รีวิว Fuji X-A10 น้องเล็กตระกูล X Series สเปคดีน่าคบหา พร้อมเปรียบเทียบ Fuji X-A2 และ Fuji X-A3

รีวิว Fuji X-A10 น้องเล็กตระกูล X Series สเปคดีน่าคบหา พร้อมเปรียบเทียบ Fuji X-A2 และ Fuji X-A3

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หลังจากที่ Fujifilm ได้เปิดตัว Fuji X-A3 ไปเมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดก็ได้ทำการเปิดตัว Fujifilm X-A10 หรือ Fuji X-A10 กล้อง Mirrorless (มิลเลอร์เลส) น้องใหม่ล่าสุดในตระกูล X Series ส่งท้ายปี 2016 โดยมีการอัพเกรดสเปคปรับปรุงพัฒนาขึ้นมาจาก Fuji X-A2 ที่เลิกผลิตไปแล้วอยู่เล็กน้อย พูดง่ายๆ คือเจ้าตัว Fuji X-A10 นั้นมาแทน Fuji X-A2 แต่ยังคงมีสเปคที่ต่ำกว่า Fuji X-A3 นั่นเอง

ซึ่งในวันนี้ทาง ninethaiphone จะนำกล้อง Fuji X-A10 มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในเบื้องต้น สำหรับ Fuji X-A10 เปิดตัวมาในราคา 19,990 บาท ถือได้ว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่มีราคาไม่แพงมากนัก มีให้เลือกเพียงสีเดียวได้แก่ สีดำ ใช้เซ็นเซอร์ APS-C CMOS ความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซล สามารถปรับ iso ได้สูงสุดถึง 25,600 โฟกัส 49 จุด ระบบวัดแสง 256 โซน

มาพร้อม Face – Eye detection auto focus มีฟิลเตอร์ในการใช้ถ่ายภาพนับ 10 แบบ ส่วนหน้าเนียนจะปรับระดับไม่ได้แต่มีโหมดถ่ายหน้าคนมาให้ ด้านสปีดชัตเตอร์ช่วยในการจับภาพเคลื่อนไหวให้เป็นภาพนิ่งได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 1/32000 เท่ากับ Fuji X-A3 สามารถถ่ายวิดิโอความละเอียดสูงสุด Full HD 30fps

การลั่นชัดเตอร์ถ่ายภาพต่อเนื่องสามารถถ่ายได้ 6 รูปภาพต่อวินาที หน้าจอขนาด 3 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีนไม่ได้แต่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น พับหน้าจอได้ได้ 180 องศา ขณะที่ Fuji X-A2 พับหน้าจอได้ 175 องศา ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-W12P เคลมไว้ว่าสามารถถ่ายภาพได้ถึง 410 ภาพ ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง

ซึ่งการชาร์จของ Fuji X-A10 จะเป็นการชาร์จผ่านช่อง micro USB แตกต่างจาก Fuji X-A2 ที่ชาร์จผ่านแท่นชาร์จ และไม่มี HotShoe สำหรับใช้ต่ออุปกรณ์เสริม อาทิ แฟลช หรือไมค์แยก ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาขึ้น นอกจากนี้ Fuji X-A10 ยังมี Wi-Fi สำหรับส่งภาพถ่ายเข้าสู่มือถือสมาร์ทโฟน หรือส่งภาพถ่ายไปยัง Printer Instax Share และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย เราไปชมรีวิวนี้กันเลยค่ะ

สเปค Fujifilm X-A10

– หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,040K (ทัชสกรีนไม่ได้)
– ความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซล เช็นเซอร์ APS-C CMOS
– เลนส์ KIT Super EBC XC 16-50 มม. OIS II
– ISO 200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600
– สปีดชัตเตอร์ความเร็วสูงสุด 1/32000 วินาที
– รองรับ SD Card ความเร็ว UHS-I
– ถ่ายวิดิโอความละเอียดสูงสุด Full HD 30fps
– ถ่ายภาพต่อเนื่อง 6 ภาพต่อวินาที
– ระบบวัดแสง 256 โซน
– จุดโฟกัส 49 จุด
– รองรับ Face Detection และ Eye Detection
– พับหน้าจอได้ 180 องศา
– ฟังก์ชั่นถ่ายภาพพิเศษ Buddy / Group / Smile
– Film Simulation จำนวน 6 แบบ ได้แก่ Provia/Standard, Velvia/Vivid, Astia/Soft, Classic Chrome, Mono Chrome
– Advances Filter จำนวน 10 แบบ
– Intelligent Flash
– รองรับ Wi-Fi ใช้งานรีโมทผ่านแอพ
– แบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-W126S ถ่ายภาพได้ถึง 410 ภาพ ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง
– รองรับ micro USB และ HDMI
– ขนาดตัวเครื่อง 116.9×67.4×40.4 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก 331 กรัม
– มีให้เลือกเพียงสีเดียว ได้แก่ สีดำ
– ราคา 19,990 บาท

แกะกล่องรีวิว Fuji X-A10

อุปกรณ์ต่างๆ ในกล่องประกอบไปด้วย 

– คู่มือการใช้งาน และใบประกันสินค้า
– ตัวเครื่อง Fuji X-A10
– เลนส์ KIT Super EBC XC 16-50 มม.
– ฝาครอบเลนส์
– ฮูดกล้องใช้ต่อกับตัวเลนส์
– อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่
– สายชาร์จ micro USB
– สายหนังคล้องคอสีดำ

ตัวเครื่องมีให้เลือกเพียง 1 สี ได้แก่ สีดำ มีความคลาสสิกอยู่ในตัวช่วยตัดปัญหาสำหรับผู้ใช้งานที่เลือกไม่ได้ว่าจะซื้อสีอะไร ตัวเครื่องมีขนาด 116.9×67.4×40.4 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาลงกว่า Fuji X-A2 เหลือเพียง 331 กรัม

Fuji X-A10 ใช้เลนส์ KIT Super EBC XC 16-50 มม. (แบบเดียวกับ Fuji X-A3 และ Fuji X-A2) และเช็นเซอร์ APS-C CMOS ความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซล (น้อยกว่า Fuji X-A3 แต่เท่ากับ Fuji X-A2)

หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว แต่หน้าเสียดายที่ไม่รองรับระบบทัชสกรีนเหมือนกับ Fuji X-A3

แผงปุ่มกดใช้งานต่างๆ ควบคุม 4 ทิศทางยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อาทิ ปุ่มกดเลือกชมภาพถ่าย, ปุ่มตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, ปุ่มตั้งค่า auto focus, ปุ่มถ่ายภาพในลักษณะต่างๆ  หรือปุ่ม Back เป็นต้น ส่วนจุดสีส้มๆ ที่เห็นอยู่นั้นเป็นปุ่มกดสำหรับบันทึกวิดีโอค่ะ

พับหน้าจอสำหรับถ่ายเซลฟี่ได้ 180 องศา

Fuji X-A10 จะถูกตัด HotShoe ที่ใช้สำหรับต่อไมค์, แฟลช อุปกรณ์เสริมต่างๆ ด้านบนตัวเครื่องออก แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับกล้อง Mirrorless ที่ใช้พกพาค่ะ

ด้านขวาส่วนบนจะประกอบไปด้วยโหมดฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีให้เลือกมากมาย, สวิทช์เปิด-ปิด การใช้งาน, ปุ่ม Fn สำหรับตั้งค่าฟังก์ชั่นของกล้องได้ตามต้องการช่วยให้ใช้กล้องได้สะดวกยิ่งขึ้น และปุ่มสำหรับหมุนปรับความกว้างของรูรับแสง

ในการเปิดใช้งาน Flash ให้เลือกเปิดสวิทช์ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง เพื่อทำการเปิด Flash Pop up

ซึ่งการเปิด Flash Pop up หรือ Flash ที่ติดมากับตัวกล้อง จะช่วยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีมากยิ่งขึ้น แม้จะให้แสงที่ไม่ค่อยเนียนตาเหมือนแฟลชแยกก็ตาม

ด้านขวาตัวเครื่องจะมีช่องเสียบ HDMI (บน) ใช้เพื่อต่อสาย HDMI จากตัวกล้องเข้าทีวีหรือคอมพิวเตอร์เพื่อชมภาพความละเอียดสูง และช่องเสียบสายชาร์จ micro USB

Fuji X-A10 ใช้งานด้วยแบตเตอรี่รุ่นใหม่อย่าง NP-W126S ที่เคลมไว้ว่าสามารถถ่ายภาพได้กว่า 410 ภาพ ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง

ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องใส่แบตเตอรี่ และ SD card โดยจะอยู่ใกล้ๆ กับรูหมุนเกลียวสำหรับใส่ขาตั้งกล้อง

ฟังก์ชั่น และโหมดการใช้งานต่างๆ

Fuji X-A10 มีจุดโฟกัสทั้งหมด 49 จุด (ไม่ใช่แบบไฮบริด) กระจายรอบทิศทาง

เมื่อกดบันทึกวิดีโอจะปรากฏไฟสีส้มแจ้งสถานะการใช้งานขึ้น

การปรับฟิลเตอร์แสงต่างมีให้เลือกใช้งานมากมาย อาทิ ใช้งานแบบออโต้, ตั้งค่ากำหนดแสงเอง, ปรับอุณหภูมิสี, ปรับแสงเดย์ไลท์, ปรับแสงในที่ร่มแสงน้อย, แสงไฟทั่วไป, แสงไฟสีเหลือง, แสงสีขาวนวล เป็นต้น

ลูกเล่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับ Fuji X-A10 ในส่วนของการตั้งเวลาในการถ่ายภาพไม่ว่าจะเป็น Smile Deection ระบบของกล้องจะจับภาพหากมีบุคคลในภาพยิ้ม

หรือจะเป็น Buddy และ Group เหมาะสำหรับถ่ายในหมู่เพื่อนๆ หรือคนสนิท สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ โดยการทำงานหลักๆ ของ Group ระบบกล้องจะจับใบหน้าของบุคคลในเฟรม มากสุดอยู่ที่ 4 ใบหน้า เมื่อจับครบแล้วตามที่ตั้งค่าไว้กล้องจะกดชัดเตอร์ให้โดยอัตโนมัติ

ปรับตั้งค่าการทำงานสะดวกขึ้นเมื่อกดไป “Q” ที่แผงปุ่มการใช้งานต่างๆ จะปรากฏหน้าการตั้งค่าต่างๆ อาทิ ตั้งค่าขนาดรูปภาพ, ความไวแสง, ช่วงไดนามิก, ลดเสียงรบกวนขณะบันทึกวิดีโอ, คุณภาพรูปถ่าย, ตั้งค่าโทนแสง หรือปรับระดับความคมชัดของภาพ เป็นต้น

จากภาพถ่ายด้านบนจะเป็นในส่วนของเมนูการตั้งค่าต่างๆ เองทั้งในตัวเครื่องและกล้องถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่ารูรับแสงปรับได้เองตามสะดวก, ความไวแสง, ขนาดภาพ, ตั้งเวลาในการถ่ายภาพ, ปรับสี และความคมชัด, ปรับโทนแสงสว่าง, ตั้งค่าการเชื่อมต่อ Wi-Fi เครื่อง, ตั้งชนิดของชัดเตอร์ที่ต้องการใช้, ปรับรีเซ็ตเครื่อง, ตั้งค่าเสียงแฟลช เสียงกดชัดเตอร์, ตั้งค่าภาษา รวมถึงวันที่และเวลา หรือเปิดโหมดประหยัดพลังงาน เป็นต้น

เมื่อกดปุ่ม “Fn” บนตัวเครื่อง จะพาเข้าสู่หน้าการตั้งค่าความไวของแสง หรือ ISO ที่มีทั้งแบบ auto และ 200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600

ถัดมาเราไปดูกันในส่วนของโหมดการใช้งานกันบ้าง เริ่มกันที่โหมด SP สำหรับถ่ายภาพคนได้สีสันเป็นธรรมชาติ

ถึงแม้ว่า Fuji X-A10 จะไม่สามารถเลือกปรับผิวเนียนได้เองตามใจชอบ แต่ก็ยังมาพร้อมโหมดผิวหน้าเนียนสวยเอาใจสาวๆ ที่ชอบเซลฟี่ค่ะ

โหมดถ่ายภาพวิวทิวทัศน์สีสันอิ่มตัวเหมือนจริงมากขึ้น

โหมดถ่ายภาพกีฬาสำหรับจับภาพที่กำลังเคลื่อนไหวให้เป็นภาพนิ่งได้ดียิ่งขึ้น

โหมดถ่ายภาพกลางคืนจับภาพในที่แสงน้อยได้ดีด้วยค่ารูรับแสงที่มากขึ้น

โหมด C จะเป็นการตั้งค่าการทำงานต่างๆ ให้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของผู้ใช้

โหมด M หรือโหมดแมนวลที่ให้ผู้ใช้งานปรับค่ารูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ได้ด้วยตนเอง พูดง่ายคือควบคุมตั้งค่าได้เองทั้งหมดค่ะ

โหมด A จะเป็นโหมดออโต้ความเร็วของชัตเตอร์ และตั้งค่ารูรับแสงได้เอง

โหมด P คือโหมดโปรแกรมระบบโฟกัส AE ที่กล้องจะทำการคำนวณความเร็วชัตเตอร์ และค่ารูรับแสงให้ในเบื้องต้นแบบอัตโนมัติ พูดง่ายๆ คือกล้องควบคุมให้เกือบหมด แต่ผู้ใช้ก็ยังสามารถเปลี่ยนค่าได้เองในภายหลังตามความต้องการ

โหมด SR+ เป็นโหมดอัตโนมัติอัจฉริยะใช้งานแบบง่ายๆ คือกล้องจะประเมินรูปแบบภาพที่ผู้ใช้ต้องการ และปรับรูปแบบการถ่ายภาพให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับชดเชยแสงหรือปรับภาพให้สว่างขึ้นหรือมืดลงได้ด้วย

โหมด Adv. ฟิลเตอร์ขั้นสูงสำหรับสร้างสรรค์รูปแบบภาพที่พิเศษขึ้นแตกต่างจากภาพถ่ายปกติ มีฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์ให้เลือกใช้งานมากมาย

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Fuji X-A10

       

เปรียบเทียบตัวเครื่อง Fuji X-A2 และ Fuji X-A10

ถัดมาเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมเปรียบเทียบดีไซน์ตัวเครื่องของ Fuji X-A2 และ Fuji X-A10 เพื่อให้เห็นกันแบบชัดๆ ไปเลยว่ามีมุมไหนแตกต่างกันบ้าง หลังจากที่เราได้แจ้งให้ทราบกันในเบื้องต้นแล้วว่าเจ้าตัว X-A10 นั้นมาแทน X-A2 ที่เลิกผลิตเป็นที่เรียบร้อย เราไปชมเปรียบเทียบนี้กันเลยค่ะ

Fuji X-A2 (ซ้าย) และ Fuji X-A10 (ขวา) มาพร้อมหน้าจอขนาด 3 นิ้วเท่ากัน แต่เจ้าตัว X-A10 จะมีความละเอียดที่เพิ่มขึ้นเป็น 1040K และปุ่มเปิดแฟลชถูกย้ายไปไว้ด้านข้างเครื่อง

ขณะที่แผงปุ่มกดการใช้งานจะเหมือนเดิมทุกประการ

การพับหน้าจอสำหรับใช้เซลฟี่ X-A2 พับได้ 175 องศา ส่วน X-A10 สามารถพับได้ 180 องศา เพิ่มขึ้นมาเพียงนิดหน่อย

ด้านบนเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า X-A10 (ซ้าย) จะไม่มี HotShoe ขณะที่ X-A2 (ขวา) มี HotShoe ส่วนปุ่มหมุนปรับการใช้งานต่างๆ ก็ยังคงเหมือนกัน

สำหรับ HotShoe (ฮอตชู) จะเป็นจุดที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ แฟลชแยก หรือไมค์แยก

ด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นช่องเชื่อมต่อ micro USB และพอร์ต HDMI ใช้เพื่อต่อสาย HDMI จากตัวกล้องเข้าทีวีหรือคอมพิวเตอร์เพื่อชมภาพความละเอียดสูง

ปุ่มเปิดแฟลช Pop-Up ของ X-A10 ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านซ้ายของเครื่อง ขณะที่ของ X-A2 จะอยู่มุมซ้ายบนของหน้าจอค่ะ

เปรียบเทียบสเปค Fuji X-A2, Fuji X-A10 และ Fuji X-A3

Detail	Fuji X-A2	Fuji X-A3	Fuji X-A10
วันเปิดตัว	มกราคม 2015	สิงหาคม 2016	ธันวาคม 2016
หน้าจอ	3 นิ้ว	3 นิ้ว	3 นิ้ว
ความละเอียด	920k	1040K	1040K
ระบบสัมผัส	ไม่รองรับ	รองรับ	ไม่รองรับ
การพับหน้าจอ	175 องศา	180 องศา	180 องศา
Wi-Fi	รองรับ	รองรับ	รองรับ
ใช้งานรีโมทผ่านแอพ	ไม่รองรับ	รองรับ	รองรับ
ความละเอียด	16.3 MP	24 MP	16.3 MP
เลนส์ KIT	16-50 มม. OIS II	16-50 มม. OIS II	16-50 มม. OIS II
เช็นเซอร์	APS-C CMOS	APS-C CMOS	APS-C CMOS
ISO	200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600	200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600	200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600
โฟกัส	49 จุด	77 จุด	49 จุด
ถ่ายต่อเนื่อง	5.6 ภาพ/วินาที	6 ภาพ/วินาที	6 ภาพ/วินาที
สปีดชัดเตอร์	1/4000	1/32000	1/32000
Face-Eye Detection	มี	มี	มี
ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม	ไม่มี	Smile / Buddy / Group	Smile / Buddy / Group
HotShoe	มี	มี	ไม่มี
Film Simulation	6 แบบ	11 แบบ	6 แบบ
ฟิลเตอร์ถ่ายภาพ	8 แบบ	10 แบบ	10 แบบ
SD Card	ความเร็ว UHS-I	ความเร็ว UHS-I	ความเร็ว UHS-I
พอร์ตเชื่อมต่อ	micro USB, HDMI	micro USB, HDMI	micro USB, HDMI
แบตเตอรี่	NP-W126	NP-W126s	NP-W126s
การชาร์จแบต	ผ่านแท่นชาร์จ	ผ่านตัวเครื่อง	ผ่านตัวเครื่อง
ขนาดตัวเครื่อง	116.9×66.5×40.4 มม.	116.9×66.9×40.4 มม.	116.9×67.4×40.4 มม.
น้ำหนัก	350 กรัม	339 กรัม	331 กรัม
ราคาวางจำหน่าย	18,490 บาท (เลิกผลิต)	23,990 บาท	19,990 บาท

สรุป Fuji X-A10

– Fuji X-A10 คือน้องใหม่ในตระกูล X Series ที่มาแทน Fuji X-A2 (หลังจากที่เลิกผลิตไป) แต่ยังคงมีสเปคที่ต่ำกว่า Fuji X-A3 อาทิ หน้าจอไม่รองรับระบบสัมผัส, ความละเอียดกล้องน้อยกว่า และมีระบบจุดโฟกัสน้อยกว่า เป็นต้น
– ใช้เซ็นเซอร์ APS-C CMOS ความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซล
– เลนส์ KIT Super EBC XC 16-50 มม. OIS II
– ISO 200 – 6400 ขยายได้ 100 – 25600
– สปีดชัตเตอร์ 1/32000 วินาที เร็วขึ้นกว่าเดิม
– ถ่ายภาพต่อเนื่อง 6 ภาพต่อวินาที ทำได้ดีมากกว่าตัว X-A2
– มีระบบวัดแสง 256 โซน และจุดโฟกัส 49 จุด
– รองรับ Face Detection และ Eye Detection
– หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดมากขึ้นเป็น 1040K (ทัชสกรีนไม่ได้) พับหน้าจอได้ 180 องศา
– มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพพิเศษ Buddy / Group / Smile
– Film Simulation จำนวน 6 แบบ ฟิลเตอร์จำนวน 10 แบบ (เหมือนกับ X-A3 )
– ด้านบนเปลี่ยนไปไม่มี HotShoe สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ แฟลชแยก หรือไมค์แยก
– ปุ่มเปิดแพลช Pop Up ถูกย้ายตำแหน่ง ไปไว้ด้านข้างของตัวเครื่อง
– รองรับการใช้งาน Wi-Fi ใช้งานรีโมทผ่านแอพ
– รองรับ micro USB และ HDMI
– แบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-W126S ถ่ายภาพได้ถึง 410 ภาพ ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง
– ชาร์จแบตเตอรี่ผ่านตัวเครื่อง แตกต่างจาก X-A2 ที่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกมาชาร์จผ่านแท่นอแดปเตอร์ด้านนอก
– มีให้เลือกเพียงสีเดียว ได้แก่ สีดำ
– ขนาดตัวเครื่อง 116.9×67.4×40.4 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาขึ้น 331 กรัม

ชมคลิป

https://youtu.be/eKDmy1n04-4