Apple แนะนำคุณสมบัติใหม่สำหรับการช่วยการเข้าถึงด้านการรับรู้ พร้อมด้วย Live Speech, Personal Voice และ Point and Speak ในแอปแว่นขยาย

Apple แนะนำคุณสมบัติใหม่สำหรับการช่วยการเข้าถึงด้านการรับรู้ พร้อมด้วย Live Speech, Personal Voice และ Point and Speak ในแอปแว่นขยาย

Apple เผยโฉมคุณสมบัติของซอฟต์แวร์สำหรับการช่วยการเข้าถึงด้านการรับรู้ การมองเห็น การได้ยิน และการเคลื่อนไหว พร้อมกับเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับผู้ที่พูดไม่ได้ หรือเสี่ยงที่จะสูญเสียความสามารถในการพูดของตนเอง

การอัปเดตใหม่ๆ เหล่านี้สร้างขึ้นจากความก้าวหน้าทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และเป็นการขยายขอบเขตของคำมั่นสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานของ Apple ในการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน

Apple ทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มชุมชนซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ใช้ซึ่งมีความพิการหลากหลายประเภท เพื่อพัฒนาคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชีวิตของผู้คน

โดยภายในปลายปีนี้ ผู้ใช้ซึ่งพิการทางการรับรู้จะสามารถใช้ iPhone และ iPad อย่างง่ายดายและเป็นอิสระมากขึ้นด้วย Assistive Access ผู้ที่พูดไม่ได้จะสามารถพิมพ์เพื่อพูดได้ในระหว่างการโทรศัพท์และการสนทนาด้วย Live Speech

และผู้ซึ่งมีความเสี่ยงจะสูญเสียความสามารถในการพูดสามารถใช้ Personal Voice เพื่อสร้างเสียงสังเคราะห์ที่ฟังเหมือนเสียงตัวเองสำหรับติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนๆ สำหรับผู้ใช้ซึ่งตาบอดหรือสายตาเลือนราง

โหมดการตรวจจับในแอปแว่นขยายจะเพิ่มเติม Point and Speak ซึ่งจะระบุข้อความซึ่งผู้ใช้ชี้ไปและอ่านออกเสียงให้ได้ยิน เพื่อช่วยพวกเขาในการโต้ตอบกับสิ่งของต่างๆ อย่างเช่นเครื่องใช้ภายในบ้าน

“ที่ Apple เราเชื่อเสมอว่า เทคโนโลยีที่ดีที่สุดคือเทคโนโลยีซึ่งสร้างขึ้นมาสำหรับทุกคน” Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าว

“วันนี้เราจึงตื่นเต้นมากที่จะได้แชร์คุณสมบัติใหม่ซึ่งสร้างขึ้นจากประวัติอันยาวนานของเราในการสร้างเทคโนโลยีเพื่อการช่วยการเข้าถึง เพื่อที่ทุกคนจะได้มีโอกาสในการสร้างสรรค์ การสื่อสาร และทำในสิ่งที่ตนเองรัก”

“การช่วยการเข้าถึงเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่งที่เราทำที่ Apple” Sarah Herrlinger ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Global Accessibility Policy and Initiatives ของ Apple กล่าว

“คุณสมบัติอันแสนล้ำหน้าเหล่านี้ออกแบบมาจากข้อคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มผู้พิการในทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย และช่วยผู้คนในการติดต่อกันด้วยวิธีการใหม่ๆ”

Assistive Access ช่วยเหลือผู้ใช้ซึ่งพิการทางด้านการรับรู้

Assistive Access ใช้นวัตกรรมในด้านการออกแบบเพื่อกลั่นกรองแอปและประสบการณ์ในการใช้คุณสมบัติที่จำเป็นของตนเองเพื่อลดภาระด้านการรับรู้ โดยคุณสมบัตินี้สะท้อนให้เห็นถึงความคิดเห็นจากผู้ที่พิการด้านการรับรู้และผู้ช่วยเหลือที่พวกเขาไว้วางใจ

โดยเน้นไปที่กิจกรรมซึ่งพวกเขาชื่นชอบ และถือเป็นพื้นฐานของ iPhone และ iPad นั่นก็คือการติดต่อกับผู้คนอันเป็นที่รัก การถ่ายภาพและรื่นรมย์ไปกับภาพถ่าย และการฟังเพลง

Assistive Access เพิ่มประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้สำหรับโทรศัพท์และ FaceTime ซึ่งผสมผสานกันเป็นแอปการโทรเพียงหนึ่งเดียว รวมถึงแอปข้อความ, กล้อง, รูปภาพ และเพลง คุณสมบัตินี้มอบอินเทอร์เฟซอันแตกต่างด้วยปุ่มแบบคอนทราสต์สูงและป้ายตัวอักษรขนาดใหญ่

รวมถึงเครื่องมือซึ่งจะช่วยให้ผู้ช่วยเหลือที่ได้รับความไว้วางใจปรับแต่งประสบการณ์สำหรับผู้ที่ตนเองให้การช่วยเหลืออยู่ ตัวอย่างเช่น สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสื่อสารด้วยภาพ แอปข้อความจะมีคียบอร์ดแบบอิโมจิอย่างเดียว และตัวเลือกในการบันทึกข้อความวิดีโอ เพื่อแชร์กับผู้ซึ่งเป็นที่รัก

นอกจากนี้ผู้ใช้และผู้ช่วยเหลือที่ได้รับความไว้วางใจยังสามารถเลือกได้ระหว่างเลย์เอาท์แบบกริดที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นสำหรับหน้าจอโฮมและแอปของตนเอง หรือเลย์เอาท์แบบแถวสำหรับผู้ใช้งานซึ่งชื่นชอบข้อความมากกว่า

“ชุมชนผู้พิการซึ่งพัฒนาแล้วและอุดมด้วยสติปัญญาต่างก็กระหายที่จะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่บ่อยครั้งที่เทคโนโลยีได้ทำให้เกิดปราการขวางกั้นทางด้านร่างกาย การมองเห็น หรือความรู้สำหรับบุคคลเหล่านั้น” Katy Schmid ผู้อำนวยการอาวุโสแห่ง National Program Initiatives ขององค์กร The Arc of the United States กล่าว

“การมีคุณสมบัติที่มอบประสบการณ์การเข้าถึงด้านการรับรู้บน iPhone หรือ iPad เป็นการเปิดประตูสู่การศึกษา การจ้างงาน ความปลอดภัย และอิสรภาพในการดูแลตัวเองที่มากขึ้น ซึ่งหมายความถึงโลกที่กว้างขึ้น และความเป็นไปได้ที่เพิ่มมากขึ้น”

Live Speech และ Personal Voice การช่วยการเข้าถึงด้านการพูดอันล้ำหน้า

ด้วย Live Speech บน iPhone, iPad และ Mac ทำให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์สิ่งที่ตนเองต้องการพูดเพื่อให้พูดออกเสียงได้ในระหว่างการโทรศัพท์หรือโทร FaceTime รวมถึงการสนทนาแบบต่อหน้า ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกวลีที่ใช้กันบ่อยที่สุด

เพื่อพูดสอดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็วในระหว่างการสนทนากับครอบครัว เพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานได้ โดย Live Speech ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับผู้คนนับล้านทั่วโลกซึ่งพูดไม่ได้ หรือผู้ที่สูญเสียความสามารถในการพูดไปตามกาลเวลา

สำหรับผู้ใช้ซึ่งเสี่ยงที่จะสูญเสียความสามารถในการพูด อย่างเช่นผู้ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค ALS (Amyotrophic Lateral Sclerosis) หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือโรคอื่นๆ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถในการพูดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

คุณสมบัติ Personal Voice จะเป็นหนทางง่ายๆ และปลอดภัยในการสร้างเสียงที่เหมือนเสียงของตัวเอง ผู้ใช้สามารถสร้าง Personal Voice ด้วยการอ่านชุดข้อความที่จะปรากฎขึ้นแบบสุ่มเพื่อบันทึกเสียงยาว 15 นาทีบน iPhone หรือ iPad

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการพูดนี้จะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลให้แก่ผู้ใช้ และผสานกับ Live Speech ได้อย่างกลมกลืนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถพูดได้ด้วย Personal Voice ของตนเองในขณะที่สื่อสารกับบุคคลอันเป็นที่รัก


[mobile-price]