สรุป 30 จุดเด่นที่ทำให้ Huawei Mate 9 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดแห่งปี 2016 ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย
เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมกัน 4 รุ่น สำหรับ Huawei Mate 9, Mate 9 Pro, Porsche Design Mate 9 และ GR5 2017 ใน Concept #aStepAhead ที่คล้ายกับงานเปิดตัวที่ Germany นั่นก็คือ ผู้บริหารนั่งรถ Porsche ขึ้นเวทีอย่างสง่างาม ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกที่ได้จัดงานเปิดตัวครบทั้ง 4 รุ่นนี้ ซึ่งครั้งก่อนที่ทีมงาน ninethaiphone ได้ไปทำข่าวงานเปิดตัวที่ Munich Germany ก็ยังไม่มีการพูดถึงหรือเปิดตัว Mate 9 Pro กับ GR5 2017 แต่อย่างใด
บทความนี้เป็นตอนที่ 2 ต่อจากการรีวิว Unbox และ Hands-on Huawei Mate 9 กับ Porsche Design Huawei Mate 9 ซึ่งหากยังไม่ได้อ่าน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์ข้างล่างนี้ https://www.ninethaiphone.com/?p=87659
3 สิ่งหลัก ๆ ที่ถูกบ่นมากที่สุด จากข้อมูลที่หัวเว่ยได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ก็คือ ปัญหาเครื่องอืด หน่วงลงเรื่อย ๆ แบตเตอรี่ไม่เพียงพอในการใช้งานให้ครบเต็มวัน และสุดท้ายปัญหาจากกล้องที่ถ่ายภาพไม่สวย โฟกัสช้า โฟกัสผิด วัดแสงผิด ทั้งหมดนี้ทำให้หัวเว่ยเร่งพัฒนา สร้างประสบการณ์ใหม่ ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสความเร็วแรงแบบยาวนานกว่า แบตเตอรี่สุดอึด ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน และกล้องถ่ายภาพที่ดีเยี่ยมระดับโปร ครบทุกอย่างในตระกูล Mate 9
หัวเว่ย กล้าที่จะปฏิวัติ เพื่อที่จะสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่ดีเยี่ยมสมบูรณ์แบบไร้ที่ติทั้งสามด้าน
มาดูกันว่าจุดเด่นของ Huawei Mate 9 มีอะไรบ้าง โดยตัดตอนมาจาก Keynote ในงานเปิดตัว
1. ใหญ่เต็มตาสะใจกับหน้าจอ IPS เกรดสูงพิเศษ ขนาด 5.9 นิ้ว ที่แสดงเฉดสีสันได้กว้างสมจริง มีมิติสวยสดใสจนใคร ๆ ต้องตะลึงเมื่อได้เห็น จากสเปคของหน้าจอที่ระบุว่า 96% High color gamut และค่า Contrast สูงถึง 1500:1 ที่อยู่ในระดับแถวหน้าของวงการ ทำเอาสมาร์ทโฟนอื่น หน้าจอสีจืดชืดไปทันที
2. หน้าจอขนาดใหญ่กว่า แต่ตัวเครื่องขนาดเล็ก ขอบจอแคบบาง จับถือได้ถนัดมือดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
3. แรงเหนือชั้นด้วย CPU Kirin 960 สถาปัตยกรรมใหม่รายแรกของโลกที่แรงกว่าและประหยัดพลังงานกว่า ความร้อนน้อย พร้อมรองรับทุกคลื่นความถี่
4. CPU ประมวลผลได้เร็วมากขึ้นถึง 18% แต่ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น 15%
5. GPU ประมวลผลภาพได้ดีขึ้นกว่าเดิมมากถึง 180% ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น 40%
6. รองรับ 4 CA เป็นรายแรก ได้ความเร็ว 4G LTE สูงสุดถึง 600Mbps (Cat 12) ซึ่งในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนยุคนี้ ต้องดูว่ารองรับ 4G ใน Category ใด ส่วนใหญ่ในตลาดเป็น Cat 3 / 6 / 9
7. รองรับสองซิมการ์ดในหลายย่านคลื่นความถี่ ทำให้ใช้งานได้ทุกประเทศทั่วโลก
8. มีระบบ Defrag การจัดเก็บไฟล์เพื่อเพิ่มความเร็วในการค้นหาและเปิดใช้งาน เป็นหลักการเดียวกับใน Harddisk ของคอมพิวเตอร์นั่นเอง
9. มีระบบ Machine Learning ถือเป็นความอัจฉริยะที่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานได้จริง ว่าผู้ใช้นิยมใช้แอปพลิเคชั่นใดมากที่สุด เรียงลำดับความสำคัญ แอปฯ ที่เรียกใช้บ่อย จะถูกเปิดขึ้นมาด้วยความรวดเร็วไม่มีสะดุด เปิดแอปฯ หลายตัวค้างอยู่ ก็ไม่มีปัญหา ระบบสามารถจัดสรรการใช้ทรัพยากรได้ดี
10. หัวเว่ยกล้าการันตีว่าใช้งานได้เร็วลื่นไหลตลอด 18 เดือน ไม่ใช่ยิ่งเก่ายิ่งอืดเหมือนสมาร์ทโฟนอื่น ๆ
11. มาพร้อม UI แบบใหม่ EMUI 5.0 ที่ลื่นไหล สวยงาม ทันสมัย เข้าถึงทุกเมนูได้รวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ไม่สับสน ใช้งานง่าย
12. ไม่มีปัญหาการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะไม่ตอบสนองหากมีการสัมผัสหลายจุดพร้อมกันที่ดูผิดปกติ จะถือว่าผู้ใช้ไม่ได้ตั้งใจ
13. เล่น Facebook และ WhatsApp ได้สอง account ในเครื่องเดียวกันอย่างมีเสถียรภาพ ไม่ต้องหาแอปฯ เถื่อนที่ถูกดัดแปลงและไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เป็นการแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน
14. แบตเตอรี่ใช้งานได้เกิน 2 วันโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพโดยรวม แต่จัดสรรการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด
15. ชาร์จไฟเร็วกว่า และใช้งานได้นานกว่าแม้ชาร์จแบบเร่งด่วนเพียงไม่กี่นาที
16. ขณะชาร์จไฟ มีความร้อนน้อยกว่า ด้วยระบบป้องกันถึง 5 ชั้น ไม่มีปัญหาแบตเตอรี่ร้อนจัดจนไฟลุกไหม้ เพราะมีการตรวจสอบสถานะและอุณหภูมิตลอดเวลา แต่ต้องใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ให้มาในกล่องเท่านั้น พร้อมรองรับการชาร์จเร็วในรถยนต์ โดยใช้อุปกรณ์เสริมที่จำหน่ายแยก
17. กล้องคู่ที่คมชัดกว่าเดิม เก็บรายละเอียดในภาพถ่ายได้ดีกว่า ด้วยกล้อง 12 + 20 ล้านพิกเซลจากการพัฒนาร่วมกับ Leica เช่นเคย
18. มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวหรือ OIS ทำให้คมชัดในทุกสถานการณ์
19. ระบบโฟกัสแบบไฮบริด 4 อย่างในหนึ่งเดียว แม่นยำและฉลาดยิ่งขึ้น
20. Refocus ภาพที่ถ่ายแล้ว มาเลือกโฟกัสทีหลังได้ ตรงไหนชัด ตรงไหนเบลอ
21. Hybrid Zoom ทำให้ซูมภาพได้มากสูงสุด 10 เท่า ด้วยการทำงานของกล้องคู่
22. ผสานภาพจากกล้องคู่ ที่แยกเก็บภาพสีกับภาพขาวดำ รวมกันทำให้ภาพที่มีสีสันสวยงามมีมิติและรายละเอียดดียิ่งขึ้น
23. ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยหรือกลางคืนได้ดีกว่าและผิดเพี้ยนน้อยกว่า
24. มีโหมด Vivid Color ที่ทุกคนต้องชื่นชอบ ช่วยเร่งสีสันให้ภาพถ่ายดูสวยงามมากขึ้น
25. มีโหมดถ่ายภาพขาวดำสุดคลาสสิคสไตล์ Leica
26. รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่บีบอัดด้วย H.265 CODEC จนไฟล์เล็ก แต่ยังคงคุณภาพที่ดี
27. บันทึกเสียงได้แม่นยำด้วยไมโครโฟน 4 ทิศทางพร้อมตัดเสียงรบกวนรอบข้าง
28. สวยงามกว่าด้วยสีทองแบบเคลือบผิวแวววาวและสีน้ำตาลหรูหรา อินเทรนด์กว่าใคร หมดยุคแล้วสำหรับสี Rose Gold ในปี 2017
29. สเปคที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Note7 และ iPhone 7 Plus ในราคาสุดคุ้ม
30. บริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ได้แก่ ซ่อมเสร็จเร็วภายใน 1 ชั่วโมง, แจ้งนัดซ่อมล่วงหน้าได้, หากหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอใหม่ฟรีพร้อมฟิล์มจากโรงงาน, รับส่งเครื่องซ่อมถึงบ้าน
จุดเด่นทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนยกให้ Huawei Mate 9 เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด มาแรง ขายดีสวนกระแสเศรษฐกิจ โดยที่ไม่จำเป็นต้องโฆษณาออกสื่อกันมากมาย
ทดสอบประสิทธิภาพ
ไม่ต้องอธิบายกันมากมาย จากคะแนนทดสอบที่ทำได้ถึง 125876 เป็นตัวเลขที่การันตีได้ว่า เร็วลื่นทุกการใช้งาน ไม่ว่าเกม 3D สุดโหด หรือต้องประมวลผลวิดีโอ 4K ก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แถมมีระบบ Machine Learning ที่จัดการทรัพยากรให้ทำงานได้เร็วลื่นตลอดการใช้งานยาวนาน 18 เดือน
ซอฟต์แวร์กล้องสุดล้ำ
จุดเด่นของกล้องคู่ใน Huawei Mate 9 ที่มีมาตั้งแต่ P9 / p9 Plus ก็คือ การปรับความกว้างรูรับแสง อยากให้ชัดลึก ชัดตื้นแค่ไหน หน้าชัดหลังเบลอ หน้าเบลอหลังชัด หรือชัดทุกระยะ ก็ปรับได้ดั่งใจ ปรับเบลอฉากหลังได้ตามต้องการ
การปรับค่ารูรับแสง มีผลต่อฉากหลัง โดยเฉพาะดวงไฟ จะมีความเป็น Bokeh ที่สวยงามหากปรับได้เหมาะสม ดูสมจริงเป็นธรรมชาติเหมือนถ่ายภาพด้วยกล้องโปร
มีเส้น Grid แบบภาพ 9 ส่วนและ 9 เอฟเฟ็กต์สีสันของภาพถ่าย
มีโหมดเร่งสีสันและโหมด Manual ที่ปรับตั้งค่าได้อิสระ
ปรับได้ทั้ง ISO, EV, WB, Shutter Speed, Auto focus, จุดวัดแสง อยู่ในโหมด Pro นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดอื่นให้เลือกใช้มากมายตามสถานการณ์ที่เหมาะสม
ปรับความละเอียดและตั้งค่าการใช้งานกล้องได้ละเอียดมาก
ปรับค่า Saturation, Contrast และ Brightness ได้ถึง +/- 2 ส่วนรูรับแสงแนะนำให้ตั้งไว้ที่ f/4.0 จะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ซอฟต์แวร์
ในส่วนของซอฟต์แวร์ ถือว่าหัวเว่ยจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก ปล่อยฟังก์ชั่นเด็ด ๆ มาไว้ใน Mate 9 เยอะมาก แต่ก็ใช้งานง่าย ไม่ดูซับซ้อน ไม่สับสน และมีประโยชน์กับชีวิตประจำวัน ดูสวยงามน่าใช้ ด้วย EMUI 5.0 แบบใหม่ที่ลื่นไหล ทันสมัย โดยไม่เปลืองทรัพยากรของเครื่อง ถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องคู่
จะเห็นว่ากล้องคู่ของ Mate 9 นั้น ถ่ายภาพได้ดีเยี่ยม โดยที่ไม่ต้องพกกล้องถ่ายรูปขนาดใหญ่ขณะไปเที่ยวก็ได้ ถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้สวยกว่า P9 พอสมควร ถือเป็นพัฒนาการที่ดีสมชื่อ Leica
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้า เมื่อกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ จะมีการหาโฟกัสเล็กน้อยก่อนบันทึกภาพ เพื่อให้ใบหน้าคมชัด เก็บรายละเอียดของเส้นผมและสีผิวได้ดีน่าประทับใจ
สรุป
Huawei Mate 9 จัดว่าเป็น Android Smartphone ที่ดีที่สุดแห่งปี 2016 ไปแล้ว เพราะมีความสมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์ วัสดุ แบตเตอรี่ กล้อง ซอฟต์แวร์อันชาญฉลาด บริการหลังการขายที่ดี และมีโปรโมชั่นจากทั้งสามผู้ให้บริการเครือข่ายในไทย (ส่วนลด 7-8 พันบาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ) จึงทำให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ที่ดีทุกด้านในราคาที่คุ้มค่า สำหรับคนที่ลังเลหรือยังไม่เคยใช้หัวเว่ยมาก่อน อยากให้ลองเปิดใจ ทดลองใช้งานกันก่อนจากเครื่องสาธิตหน้าร้าน รับรองว่าไม่ผิดหวัง
สิ่งที่ประทับใจ
- แบตเตอรี่อึดและชาร์จเร็วจริง โดยที่ตัวเครื่องแทบจะไม่ร้อนเลยในขณะชาร์จไฟ
- กล้องคู่ ที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าใครก็ถ่ายภาพสวยระดับมืออาชีพได้ง่าย ๆ
- วัสดุดีเยี่ยม หรูหรา หน้าจอสีสันสดใส ใหญ่เต็มตา คมชัด สบายตา
- มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากและมาได้ถูกเวลากับแคมเปญช้อปช่วยชาติ
- เร็วลื่น มีเสถียรภาพที่ดี แม้เปิดหลายแอปพลิเคชั่นพร้อมกับเกมค้างไว้แล้วสลับใช้งาน
- ใช้ Facebook และ WhatsApp ได้สอง account ในเครื่องเดียวกัน
- มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ที่ทดสอบแล้วว่าถ่ายภาพได้ชัดเป๊ะ แม้อยู่บนรถที่กำลังวิ่ง
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องสีสวย ๆ นอกจากสีทองและสีน้ำตาล ยังไม่มีจำหน่ายในไทย ในช่วง 2 เดือนแรก
- ใช้ EMUI ที่ถูกดัดแปลงค่อนข้างมาก จนไม่ได้ให้ประสบการณ์หรือความสวยงามที่ดีไปกว่า Pure Android เลย รวมทั้งไม่มี App drawer ยิ่งติดตั้งแอปฯ มากขึ้น ก็จะรกหน้า Home screen ไปหมด
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ
ตัวเลือกอื่นในระดับเรือธง
- iPhone 7 Plus
- Samsung Galaxy S7 edge
- Samsung Galaxy Note5
- Sony Xperia XZ
- Moto Z
- Google Pixel
Leave a Reply