รีวิว i-mobile IQ Z Pro ปรับโฟกัส หน้าชัดหลังเบลอ ด้วยกล้องคู่ระดับโปร
i-mobile IQ Z Pro สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Samart ไอ-โมบาย เปิดตัวด้วยราคา 11,900 บาท เมื่อเห็นราคา อาจจะรู้สึกว่าแพง แต่แรงด้วยสเปคและลูกเล่นแบบจัดเต็ม โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่สุดอึดและกล้องหลังคู่ที่สามารถทำ Refocus ได้ และยังคงมี DTV ในตัว อันเป็นจุดเด่นของ i-mobile
สเปคแบบละเอียดของ i-mobile IQ Z Pro
- ขนาดของตัวเครื่อง 154 x 76.6 x 7.3 มม. น้ำหนัก 160 กรัม
- ระบบปฏิบัติการตัวเครื่อง Android 5.1
- รองรับ microSD card สูงสุด 64GB
- รองรับการใช้งานแบบ 2 SIM
- 2G: 900/1800 MHz
- 3G: 850/900/2100 MHz
- 4G LTE : 850/900/1800/2100 MHz ครบทุกคลื่นความถี่ในไทย
-
3G: HSDPA (Mbps) 42 Mbps / HSUPA (Mbps) 11.2 Mbps
-
4G: HSDPA (Mbps) 150 Mbps / HSUPA (Mbps) 50 Mbps
- เยอะจุใจด้วย ROM 32GB และ RAM 3GB
- ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD)
- หน้าจอชนิด AMOLED ให้สีสันที่สดใสจัดจ้านและสว่างมาก
- Dual Camera ที่ความละเอียด 13MP
- กล้องหลังชนิด BSI 18MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมแฟลช LED และ Auto Focus
- กล้องหน้า 8MP แบบ Fixed Focus รูรับแสงกว้าง f/2.0 พร้อมแฟลช LED
- ฟังก์ชั่น Dual Camera สามารถปรับโฟกัส และปรับสีพื้นหลังได้หลังจากถ่ายรูป
-
Bluetooth 4.0
- DTV Tuner ในตัว โดยใช้เสาอากาศแบบถอดได้จากช่องเสียบหูฟัง
-
แบตเตอรี่ความจุสูง 3500mAh
อย่างไรก็ตาม ด้านหลังกล่องมีบอกสเปค เพื่อให้เปรียบเทียบตัดสินใจซื้อได้ทันที ณ จุดขาย ป้องกันปัญหาความเข้าใจผิดหรือพนักงานขายบอกรายละเอียดผิดไป
สำหรับลูกเล่นของกล้องหลังคู่ที่ผู้อ่านบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ ว่าดีกว่ากล้องเดี่ยวอย่างไร ลองชมวิดีโอ TVC ข้างล่างนี้กันก่อน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของกล้องคู่ที่เข้ามาช่วยให้การโฟกัสที่ความลึกหลายระดับของมิติภาพทำได้ดีขึ้น คือ กล้อง 13MP ตัวหลักทำหน้าที่เก็บภาพ และ 2MP อีกตัวช่วยวัดระยะชัดตื้นถึงชัดลึก จากระยะใกล้ถึงไกลไว้ทั้งหมด เพื่อให้เราสามารถเลือกจุดโฟกัสอีกครั้งในภายหลังได้นั่นเอง
แกะกล่องยลโฉมดีไซน์
ในคลิปโฆษณาข้างต้นนั้น เป็น i-mobile IQ Z Pro สีขาวขอบตัวเครื่องสีทอง แต่เครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นสีดำ ขอบตัวเครื่องสีเทา
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ครบครันตามสไตล์ i-mobile ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม ได้แก่
- สาย USB และที่ชาร์จ
- หูฟังแบบ Earbud
- คู่มือ
- ฟิล์มกันรอยหน้าจอ
- เคสโทรศัพท์แบบพลาสติกใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เสาอากาศ DTV
- ขาตั้งดูทีวี
ที่ชาร์จเป็นแบบปลั๊กขาแบน จ่ายกระแสได้สูง ชาร์จไฟได้เร็วกว่า i-mobile รุ่นก่อน ๆ ส่วนสาย USB เปลี่ยนจากสายแบนมาเป็นสายกลมที่ดูมีคุณภาพดีขึ้น
หูฟังเหมาะสำหรับโทรสนทนามากกว่าฟังเพลง
ฟิล์มและเคส พร้อมใช้ คุณภาพถือว่าดีใช้ได้เลย
คู่มือแนะนำการใช้งาน เปลี่ยนจากหนังสือเล่มหนา ๆ ที่ไม่ค่อยมีอ่านกัน มาเป็นแผ่นพับไม่กี่สิบหน้า คัดมาเฉพาะส่วนสำคัญ ๆ ที่ผู้ใช้มือใหม่ต้องรู้ สำหรับแฟน ๆ i-mobile ที่ติดตามกันมาหลายรุ่น น่าจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่ยังคงไว้ซึ่งความครบครันเช่นเดิม
ความรู้สึกแรกเมื่อได้สัมผัส หน้าจอใหญ่เต็มตาดีมาก ตัวเครื่องขนาดใหญ่ แต่ไม่หนาเกินไป ยังพกพาสะดวก แม้ว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาจะมากถึง 3500mAh ก็ยังคงความบางของตัวเครื่องได้อย่างน่าพอใจ หน้าจอให้ภาพที่สว่างมาก สีสันจัดจ้าน คมชัดกว่า i-mobile เกือบทุกรุ่นที่เคยรีวิวมาก่อน ด้านหลังเป็นกระจกสีดำดูสวยงามดี คล้ายกับ Sony Xperia Z ในอดีตที่เมื่อสะท้อนแสงแล้วจะเห็นเป็นกระจกดำแกมน้ำเงินเข้ม ได้อารมณ์ประมาณนั้น งานประกอบที่ดูดีสมราคา ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีเทา จับได้ถนัดดี ไม่ลื่นมือ โดยรวมถือว่าน่าประทับใจดี
มุมบนซ้ายของด้านหน้าตัวเครื่อง เป็นไฟแฟลชสำหรับถ่าย Selfie ส่วนมุมบนขวาเป็นกล้องหน้า อยู่ห่างกันแบบนี้ ทำให้แสงไฟไม่เข้าตาในมุมตรง
ปุ่ม Volume และ Power อยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา โดยใต้ปุ่มกด Power มีไฟ LED 3 สีแจ้งเตือนสถานะได้ด้วย สวยงามดี
ถาดใส่ซิมการ์ดและ microSD card อยู่ทางด้านซ้าย รวมเป็นถาดเดียวกัน
ช่องลำโพง ไมโครโฟน และพอร์ต USB แบบคว่ำ รวมอยู่ที่ขอบด้านล่างของตัวเครื่อง
ด้านหลังเป็นกระจกสีดำ สวยหรู เงางาม แต่ต้องเช็ดบ่อย เพราะเห็นคราบมันจากนิ้วมือได้ง่าย
กล้องคู่ มีไฟแฟลช LED คั่นกลางไว้ อยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ดูมีความสมมาตรดี ในขณะที่แบรนด์อื่น จะวางกล้องไว้ชิดขอบมุมบนซ้าย
ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมตัดขอบทำมุมเฉียง ทำให้สะท้อนแสงดูเงางามและหรูหรา ดีไซน์โดยรวมถือว่าสวยงามดี และบางเบากว่าที่คาดไว้ ทั้งที่มีแบตเตอรี่ความจุสูง 3500mAh อยู่ภายใน สำหรับเหตุผลที่ใช้ภาพพื้นหลังสีดำ เพื่อให้ดูกลมกลืนไปกับสีตัวเครื่องที่เป็นกระจกดำ และยังช่วยประหยัดพลังงาน ยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้เกิน 1 วันได้จริง ๆ
ทดสอบประสิทธิภาพ
ด้วยพลังของ CPU แบบ Octa-core และ RAM ที่มากถึง 3GB ส่งผลทำให้คะแนนทดสอบในด้าน UX และ CPU ทำได้ดี คะแนนรวมถึง 34235 การประมวลผลรวดเร็วก็ทำให้การใช้งานเร็วลื่น
ถึงแม้ว่าคะแนน 3D ทำได้น้อย แต่ก็ยังเล่นเกมได้เร็วลื่น ตอบสนองไว ไม่กระตุก ภาพสวยงาม ทดสอบด้วยเกม Asphalt ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ได้อรรถรสในการเล่นเกมที่สนุกดีทีเดียว จอใหญ่ สีสวยสดใสแบบนี้ ในเรื่องความร้อนขณะเล่นเกม ถือว่าน้อยมาก ๆ แบตเตอรี่ลดลงช้าอีกด้วย เล่นได้ยาวนาน
ซอฟต์แวร์
i-mobile IQ Z Pro ล็อตล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ มาพร้อมกับ Android 5.1.1 เปิดเครื่องครั้งแรกก็ประทับใจในความเก๋ คือหน้าจอ Locked screen ใช้วิธีเบลอภาพของหน้าจอที่เปิดใช้งานค้างอยู่ล่าสุด สมมุติว่าเรากำลังแชท LINE อยู่ เมื่อกดปุ่ม Power หน้าจอก็จะดับลง เมื่อเปิดขึ้นมา ก็จะเห็นเป็นหน้าแชท LINE นั้นเบลอ ๆ เมื่อปลดล็อค จะใช้งานต่อได้ ภาพเบลอที่ถูกล็อคไว้ก็หายไป เป็นอะไรที่ดูเก๋ดีจริง ๆ
Quick Settings และ App Drawer ก็ตามมาตรฐาน Android รุ่นใหม่ ใช้งานง่ายมากขึ้น
ปุ่มกดโทรศัพท์และสมุดโทรศัพท์ มีขนาดใหญ่ เห็นได้ชัด พร้อมโชว์รูปภาพของรายชื่อที่บันทึกไว้ มีระบบเดาหมายเลขหรือรายชื่อของคนที่เรากำลังจะโทรหา
เมนูการตั้งค่าหลักของตัวเครื่อง เรียงลงมายาวเหยียด แต่ค้นหาได้ง่าย ไม่สับสน ไม่ซับซ้อน
ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติได้ ตั้งค่าปุ่มได้หลากหลาย เช่น กด Home แช่ไว้ คือการล็อคหน้าจอ
ปรับรูปแบบและขนาดตัวอักษรได้ | เหลือพื้นที่ใช้งาน ROM อีก 20GB ไม่จำเป็นต้องใส่ microSD ก็ได้
บางคนชินกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นที่ปุ่ม Back อยู่ด้านขวา ก็ปรับเปลี่ยนได้
มาดูในส่วนของกล้องกันบ้าง วงโฟกัสเป็นสีเขียว หากจะใช้ Dual Camera ต้องเปลี่ยนโหมดไปที่กล้องคู่ นอกจากนี้ก็มีโหมด Panorama ตามมาตรฐานทั่วไป
เลือก Effect สีได้หลายแบบ และ Scene ถ่ายภาพได้อีกหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกเป็น Auto ไว้
การตั้งค่า ถือว่าละเอียดมาก สมกับคำว่ากล้องระดับโปร ตามที่ i-mobile โฆษณาไว้จริง ๆ
มาทดสอบกล้องคู่กันหน่อย ด้วยการถ่ายภาพไก่ทอดจานนี้ บันทึกภาพเรียบร้อย จากนั้นลอง Refocus กัน เดิมทีภาพนี้ จะชัดทุกระยะไม่ว่าใกล้หรือไกล รูรับแสงมีค่า f/16
ปรับค่ารูรับแสงจาก f/16 เป็น f/1.0 แล้วสัมผัสบนภาพว่าจะให้โฟกัสที่ไก่ทอดหรือทิชชูด้านหลัง ก็แล้วแต่จุดที่เราสนใจได้เลย ถ้าปรับค่ารูรับแสงไว้ที่ระดับกลาง ๆ อย่างเช่น f/2.0 หรือ f/4.0 จุดโฟกัสก็จะเป็นวงกว้างขึ้น ไก่ทอดก็จะชัดทั้งจาน จากเดิมที่ f/1.0 จะเห็นว่าชัดแค่บางส่วนของไก่ชิ้นเดียว เป็นลูกเล่นที่ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
กล้องหลัง ให้คุณภาพของภาพถ่ายที่ดีปานกลาง ทั้งนี้ต้องวัดแสงให้ถูกจุด มิฉะนั้นสีภาพจะเพี้ยนไปทั้งหมด โดยเฉพาะสีส้มแดง แนะนำให้เลี่ยงการสัมผัสหน้าจอเพื่อโฟกัสหรือวัดแสง ปล่อยให้กล้องโฟกัสและวัดแสงเองดีกว่า อาจจะลองเปลี่ยนมุมถ่ายดูบ้าง เพื่อลดปัญหาสีเพี้ยน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้า ถ้ามีแสงสว่างมากพอ ก็ถ่ายภาพออกมาได้สวยดี แต่บางครั้งก็ให้สีที่จืดชืดผิดเพี้ยนไปบ้าง เมื่อเจอสภาพแสงหรือสีสันที่ซับซ้อน
DTV ภาพคมชัด รับสัญญาณได้ไว
i-mobile ได้เปลี่ยนเสาอากาศใหม่ เป็นแบบเสียบที่ช่องต่อหูฟัง จากเดิมในรุ่นก่อน ๆ ใช้เสาอากาศแบบดึงยืดออกมา แน่นอนว่าทนทานมากขึ้น ตัดปัญหาเสางอหรือหัก จากการทดสอบพบว่าในรุ่น IQ Z Pro ภาครับสัญญาณดิจิทัลทีวี รับสัญญาณได้ดีมากขึ้น ไม่ต้องหมุนหาหรือเดินหาทิศทางอีกแล้ว รับชมทีวีตรงไหนก็ชัดเจน และหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบ Full HD รับชมทีวีที่เป็นช่อง HD ได้คมชัด ภาพสวยมาก ส่วนใหญ่ i-mobile DTV หลายรุ่นที่ผ่านมา เป็นหน้าจอแบบ LCD ความละเอียดเพียงแค่ HD
สรุปการทดสอบใช้งาน
จากการใช้งานมาหลายสัปดาห์ พบว่า i-mobile IQ Z Pro มีจุดที่น่าประทับใจและข้อบกพร่องบางอย่างที่ทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง ก็ได้แต่หวังว่าจะมีการอัพเดตซอฟต์แวร์เพื่อแก้ไขปัญหานั้น จุดบกพร่องที่เกิดจากปัญหาซอฟต์แวร์นั้น แก้ไขได้ง่าย ต่างจากฮาร์ดแวร์ที่มีปัญหา ต้องเปลี่ยนรุ่นกันเลยทีเดียว สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่ใช้งานได้เกิน 1 วัน ไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน ไม่ต้องพกที่ชาร์จ ชอบจอภาพสีสดใส คมชัด ใหญ่เต็มตา ดูทีวีนอกสถานที่ได้ ถือว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์และน่าจะถูกใจอย่างแน่นอน
สิ่งที่ประทับใจ
- แบตเตอรี่ 3500mAh ใช้งานได้ยาวนานเกิน 1 วันจริง ๆ ยิ่งถ้าเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน น่าจะใช้งานได้ 2-3 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป
- ความร้อนน้อยมาก ไม่ว่าจะถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เล่นเกม ดูทีวี ดู Youtube หรือดาวน์โหลดไฟล์
- รับสัญญาณ Digital TV ได้ไวดีมาก ภาพคมชัด
- ดู Digital TV ในรถยนต์ได้เมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ด้วยเช่นกัน
- หน้าจอใหญ่ คมชัด สีสวยสดใส เปิดใช้งานต่อเนื่อง ก็ไม่รู้สึกว่าร้อนเกินไป
- ลูกเล่นกล้องคู่ ปรับแต่งได้มากมาย หรือเลือกโฟกัสภายหลังได้
ข้อสังเกต
- ปรับขนาดตัวอักษรเป็นขนาดเล็ก ใช้งานไปสักระยะหนึ่ง จะปรับเป็นขนาดปกติให้เอง ไม่จดจำการตั้งค่าที่เลือกไว้
- ลำโพง เสียงไม่ค่อยดี แหลมบาดหูเกินไป
- เสาอากาศถอดได้ ก็อาจจะสูญหายได้ง่าย
- ซอฟต์แวร์กล้อง ต้องปรับปรุง มีปัญหาภาพถ่ายสีเพี้ยนบ่อย หรือวัดแสงผิดพลาดจนภาพมืด
- ราคา 11,900 บาท ถือว่าสูงเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในด้านภาพถ่าย
- การ Refocus ด้วยซอฟต์แวร์ ให้ผลลัพธ์ที่ยังดูไม่เป็นธรรมชาติเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีกล้องคู่เหมือนกัน
ตัวเลือกอื่นที่มีกล้องหลังคู่
Leave a Reply