Apple แถลงการณ์! โต้กลับ Bloomberg หลังรายงานข้อมูลว่าพบชิพอันตรายถูกฝังในเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
Bloomberg Businessweek ฉบับวันที่ 8 ตุลาคม 2561 รายงานว่า Apple พบ “ชิพที่เป็นอันตราย” ในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้บนระบบเครือข่ายของตนเมื่อปี 2559 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และ Apple ได้อธิบายให้ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการของ Bloomberg ทราบหลายครั้งแล้วตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
Apple ได้ส่งแถลงการณ์ต่อไปนี้ให้ Bloomberg Businessweek ก่อนที่จะมีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าว
” เราขอชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจนเลยว่า Apple ไม่เคยพบชิพที่เป็นอันตราย, “การดัดแปลงแก้ไขฮาร์ดแวร์” หรือช่องโหว่ใดๆ ที่จงใจฝังไว้ในเซิร์ฟเวอร์เลย และ Apple ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก FBI หรือหน่วยงานอื่นใดเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ทั้งเราเองและเจ้าหน้าที่ของเราซึ่งเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับทางหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายก็ไม่ได้รับแจ้งว่ามีการสืบสวนใดๆ จากทาง FBI
เราขอนำเสนอข้อเท็จจริงต่อไปนี้เพื่อตอบโต้บทความฉบับล่าสุดของ Bloomberg กล่าวคือ Siri และ Topsy ไม่เคยใช้เซิร์ฟเวอร์ร่วมกัน และไม่เคยมีการนำ Siri ไปติดตั้งเพื่อให้บริการบนเซิร์ฟเวอร์ที่ Super Micro จำหน่ายให้เรา นอกจากนี้จำนวนเซิร์ฟเวอร์ที่มีข้อมูลของ Topsy นั้นมีอยู่เพียง 2,000 เครื่องเท่านั้น ไม่ใช่ 7,000 เครื่อง และไม่เคยมีการตรวจพบชิพที่เป็นอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นเลย
ในทางปฏิบัติ เซิร์ฟเวอร์ที่นำมาติดตั้งใช้งานที่ Apple จะต้องผ่านการตรวจสอบหาช่องโหว่ในระบบความปลอดภัยก่อนทุกครั้ง และเรายังอัพเดทเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดเป็นรุ่นล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังไม่เคยมีการตรวจพบช่องโหว่น่าสงสัยใดๆ ในเซิร์ฟเวอร์ที่เราสั่งซื้อจาก Super Micro ในขณะที่มีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และซอฟต์แวร์ตามหลักปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานของเรา
เรารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้สื่อข่าวของ Bloomberg ที่ติดต่อพูดคุยกับเรานั้นไม่เปิดใจรับฟังว่ามีโอกาสที่แหล่งข่าวของตนอาจเข้าใจผิดหรือได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจากการคาดเดาของเรา มีความเป็นไปได้ที่ Bloomberg อาจเกิดความสับสนระหว่างเรื่องนี้กับเหตุการณ์ที่เคยรายงานไปเมื่อปี 2559 โดยในครั้งนั้นเราพบไดรเวอร์ที่ติดไวรัสบนเซิร์ฟเวอร์ Super Micro หนึ่งเครื่องในห้องแล็บของเรา และจากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ไม่ใช่การตั้งใจโจมตี Apple แต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะไม่มีการกล่าวอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับข้อมูลของลูกค้า แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับข้อกล่าวหาเหล่านี้ และเราอยากให้ผู้ใช้ทราบว่าเราทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้เชื่อใจให้ไว้กับเรา ยิ่งกว่านั้น เราอยากให้ผู้ใช้ทราบว่าข้อมูลที่ Bloomberg รายงานเกี่ยวกับ Apple นั้นไม่เป็นความจริง
Apple เชื่อมาโดยตลอดว่าวิธีการจัดการและปกป้องข้อมูลจะต้องมีความโปร่งใส และหากเกิดเหตุการณ์อย่างที่ Bloomberg News กล่าวอ้างจริง เราคงออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ วิศวกรของ Apple ยังตรวจสอบคัดกรองระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่เป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าระบบของเรามีความปลอดภัย เพราะเราทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องของการแข่งขันที่ไม่มีวันสิ้นสุด และนั่นคือเหตุผลที่เราเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบของเราอยู่ตลอดเวลาเพื่อปกป้องระบบจากแฮ็คเกอร์และอาชญากรในโลกไซเบอร์ที่จ้องจะขโมยข้อมูลเราด้วยวิธีที่แยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ
Apple เชื่อมาโดยตลอดว่าวิธีการจัดการและปกป้องข้อมูลจะต้องมีความโปร่งใส และหากเกิดเหตุการณ์อย่างที่ Bloomberg News กล่าวอ้างจริง เราคงออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ วิศวกรของ Apple ยังตรวจสอบคัดกรองระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดอยู่เป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าระบบของเรามีความปลอดภัย เพราะเราทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องของการแข่งขันที่ไม่มีวันสิ้นสุด และนั่นคือเหตุผลที่เราเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบของเราอยู่ตลอดเวลาเพื่อปกป้องระบบจากแฮ็คเกอร์และอาชญากรในโลกไซเบอร์ที่จ้องจะขโมยข้อมูลเราด้วยวิธีที่แยบยลมากขึ้นเรื่อยๆ
บทความที่ Businessweek เผยแพร่ยังอ้างอีกด้วยว่า Apple “รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวกับทาง FBI แต่เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ตรวจพบไว้เป็นความลับ แม้แต่ภายในบริษัทเอง” และหลังจากที่เราได้รับทราบเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 เราได้ให้ข้อมูลต่อไปนี้กับทาง Bloomberg และข้อมูลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในคำชี้แจงอย่างละเอียดฉบับสมบูรณ์ที่เราตอบกลับอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องแรกเป็นการตอบโต้คำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการสืบสวนภายใน
ถึงแม้จะมีการปรึกษาหารือระหว่างทีมต่างๆ ทั่วทั้งบริษัทหลายต่อหลายครั้ง แต่กลับไม่มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับการสืบสวนที่ว่านี้เลย ส่วนทาง Businessweek เองก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ สำหรับใช้ในการติดตามการสืบสวนหรือผลการสืบสวนตามที่กล่าวอ้าง และ Businessweek ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าพวกเขาไม่มีความเข้าใจใดๆ เลยเกี่ยวกับหลักปฏิบัติมาตรฐาน
ซึ่งทาง Businessweek กล่าวอ้างว่ามีการหลบเลี่ยงไม่เคยมีใครจาก Apple ติดต่อ FBI เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ และเราก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจาก FBI เกี่ยวกับการสืบสวนในลักษณะนี้เช่นกัน ดังนั้นเรื่องการพยายามปกปิดเรื่องนี้จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้
Jordan Robertson ได้มาปรากฏตัวในรายการของ Bloomberg Television เมื่อช่วงเช้าเพื่อพูดถึงการพบชิพอันตรายที่ว่านี้ และยังกล่าวอ้างเพิ่มเติมอีกว่า “ในกรณีของ Apple นั้น เราเข้าใจว่า การตรวจพบครั้งนี้มาจากการสุ่มตรวจเซิร์ฟเวอร์บางส่วนที่มีปัญหา”เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตามที่เราเคยแจ้ง Bloomberg ไปแล้วก่อนหน้านี้ และ Apple ไม่เคยพบชิพที่เป็นอันตรายในเซิร์ฟเวอร์ของเรา
สุดท้ายนี้ เพื่อเป็นการตอบคำถามที่เราได้รับจากสำนักข่าวอื่นๆ นับตั้งแต่ที่ Businessweek เผยแพร่บทความดังกล่าว เราขอยืนยันว่าเราไม่ได้รับคำสั่งให้ปกปิดเรื่องนี้แต่อย่างใด และไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ให้เราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
Leave a Reply