Apple แจงเหตุผล! คลายข้อสงสัยว่าเหตุใดถึงตัดช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออก
ก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในปี 2016 ของ Apple และเพิ่งจะเปิดให้ประเทศกลุ่มแรกสั่งจองกันไปเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ต่างไปจากรุุ่นก่อนหน้าสักเท่าไร แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในครั้งนี้นับเป็นการฉีกแนวเดิมออกไปโดย Apple กล้าที่จะตัดช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก ถึงแม้ว่าผู้ใช้งานหลายๆ คนออกมาบ่นว่านี่อาจจะสร้างความยุ่งยากในการใช้งานขึ้นไปอีก และสงสัยว่าเหตุใด Apple จึงเลือกตัดช่องเสียบหูฟังออก เราไปชมเหตุผลของ Apple กันเลยค่ะ
ล้าสมัย! ทีมนักพัฒนาของ Apple มองว่าเจ้าช่องเสียบหูฟังดังกล่าวมันดูล้าสมัยไปแล้ว มันทำให้เครื่องสมาร์ทโฟนเสียพื้นที่ไปโดยไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นมันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง
เพิ่มพื้นที่ว่างมากขึ้นสำหรับกล้องถ่ายภาพโฉมใหม่ การตัดช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกเพื่อช่วยให้กล้อง iSight แบบใหม่ถ่ายรูปได้มีประสิทธิภาพดีขึ้นและเพิ่มระบบป้องกันภาพสั่น (OIS) เข้ามา เลนส์โมดูลกล้องก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ทีมวิศวกรของ Apple จึงต้องหาพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น และต้องยอมตัดอะไรบางอย่างออก
โดยพวกเขาเลือกที่จะย้าย driver ledge ซึ่งเป็นแผงวงจรขนาดเล็กที่ใช้ควบคุมแสงสว่างของจอภาพ จากบริเวณด้านบนเหนือแบตเตอรี่ไปอยู่ด้านล่างแทน จึงจำเป็นต้องตัดช่องเสียบหูฟังออกไปนั่นเอง
เพื่อคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 หากไม่ตัดช่องเสียบหูฟังออกน้ำก็จะเข้าตัวเครื่องได้ง่าย โดย Dan Riccio รองประธานกรรมการอาวุโสแผนกวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าวไว้ว่าช่องเสียบหูฟังมันเป็นอุปสรรคกับการพัฒนาอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับเทคโนโลยีกล้อง หน่วยประมวลผล และความจุแบตเตอรี่ ในเมื่อพวกเขามีอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่าก็ควรจะตัดมันทิ้งไปซะ!
แลกมาด้วยปุ่มโฮมระบบ Taptic Engine พื้นที่ว่างจากการถอดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรออกไป ทำให้ทีมวิศวกรของ Apple สามารถพัฒนาระบบ Taptic Engine หรือระบบแยกแยะแรงสัมผัสของปุ่มโฮมได้ง่ายขึ้น มีความแม่นยำสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม
แบตเตอรี่ความจุที่มากกว่าเดิม นอกจากจะทำให้สามารถติดตั้งโมดูลกล้องแบบใหม่ลงไปได้แล้ว การตัดช่องเสียบหูฟังออกยังทำให้ทีมวิศวกรสามารถเพิ่มแบตเตอรี่ก้อนใหญ่กว่าเดิมลงไปได้อีกด้วย ทำให้ iPhone 7 สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 6s อยู่ราว 1 ชั่วโมง มีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 14% และ iPhone 7 Plus ใช้งานได้นานกว่า iPhone 6s Plus อยู่ราว 2 ชั่วโมง มีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 5%
และถึงแม้ว่า Apple จะเลือกตัดช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกจาก iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus รวมไปถึง iPhone รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต แต่ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ Apple ก็ได้แถมอแดปเตอร์แปลงพอร์ต Lightning เป็นช่องหูฟังเป็นแจ็คเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย ส่วนหูฟัง EarPods ก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต Lightning แต่ก็มีปัญหาติดอยู่ที่ว่ามันไม่สามารถฟังเพลงไปด้วยชาร์จแบตเตอรี่ไปด้วยได้ คงต้องยอมเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อหูฟังไร้สาย AirPods แทนค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.phonearena.com, 9to5mac.com
Leave a Reply