AIS ก้าวล้ำไปอีกขั้น เปิดตัว 4.5 G เชิงพาณิชย์ ใช้งานได้จริง เป็นรายแรกของโลก โชว์ศักยภาพ นวัตกรรมเครือข่ายที่เร็วที่สุด ให้คนไทยสัมผัสก่อนใคร
“เอไอเอส” โชว์ศักยภาพ ผู้นำตัวจริงด้านเครือข่ายดิจิทัลอันดับหนึ่งของประเทศ เปิดให้บริการ 4.5 G เชิงพาณิชย์ รายแรกของโลก ใช้งานได้จริงแล้ว บนนวัตกรรมเครือข่ายที่ดีที่สุด ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1 Gbps ภายในเดือนเม.ย. นี้ ด้วยผลสำเร็จจากความร่วมมืออันเหนียวแน่นกับพันธมิตรระดับโลก “หัวเว่ย” ที่ร่วมคิดค้นและผสมผสานนวัตกรรมเครือข่ายอัจฉริยะเข้าด้วยกัน
เพื่อมอบประสบการณ์ชีวิตดิจิทัลเหนือชั้นยิ่งกว่า ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ได้สนุกกับบริการ HD วิดีโอ และแอปพลิเคชั่นโมบายอินเทอร์เน็ตล้ำสมัย อาทิ VR, Drone, IoT พร้อมเดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย ยกระดับความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีให้กับประเทศชาติ และมุ่งสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ก้าวสู่ Smart Cities เต็มตัว
AIS ประกาศให้บริการเครือข่าย 4.5 G เชิงพาณิชย์ อย่างเป็นทางการ แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นไป เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองที่นิยมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สำหรับลูกค้าเอไอเอสที่ใช้อุปกรณ์รองรับเทคโนโลยี LTE-U/LAA สามารถใช้งานเครือข่าย 4.5 G ได้โดยอัตโนมัติทันที โดยไม่ต้องทำการสมัคร หรือตั้งค่าใดๆ เพิ่ม ด้วยค่าบริการเช่นเดียวกับแพ็กเกจปัจจุบันที่ใช้งาน
เผยเป็นผลงานความสำเร็จอีกขั้นจากศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือ Joint Innovation Center หรือ JIC ระหว่างเอไอเอสและหัวเว่ย ที่ร่วมคิดค้นออกแบบและผสมผสานนวัตกรรมเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะที่ดีที่สุด มาประยุกต์ใช้ได้จริงเป็นรายแรกของโลก ด้วยจุดเด่นด้าน Innovative Technology ที่แตกต่างและเหนือชั้นกว่าบนเอไอเอส 4.5 G ประกอบด้วย MIMO 4×4, Carrier Aggregation บนคลื่น 1800 MHz และ 2100 MHz
รวมถึง เทคโนโลยี LTE-U/LAA (ย่อมาจาก LTE-Unlicensed/ License Assisted Access) ซึ่งเป็นการรวมช่องสัญญาณบนคลื่นที่มีอยู่ เข้ากับคลื่นความถี่สาธารณะ ที่ไม่ต้องขอใบอนุญาต ส่งผลให้เอไอเอส 4.5 G สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากขึ้น เร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 2 เท่า และเพิ่มขึ้นอีก 30% และจะพัฒนาให้เร็วสูงสุดถึง 1 Gbps ภายในเดือน เม.ย.นี้
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าบริหาร เอไอเอส กล่าวว่า “เครือข่ายที่ดีที่สุดจากเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่เอไอเอสยึดเป็นเป้าหมายและพันธกิจในการพัฒนาคุณภาพเครือข่ายมาโดยตลอด นับตั้งแต่วันแรกของการให้บริการ สำหรับการเปิดตัวเครือข่าย 4.5 G ครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ จากความร่วมมือต่อเนื่องกับ “บริษัทหัวเว่ยเทคโนโลยี” ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักด้านเครือข่ายผ่านศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือ Joint Innovation Center หรือ JIC ระหว่างเอไอเอสและหัวเว่ย
ที่ได้ร่วมคิดค้นออกแบบและผสมผสานนวัตกรรมเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะที่ดีที่สุด ซึ่งเอไอเอสมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่เป็นโอเปอร์เรเตอร์ไทยรายแรกของโลก ในการนำเทคโนโลยีระดับโลกนี้ มามอบให้กับลูกค้าและประชาชนชาวไทยได้ใช้ประโยชน์เป็นประเทศแรกก่อนใคร ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าเอไอเอสว่า แม้เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาไปอย่างไร จาก 2G สู่ 3G และ 4G เอไอเอสจะนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ใหม่ล่าสุด และมีคุณภาพดีที่สุดมามอบให้แก่ลูกค้าและคนไทยเสมอ เช่นการเปิดตัว 4.5G ในครั้งนี้”
ด้านนายโจว เยวเฟิง รองประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นไร้สาย บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “เอไอเอสถือเป็น Strategic Partner คนสำคัญของเรา ที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและเหนียวแน่นมาอย่างยาวนาน ภายใต้ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือ Joint Innovation Center หรือ JIC ระหว่างเอไอเอสและหัวเว่ย ที่ได้ร่วมกันนำความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีและ R&D ระดับโลก มาพัฒนาการให้บริการดิจิทัลของเอไอเอสในทุกๆ ส่วนงาน โดยเฉพาะด้านเครือข่าย ซึ่งหัวเว่ยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับเอไอเอส เปิดตัวเทคโนโลยี 4.5 G ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก และเชื่อมั่นว่า เอไอเอสจะสามารถนำเทคโนโลยีระดับโลกนี้ มาให้บริการลูกค้าและประชาชนชาวไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน”
ด้าน นายฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส 4.5 G ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายบนคลื่นความถี่ ด้วยความเร็วสูงสุด เท่าที่เคยมีมาให้ประเทศไทย และในโลก ให้ลูกค้าและประชาชนชาวไทยได้ใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว โดยปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังอยู่ในยุคของการมีหลายคลื่นให้บริการ จึงต้องมีการนำเทคโนโลยีเครือข่ายที่ก้าวล้ำมากขึ้น อย่าง CA (Carrier Aggregation) เทคโนโลยีการรวมคลื่นความถี่ ตลอดจน LTE-U/LAA หรือการรวมคลื่นความถี่ปัจจุบันเข้ากับคลื่นความถี่สาธารณะ
ดังเช่น เอไอเอส 4.5 G เพื่อพัฒนาเครือข่ายให้มีขีดความสามารถและศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงออกแบบเครือข่าย 4.5 G ให้รองรับเทคโนโลยีเครือข่ายขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น Upload Carrier Aggregation (CA), Download MIMO 4×4 และ Download Modulation 256QAM / Upload Download 64QAM เพื่อต่อยอดเครือข่ายอัจฉริยะให้ทวีคูณความสามารถในการรับส่งข้อมูลได้ในจำนวนมหาศาลพร้อมๆ กัน และรับส่งข้อมูลต่อครั้งได้ในปริมาณที่มากขึ้น
“เบื้องต้น วางแผนขยายพื้นที่ให้บริการ 4.5 G ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ บริเวณพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น ภายในอาคารและศูนย์การค้า อาทิ ย่านสยามสแควร์, ราชประสงค์ โดยมีเป้าหมายหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานดาต้าให้กับลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่าย 4G ของเอไอเอส ส่วนดีไวซ์ที่รองรับเทคโนโลยี LTE-U/LAA นั้น ผู้ผลิตอุปกรณ์ทั่วโลกต่างเริ่มบรรจุเทคโนโลยี LTE-U/LAA เข้าไปในตัวเครื่องแล้ว และจะทยอยออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้ อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบัน มีอุปกรณ์ที่รองรับ 4.5 G ให้บริการแล้ว อาทิ Huawei Wireless Router และเอไอเอสได้เตรียมวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4.5 G ภายในเดือนเมษายน 2559 เช่นกัน”
“เราเชื่อมั่นว่า การมาถึงของเครือข่าย เอไอเอส 4.5 G จะเป็นตัวหลักที่ช่วยผลักดันเทรนด์แห่งอนาคต อาทิ Internet of Things (IoT), Virtual Reality, Drone ในเมืองไทย ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ในฐานะผู้ประกอบการ เราจะไม่หยุดพัฒนาเครือข่ายและบริการดิจิทัลให้ล้ำหน้าและดียิ่งขึ้นเสมอ จึงอยากขอให้คนไทยเชื่อมั่นว่า เอไอเอสพร้อมเต็มที่ในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกๆ ด้าน จากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งของประเทศไทยต่อไป” นายฮุย ย้ำตอนท้าย
Leave a Reply