รีวิว Samsung Galaxy S7 แอนดรอยด์ที่ดีที่สุด ถ้าคุณไม่สนใจปากกาและจอโค้ง
ในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ ถ้ามีใครถามว่า ซื้อแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นไหนดี? เอาแบบดี ๆ ทน ๆ ใช้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องบ่อย สเปคแรง ดีเยี่ยมทุกด้าน ในงบประมาณ 2 หมื่นนิด ๆ มั่นใจว่าเกือบทุกคำตอบจะมุ่งไปที่ Samsung Galaxy S7 edge | S7 เพราะเป็นรุ่นที่อยู่ในใจคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว จาก TVC โฆษณาที่ทุกคนรับรู้และจดจำได้ดีว่า Galaxy S7 edge | S7 ชูจุดเด่นสองอย่าง ก็คือ ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี กับ กันน้ำได้
ต้องยอมรับว่า Samsung เก่งด้านการตลาด เป็นแบรนด์แรกที่ทุกคนนึกถึงเสมอเมื่อพูดถึง Android มีการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นและถูกใจผู้ใช้งานมากขึ้น ทุกครั้งที่เปิดตัวรุ่นใหม่ ก็จะมีการสื่อสารโฆษณาออกไปให้ทุกคนรู้จักจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทุกรุ่น มีเครื่องตัวอย่างให้ผู้สนใจได้ทดสอบลองใช้งานได้ที่หน้าร้าน มีอุปกรณ์เสริมมากมาย หาซื้อง่าย ทำให้ไม่มีแบรนด์ไหนมาล้มแชมป์ได้ แม้ว่าจะข่าวด้านลบอยู่บ้าง ตามที่หลายคนเคยเห็นกระทู้แฉหรือร้องเรียนมากมายใน Pantip
แน่นอนว่า ก็มีคำถามเยอะเช่นกันว่า Samsung Galaxy S7 ดีจริงเหรอ? ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีแค่ไหน? ระหว่าง S7 edge กับ S7 เลือกรุ่นไหนดี? เพิ่มเงิน 3,000 บาทได้จอโค้งรุ่น S7 edge จะคุ้มหรือไม่? แบตเตอรี่หมดเร็ว ต้องชาร์จบ่อยเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้เหมือนเดิมใช่ไหม? และอีกหลายคำถาม จนทำให้ทีมงาน 9ThaiPhone ตัดสินใจรีวิว Galaxy S7 ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจการซื้อก่อนงาน Thailand Hi-End Mobile Expo 19-22 พฤษภาคมนี้
สเปค
ซัมซุง อธิบายสเปคให้ดูง่าย และเข้าใจได้ง่าย โดยการใช้ภาพแทนข้อมูลแบบตาราง
รวมทั้งทำภาพสเปคเปรียบเทียบ Galaxy S6 กับ S7 ว่ามีความแตกต่างด้านใดบ้าง เป็นคำถามที่หลายคนก็อยากรู้เช่นกัน ซึ่งก็เห็นได้ชัดเจนว่ามีการปรับปรุงในหลายจุดให้ดียิ่งขึ้น ในความจริงแล้ว สเปคของ Galaxy S6 ก็ถือว่าดีมากและดีเพียงพอแล้วในปัจจุบัน แต่ก็มีหลายจุดที่ไม่อยู่ในสเปค ที่เมื่อใช้งานจริงแล้ว พบว่า S7 น่าสนใจกว่า S6 อยู่ไม่น้อย จึงไม่อยากให้ดูกันเพียงแค่สเปคอย่างเดียว
สัมผัสดีไซน์ใหม่ ประทับใจยิ่งขึ้น
ตัวเครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้ เป็นเครื่องสีดำ
ที่ชาร์จที่ให้มา เป็นแบบ Fast Charger จ่ายกระแสได้สูง ชาร์จเต็มเร็ว
Galaxy S7 จอภาพแบนเรียบ ขอบไม่โค้งเทลงด้านข้าง แต่หน้าจอเป็นแบบกระจกโค้งนูน ดีไซน์โดยรวม ถือว่าดูสวยดี
ประทับใจตั้งแต่สัมผัสครั้งแรก ขนาดพอดีมือสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ไม่ใหญ่เกินไป น้ำหนักกำลังดี พกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์รัดรูปได้โดยตัวเครื่องไม่โผล่ออกมา ด้านหลังขอบโค้งมนรับกับสรีระฝ่ามือ ไม่มีส่วนใดที่เป็นสันเหลี่ยมแหลมคมบาดมือ จุดนี้ถือว่าปรับปรุงได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า
หน้าจอแบนเรียบ แต่กระจกหน้าจอนูนขึ้นมา ครั้งแรกเห็น บางคนอาจจะมองแล้วนึกว่าจอโค้งแบบ Edge
ดีไซน์เดิม ๆ ที่คุ้นตากันดี กล้องหน้า ลำโพง เซ็นเซอร์วัดแสง
ปุ่ม Home พร้อมสแกนลายนิ้วมือที่แม่นยำมากขึ้น
ช่องต่อหูฟัง พอร์ต microUSB และลำโพง
ปุ่ม Volume
ปุ่ม Power
มีไฟเรืองแสงเมื่อสัมผัสบริเวณปุ่ม Recent App และ Back
หน้าจอสีสันสวยสดใส คมชัด
กล้องหลัง ไฟแฟลช และจุดวัดชีพจร ที่มีมาตั้งแต่ Galaxy S5
กล้องหลัง นูนขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ไม่เกะกะมือเมื่อสัมผัส
ด้านหลัง ดูสวยหรูมากกว่า Galaxy S6 และจุดที่สำคัญก็คือ เป็นรอยนิ้วมือได้ยากกว่า Galaxy S6 / Note5 ทำให้ไม่ต้องเช็ดคราบมันจากนิ้วมือ รอยสกปรก รอยเหงื่อ บ่อยเหมือนก่อนอีกแล้ว แต่ก็ยังดูแลรักษาได้ยากเช่นเดิม เป็นรอยขีดข่วนง่ายมาก แตกง่าย แม้อ้างว่าใช้กระจกที่มีความทนทานมากก็ตาม
ด้านหน้าของตัวเครื่องสีดำ ก็ยังมีความเงางามตามทิศทางของแสง หรูหรา
ทดสอบประสิทธิภาพ
พลังของ CPU Exynos ใน Galaxy S7 ทำคะแนนการทดสอบได้ดีเยี่ยมถึงเกือบ 130000 โดดเด่นทั้งการประมวลผล 3D และโดยรวมทั้งระบบ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ตอบสนองการใช้งานมัลติมีเดียและเล่นเกม 3D ได้ดี
ซอฟต์แวร์
TouchWiz UI ของ Galaxy S7 ดูเรียบหรู ลดความอลังการลงเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ๆ เพื่อให้ใช้ทรัพยากรของเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองได้เร็วลื่น มาพร้อมกับ Quick Settings ที่เยอะเต็มหน้าจอเหมือนเดิม ที่ช่วยให้การเปิดปิดฟังก์ชั่นทั้งหมด ทำได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องเข้าหน้าเมนูหลัก
รายงาน สภาพอากาศและพยากรณ์โดยใช้ข้อมูลจาก Accuweather.com ที่ปรับเปลี่ยน UI ให้สวยงาม ดูง่ายมากขึ้น บอกละเอียดทั้งรายวันและรายชั่วโมง
สมุดโทรศัพท์ โชว์หน้าบุคคลได้ ปุ่มโทรออก ใช้งานได้สะดวก เลือกโทรปกติหรือโทรแบบเห็นหน้าด้วย VoLTE / VoWiFi ได้ง่าย ๆ
เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง แบ่งออกเป็นสีด้วยกลุ่มหรือหมวดหมู่ที่ดูไม่ตาลาย ค้นหาง่าย
เหลือพื้นที่ใช้งานอีกเกือบ 22GB สำหรับรุ่น 32GB
ใช้ งานได้นาน 19 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน และ 43 ชั่วโมงในโหมด Ultra power saving | Gallery ภาพถ่าย แบ่งแยกตามวันที่ถ่ายภาพ เพื่อแยกเหตุการณ์ในแต่ละช่วงเวลา
หน้า Home screen ปรับขนาด Icon ได้ แนะนำให้ใช้แบบ 5 x 5 เพื่อให้พื้นที่หน้าจอดูกว้างขึ้น
จัดวาง Widget และเปลี่ยน Wallpaper ได้จากเมนูของ Home screen
มา ดูกันต่อที่เมนูกล้อง ความละเอียดสูงสุดของกล้องหลัง อยู่ที่ 12 ล้านพิกเซลในสัดส่วนภาพ 4:3 และ 9.1 ล้านพิกเซลสำหรับสัดส่วนภาพแบบ Widescreen เต็มหน้าจอ
ตั้งเวลาถ่ายภาพได้ มี Effect หลายแบบให้เลือกใช้ เพื่อสร้างสรรค์ภาพที่แปลกตา
มี Track AF ให้โฟกัสติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ด้วย โหมดถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้มากมาย
ในโหมด Pro จะช่วยให้ตั้งค่าในระดับมืออาชีพได้ เช่น ปรับชดเชยแสงได้ +/- 2
ปรับ Speed Shutter ได้เร็วถึง 1/24000 ที่หลายคนชอบนำไปถ่ายน้ำพุ เห็นหยดน้ำกระจาย
ปรับ ISO และ White balance ได้แม่นยำดีทีเดียว ดีกว่าหลายแบรนด์ที่เคยทดสอบมา
ปรับ Focus และโทนสีได้หลายแบบตามความชอบ
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตั้งแต่เริ่มใช้ Samsung Galaxy S7 บอกกันตามตรงว่า ไม่จำเป็นต้องพกกล้องถ่ายรูปเลย เพราะ Galaxy S7 ถ่ายภาพอะไรก็สวยงาม ถ่ายภาพบรรยากาศงาน Event ได้สวยในทุกสภาพแสง แสงน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีปัญหา บันทึกภาพได้ไวทุกช็อต ถ่ายง่ายด้วยโหมด Auto แค่เล็ง กล้องก็จับโฟกัสได้รวดเร็ว ปรับสภาพแสงได้ถูกต้องอย่างที่สายตามนุษย์มองเห็น ไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องการกำหนดค่าใด ๆ ของระบบกล้อง ในบางสถานการณ์ Galaxy S7 ถ่ายภาพได้สวยอย่างง่าย ๆ เหนือชั้นกว่ากล้อง DSLR หรือ Mirrorless อย่างมาก
ในส่วนของกล้องหน้า เก็บภาพได้สว่างไม่แพ้กล้องหลัง มีโหมดบิวตี้ปรับสภาพใบหน้าอัตโนมัติที่อนุญาตให้เราปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้ตามใจชอบอย่างละเอียด กล้องมุมกว้างเก็บภาพถ่ายเพื่อนทั้งกลุ่มได้ครบ
บทสรุป
ปัจจุบัน Samsung Galaxy S7 edge ยังไม่เห็นประโยชน์จากขอบจอโค้ง รวมทั้งถือจับไม่สะดวกเท่าไรนัก ทำให้ Samsung Galaxy S7 เป็นตัวเลือกที่ดูน่าสนใจมากกว่า ประหยัดเงินไปได้อีก 3,000 บาท ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 23,900 บาท แต่ก็มีโปรโมชั่นส่วนลดมากมายจากหลายร้านค้ารวมทั้งในงาน Mobile Expo ที่ทำให้สามารถหาซื้อได้ในราคาเพียง 20,xxx บาท ถือว่าคุ้มค่าน่าลงทุน กับสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบเกือบทุกด้าน ใช้งานยาว ๆ 1-2 ปีได้สบาย
สิ่งที่ประทับใจ
- ดีไซน์สวยมากขึ้น ด้านหลังเครื่องไม่ค่อยปรากฏคราบมันจากนิ้วมือให้เห็น
- ประมวลผลเร็ว ทำให้การใช้งานเร็วลื่นดีมาก ไม่มีหน่วงเลย แม้ว่าเปิดแอปพลิเคชั่นค้างไว้หลายตัว
- Always On Display เปิดทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงขณะนอนหลับ แบตเตอรี่ลดลงเพียง 9-10%
- ถอดแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็นออกไปเยอะ ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานมากขึ้นและประสิทธิภาพดีขึ้น
- กันน้ำได้จริง ถ่ายภาพในน้ำได้สวยกว่าที่คิด
- กล้องหลังไม่นูนแล้ว ให้ความรู้สึกดีขึ้นเมื่อสัมผัสเทียบกับ Galaxy S6
- ชาร์จไฟเต็มเร็วภายในเวลาประมาณ 90 นาที
- คุ้มค่ากับราคาระดับ 2 หมื่นบาท เหนือชั้นกว่าคู่แข่งทั้งหมดที่เป็น Android เหมือนกัน
ข้อสังเกต
- ค่อนข้างเปลืองแบตเตอรี่ อาจต้องชาร์จไฟระหว่างวัน แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่ครบวันเมื่อใช้งานหนัก
- พอร์ตอินฟราเรดถูกถอดออกไป ใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรลอย่าง Galaxy S6 ไม่ได้แล้ว
- ถ่ายภาพในน้ำ ยังทำได้ไม่ดีเท่ากล้อง GoPro / Sony ActionCamใส่เคสกันน้ำ
- ไม่มีปุ่ม Shutter ทำให้การถ่ายภาพในน้ำ ยังต้องสัมผัสหน้าจอ และความแม่นยำของการสั่งงานในน้ำก็ยังไม่ดีเท่าการใช้ปุ่ม Shutter จริง จุดนี้ทำให้ Sony Xperia มีความได้เปรียบมากกว่า แต่ Samsung ถ่ายภาพใต้น้ำได้สวยกว่า
- การถ่ายภาพกลางแดดจัด ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องมีความร้อนสูงมากอย่างรวดเร็ว
ตัวเลือกอื่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน
Leave a Reply