Apple เปิดตัว iPhone SE สเปคทรงพลัง รองรับ Live Photos และวีดีโอ 4K

 Apple เปิดตัว iPhone SE สเปคทรงพลัง รองรับ Live Photos และวีดีโอ 4K

Apple ประกาศเปิดตัว iPhone SE โทรศัพท์หน้าจอขนาด 4 นิ้วที่ทรงพลังที่สุด ใน ดีไซน์ขนาดกระทัดรัด วัสดุภายนอกเป็นอลูมิเนียมที่ทุกคนชื่นชอบ เพิ่มเติมด้วยการเคลือบด้านตามมุม โลโก้ Apple บนวัสดุสแตนเลสสตีลสีเดียวกับตัวเครื่อง มี 4 สีเมทัลลิคสุดสวยให้เลือกรวมทั้งสี Rose Gold  iPhone SE มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมด้วยชิพ A9 64-บิต

เช่นเดียวกับใน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายได้รวดเร็วขึ้น กล้อง iSight® ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับ Live Photos และ วีดีโอ 4K

iPhone SE เป็นแนวคิดใหม่ที่น่าตื่นเต้น เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่คนชื่นชอบงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ แล้วสร้างสรรค์ใหม่หมดจากภายในสู่ภายนอก ผลที่ได้คือโทรศัพท์ขนาดหน้าจอ 4 นิ้วที่สวยงามที่สุดและทรงพลังที่สุดในโลก และ iPhone SE อัดแน่นไปด้วยหน้าจอ Retina ที่สวยงามขนาด 4 นิ้ว, ชิพ A9 64-บิต สุดล้ำ

พร้อมหน่วยร่วมประมวลผลความเคลื่อนไหว M9, การใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น, กล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลพร้อม True Tone แฟลช, Live Photos, วีดีโอ 4K, เชื่อมต่อโครงข่าย LTE (4G) และ Wi-Fi ได้เร็วขึ้น ทุกคนที่อยากได้โทรศัพท์ที่มีขนาดเล็กลงจะต้องหลงรัก iPhone SE

iPhone SE

– หน้าจอ LED ขนาด 4 นิ้ว
– ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล
– ระบบปฎิบัติการ iOS 9.3
– CPU Apple A9 (64-bit) แบบ dual-core processor ความเร็ว 1.85GHz
– GPU PowerVR GT7600 แบบ Six-Core graphics
– ROM 16GB และ 64GB

– กล้องหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง ƒ/2.2 พร้อม True-Tone Flash, บันทึกวิดีโอระดับ 4K , Auto Focus, พาโนรามา, HDR
– กล้องหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง ƒ/2.4 พร้อม Retina Flash, FaceTime HD, HDR
– รองรับ Nano-SIM
– รองรับ NFC, Touch ID และ Apple Pay
– เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือติดตั้งอยู่ในปุ่มโฮม
– สนับสนุนการเชื่อมต่อ faster LTE, faster Wi-Fi (802.11ac)
– แบตเตอรี่ Li-Po ความจุ 1642 mAh

โทรศัพท์ขนาดหน้าจอ 4 นิ้วที่ทรงพลังที่สุด

iPhone SE นำดีไซน์ที่ทุกคนชื่นชอบของ iPhone มาสร้างสรรค์ใหม่จากภายในสู่ภายนอก นำเสนอ iPhone ที่ทรงพลัง ครบครันไปด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหนก็ตาม ชิพ A9 64-บิต ที่เริ่มใช้งานใน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone SE สัมผัสความเร็วของ CPU ที่เพิ่มเป็นสองเท่า และ GPU ที่เพิ่มเป็นสามเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับ iPhone 5s อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

M9 เป็นหน่วยร่วมประมวลผลความเคลื่อนไหว เจเนอเรชั่นถัดไปที่ถูกผนวกรวมเข้ากับชิพ A9 ช่วยให้ฟีเจอร์หลายฟีเจอร์มากขึ้นสามารถทำงานตลอดเวลาโดยใช้พลังงานน้อยลง รวมถึงสามารถใช้งาน “Hey Siri” ได้โดยที่ไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา และสามารถเก็บข้อมูลการออกกำลังกายจากระยะที่ห่างไกล เช่น การวัดก้าวและระยะทาง ผู้ใช้ iPhone SE สามารถเบร้าซ์ ดาวน์โหลด

และชมคอนเท้นท์ได้เร็วขึ้น สามเท่าเมื่อเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi และเร็วขึ้น 50% เมื่อเชื่อมต่อด้วย LTE เปรียบเทียบกับ iPhone 5s* iPhone SE รองรับคลื่นความถี่ LTE ที่มากขึ้น ทำให้การเชื่อมต่อในระหว่างเดินทางไปต่างประเทศทำได้ดียิ่งขึ้น และรองรับการสื่อสารด้วยเสียงผ่านโครงข่าย LTE และ Wi-Fi บนแถบคลื่นความถี่แบบกว้างซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดี

ด้วยการใช้งานที่ง่าย ฟีเจอร์ที่น่าอัศจรรย์ การคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก iOS 9 นับเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ iPhone SE มอบการใช้งาน App ที่ทรงพลัง อาทิ Messages, FaceTime®, Photos, Music และ Maps แก่ผู้ใช้งาน iPhone

นอกจากนี้ iOS 9 ยังเพิ่มความฉลาดให้กับ iPhone SE ด้วยการให้ความช่วยเหลือโดยไม่ต้องร้องขอ การค้นหาที่ทรงพลัง หลายฟีเจอร์ของ Siri® ที่ได้รับการปรับปรุง และ Night Shift™ ใหม่ที่จะใช้นาฬิกา และการบอกพิกัดบน iPhone SE ของคุณปรับสีบนหน้าจอให้เป็นโทนอุ่นเมื่อสิ้นสุดวัน หรืออาจช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น

นวัตกรรมทั้งหมดนี้ถูกบรรจุลงในโทรศัพท์ที่มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ได้รับการออกแบบให้พอเหมาะพอเจาะกับขนาดมือของคุณ สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยอลูมิเนียมขัดด้านให้ผิวสัมผัสคล้ายซาติน ลบมุมให้โค้งมน และโลโก้ Apple บนสแตนเลสสตีลสีเข้าคู่กับหน้าจอ Retina ขนาด 4 นิ้วที่งดงาม

กล้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

iPhone SE มาพร้อมกล้อง iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบด้วย Focus Pixel เทคโนโลยีที่ทำให้จับภาพได้อย่างรวดเร็ว, หน่วยประมวลผลสัญญาณภาพที่ออกแแบบโดย Apple, การลดสิ่งรวบกวนในภาพที่ได้รับกา รพัฒนาให้ดีขึ้น, การปรับโทนสีเจเนอเรชั่นที่สาม และการจับภาพใบหน้าที่ดีขึ้น ทำให้ได้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น เก็บรายละเอียดได้มากเหมือนกับภาพที่ถ่ายด้วย iPhone 6s

ผู้ใช้ iPhone SE สามารถถ่ายได้มากกว่าภาพนิ่ง โดยสามารถเก็บภาพช่วงเวลาเป็นภาพเคลื่อนไหว และฉายซ้ำช่วงเวลาที่น่าจดจำพร้อมเสียง Live Photos เป็นภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่เพียงแค่แตะ ก็จะแสดงภาพก่อนและหลังการถ่าย ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินกับความทรงจำมีชีวิตแทนที่จะเป็นเพียงภาพนิ่งในกาลเวลา

กล้องที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดได้แก่:

• ความสามารถในการบันทึก HD วีดีโอพร้อมรองรับ 4K ที่ความละเอียด 3840 x 2160 ภายหลังจากการบันทึกวีดีโอ 4K ลูกค้าสามารถตัดต่อบนเครื่อง Mac®, PC หรือ iPad® และ iPhone ด้วย iMovie® เวอร์ชั่นล่าสุด หรือตัดต่อวีดีโอ 4K บน iPhone SE ไปพร้อมๆกัน
• Retina แฟลช ซึ่จะทำให้หน้าจอสว่างเป็นสามเท่าด้วยเทคโนโลยีแสง True Tone® ช่วยให้ภาพเซลฟี่ที่ถ่ายด้วยกล้อง FaceTime HD สว่างสดใสในสภาวะแสงน้อย
• ฟีเจอร์ที่เริ่มใช้งานบน iPhone 6s ได้แก่ ภาพพาโนรามาขนาด 63 ล้านพิกเซล, วีดีโอบันทึกได้สูงถึง 60fps สำหรับวีดีโอ 1080p และ 240sfp สำหรับ slo-mo, time-lapse ด้วยวีดีโอที่ลดการสั่นไหวของภาพ และ วีดีโอที่ลดการสั่นไหวของภาพสำหรับภาพยนตร์

ทั้งนี้ iPhone SE ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเงิน, สีเทา, สีทอง และสีโรสโกลด์ รุ่นความจุ 16GB สนนราคาอยู่ที่ $399 หรือประมาณ 13,900 บาท และรุ่นความจุ 64GB สนนราคาอยู่ที่ $499 หรือประมาณ 17,900 บาท

โดยจะเปิดพรีออเดอร์ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม และจะวางจำหน่ายเพิ่มอีก 110 ประเทศ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งประเทศไทยอาจเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.gsmarena.com, www.9thaiphone.com