท รัน EMUI 13 หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass

ขุมพลัง Snapdragon 8 + Gen 1 4G แรม 8GB ความจุ 256GB รองรับ SD NM สูงสุด 256GB กล้องหลัง 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash กันสั่น OIS รองรับ 5x Optical Zoom บันทึกวิดีโอ 4K

กล้องเซลฟี่ 13MP แบตอึด 4460mAh ชาร์จไว 66W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C บอดี้กันน้ำ IP68 สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Silver

ขณะที่ iPhone 14 ราคาจำหน่าย 32,900 บาท (128GB), 36,900 บาท (256GB) และ 45,900 บาท (512GB) รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว จอภาพ Super Retina XDR รองรับ HDR 10

ชิปประมวลผล A15 Bionic แรม 6GB ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลังคู่ 12MP + 12MP รองรับ 2x Optical Zoom และ 5x Digital Zoom กล้องหน้า TrueDepth คมชัด 12MP พร้อม Retina Flash และ Auto Focus

แบตเตอรี่สามารถเล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง และเล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง รองรับ Fast Charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที บอดี้กันน้ำ IP68

สนับสนุนเครือข่าย 5G รองรับ SOS ฉุกเฉิน และ Face ID ตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue, Red และ Yellow

ตารางเปรียบเทียบสเปก HUAWEI Mate 50 และ iPhone 14

Features HUAWEI Mate 50 iPhone 14
วันเปิดตัว : – พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2565
ราคา :
– 32,900 บาท (128GB)
– 36,990 บาท (256GB) – 36,900 บาท (256GB)
– 45,900 บาท (512GB)
OS : – EMUI 13 – iOS 16
หน้าจอ :
– หน้าจอ OLED – หน้าจอ OLED
– ขนาด 6.7 นิ้ว – ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด 2700×1224 พิกเซล – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล
– Refresh Rate 90Hz
– Huawei Kunlun Glass
– จอภาพ Super Retina XDR
– HDR 10
CPU : – Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
GPU : – Adreno 730 – Apple GPU (5-core graphics)
RAM : – 8GB – 6GB
ROM :
– 128GB
– 256GB – 256GB
– 512GB
– SD NM สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :
– 50MP + 13MP + 12MP – 12MP + 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4 – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4
– LED Flash – Dual Tone LED Flash
– Auto Focus – Auto Focus
– PDAF – PDAF
– HDR – HDR
– Panorama – Panorama
– OIS – OIS
– 5x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
– 5x Digital Zoom
กล้องหน้า :
– 13MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.9
Video :
– 4K@30/60fps – 4K@24/25/30/60fps
– 1080p@30/60/120/240fps – 1080p@25/30/60fps
Battery :
– 4460mAh – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง
– SuperCharge 66W – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง
– Fast Charging, 50% in 30 min
ขนาด : – 161.5×76.1×7.98 มม. – 146.7×71.5×7.8 มม.
น้ำหนัก : – 206 กรัม – 172 กรัม
รองรับซิม : – Dual SIM – Nano-SIM และ eSIM
ระบบกันน้ำ : – IP68 – IP68
ระบบเครือข่าย :
– 4G LTE – 4G LTE
– 5G
ระบบเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
– Bluetooth 5.2 – Bluetooth 5.3
– USB Type-C – USB Lightning
– NFC – NFC
– OTG
– Siri
– SOS ฉุกเฉิน
GPS :
– GPS – GPS
– A-GPS – A-GPS
– BeiDou – BeiDou
– GLONASS – GLONASS
– GALILEO – GALILEO
– QZSS – QZSS
Sensor :
– Fingerprint Under Display – Face ID
– Accelerometer – Accelerometer
– Gyroscope – Gyroscope
– Proximity – Proximity
– Compass – Compass
– Barometer – Barometer
สี :
– Black – Midnight
– Silver – Purple
– Starlight
– Blue
– Red
– Yellow

**ราคาจำหน่ายข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง

Features HUAWEI Mate 50 iPhone 14
วันเปิดตัว : – พฤศจิกายน 2565 – กันยายน 2565
OS : – EMUI 13 – iOS 16
หน้าจอ :
– หน้าจอ OLED – หน้าจอ OLED
– ขนาด 6.7 นิ้ว – ขนาด 6.1 นิ้ว
– ความละเอียด 2700×1224 พิกเซล – ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล
– Refresh Rate 90Hz
– Huawei Kunlun Glass
CPU : – Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
– A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
GPU : – Adreno 730 – Apple GPU (5-core graphics)
RAM : – 8GB – 6GB
ROM :
– 256GB – 256GB
– SD NM สูงสุด 256GB
กล้องหลัง :
– 50MP + 13MP + 12MP – 12MP + 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4 – ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4
– LED Flash – Dual Tone LED Flash
– OIS – OIS
– 5x Optical Zoom – 2x Optical Zoom
กล้องหน้า :
– 13MP – 12MP
– ค่ารูรับแสง f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.9
Battery :
– 4460mAh – เล่นวิดีโอสูงสุด 20 ชั่วโมง
– SuperCharge 66W – เล่นเสียงสูงสุด 80 ชั่วโมง
– Fast Charging, 50% in 30 min
ระบบเชื่อมต่อ :
– USB Type-C – USB Lightning
– OTG
Sensor : – Fingerprint Under Display – Face ID
สี :
– Black – Midnight
– Silver – Purple
– Starlight
– Blue
– Red
– Yellow

จุดเด่น HUAWEI Mate 50 คือ เป็นรุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน EMUI 13 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz

ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 แรม 8GB ความจุ 256GB

รองรับ SD NM สูงสุด 256GB กล้องหลังคมชัด 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash รองรับ 5x Optical Zoom มีกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 13MP

แบตอึด 4460mAh ชาร์จไว 66W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C รองรับ OTG ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ Silver

Features iPhone 14 HUAWEI Mate 50
ราคา :
– 32,900 บาท (128GB)
– 36,900 บาท (256GB) – 36,990 บาท (256GB)
– 45,900 บาท (512GB)
OS : – iOS 16 – EMUI 13
หน้าจอ :
– หน้าจอ OLED – หน้าจอ OLED
– ขนาด 6.1 นิ้ว – ขนาด 6.7 นิ้ว
– ความละเอียด 2532×1170 พิกเซล – ความละเอียด 2700×1224 พิกเซล
– จอภาพ Super Retina XDR
– HDR 10
CPU : – A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz
– Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz
GPU : – Apple GPU (5-core graphics) – Adreno 730
ROM :
– 128GB
– 256GB – 256GB
– 512GB
กล้องหลัง :
– 12MP + 12MP – 50MP + 13MP + 12MP
– ค่ารูรับแสง f/1.5 + f/2.4 – ค่ารูรับแสง f/1.4 – f/4.0 + f/2.2 + f/3.4
– Dual Tone LED Flash – LED Flash
– OIS – OIS
– 5x Digital Zoom
กล้องหน้า :
– 12MP – 13MP
– ค่ารูรับแสง f/1.9 – ค่ารูรับแสง f/2.4
ขนาด : – 146.7×71.5×7.8 มม. – 161.5×76.1×7.98 มม.
น้ำหนัก : – 172 กรัม – 206 กรัม
ระบบเครือข่าย : – 5G
ระบบเชื่อมต่อ :
– Bluetooth 5.3 – Bluetooth 5.2
– USB Lightning – USB Type-C
– Siri
– SOS ฉุกเฉิน
Sensor : – Face ID – Fingerprint Under Display
สี :
– Midnight – Black
– Purple – Silver
– Starlight
– Blue
– Red
– Yellow

จุดเด่น iPhone 14 คือ ทั้ง 2 รุ่นมีราคาจำหน่ายที่ใกล้เคียงกัน รัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดมากกว่าที่ 2532×1170 พิกเซล

ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz ผสานชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB

กล้องหลัง 12MP MP พร้อม Dual Tone LED Flash รองรับ 5x Digital Zoom มีกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9 บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่า สนับสนุนเครือข่าย 5G

พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน มีสแกนใบหน้า ส่วนตัวเครื่องมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Midnight, Purple, Starlight, Blue, Red และ Yellow

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับบทความรียบเทียบ HUAWEI Mate 50 และ iPhone 14 ที่ได้นำมาฝากกันในวันนี้ เมื่อดูจากตารางสเปกข้างต้นพบว่ามีข้อมูลหลายส่วนที่แตกต่างกัน

อาทิ ราคาวางจำหน่าย, ระบบปฏิบัติการ, หน้าจอ, ชิปประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำแรม, ความจุตัวเครื่อง, ความละเอียดกล้องหน้าและหลัง, พอร์ตเชื่อมต่อ, ความจุแบตเตอรี่, ความไวการชาร์จ, การสนับสนุนเครือข่าย หรือขนาดและน้ำหนักตัวเครื่อง เป็นต้น โดยทั้ง 2 รุ่น มีราคาจำหน่ายที่ใกล้เคียงกัน

หากเลือก HUAWEI Mate 50 จะได้รุ่นที่เปิดตัวใหม่กว่า พร้อมรัน EMUI 13 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ครอบกระจก Huawei Kunlun Glass

ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen 1 4G แบบ Octa Core ความเร็ว 3.2GHz ชิปกราฟิก Adreno 730 แรม 8GB ความจุ 256GB รองรับ SD NM สูงสุด 256GB

กล้องหลังคมชัด 50MP + 13MP + 12MP พร้อม LED Flash รองรับ 5x Optical Zoom มีกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 13MP แบตอึด 4460mAh ชาร์จไว 66W พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C รองรับ OTG ฝังสแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล

หรือหากเลือก iPhone 14 จะได้เครื่องรัน iOS 16 ใช้หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียดมากกว่าที่ 2532×1170 พิกเซล ขุมพลัง A15 Bionic แบบ Hexa Core ความเร็ว 3.23GHz

ผสานชิปกราฟิก Apple GPU แบบ 5 Core ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB กล้องหลัง 12MP MP พร้อม Dual Tone LED Flash รองรับ 5x Digital Zoom มีกันสั่น OIS กล้องเซลฟี่ 12MP ค่ารูรับแสง f/1.9

บอดี้กันน้ำ IP68 ที่บางและเบากว่า สนับสนุนเครือข่าย 5G พอร์ตเชื่อมต่อ USB Lightning รองรับ Siri และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ SOS ฉุกเฉิน พร้อมสแกนใบหน้า

ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบของเพื่อน ๆ แต่ละคนด้วย ว่าชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และวางงบไว้อยู่ที่เท่าใด เนื่องจากความชื่นชอบของแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะคิดว่ารุ่นไหนดูน่าซื้อมากกว่ากัน มาแชร์กันเลยค่ะ


[mobile-price]