รีวิว Lenovo P2 แบตเตอรี่จุใจ 5100mAh รองรับชาร์จไว พร้อมปุ่ม Power Saver ประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด RAM 4GB ราคาหมื่นต้นๆ

รีวิว Lenovo P2 แบตเตอรี่จุใจ 5100mAh รองรับชาร์จไว พร้อมปุ่ม Power Saver ประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด RAM 4GB ราคาหมื่นต้นๆ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผู้ติดตาม ninethaiphone ทุกท่าน กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดกันอยู่ใช่มั้ย? ขี้เกียจพกพาวเวอร์แบงค์ไปด้วยทุกที่ให้หนักกระเป๋าใช่หรือป่าว? วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีที่เราจะขอนำ Lenovo P2 สมาร์ทโฟนที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวถือเป็นสมาร์ทโฟนพันธุ์อึดชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่ความจุมากถึง 5100mAh

รองรับ Quick Charge 3.0 ชาร์จเพียง 15 นาที ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ครอบทับกระจกหน้าจอขอบโค้งแบบ 2.5D จอใหญ่คมชัดสีสันสดใส ดีไซน์ตัวเครื่องดูทนทานผลิตจากวัสดุโลหะระดับพรีเมี่ยม กรอบตัวเครื่องอลูมิเนียม ลื่นไหลด้วยระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow

ระบบประมวลผล Snapdragon 625 แบบ octa-core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยความจำ RAM ความจุสูงถึง 4GB ความจุ 32GB รองรับการ์ดความจำ microSD สูงสุด 128GB สำหรับการจัดเก็บแอพพลิเคชั่น ฟังเพลง ชนภาพยนตร์ และเล่นเกมได้อย่างจุใจ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ nano SIM พร้อมสนับสนุนการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE เล่นอินเตอร์เน็ตลื่นไหล

ขณะที่กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony Image พร้อมเทคโนโลยี PDAF ถ่ายภาพด้วยระบบโฟกัสความเร็วสูง เซลฟี่ผ่านกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เพิ่มระบบความปลอดภัยด้วยสแกนลายนิ้วมือฉับไว มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 11,990 บาท พูดแล้วอย่ารอช้าเราไปชมรีวิว Lenovo P2 เครื่องนี้กันเลยค่ะ

ข้อมูลสเปค Lenovo P2

Features	Lenovo P2
วันเปิดตัว :	– 16 มกราคม 2560
ราคา :	– 11,900.- (ณ วันที่ 6 ก.พ. 60)
ระบบปฏิบัติการ :	– Android 6.0 (Marshmallow)
หน้าจอ :	– หน้าจอ Super AMOLED
	– ขนาด 5.5 นิ้ว
	– ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล
	– Multitouch
CPU :	– Snapdragon 625 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
GPU :	– Adreno 506
RAM :	– 4GB
ความจำตัวเครื่อง :	– 32GB
	– microSD สูงสุด 128GB
กล้องหลัง :	– 13 ล้านพิกเซล
	– dual-LED flash
	– phase detection autofocus
	– Geo-tagging
	– touch focus
	– face detection
	– HDR
	– panorama
กล้องหน้า :	– 5 ล้านพิกเซล
Video :	– 1080p@30fps
Battery :	– Li-Ion 5100mAh
ขนาด :	– 153x76x8.3 มม.
น้ำหนัก :	– 177 กรัม
รองรับซิม :	– Dual SIM
ระบบกันน้ำ :	–
ระบบเครือข่าย :	– 2G : GSM 850/900/1800/1900 MHz
	– 3G : HSDPA 850/900/1900/2100 MHz
	– 4G LTE
ระบบเชื่อมต่อ :	– Wi-Fi 802.11 b/g/n
	– Bluetooth 4.1
	– NFC
	– microUSB 2.0
	– OTG
	– 3.5mm jack
GPS :	– GPRS
	– A-GPS
	– GLONASS
Sensor :	– Fingerprint
	– accelerometer
	– gyro
	– proximity
	– compass
สี :	– เทา (Graphite Gray)
	– ทอง (Champagne Gold)

สำรวจนอกกล่อง Lenovo P2

Lenovo P2 ถูกบรรจุมาในกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้ากล่องสีสันสวยงามลักษณะยาว โชว์สมาร์ทโฟนจอใหญ่หน้ากล่อง พร้อมระบุว่าภายในกล่องมีฟิล์มกันรอย และเคสซิลิโคนห่อหุ้มสมาร์ทโฟนแถมมาให้บริเวณมุมขวาบน

ด้านหลังกล่องบอกจุดเด่นคร่าวๆ ของ Lenovo P2 ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ความจุสูง 5100mAh รองรับ Quick Charge 3.0 หน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ตัวเครื่องเป็นแบบโลหะ Unibody และมี Power Saver ระบบจัดสรรพลังงานให้สามารถใช้งานกันได้แบบยาวๆ ทั้งยังมีการระบุถึงระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน ชิปประมวลผล หน่วยความจำ RAM และความจุ ความละเอียดกล้องหลัง-หน้า ซิมการ์ดที่รองรับ และระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น

แกะกล่อง Lenovo P2

อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบไปด้วย

– ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน Lenovo P2 สีทอง
– ฟิลม์กันรอยแบบใส
– เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
– คู่มือการใช้งาน
– เคสซิลิโคนแข็งแบบใส
– Adapter ชาร์จแบตเตอรี่รองรับ Quick Charge 3.0
– สายชาร์จ microUSB
– หัวแจ็คเชื่อมต่อ USB On-The-Go (OTG)
– หูฟังแบบ Earbud

Adapter ชาร์จแบตเตอรี่ของ Lenovo P2 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 (INPUT 100-240V และ OUTPUT 5.2V-2A) สายชาร์จแบบ microUSB 2.0 และหูฟังมีสมอลทอร์คใช้สำหรับสนทนา

ทำความรู้จัก Lenovo P2

ด้านหน้า Lenovo P2 มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD สีสันคมชัดดี ออกแบบกระจกหน้าจอให้มีความโค้งแบบ 2.5D เพิ่มทัศนีย์ภาพในการมองเห็นที่กว้างขึ้น ระบบทัสสกรีนลื่นไหล

ด้านหน้าส่วนบน เริ่มจากทางซ้ายมือประกอบไปด้วย Light sensor เซ็นเซอร์วัดสภาพแสง และ Proximity sensor เซ็นเซอร์ปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา, ลำโพงสนทนา ขวาสุดจะเป็นเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และจะมีไฟแจ้งเตือนสถานะชาร์จแบตเตอรี่ที่มุมขวาบน

ด้านหน้าส่วนล่าง จะมีปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ส่วนในหน้าจอด้านล่างจะมีปุ่มนำทาง Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านหลัง Lenovo P2 ตัวเครื่องจะเป็นโลหะแบบ Unibody คือไม่สามารถถอดฝาหลังออก หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ตัวเครื่องมีความบางเพียงแค่ 8.3 มิลลิเมตร ขนาดไม่บางไม่หนากำลังพอเหมาะเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่ใส่มาให้ด้วยความจุ 5100mAh

ด้านหลังส่วนบน โดดเด่นด้วยเลนส์กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash และบริเวณรับสัญญาณ NFC

ด้านหลังส่วนล่าง โชว์โลโก้แบรนด์ Lenovo พร้อมประเทศที่ผลิต

ด้านบนตัวเครื่อง รูเล็กๆ ที่เห็นจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนทางด้านขวามือจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างตัวเครื่อง เริ่มจากทางซ้ายประกอบไปด้วยไมค์โครโฟนสำหรับสนทนา,  พอร์ตเชื่อมต่อ MicroUSB 2.0 และลำโพงเสียง

ด้านซ้ายตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยช่องใส่ซิมการ์ด และปุ่ม Power Saver สวิตช์ที่ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับปรับเปลี่ยนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด ปรับใช้ทรัพยากรภายในเครื่องให้น้อยลงเพื่อยืดเวลาแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ตามสะดวกเลยค่ะ

Lenovo P2 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid คือจะต้องเลือกว่าจะใช้งาน nano SIM ทั้งสองช่อง หรือเลือกใส่ microSD card อีกช่องหนึ่ง

ด้านขวาตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดการใช้งานเครื่อง

การแคปภาพหน้าจอ กดไปที่ปุ่มลดเสียง + ปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค่ะ

ทดสอบประสิทธิภาพ

เมื่อนำ Lenovo P2 ทำการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น AnTuTu พบว่าสามารถทำคะแนนรวมอยู่ที่ 64081 คะแนน ได้คะแนนสูงเลยทีเดียว

สำหรับ Lenovo P2 จะรันอยู่บน Android 6.0.1 Marshmallow ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 625 64-bit แบบ octa-core ความเร็ว 2.0GHz หน่วยประมวลภาพกราฟิก Adreno 506 หน่วยความจำ RAM 4GB หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB  รองรับหน่วยความจำภายนอก microSD Card สูงสุด 128GB

รองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11 b/g/n ฮอตสปอต เทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth 4.1 มีระบบนำทาง GPS, A-GPS และมีเซ็นเซอร์การใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Gravity, Proximity, Light, Vibrator, Gyro และ Magnetometer การทำงานโดยรวมลื่นไหล ไม่มีค้างให้กวนใจ

ซอฟต์แวร์ 

หน้าจอ Lock screen สามารถเข้าถึงเครื่องบันทึกเสียง และเข้าถึงกล้องถ่ายภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยการปัดมุมขวาหรือซ้ายขึ้น ส่วนการปลดล็อกตัวเครื่องให้เลื่อนหน้าจอด้านล่างขึ้นเท่านั้นเองค่ะ

หลังจากปลดล็อกหน้าจอจะพาเข้าสู่ Home Screen หน้าแรกที่มีมาให้จำนวน 2 หน้า (เพิ่มได้ในภายหลัง)

Home Screen หน้าสองแอพพลิเคชั่นที่ติดมากับตัวเครื่องมีให้ใช้งานอย่างครบครัน ดูไม่ค่อยรกตา และสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ที่ต้องการได้ในภายหลังที่ Play Store มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย และที่ให้ดาวน์โหลดฟรีค่ะ

หน้า Home Screen สามารถปรับแต่งได้เล็กน้อยตามความต้องการ

เลือกเปลี่ยนธีม หรือภาพพื้นหลังได้ตามสะดวกที่ Theme Center

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าวิดเจ็ต และการกำหนดคุณลักษณะหน้า Home Screen

ศูนย์รวมแอพฯ Google มีให้เลือกใช้งานมากมาย และการเข้าถึง Google อย่างรวดเร็วทำได้ด้วยการกดค้างที่ปุ่มโฮมในหน้าจอ หรือปุ่มสแกนลายนิ้วมือค้างไว้เพียงครู่เดียวค่ะ

โหมดโทรศัพท์ และการรับ-ส่งข้อความตัวอักษรใหญ่ใช้งานสะดวก

ระหว่างสนทนาสามารถเพิ่มสายเข้าร่วมวงสนทนาได้มากกว่า 1 สาย หรือจะกดบันทึกเสียงก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อกดปุ่ม Recent App จะพาเข้าสู่หน้าเคลียร์แอพฯ ที่ใช้งานไปทั้งหมด

โหมดเครื่องมือการใช้งานประกอบไปด้วย เครื่องคิดเลขตัวอักษรใหญ่กดไม่พลาดแน่นอนค่ะ

เครื่องบันทึกเสียง และนาฬิกาที่มีทั้งตั้งปลุก ตั้งเวลาในประเทศ-ต่างประเทศ หรือจับเวลา เป็นต้น

วิทยุ และเข็มทิศ

ปฏิทิน และแผนที่ตรวจสอบเส้นทางค่ะ

ในส่วนนี้จะเป็น Lenovo Companion – Mobile เปรียบเสมือนแอพฯ สามัญประจำเครื่องช่วยให้สะดวกสบายขึ้นเมื่อได้ใช้งาน เป็นเหมือนศูนย์กลางในการดูแลรักษา รับรู้ข่าวสาร พกความสามารถมาเต็ม อาทิ สำรวจคุณสมบัติ แอพต่างๆ ในตัวสมาร์ทโฟนพร้อมให้คำแนะนำ, แก้ไขปัญหาในการใช้งานเบื้องต้น, ทดสอบสมาร์ทโฟนด้วยตัวเองในด้านต่างๆ, อัพเดทข้อมูล หรือเข้าร่วมวงสนทนาชุมชมเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร เป็นต้น

SHAREit คือเครือข่ายส่วนตัวสำหรับการแบ่งปันข้อมูลที่มีมาให้ใช้งานกันแบบฟรีๆ ใช้สำหรับแบ่งปันไฟล์ และโฟลเดอร์ในเครื่องอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่จำเป็นต้องมีอินเตอร์เน็ต ก็จัดให้ได้ทั้งการรับ-ส่งไฟล์ แค่อยู่ในระยะ Wi-Fi ของแต่ละเครื่องเท่านั้น หลักการทำงานของ SHAREit เพียงแค่ผู้ใช้งานเพิ่มเพื่อนลงไปในในรายการผู้ติดต่อ โดยให้ทั้งคู่เปิดสัญญาณ Wi-Fi เอาไว้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ Hotspot ใดๆ จากนั้นก็เริ่มแชร์ไฟล์ที่ต้องการได้ทันที ซึ่งการรับส่งไฟล์ของ SHAREit จะเร็วตามความเร็วของ Wi-Fi และเร็วกว่า Bluetooth ได้ถึง 40 เท่าเลยทีเดียว

เมนูตั้งค่าพื้นฐานภายในตัวเครื่อง

ในส่วนนี้เป็นการบอกข้อมูลของสมาร์ทโฟนอย่างคร่าวๆ

การตั้งค่าเข้าถึงการใช้งานต่างๆ สามารถตั้งค่าเองได้ด้วยการเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น

การสำรองและคืนค่าข้อมูลมีทั้งแบบสำรองข้อมูลในตัวเครื่อง รีเซ็ตตั้งค่าเครือข่าย รีเซ็ตข้อมูลเป็นค่าเริ่มต้น และแบบลบข้อมูลทั้งหมดที่เราใช้งาน เป็นต้น

เราสามารถเลือกรูปแบบของการล็อก-ปลดล็อกหน้าจอได้เอง มีทั้งแบบเลื่อน ใส่พิน ใส่รหัสผ่าน ตั้งค่าสแกนลายนิ้วมือ ตั้งค่าโหมดสลีป หรือการดับของหน้าจอ และแบบอื่นๆ ได้เอง

การตั้งค่าสแกนลายนิ้วมือต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือ พร้อมกับตั้งรหัสผ่านเสียก่อน โดยสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุดถึง 5 ลายนิ้วมือ

หน่วยความจำ RAM และหน่วยความจุภายในตัวเครื่องเหลือให้ใช้มากพอสมควร

การใช้ข้อมูลจะเป็นการแจ้งเตือนว่าเราใช้งานแอพฯ ใดไปมากเท่าไหร่ ขณะที่ระบบจัดการพลังงานเป็นการเปิดโหมดประหยัดพลังงานในรูปแบบต่างๆ

ทีเด็ดของงานนี้เลยค่ะสำหรับปุ่ม Power Saver สวิตช์พิเศษข้างตัวเครื่องที่นำเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด โดยจะมีเวลาเป็นชั่วโมง และนาที แจ้งเตือนว่าแบตเตอรี่ที่เราเหลืออยู่นั้นสามารถใช้งานได้อีกเป็นเวลาเท่าใด เหมาะแก่การเดินทางไกลแล้วหาที่ชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้ หรืออยู่ในเวลาที่ต้องเซฟแบตเตอรี่เอาไว้ใช้งานสำคัญๆ สำหรับแอพฯ ที่รองรับการใช้งานจะมีสนทนาโทรศัพท์, รายชื่อผู้ติดต่อ, รับ-ส่งข้อความ และเพิ่มได้อีก 3 แอพฯ โดยจะมีให้เลือกแค่ นาฬิกา, เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน และวิทยุ FM

โหมดคุณลักษณะเป็นการเปิดใช้งานทางลัดในรูปแบบต่างๆ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้แก่ผู้ใช้งานได้มากทีเดียวค่ะ

รองรับการใช้งาน NFC หรือเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะสั้นที่สามารถส่งข้อมูล รูปภาพ คลิปวีดิโอ คลิปเสียง หรือแชร์ลิงค์เว็บไซต์ ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้อย่างง่ายดาย แต่ต้องอาศัยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยนะคะ

สามารถตั้งค่าพินข้อความ ลายมือตัวอักษรได้เอง

ตัวจัดการไฟล์ในตัวเครื่องเพื่อไม่ให้กินความจุเยอะ และคู่มือการใช้งานเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

แอพฯ แฮงเอาท์ใช้สำหรับติดต่อพูดคุยส่งข้อความ วิดีโอ หรือการโทรด้วยเสียงฟรี มีทั้งแบบแชทกับเพื่อน 1 คน หรือจะแชทแบบเป็นกลุ่มได้สูงสุด 150 คนก็ได้ และสามารถส่งข้อความถึงเพื่อนได้ทุกเวลาแม้เพื่อนจะออฟไลน์อยู่ก็ตาม โดยการโทรหาผู้ใช้แฮงเอาท์จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่การโทรไปยังเลขหมายอื่นอาจมีค่าใช้จ่ายค่ะ

เมื่อสไลด์หน้าจอด้านบนลงจะพบกับ Quick settings การตั้งค่าใช้งานในแบบต่างๆ ที่สามารถลดหรือเพิ่มได้เอง แล้วแต่ว่าเราจะกำหนดว่าต้องการใช้งานอะไรบ้างเท่านั้นเอง

ในส่วนของการปิด-เปิดเครื่อง หรือการรีสตาร์ทเครื่องทำได้ด้วยการกดปุ่มพาวเวอร์ด้านขวาตัวเครื่องค้างไว้ค่ะ

กล้องหน้ามาพร้อมโหมดบิวตี้ปรับความสวยเนียนได้มากสุด 7 ระดับ

กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เมนูการตั้งค่าดูโล่งไม่รกตา มีให้เลือกเปิด-ปิดการใช้งานแฟลช มาพร้อมโหมด Smart (ซึ่งในขณะนี้แอดมินปิดใช้งานอยู่) ระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้งานจัดองค์ประกอบภาพตามคำแนะนำมุมซ้ายบน (S) ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายในที่แสงน้อย การจัดวางจุดโฟกัสบนภาพ ซึ่งระบบดังกล่าวจะมีหน้าที่วิเคราะห์ว่าสิ่งที่เราจับภาพอยู่นั้นควรจะออกมาในรูปแบบไหน

การตั้งค่าคุณภาพของรูปถ่าย และตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการวัดแสง ใช้งานโหมด Snap ตั้งความละเอียดภาพถ่าย เป็นต้น

Lenovo P2 รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Ultra HD คมชัดมากค่ะ

ตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ในโหมดของกล้องถ่ายภาพด้านหลัง

การบันทึกวิดีโอมีให้เลือกเปิด-ปิดแฟลช และป้องกันภาพสั่นไหว

โหมดการใช้งานต่างๆ มีให้เลือกใช้งานแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดโปรถ่ายภาพแบบมือชีพ, พาโนรามาจับภาพในแนวกว้าง, ถ่ายภาพช่วงเวลากลางคืน, ถ่ายภาพ HDR ความละเอียดสูง, ถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว หรือถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวช้าๆ เป็นต้น

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลังจาก Lenovo P2

  

จุดเด่น

– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ใหญ่เต็มตา สีสันคมชัดสดใส ระบบทัชสกรีนลื่นไหล
– บอดี้โลหะ Unibody กรอบตัวเครื่องผลิตจากอลูมิเนียม ดูพรีเมี่ยมสวยงามน่าค้นหา
– ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow
– ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 625 แบบ octa-core 64-bit ความเร็ว 2.0GHz
– หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB จับคู่ความจุในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับการ์ดความจำ microSD สูงสุด 128GB
– แบตเตอรี่ความจุสูง 5100mAh รองรับ Quick Charge 3.0 ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน แถมยังใช้เป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย
– มีปุ่ม Power Saver สวิตช์พิเศษข้างตัวเครื่องสำหรับใช้งานโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงสุด
– รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid
– สนับสนุนเครือข่าย 4G LTE
– กล้องหลังถ่ายภาพได้ดีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีเทคโนโลยี PDAF ถ่ายภาพด้วยระบบโฟกัสความเร็วสูง พร้อม LED flash
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีโหมดบิวตี้ปรับผิวสวยเนียน
– ระบบรักษาความปลอดภัยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำ
– มีหัวแจ็คเชื่อมต่อ USB On-The-Go (OTG) สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกแถมมาให้
– รองรับ NFC
– ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ใช้งานไม่ยุ่งยาก
– ตัวเครื่องบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร
– เครื่องติดฟิล์มกันรอยมาให้จากโรงงาน ทั้งยังแถมเคส และฟิล์มกันรอยมาให้ในกล่องอีกด้วย
– หาซื้อได้ง่ายตามช้อปร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วไป
– ราคาคุ้มค่ากับสเปคการใช้งานที่มีมาให้

ข้อสังเกต

– ไม่เหมาะสำหรับคนไม่ชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่
– เคสที่แถมมาให้แน่นมาก เวลาถอดออกเกรงว่ามันจะหัก (สำหรับคนมือหนักอย่างแอดมิน)
– ตีราคาเป็น 12,000 บาท อาจจะยังแพงสำหรับใครหลายๆ คน แต่เชื่อเถอะค่ะว่าคุ้มแน่นอนสำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดๆ
– ตัวเครื่องแอบมีน้ำหนักเพียงเล็กน้อย (แต่ยังพอรับได้) อันเนื่องมาจากแบตเตอรี่ที่อัดมาให้ถึง 5100mAh
– ยังไม่อัพเดทเป็นระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
– รองรับซิมการ์ดแบบ Hybrid dual SIM คือต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ดทั้ง 2 ช่อง หรือเลือกใส่ microSD อีกช่องหนึ่ง
– ถ่ายภาพในที่แสงจ้า แล้วภาพสีซีดมาก ต้องเลือกปรับโฟกัสดีๆ
– บางทีก็สับสนระหว่างปุ่มโฮมสแกนลายนิ้วมือ กับปุ่มโฮมในหน้าจอดูจะซ้ำซ้อนไปหน่อยค่ะ
– แบตเตอรี่ใช้งานได้นานมากจริงๆ (คอนเฟิร์มเลยค่ะ) แต่เมื่อเปิดใช้งานกล้องเป็นเวลานานๆ รู้สึกเครื่องอุ่นเล็กน้อย

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับรีวิว Lenovo P2 สมาร์ทโฟนแบตเตอรี่พันธุ์อึดที่เราได้นำมาให้ชมกันในวันนี้ โดยส่วนตัวที่แอดมินได้ลองใช้งานนั้นพบว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์เพื่อนๆ ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตอึดๆ ใช้งานได้นาน สเปคคุ้มค่ากับราคาที่วางจำหน่าย ระบบชาร์จไวทำงานได้ดี ปุ่ม Power Saver ถนอมการใช้พลังงานได้อย่างดีเยี่ยม ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน สามารถใช้เป็นพลังงานสำรองให้กับอุปกรณ์อื่นได้ด้วย

การประมวลผลทำงานได้ลื่นไหล แต่อาจจะมีขัดใจที่กล้องถ่ายภาพไปบ้างสำหรับเวลาถ่ายภาพในที่แสงแดดจัดๆ ภาพที่ได้ดูจะสีซีดไปเสียหน่อย แต่เมื่อเทียบกับการใช้งานอื่นๆ สเปค และราคา ถือว่าน่าสนใจมากค่ะ ทั้งนี้เพื่อนๆ ต้องถามใจตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าต้องการสมาร์ทโฟนแบบไหน ถ้าเน้นใช้งานแบตอึดๆ เน้นราคาพอเหมาะ สเปคดี จัดเครื่องนี้ด่วนแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ถือเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมราคาคุ้มค่า สเปคครบเครื่องทีเดียวค่ะ

วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีทอง (Champagne Gold) และสีเทา (Graphite Gray) มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 11,990 บาท โดยเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้าน TG Fone, Jaymart และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ หรือจะพุ่งตัวไปช้อปที่งาน Thailand Mobile Expo ในวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็จะดีไม่น้อยเลยค่ะ เพราะในงานดังกล่าวอัดแน่นไปด้วยของแถมแน่นอนค่ะ 🙂

ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน

– Alcatel Idol 4s
– Asus Zenfone Max
– Acer Liquid Zest Plus
– Samsung Galaxy A9 Pro
– Lenovo K6 Note
– Lenovo K6 Power
– Lenovo VIBE P1
– Lenovo VIBE K5 Note
– Moto Z Play
– Nubia N1
– Wiko U Feel Go
– Nubia N1
– ZTE Axon 7

ขอขอบคุณ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด