Smart Home Solution จากโนเกีย จะเชื่อมต่อบ้านของคุณเข้ากับ Internet of Things
โนเกียเปิดตัวโซลูชันสมาร์ทโฮม (Smart Home) ใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสามารถนำเสนอบริการใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชันดิจิทัลโฮมสำหรับยุคสมัยแห่ง อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์
โซลูชัน สมาร์ทโฮม จะรองรับการใช้งานเซ็นเซอร์ ปลั๊ก และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ ซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ระบบอัตโนมัติภายในบ้าน และบริการวัดอัตราการใช้งานน้ำและไฟฟ้าอัฉริยะ ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่เรียบง่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการบูรณาการการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์สำหรับลูกค้า
มี การคาดการณ์ว่าจำนวนของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT) จะเติบโตจาก 1,600 ล้านชิ้นในปี ค.ศ. 2014 กลายเป็น 20,000 – 46,000 ล้านชิ้นภายในปี ค.ศ. 2020 ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายจึงกำลังแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึง อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ สำหรับทุกแง่มุมของชีวิต ด้วยการนำเสนอโซลูชันแพกเกจให้กับผู้ใช้งาน โฮมเกตเวย์อัจฉริยะของโนเกียจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและควบคุมทุกสิ่ง ภายในบ้านด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างง่ายดาย อาทิ เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิและความเคลื่อนไหว เซ็นเซอร์ตรวจจับประตูและหน้าต่าง อุปกรณ์ตรวจจับควัน สวิตช์ไฟ และกล้องวงจรปิด
โจนาธาน คอลินส์ ผู้อำนวยการด้านการวิจัยสำหรับสมาร์ทโฮมจาก เอบีไอ รีเสิร์ช (ABI Research) กล่าวว่า “ตลาดสมาร์ทโฮมยังคงเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่อยู่ ในฐานะผู้นำในเทคโนโลยี IoT เรามองว่าตลาดมีศักยภาพสำหรับการเติบโตที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด จึงสร้างโอกาสในการสร้างรายใหม่ได้แก่ผู้ให้บริการด้านเครือข่าย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตคือการทำงานร่วมกันที่ราบรื่นระหว่างอุปกรณ์จำนวน มาก ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายในบ้าน จะสามารถรองรับการสั่งงานที่หลากหลายภายในอุปกรณ์ชิ้นเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, ZigBee หรือ Z-Wave ก็ตาม”
สมาร์ทโฮม โซลูชัน จากโนเกีย (Smart Home) จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและลดความซับซ้อนของการติดตั้งระบบภายในบ้านให้กับ ผู้ให้บริการด้านเครือข่าย ด้วย 3 องค์ประกอบสำคัญดังนี้ องค์ประกอบแรก เป็นอุปกรณ์หนึ่งชิ้นทำหน้าที่เป็น Optical Network Terminal (ONT) เรสซิเดนเชียล และสมาร์ทโฮม เกตเวย์ องค์ประกอบที่สอง ได้แก่ โปรแกรมบนสมาร์ทโฟน (ขับเคลื่อนบนระบบ IOS และ Android) เพื่อควบคุมระบบของบ้าน และองค์ประกอบสุดท้าย คือ IoT management platform แบบ end-to-end ที่จะควบคุม ระบบนิเวศของสมาร์ทโฮม (Smart Home ecosystem) ที่มีการใช้งานบางอย่างที่โปรแกรมล่วงหน้าและสามารถจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices)ทั้งหมดภายในบ้าน
สมาร์ทโฮมเกตเวย์รูปแบบใหม่พร้อม สำหรับผู้ให้บริการทางเครือข่ายแล้วภายในปีพ.ศ. 2559 โดยจะนำเสนอการใช้งานและการติดตั้งโซลูชั่นที่ง่ายดาย สำหรับ over the top หรือ OTT อีกทั้งยังสามารถช่วยผู้ให้บริการด้านเครือข่ายได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดจาก อุตสาหกรรมสมาร์ทโฮม ซึ่งได้คาดว่าจะเติบโตขึ้นสูงถึง 24% หรือ 39,000 ล้านดอลล่าร์ ระหว่าง พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 25632
นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังเพิ่มเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอของโนเกีย ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มธุรกิจในส่วนโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย อาทิ การให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT services) บริการโซลูชั่นเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม, อุปกรณ์ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ และสังคมกลุ่ม อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ รวมถึง IoT platform และ เกตเวย์ ซึ่งเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้
เฟอเดอรีโค กิลลิเยน ประธานฝ่ายเครือข่ายสำหรับอุปกรณ์ประจำที่ กล่าวว่า “อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ ยังคงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีการเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์อัจฉริยะ ภายในบ้าน จึงทำให้ลูกค้าเจ้าของที่พักอาศัยมองหาโซลูชั่นเดี่ยวที่ง่ายต่อการติดตั้ง และจัดการ สำหรับในตลาดที่มีการกระจายและแยกเปนส่วนๆ ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายมีโอกาสที่จะสร้างความแตกต่างจากผู้ให้บริการ OTT และสามารถวางตนเองให้อยู่ในฐานะผู้นำด้านการบริการสมาร์ทโฮมสำหรับอนาคต โนเกีย สมาร์ทโฮม โซลูชัน (Smart Home Solution) นำเสนอโอกาสให้กับผู้ให้บริการที่จะได้ก้าวนำเทรนด์ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT trend) และให้บริการลูกค้า ด้วย plug-and-play solution ซึ่งสามารถทำงานกับเทคโนโลยี Wi-Fi ชั้นนำ และมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการจัดการอุปกรณ์อัจฉริยะ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ผู้ให้บริการนำเสนอระบบความปลอดภัยในสมาร์ทโฮม และการให้บริการในระบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้และส่งเสริมลอยัลตี้ของลูกค้า”
ข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับ Nokia Innovation Day
โฉมใหม่ของโนเกีย – เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โนเกียและ อัลคาเทล-ลูเซ่น สองบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงิน ได้ควบรวมผนึกกำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาด ปัจจุบัน โนเกีย ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายและอุปกรณ์เครือข่าย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายการเชื่อมต่อของมนุษย์อย่างไร้ขอบเขต โดยกลุ่มธุรกิจของ โนเกีย ประกอบไปด้วย เครือข่ายสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือโมบายล์เน็ตเวิร์ก; เครือข่ายสำหรับอุปกรณ์ประจำที่ หรือฟิกซ์เน็ตเวิร์ก; เครือข่ายสำหรับ IP/Optical; แอพพลิเคชั่นส์และการวิเคราะห์ข้อมูล (Applications & Analytics) และโนเกีย เทคโนโลยี (Nokia Technologies)
กลยุทธ์รูปแบบใหม่สำหรับประเทศไทย – วิสัยทัศน์หลักของโนเกียในประเทศไทยคือการช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ เน็ตเวิร์กรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น E2E IP/Optical หรือการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่และอุปกรณ์แบบประจำที่ เพื่อผลักดันทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนในการพัฒนาประเทศให้มั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน นอกจากนี้ วิสัยทัศน์รองของโนเกีย คือการให้ความสำคัญในการพัฒนาและนำพาประเทศไทยเข้าสู่ยุค “อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (ไอโอที)” เพื่อให้ประชาชนมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคดิจิตอลของประเทศไทย
โนเกีย อิมแพค แพลตฟอร์ม – โนเกียขยายความเป็นผู้นำด้านการจัดการอุปกรณ์ ไปถึงอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (ไอโอที) ด้วยการเปิดตัว Intelligent Management Platform for All Connected Things (IMPACT) ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการ องค์กร และรัฐบาล ได้ใช้งานแพลตฟอร์ที่มีความปลอดภัยเพื่อการให้บริการ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (ไอโอที) ใหม่ๆ อิมแพค สามารถจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลกิจกรรม จัดการอุปกรณ์ จัดทำบริบทของข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล รักษาความปลอดภัยแบบ end-to-end และสนับสนุนแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยไม่จำกัดที่อุปกรณ์ โปรโตคอล และ แอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ อิมแพค ยังรวม Nokia’s Motive Connected Device Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการจัดการอุปกรณ์คอนเวิร์จชั้นนำที่จัดการการใช้งาน มากกว่า 80,000 รูปแบบของอุปกรณ์บรอดแบนด์ อุปกรณ์สำหรับที่อยู่อาศัย และอุปกรณ์ไอโอที (สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: Nokia launches new IMPACT platform)
การรักษาความปลอดภัยในที่สาธารณะของโนเกีย – โซลูชั่น LTE จากโนเกีย เพิ่มความสามารถ ความเสถียร และการประหยัดต้นทุนในการให้บริการที่จำเป็นต่อการสื่อสารผ่านระบบบรอดแบนด์ เคลื่อนที่ บริการวิดีโอเรียลไทม์ความละเอียดสูงระดับ HD จากโนเกีย และบริการโครงข่ายข้อมูลช่วยให้รู้ทันสถานการณ์ และนำเสนอบริการในกรณีฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โนเกีย ยังมีบริการการรักษาความปลอดภัยแบบ end-to-end สำหรับระบบสารสนเทศทุกแขนง และมอบความยืดหยุ่นในทุกชั้นของเครือข่ายที่ให้บริการ
โนเกียประกาศเปิดตัวโซลูชั่นสมาร์ทโฮมล่าสุด – โซลูชั่นสมาร์ทโฮมใหม่ล่าสุดจากโนเกีย ช่วยให้ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายนำเสนอความสามารถต่างๆสำหรับการสร้างสมา ร์ทโฮมได้ โดยผู้อยู่อาศัยสามารถตรวจสอบและควบคุมฟังก์ชันของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน อาทิ การเปลี่ยนอุณหภูมิ การเปิด-ปิดไฟผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เป็นต้น สมาร์ทโฮม เรซิเดนซ์ เกทเวย์ของโนเกียสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมนั้นมาในรูปแบบกล่องเพียงกล่อง เดียวเท่านั้น
สาธิตการใช้งาน
LTE สำหรับความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ, ไอโอที – สาธิตวิธีการที่เครือข่าย LTE และ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (ไอโอที) ช่วยทำให้การใช้วิดีโอสำหรับความปลอดภัยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การตรวจสอบเสียงรอบข้าง การตรวจสอบชีพจร และการลำดับความสำคัญของข้อมูลและเสียง
สมาร์ทซิตี้ / สมาร์ทปาร์คกิ้ง – สาธิตวิธีการใช้ Car2X ครั้งแรกของโลกผ่านเครือข่าย LTE ด้วย Mobile Edge Computing และมีการนำไอโอทีมาใช้สำหรับ การจอดรถแบบสมาร์ทปาร์คกิ้ง
สมาร์ทโฮม – สาธิตวิธีการที่ผู้ให้บริการด้านเครือข่าย (ผู้ให้บริการโทรคมนาคม, เคเบิล MSOs, ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารผ่านบรอดแบนด์) ใช้งาน เรซิเดนท์ เกตเวย์ ที่ได้ให้บริการในบ้านอยู่แล้วผ่านระบบ ONT หรือ DSL modem และพัฒนาต่อยอดการให้เป็นบริการ สมาร์ทโฮมที่เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
Leave a Reply