อุทาหรณ์! ชายหนุ่มถูกทำร้ายร่างกายหน้าป้อมตำรวจ โดนฉกมือถือไปต่อหน้าต่อตา

อุทาหรณ์! ชายหนุ่มถูกทำร้ายร่างกายหน้าป้อมตำรวจ โดนฉกมือถือไปต่อหน้าต่อตา

ในยุคนี้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและโซเชียลมีเดียอื่นๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้น ทำให้ชีวิตในปัจจุบันของคนส่วนใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในด้านอื่นๆ เป็นอย่างมาก รวมไปถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปไม่ว่าจะไปที่ไหนจะเห็นแต่ผู้คนก้มหน้ามองมือถือของตนเอง แทนที่จะหันหน้ามาสนทนากัน และหากเพื่อนๆ ทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง รู้หรือไม่ว่ามันจะส่งผลเสียและมีผลกระทบอะไรบ้าง

วันนี้เราจึงขอนำกระทู้บทความเตือนภัยสำหรับใครที่ติดมือถือ และผู้ที่ชอบหยิบมือถือของตนเองขึ้นมาใช้งานในที่สาธารณะมาฝากกันค่ะ โดยกระทู้บทความนี้เป็นของคุณ สมาชิกหมายเลข 1293457 จาก Pantip.com ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์และประสบการณ์อุทาหรณ์เตือนภัยนี้ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคนได้ทราบกัน

สืบเนื่องมาจากเจ้าของกระทู้ได้หยิบมือถือของตนเองขึ้นมาใช้งานในที่สาธารณะซึ่งเป็นบริเวณป้ายรถเมล์หน้าป้อมตำรวจ โดยมีชายผู้หนึ่งเดินตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายเจ้าของกระทู้แล้วฉกชิงมือถือไปต่อหน้าต่อตาและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าของกระทู้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรวดเร็วทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ทำการติดตามคนร้ายทันทีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เจ้าของกระทู้แจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อเอาใบแจ้งความขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เมื่อได้ดูกล้องวงจรปิดพอได้ภาพของคนร้ายตำรวจก็ทำงานกันง่ายขึ้น ทางด้านคุณตำรวจได้ชี้แจงกับเจ้าของกระทู้ว่าชายเสื้อเเดงในภาพเป็นอาชาญกรขาประจำ แต่ชายเสื้อดำที่เป็นคนทำร้ายเจ้าของกระทู้ทางตำรวจยังไม่มีข้อมูล

จนวันรุ่งขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรมาเรียกเจ้าของกระทู้ให้ไปชี้ตัวคนร้าย เมื่อไปถึงผู้ต้องหาไม่กล้าสบตาเจ้าของกระทู้เลยเข้าใจชัดเจนเลยว่าคือชายคนนี้อย่างแน่นอน ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการรวบตัวผู้ร่วมกระบวนของชายเสื้อแดงและชายเสื้อดำ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าชายทั้งสองคือพี่น้องกัน ทางตำรวจจึงได้รวบรวมของกลางทั้งหมดและเริ่มดำเนินการสืบสวน แต่เมื่อตรวจดูของกลางทั้งหมดก็ไม่ปรากฏมือถือของเจ้าของกระทู้

และทางคนร้ายก็ไม่ยอมบอกว่าของกลางอยู่ที่ไหน ทางตำรวจจึงได้โทรเรียกแม่ของคนร้ายมาคุย พอแม่ของคนร้ายมาถึงเธอได้วิ่งเต้นขอคุยกับผู้มีอำนาจใน สน. และขอร้องให้ตำรวจยกเลิกการดำเนินดคี และขอร้องให้เจ้าของกระทู้ไม่เอาเรื่อง อ้างว่าเห็นแก่หัวอกคนเป็นแม่ เรียกได้ว่าเรื่องราวและถ้อยคำเข้มข้นสุดๆ ได้อุทาหรณ์และแง่คิดต่างๆ มากมาย ว่าแล้วเราไชมบทความนี้กันเลยค่ะ

สวัสดีครับปกติไอดีนี้ผมมักจะอ่านแล้วตอบกระทู้อย่างเดียวไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสมาตั้งกระทู้เตือนภัยสังคม เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2559 เวลาประมาณ 20.50น. ผมนั่งรอแม่อยู่ และได้เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ตรง ป้ายรถเมล์บริเวณตลาดสะพานใหม่ใกล้กับป้อมตำรวจ (SAFETY ZONE)

ในขณะนั้นเท่าที่จำได้ผมกำลังก้มหน้าดู Youtube เรื่องบ้านนี้มีรักอยู่ (โหลดออฟไลน์) จากนั้น ก็ได้มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อดำสวมหมวกได้เดินอ้อมมาและตรงมากระทืบเจ้าของกระทู้คือความรู้สึกตอนนั้นงงมากกว่าว่าทำไมถึงโดนชายปริศนาดังกล่าวกระทืบ หันหลังไปดูพบว่าเป็นชายเสื้อดำ จากนั้น เจ้าของกระทู้ก็ล้มลงกับพื้น

ชายคนดังกล่าวก็มากระทืบซํ้าอีกทีจนนอนกองกับพื้นก็ถีบซํ้าอีกรอบ คราวนี้มือถือเจ้าของกระทู้ก็หล่นลงและตกลงไปบริเวณริมถนน ชายคนดังกล่าวผลักเจ้าของกระทู้และรีบไปหยิบโทรศัพท์ดังกล่าว และวิ่งหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Note 2 สีขาว ท่ามกลางฝูงชนบนท้องถนน

ตอนนั้นเหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมาก เจ้าของกระทู้พยายามจะแย่งคืนแต่ก็ไม่ทันรีบตั้งสติก็รู้ทันทีว่านี่คือการชิงทรัพย์เจ้าของกระทู้รีบเคาะป้อมตำรวจ (สถานที่เกิดเหตุอยู่ชิดกับป้อมตำรวจนับแล้วห่างไม่เกิน 6 ก้าว) เจ้าหน้าที่ตำรวจตอนนั้นยังงงแต่พอเห็นเจ้าของกระทู้ขอความช่วยเหลือก็รีบออกมาจากป้อม

ตำรวจ : เกิดอะไรขึ้นครับน้อง
เจ้าของกระทู้ : ผมโดนชิงมือถือไปครับ ชายเสื้อดำมันวิ่งเข้าตลาดไปแล้ว
ตำรวจ : ใช่คนใส่เสื้อแดงไหม
เจ้าของกระทู้ : ไม่ใช่ครับมันใส่หมวกดำๆ หน่อย

ผมให้ข้อมูลตำรวจเพียงนี้ตำรวจทั้ง 2 นายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อีก 1 ท่านก็รีบวิ่งตามไปดักจับแต่ก็ไม่ทันเพราะมันไวมาก (รู้ทีหลังว่าเป็นคนในพื้นที่จึงอาศัยความชำนาญทาง วิ่งหนีไปได้ราวกับมืออาชีพ) เจ้าของกระทู้กับตำรวจอีก 2 นายจึงกลับมาตั้งหลักที่ป้อมตำรวจอีกครั้งเพื่อลงบันทึกประจำวัน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับมือถือที่ถูกคนร้ายชิงไป

ตอนนั้นผมยืมโทรศัพท์ของตำรวจโทรเข้าเครื่องตัวเอง สายแรกคนร้ายรับแต่ไม่มีเสียงรับครั้งที่ 2 ก็ปิดมือถือหนีไป เจ้าหน้าที่แนะนำให้ เจ้าของกระทู้ไปแจ้งความและนำใบแจ้งความมาขอดูกล้องวงปิดจากทางตลาดและร้านค้าต่างๆ เนื่องจากบริเวณที่เจ้าของกระทู้ถูกทำร้าย ไม่มีกล้องวงจรปิดใดบันทึกภาพไว้ได้ (โอ้วคุณพระป้ายรถเมล์ติดกับป้อมตำรวจกลับไม่มีกล้องวงจรปิด)

แม้ว่าตลาดที่เกิดเหตุจะเป็นบริเวณตลาดสะพานใหม่ (บริเวณกำลังก่อสร้าง รถไฟฟ้า สถานี สะพานใหม่ N20 ซึ่งสถานีหมอชิตจะเป็น N08) แต่อยู่ในการดูแลของสน.บางเขน เท่ากับว่าเจ้าของกระทู้ต้องรอคุณแม่กลับมาก่อนและไปแจ้งความ เพื่อเอาใบแจ้งความขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง ตอนนี้เจ้าของกระทู้และตำรวจก็พยายามสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ได้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวคนร้ายเพิ่ม

ผู้เห็นเหตุการณ์ท่านนึง : พี่เห็นเขาจ้องน้องอยู่และเดินวนมาทำร้ายน้อง พี่นึกว่าเพื่อนเเกล้งเล่น (แหมโดนแกล้งซะเละคาเท้าเลย) เขาใส่เสื้อดำมีสกรีน ใส่ผ้าโพกหัว รูปร่างผอมๆ หน่อย แต่เขาสูงกว่าน้อง เวลาตอนนั้นประมาณ 20.53น. ตอนนั้นพี่กำลังรอดูละครอยู่พอดี

โอ้วโหรู้เยอะกว่าเจ้าของกระทู้เสียอีก เนื่องจากตอนโดนทำร้ายมันไวมากแต่ก็ทำให้เจ้าของกระทู้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับคนกระทืบได้เยอะขึ้น พอไปถึง สน.บางเขน ก็เข้าไปพบกับสิบเวรเพื่อลงบันทึกประจำวัน และเข้าไปพบกับผู้หมวดท่านนึงเพื่อดำเนินการเเจ้งความเจ้าของกระทู้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด ให้เจ้าหน้าที่ลงทึกเพื่อรับเรื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้เจ้าของกระทู้นำหมายเลข IMEI เพื่อส่งให้ค่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายดำเนินการ พอผู้หมวดสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก็ส่งเรื่องไปให้กับหน่วยสืบสวน ซึ่งผู้หมวดท่านนี้ยํ้าว่ากับสายสืบต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายอย่างละเอียด เพราะสายสืบจะเป็นผู้ลงพื้นที่ เพื่อสืบหาตัวคนร้าย เจ้าของกระทู้ก็นั่งแท็กซี่กลับไปที่ป้อมตำรวจอีกครั้ง

มาถึงก็ตกใจ และพบว่าสายสืบท่านนั้นกำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่ (มาไวกว่าเจ้าของกระทู้เสียอีก) เจ้าหน้าที่สายสืบท่านนั้นขอดูกล้องวงจรปิดจากบรรดาร้านค้าต่างๆ จนมีร้านนึงที่สามารถ จับภาพของคนร้ายไว้ได้

อันนี้ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นชายเสื้อดำคนนี้ ที่กระทืบเจ้าของกระทู้เม้าส์ชี้อยู่เวลาประมาณ 20.42น.ช้าๆ ชัด ๆ หากสังเกตุให้ดีจะพบชายเสื้อแดงด้วย

ใบหน้าชัดๆ

อันนี้เวลาประมาณ 20.58น. หลังเกิดเหตุจะพบชายเสื้อเเดงเดินกลับคนเดียว และทำเนียนว่ากำลังคุยโทรศัพท์ตบตากล้อง ส่วนเสื้อดำพยายามวิ่งหลบกล้อง และส่งของกลางให้กลับชายเสื้อแดง

พอได้ภาพของคนร้ายตำรวจก็ทำงานกันง่ายขึ้นตำรวจได้ชี้แจงกับเจ้าของกระทู้ว่าชายเสื้อเเดงในภาพเป็นอาชาญกรขาประจำ เเต่เสื้อดำที่ทำร้ายเจ้าของกระทู้ตำรวจยังไม่มีข้อมูล แต่ตำรวจที่ป้อมยืนยันว่าเห็นชายเสื้อแดงอยู่บริเวณที่เจ้าของกระทู้โดนกระทืบ จึงเข้าใจว่าชายเสื้อเเดงเป็นคนทำร้าย และตำรวจภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านค้าอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไกล่เกลี่ยให้เจ้าของกระทู้กลับบ้านไปพักผ่อน เพราะเวลานั้นเลยเที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว ทางตำรวจจะดำเนินการกันต่อเอง  มีตำรวจนายหนึ่งมาส่งเจ้าของกระทู้กับแม่ขึ้นรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้านเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายอีกเพราะพึ่งโดนข้างป้อมนี่เอง พอกลับบ้านไปแล้วยอมรับตรงๆ ว่านอนไม่หลับจริงๆ แม้ว่าจะได้ภาพของผู้ต้องหาแล้วแต่การจับตัวไม่ใช่ง่ายๆ

เช้าวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2559 วันจันทร์สำหรับมนุษย์เงินเดือนเเล้วมันคือฝันร้าย สำหรับเจ้าของกระทู้ก็ภาวนาให้ตำรวจรวบผู้ต้องหาได้ เพราะคดีนี้ค่อนข้างหยามตำรวจ (กระทืบเจ้าของกระทู้ใกล้กับป้อมตำรวจแล้วชิงทรัพย์) ตอนสัก 9 โมง แม่เจ้าของกระทู้ได้โทรมาปลุกให้ไปที่ ส.น เพื่อติดตามคดี

ถ้าเป็นวันจันทร์ปกติคงโทรมาปลุกเพื่อให้เจ้าของกระทู้รีบออกจากบ้านเพราะวันจันทร์รถมันติดกว่าทุกวันพอพูดสายเสร็จก็นอนต่อ จนกระทั่งเกือบ 10 โมงก็มีสายปริศนาโทรเข้ามา

สายปริศนา : ฮัลโหล คุณ ….. ใช่ไหมครับ ที่มาแจ้งความคดีชิงทรัพย์เมื่อวานผมอยากให้คุณรีบมาที่ สน. หน่อยมาชี้ตัวคนร้ายหน่อย

วินาทีนั้น เจ้าของกระทู้ตาสว่างเลยจากที่ง่วงๆ เพราะกว่าจะได้นอนก็ 6 โมงเช้า เลยรีบแต่งตัวเพื่อฝ่ารถติด ไปสน. พอได้ยินกว่าต้องไปชี้ตัวคนร้าย  วันนี้เลยยอมนั่งมอไซต์วินจากบ้านไป สน.เลย เพราะรถติดมาก พอถึงสน. แล้ว ตำรวจก็ให้ไปที่ห้องสืบสวนเพื่อชี้ตัวผู้ต้องหามันเป็นห้องมืดๆ มีกระจกกั้นไว้ แต่รู้ว่าคนอยู่ในนั้นเจ้าของกระทู้ยอมรับว่ามองไม่เห็นเพราะสายตาสั้น

เจ้าของกระทู้เลยขอให้เจ้าหน้าที่เปิดไฟเเต่ผู้ต้องหาไม่กล้าสบตาเจ้าของกระทู้ (แสดงว่ามันจำได้) ก็ชัดเจนเลยว่าคนนี้แน่ๆ นอกจากนี้ตำรวจยังจับผู้ร่วมขบวนการได้อีก 3 คน คือ 1.ชายเสื้อแดงในกล้องวงจรปิดคนนี้เคยมีคดีกับทางสนนี้. มาก่อน เลยตามจับง่ายหน่อย อีก 2 รายเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18  เลยหงายการ์ดนางฟ้า (เป็นเยาวชนเลยรอดตัวไป)

อีกทั้งเจ้าของกระทู้ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเด็ก 2 คนนั้น เพราะไม่ได้ปรากฏในกล้องวงจรปิดและไม่มีใครพบเห็นในเวลาดังกล่าวแต่ตำรวจรวบตัวได้ มีโทรศัพท์หลายๆ เครื่องเป็นของกลาง บางเครื่องมีเคสสีชมพู (น่าจะของผู้หญิง) ตำรวจก็เริ่มดำเนินการสืบสวนถามว่าเครื่องนี้ของใคร? เบอร์โทรอะไร? ปลดล็อคให้ดูหน่อยสิ?

พอเจ้าของกระทู้ดูของกลางปรากฏว่าไม่มีโทรศัพท์ของเจ้าของกระทู้ (Samsung Galaxy Note 2) ตำรวจก็ถามผู้ต้องหาเสื้อเเดงมันก็ตอบไม่รู้ พอถามไอ้เสื้อดำทีนี้มันร้องไห้เลย ตำรวจบอกว่ามันติดยาแน่ๆ  สรุปคือไม่ยอมบอกว่ามือถือของกลางอยู่ที่ไหนกับใคร ?  สรุป 2 คนนี้ (เสื้อดำ-เสื้อแดงในวงจรปิด) เป็นพี่น้องกัน ไม่มีใครยอมบอกว่าของกลางอยู่ที่ไหนตำรวจจึงแก้เกมให้มันโทรเรียกแม่มันมาคุย

พอแม่ผู้ต้องหามาตำรวจก็ถามว่าของกลางอยู่ที่ไหน? แต่ปรากฏว่าแม่ผู้ต้องหามาถึงก็รีบขอเข้าไปคุยกับ… (ผู้มีอำนาจ)ให้ช่วยเหลือพอไม่ได้ผลก็มาขอร้องตำรวจ ขอร้องให้ตำรวจยกเลิกการดำเนินดคี อ้างว่าจะเห็น แก่ ”หัวอกของคนเป็นแม่ ” ทางตำรวจก็บอกว่า ทางเขาเป็นเพียงผู้ดำเนินการสอบสวน แต่อำนาจการตัดสินใจว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าของกระทู้ว่าจะยังไง ตำรวจให้เจ้าของกระทู้ลองพูดคุยกับแม่ของผู้ต้องหาของทั้ง 2

แม่ผู้ต้องหา : ถ้าพี่เอามาคืนน้องจะยอมไหม?
เจ้าของกระทู้ : ยอม? หมายถึงให้ผมไม่เอาเรื่องอย่างงั้นรึ? ถ้าผมไม่โดนคนอื่นก็อาจจะโดน ลูกคุณก็อาจจะไปทำกับคนอื่นไม่จบสิ้น
แม่ผู้ต้องหา : เหอะ ถ้าอย่างงั้นพี่ก็คงไม่มีอะไรจะคุยล่ะ
ตำรวจ : งั้นมาคุยกับผมดีกว่า คุณเอาของกลางมาคืนเขาน่ะถูกแล้ว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
แม่ผู้ต้องหา : พี่เห็นเเก่ลูกหนูเถอะ ขอลูกหนูไว้คนนึง จะให้จับทั้ง 2 คนเเล้วหนูจะเหลืออะไรสงสารหัวอกของคนเป็นแม่หน่อยเถอะ
ตำรวจ : มันก็เป็นซะอย่างงี้ พอลูกติดคุกคุณก็เอาเงินมาประกัน พอออกไปก็ทำอีกใครกันที่ทำร้ายลูกมากกว่ากัน
แม่ผู้ต้องหา : กะอีแค่มือถือเครื่องเดียวต้องติดคุกเลยเหรอ
ตำรวจ : เอ้าแค่มือถือเครื่องเดียวคนก็ฆ่ากันได้แล้ว มีให้เห็นเยอะเเยะว่าถูกฆ่าเพื่อชิงมือถือตาม youtube ก็มีนะ คุณจะดูไหมเดียวผมจะเปิดให้ดู

แม้ว่าชายเสื้อแดงในกล้องวงจรปิดจะไม่ได้ทำร้ายเจ้าของกระทู้โดยตรง แต่มีประวัติอยู่ว่าเคยก่อคดีทำให้เสื้อแดงไม่อยากทำร้ายเจ้าของกระทู้ เพราะมีคดีติดตัวอยู่คราวนี้ถ้าทำอีกตำรวจจะไม่ให้ประกันตัวออก และชายเสื้อแดงก็เป็นผู้ดูต้นทาง พอเสื้อดำกระทืบเจ้าของกระทู้เเล้ววิ่งมานำของกลางไปให้เสื้อแดง

ถ้าหากตำรวจจับไอ้เสื้อดำได้มันก็รอดเพราะไม่มีของกลางในรูปเวลา 20.58 จะเห็นชัดว่า เสื้อแดงทำเนียนเดินคุยโทรศัพท์ผ่านกล้อง ตัวแม่ผู้ต้องหา ก็เคยวิ่งเต้น ตามเก็บกวาดคดีขโมยของที่คนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อเป็นประจำ จนคนแถวนั้นเริ่มเอือมกับพฤติกรรมนี้

พอเเม่ผู้ต้องหารู้ว่าเจ้าของกระทู้จะเอาเรื่องก็บ่ายเบี่ยงที่จะนำของกลางมาคืนเดินออกไปเลย (ตำรวจยังสวบสวนไม่เสร็จ) สักพักก็กลับเข้ามา พร้อมกับลูกเมียของผู้ต้องหา บางคนอุ้มลูกมากดดันตำรวจอีกแรง กะเรียกคะแนนสงสารกันเต็มที่กดดันตำรวจสุดๆ ตำรวจเองก็เริ่มเอือม เพราะมาวิ่งเต้น คดีของลูกเป็นประจำ

แม่ต้องหายังคงต่อรองกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง เพราะต่อรองกับเจ้าของกระทู้ไม่ได้ และไม่ยอมนำของกลางมาให้กับตำรวจ เพราะรู้ว่าเป็นหลักฐานมัดตัว จนเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ตำรวจเลยยื่นคำขาดให้แม่ผู้ต้องหานำของกลางมาคืนวินาทีนั้นเจ้าของกระทู้แอบหวั่นว่ามันจะทำลายของกลางมากๆ

ตำรวจ : เฮ้ย นี่คุณอย่ามาต่อรองกับผมนะ ผมคนทำงานไม่งั้นผมจะตามกวาดล้างพวกคุณให้หมดจับให้หมด ไอ้พวกรับของโจรแล้วคุณคอยดูล่ะกันว่าผมทำจริงรึปล่าว

พอตำรวจประกาศไปยังงั้นเหวอไปเลยสิครับรีบออกจากห้องไป ตำรวจเลยให้เจ้าของกระทู้ไปซื้อข้าวมากินรอ เพราะรู้ว่าผู้ต้องหาคงไม่ยอมเอาของกลางมาคืนแน่นี่ก็ 15.00น. แล้วผมกับตำรวจยังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย มัวแต่รอให้ผู้ต้องหานำของกลางมาคืน กว่าจะได้กินข้าวเช้าก็บ่ายสามกว่าๆ ไปแล้ว

จนในที่สุดมันก็เอาของกลางมาคืนจนได้ทีนี้ตำรวจก็ดำเนินคดีได้ง่ายขึ้นพอเจ้าของกระทู้ตรวจของก็ตกใจมันกด FACTORY RESET แล้วเอาไปขายตู้เรียบร้อยเพิ่งถอยคืนมา ทำให้หลักฐานไม่ได้อยู่กับตัวมันตรวจตัวเครื่องพบว่าซิมการ์ด sd card  handset หายไป เเบตเตอรี่โดนเปลี่ยนใหม่  คาดว่าจะเป็นของทางร้านตู้

นี่มันทำเป็นขบวนการจริงๆ เเหะ ทีนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งสวบสวนเพื่อดำเนินคดี พร้อมกับถ่ายรูปเพื่อส่งให้ฝ่ายสวบสวนตลอดทางญาติ พี่น้อง ผู้ต้องหาได้ทำสีหน้าข่มขู่เจ้าของกระทู้อย่างเนื่อง ตอนแรกมาอ้อนวอนตำรวจพอไม่ได้ผลเริ่มข่มขู่แทน

ณ ห้องสวบสวน ห้องนี้เป็นเหมือนของบริษัทเอกชนมากกว่ามีตำรวจทำงานกันเป็นบล็อกๆ พอมาถึงตำรวจก็เริ่มสวบสวนต่อ และเเจ้งผู้ต้องหาว่าคดีชิงทรัพย์โทษหนักกว่าลักทรัพย์ติดคุก… ปี แต่รับสารภาพเหลือ …. ปี หลายคนอาจไม่ชอบ Special offer นี้ผมเองก็เช่นกัน แต่ต้องยอมรับว่าถ้าผู้ต้องหารับสารภาพจะทำให้เขาส่งฟ้องศาลได้ง่ายขึ้น

ตลอดเวลาสอบสวนช่วงแรกแม่ผู้ต้องหาส่งสายตาอาฆาตมาทางเจ้าของกระทู้ตลอดเวลา เเละพูดออกว่า ” จำไว้นะ ไอ่คนไม่มีพ่อแม่ ” เฮ้ยนี่เจ้าของกระทู้โดนกระทืบคาป้อมตำรวจแล้วโดนชิงทรัพย์เราผิดเหรอว่ะเนี่ย ทีตัวเองเลี้ยงลูกให้เป็นอาชญกรนี่ไม่ผิดรึแล้วสังคมต้องรับผลของการเลี้ยงลูกของคุณรึเปล่า ?

อันนี้เจ้าของกระทู้คิดในใจนะครับฮ่าๆ  แต่เวลาสวบสวน ค่อนข้างนานเอกสารเยอะทำให้แม่ผู้เสียหายทนรอไม่ไหวออกไปข้างนอก (จริงๆ เขาไม่ให้เข้ามานะเนี่ย) จนได้เวลาก็นำไปฝากขังส่วนเจ้าของกระทู้ก็รอให้ปากคำเพิ่มเติ่ม เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการส่งฟ้องศาลต่อไป เเละให้เจ้าของกระทู้ลงบันทึกประจำวันเป็นอันปิดคดี

คดีของเจ้าของกระทู้ถือว่าโชดดีที่ปิดได้ไม่ถึง 1 วัน จับคนร้ายแต่มีอีกหลายคดีที่ยังตามหาตัวคนร้าย เจ้าของกระทู้อยากให้คดีของตัวเอง เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ติดมือถือโดยเฉพาะเวลาที่เล่นมือถือในที่สาธารณะต้องระวังให้ดีโดยเฉพาะเวลาอยู่คนเดียวหรืออยู่ในที่เปลี่ยว เจ้าของกระทู้พยายามสังเกตุพื้นที่คุณนั่งอยู่มีกล้องวงจรปิดหรือไม่ (ส่วนใหญ่ตามป้ายรถเมล์ไม่มีกล้องวงจรปิดนะครับ)

เพราะคนร้ายเลือกเป้าหมายที่อยู่คนเดียวหรือผู้หญิง (เพราะเขาคิดว่าคุณไม่สู้เขา) โดยส่วนมากคนร้ายจะเน้นไปที่โทรศัพท์มือถือเพราะสามารถนำไปขายตามตู้ได้ทันทีถ้าถอดซิมออกก็ตามยากแล้ว และเจ้าของกระทู้โชดดีที่ไม่ถูกฆ่าเพื่อชิงทรัพย์หรือมันลืมเอาอาวุธมาก็ไม่รู้สินะ ไม่งั้นได้ตายเพราะมือถือแน่ๆ

ใครที่วางแผนจะซื้อมือถือมือสองจากร้านตามตู้ต้องระวังหน่อยนะครับ คุณอาจจะซื้อของโจรโดยไม่รู้ตัวทางที่ดีขอกล่อง, หูฟัง,ที่ชาร์จแบตเตอรี่ มจากทางร้านด้วยถือว่าอุ่นใจกว่าครับ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 1293457 จาก www.pantip.com