AIS แก้เกมใหม่! หลัง 7-Eleven ยอมสูญเงินพันล้าน งดจำหน่ายบัตรเติมเงิน 1-2-Call
รูปภาพจาก Pantip.com คุณสมาชิกหมายเลข 2907371
ล่าสุดทางด้านนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและการขาย บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ขณะนี้ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) ได้ยุติการจำหน่าย และให้บริการเติมเงิน One-2-Call อย่างถาวรแล้ว ซึ่งทาง AIS ยืนยันว่าลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน
เนื่องจาก AIS มีช่องทางในการเติมเงินมากกว่า 500,000 จุดเพื่อให้บริการลูกค้าของตนเอง นอกจากนี้สื่อข่าวยังรายงานอีกด้วยว่า 7-Eleven ได้ยุติการจำหน่าย และหยุดให้บริการเติมเงิน One-2-Call มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการแจ้งไปยัง AIS ว่าจะขอปรับขึ้นค่าผลตอบแทนในการขาย (มาร์จิ้น) จาก 5% เป็น 7%
ซึ่งทาง AIS ไม่ยินยอมพร้อมกับขอเวลาในการเจรจาร่วมกันก่อน เป็นเหตุให้ 7-Eleven ตัดสินใจยุติการสั่งซื้อบัตรเติมเงิน One-2-Call จาก AIS ทันที ถึงแม้ว่าในแต่ละปี 7-Eleven จะสร้างรายได้จากการให้บริการเติมเงินแก่ลูกค้า One-2-Call มากถึงปีละ 1,000-1,200 ล้านบาท และจากจำนวนตัวแทนจำหน่าย One-2-Call ทั้งหมดมากกว่า 500,000 ช่องทางทั่วประเทศ
ทำให้ 7-Eleven ถือเป็นช่องทางที่ได้รับผลตอบแทนในการขายสูงที่สุดช่องทางหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันจำนวนผลตอบแทนที่ 7-Eleven เก็บจาก AIS ถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำที่สุด เพราะ AIS มีรายได้ในสัดส่วนที่สูงที่สุดหากเทียบกับ dtac ส่วนด้าน True ที่เป็นธุรกิจในเครือของตนเอง 7-Eleven เก็บมาร์จิ้นที่อัตรา 7% การถูกปรับขึ้นราคาในครั้งนี้จึงน่าจะเป็น AIS เพียงแค่รายเดียว เพื่อจะให้ทัดเทียมกับค่ายอื่นๆ
โดยเหตุการณ์ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นสงครามเดือดเมื่อ 7-Eleven ยุติการวางจำหน่ายสินค้า One-2-Call ไม่ว่าจะเป็นซิมการ์ดหรือบัตรเติมเงิน ซึ่งได้ติดป้ายประกาศหน้าเคาน์เตอร์ในทุกสาขาว่า “สินค้า 1-2-Call หมด ขออภัยในความไม่สะดวก” ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามพนักงาน 7-Eleven หลายสาขาแล้วพบคำตอบลักษณะเดียวกันว่าสินค้าไม่มีจำหน่ายมานานแล้ว เนื่องจากทางบริษัทมีคำสั่งมาไม่ให้จำหน่าย
ด้านแหล่งข่าวจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ากรณีที่ 7-Eleven ยุติการวางจำหน่ายสินค้า One-2-Call ไม่เกี่ยวกับ TrueMove H แต่อย่างใด เท่าที่ทราบคือ 7-Eleven ต้องการจะปรับส่วนแบ่งในการขายเพิ่มให้เท่ากันก็เท่านั้น ซึ่งมีเพียงแค่ AIS ที่จ่ายส่วนแบ่งดังกล่าวน้อยกว่าเพื่อน
ทางด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ให้ความเห็นว่ากรณีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หยุดให้บริการระบบเติมเงิน One-2-Call จะทำให้บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่านตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมได้รับผลประโยชน์
เนื่องจากตู้บุญเติมเป็นพันธมิตรกับร้าน 7-Eleven ที่มีตู้ตั้งอยู่หน้าร้าน 7-Eleven ประมาณ 7,000 ตู้ทั่วประเทศ และส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ พร้อมทั้งเก็บค่าบริการขั้นต่ำ 10 บาท แต่ทางร้าน 7-Eleven ให้เติมขั้นต่ำ 50 บาท และก่อนหน้านี้นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART เปิดเผยว่าปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าการเติมเงินมือถือผ่านตู้บุญเติมมากกว่า 13% ของมูลค่าตลาดมือถือระบบเติมเงินกว่า 6.9 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี ลูกค้า AIS สามารถเติมเงิน One-2-Call ได้จากจุดให้บริการง่ายๆ ที่โลตัส, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี, ท็อปส์, Max Valu, ซีเอ็ดบุ๊ค, B2S, ไปรษณีย์ไทย, AIS Shop, ร้าน Telewiz, AIS Buddy หรือ 108Shop สาขาใกล้บ้าน รวมไปถึงตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ และหน่วยเติมเงินตัวแทน mPay , ตู้บุญเติม หรือ Mobile Banking App เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ thairath, www.thansettakij.com
Leave a Reply