GET เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้ ด้วยความร่วมมือกับ Go-Jek เพื่อขยายธุรกิจมายังประเทศไทย

GET เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้ ด้วยความร่วมมือกับ Go-Jek เพื่อขยายธุรกิจมายังประเทศไทย

f

“เก็ท” (GET) แถลงแผนในการเตรียมเปิดตัวในกรุงเทพมหานครภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  ซึ่ง “เก็ท” จะเป็นแอพพลิเคชั่นแบบออนดีมานด์ที่ให้บริการหลากหลาย โดยจะเริ่มจากบริการเรียกรถสาธารณะ ก่อนที่จะขยายไปสู่บริการอื่นๆ ต่อไป

ความร่วมมือกับ “เก็ท” เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายธุรกิจของ “โกเจ็ก” ในประเทศต่างๆ  โดยแบรนด์ “เก็ท” ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อคนไทย และบริหารจัดการโดยทีมผู้ก่อตั้งคนไทยที่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในธุรกิจด้านเทคโนโลยีและมีความเข้าใจในความต้องการของทั้งผู้บริโภค คนขับ รวมถึงหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ อย่างลึกซึ้ง

“เก็ท” มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นเพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและธุรกิจต่างๆ ในประเทศ

“เก็ท” จะเป็นผู้ที่นำเอาเทคโนโลยีระดับโลกจาก “โกเจ็ก” มาสู่ประเทศไทยเพื่อคนไทย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก่อน “โกเจ็ก” ได้แถลงงบลงทุนรวมกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือราว 16,000 ล้านบาท) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ “โกเจ็ก” ได้ทำการเพิ่มทุน โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำต่างๆ อาทิ กูเกิล (Google), วอร์เบิร์ก พินคัส (Warburg Pincus), เคเคอาร์ (KKR), เทนเซ็นต์ (Tencent) และเหม่ยถวน–เตี้ยนผิง (Meituan-Dianping)

นายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ “เก็ท” กล่าวว่า “‘โกเจ็ก’ ก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นบริษัทแรกของอินโดนีเซียได้สำเร็จเพราะ ‘โกเจ็ก’ เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาด้านชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในประเทศได้

ทาง ‘เก็ท’ เองได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ‘โกเจ็ก’ ที่เริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นทุกวันจนชินตาให้กลับกลายเป็นโอกาสที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนหลายล้านคนในประเทศได้  ทีมงานของ ‘เก็ท’ทุกคนต่างมีความเชื่อและความตั้งใจเดียวกันที่ต้องการจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับประเทศ

“เราในฐานะคนไทยที่เกิดและโตในประเทศไทย เราจึงเข้าใจในมุมมองของผู้บริโภคเป็นอย่างดี และด้วยประสบการณ์ทำงานในธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่ผ่านมาเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้เรามองเห็นโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค คนขับรถสาธารณะ รวมถึงธุรกิจรายย่อย

“และด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกและคำแนะนำจาก ‘โกเจ็ก’ เรามั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาและขยายธุรกิจในไทยได้อย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์และตรงใจของคนไทยได้อย่างแน่นอน”

screen-16.58.03[27.06.2018]

โดย “โกเจ็ก” ถือเป็นแพลตฟอร์มให้บริการแบบออนดีมานด์ด้วยบริการที่หลากหลาย อันดับหนึ่งจากประเทศอินโดนีเซีย และยังประสบความสำเร็จในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของพาร์ทเนอร์คนขับกว่าหนึ่งล้านคน รวมถึงพาร์ทเนอร์ธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 150,000 ราย

นายนาดีม มาคาริม ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ “โกเจ็ก” กล่าวว่า “รูปแบบธุรกิจของเราเป็นที่ยอมรับว่าประสบความสำเร็จในอินโดนีเซีย เพราะเราให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์คนขับ เราเชื่อว่ารูปแบบธุรกิจนี้จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในประเทศอื่นๆ ได้จริงเช่นกัน

“เราตื่นเต้นกับอนาคตในประเทศไทย เพราะเราได้เห็นความมุ่งมั่น แรงบันดาลใจ และความกระตือรือร้นของ ‘เก็ท’ ที่จะนำเทคโนโลยีและความรู้ความเข้าใจมาผสานกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าให้กับประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกันกับทาง ‘โกเจ็ก’  โดยเราจะทำงานร่วมกับ ‘เก็ท’ ในด้านการสนับสนุนเทคโนโลยี ให้คำปรึกษาทั้งในด้านการพัฒนาและขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว”

ในฐานะแอพพลิเคชั่นเพื่อคนไทยที่มีเทคโนโลยีระดับโลก “เก็ท” มุ่งมั่นที่จะยืนเคียงข้างคนไทย โดยขณะนี้ “เก็ท” ได้เริ่มมีการพูดคุยกับหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ กลุ่มคนขับ และผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาให้พร้อมสำหรับการเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

นายภิญญา กล่าวปิดท้ายว่า “‘เก็ท’ ยึดมั่นในการทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้คนไทยได้มากที่สุด เราหวังว่า ‘เก็ท’จะประสบความสำเร็จและสามารถเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าภาคเอกชนสามารถเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสนับสนุนนโยบาย ‘ไทยแลนด์ 4.0’ เพื่อการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน”