Apple อาจมียอดขาย iPhone ลดลงหลังเริ่มแคมเปญเปลี่ยนแบตฯ แต่จะสร้างรายได้ถึง 51,900 ล้านบาท จากผู้ใช้ 10% ที่นำเครื่องมาเปลี่ยนแบตฯ
ก่อนหน้านี้มีกรณีดังกระฉ่อนหลังจากที่ผู้ใช้งาน iPhone รุ่นเก่าๆ มีความรู้สึกว่าสมาร์ทโฟนของตนเองนั้นทำงานได้ช้าลง ซึ่งมีผู้ใช้รายหนึ่งใน Reddit พบว่า iPhone 6s ที่ตนนั้นใช้งานอยุ่ทำงานได้ช้าลงผิดปกติ แต่เมื่อทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่กลับพบว่าเครื่องกลับมาทำงานได้เป็นปกติ โดยมีผลทดสอบจาก Geekbench เป็นหลักฐาน
และทาง Apple ได้ออกมาให้เหตุผลว่าพยายามพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจัดการพลังงาน และยืดอายุการใช้งานของ iPhone รวมไปถึงแบตเตอรี่ให้มีระยะเวลายาวนานมากที่สุด ไม่ให้เครื่องดับไปดื้อๆ และยอมรับว่า iPhone ที่มีแบตเตอรี่เก่าอาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานช้าลง แต่ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นนั้นไม่ได้ตั้งใจจะให้เครื่องทำงานช้าลง จนเหมือนกับว่าพยายามบีบให้ผู้ใช้งานซื้อรุ่นใหม่แต่อย่างใด (ดูเพิ่มเติม)
โดยทาง Apple ได้ออกมาแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเปิดแคมเปญชดเชยด้วยการลดราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ให้กับผู้ใช้งานเหลือเพียง 1,000 บาท (จากปกติ 2,900 บาท) ซึ่งรุ่นที่ร่วมรายการในครั้งนี้ ได้แก่ iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus หรือ iPhone SE
นอกจากนี้ Barclays บริษัทวิเคราะห์ด้านการตลาดมีรายงานเปิดเผยคาดเดาว่าผู้ใช้งาน iPhone ที่สามารถเข้าร่วมแคมเปญฝนครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 519 ล้านเครื่อง ถ้าหากมีกลุ่มผู้ใช้จำนวน 10% (หรือ 51.9 ล้านเครื่อง) นำเครื่องรุ่นดังกล่าวมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคา 1,000 บาท จะคิดเป็นจำนวนเงินถึง 51,900 ล้านบาท
และหากผู้ใช้ iPhone ทุกคนนำเครื่องมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามแคมเปญนี้จะทำให้ Apple มีรายได้จากแคมเปญนี้ถึง 519,000 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ทว่าหากมองอีกมุมหนึ่งจะพบว่าการที่ผู้ใช้งานนำ iPhone เครื่องเก่ามาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในราคา 1,000 บาท จะทำให้อัตราการซื้อ iPhone รุ่นใหม่ลดลงเช่นกัน โดยทาง Barclays คาดการณ์ว่าจะทำให้ Apple สูญเสียรายได้การขายเครื่องรุ่นใหม่ถึง 16 ล้านเครื่อง
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.macrumors.com
Leave a Reply