สุดจะทน!! ลูกค้าออกโรงแฉค่ายมือถือชื่อดัง เหตุเปลี่ยนเป็นรายเดือนให้อัตโนมัติ เรียกเก็บเงินทั้งที่ไม่ได้ใช้

by

in

สุดจะทน!! ลูกค้าออกโรงแฉค่ายมือถือชื่อดัง เหตุเปลี่ยนเป็นรายเดือนให้อัตโนมัติ เรียกเก็บเงินทั้งที่ไม่ได้ใช้

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราคงได้เห็นข่าวแชร์ประสบการณ์ หรือข่าวแฉค่ายมือถือดังๆ อยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดดูเหมือนว่าจะมีงานเข้าค่ายมือถือชื่อดังอีกหนึ่งค่ายเมื่อมีกระทู้บทความแฉพฤติกรรมสุดทนของค่ายมือถือดังกล่าว บทความนี้เป็นของ คุณ สมาชิกหมายเลข 2636912 จาก Pantip.com ที่ได้มาเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ตนรู้สึกเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก

เมื่อตนใช้ซิมระบบเติมเงินหลังจากที่เลิกใช้แล้วทางค่ายมือถือดังก็ได้ทำการเปลี่ยนเป็นรายเดือนให้โดยอัตโนมัติ และมีบิลค่าโทรศัพท์แจ้งยอดค้างชำระค่าบริการมาที่บ้านเป็นจำนวนเงิน 2,000 กว่าบาท ทั้งๆ ที่ตนไม่ได้ใช้งานซิมดังกล่าวและหักซิมทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปติดตามบทความนี้กันเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ (แฉ) แรกของเรา ผิดถูกแท็กห้องผิดยังไง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ นี่คือประสบการณ์ตรงค่ะ ยาวนิดนึงแต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์นะคะ

คือ ขอแฉพฤติกรรมแย่ๆ ของค่ายโทรศัพท์ซึ่งพฤติกรรมไม่ตรงกับชื่อค่ายที่แปลว่าจริงแท้ โดยการเก็บเงินของคุณไม่จริงเลยค่ะ เรื่องมันมีอยู่ว่า สมัยก่อน เราเคยใช้เบอร์ของค่ายนี้ แต่เป็นระบบเติมเงิน ซื้อมาจากแฟมมิลี่มาร์ทหน้ามหาลัยเพื่อคุยกับคนคนนึง แต่พอใช้ได้เดือนเดียวก็เลิกใช้ แล้วไม่ได้กลับไปแตะเบอร์อีก (ต้นปี 2556)

ซึ่งหลังจากนั้นได้สักประมาณ 1 ปี เราก็ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2556 ค่ะ ผ่านมาสักพักก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาจากบริษัท T มาหาที่บ้านเรา โดยระบุประมาณว่าเราติดหนี้เป็นจำนวนเงิน 2,3XX บาท ซึ่งมารู้ทีหลังว่าหลังจากเราเลิกใช้ระบบเติมเงินแล้ว มันก็เปลี่ยนให้เป็นระบบรายเดือนอัตโนมัติ โดยที่ต่อให้เราไม่ได้ใช้ มันก็เก็บค่าโทรศัพท์ แล้วแต่ละยอดของค่าโทรศัพท์นะคะ เดือนแรก 400++ เดือนสอง 900 เดือนสาม 500

ขุ่นพระ!! นี่ละเมอไปกดหรอ ขอโทษ หักซิมทิ้งนานละป้ะ ไม่ได้ใช้นานละนะ ก็งงมากเลย ก็เลยนิ่งเฉยไว้ ไม่อะไร คือช่วงนั้นมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ก็เลยข้ามไป ไม่ได้โทรไปถามไปคุยอะไรค่ะ ซึ่งนี่เราก็คิดว่าเราพลาดตรงนี้ที่ไม่ดำเนินคดีตั้งแต่ตอนนั้น ด้วยความคิดที่เป็นเด็กๆ (เพราะตอนนั้นเราเรียนประมาณปีสาม) ก็คิด (เอาเอง) ว่าคงไม่เป็นไรมั้ง ต่อมานี่ล่ะค่ะคือจุดระเบิดของเรื่อง

ในปี 2559 จนเราเรียนจบมีงานทำแล้วไรแล้ว ก็กลับมาพักร้อนอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัด ขอเล่าก่อนนะคะว่าบ้านเราต่างจังหวัดตอนนี้ไม่มีใครอยู่ค่ะ ปะป๊า น้องชายเราไปที่อื่นกันหมด ไม่มีใครอยู่บ้านมา 4-5 เดือนแล้ว ซึ่งเป็นธรรมดาที่ Wi-Fi จะถูกตัด ด้วยความที่คนติดเน็ตอย่างเราต้องการที่จะเล่นเน็ตเร็วๆ ก็เลยอยากต่อ Wi-Fi

ซึ่งปกติก็ใช้ของค่ายนี้อยู่แล้ว ก็เลยโทรไปถาม คอลเซ็นเตอร์ คอลเซ็นเตอร์บอก Wi-Fi บ้านเรา (ซึ่งใช้ชื่อแม่เรา) ได้ถูกยกเลิกไปละนะ แต่ยังมียอดค้างอยู่ค่ะ อ่ะก็ไม่อะไร เราก็กะจะไปต่อ ไม่ก็จ่ายแทนแม่เรา แล้วใช้ชื่อ Wi-Fi ใหม่เป็นของเราไปเลย แล่นไปเลยค่า ศูนย์ค่ายของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ตรงไปศูนย์ก็บอกจะมาต่อ Wi-Fi ชื่อแม่ถูกยกเลิกไปแล้ว จ่ายแทนได้มั้ยคะ บลาๆๆ พนักงานก็บอก

“ไม่ได้ค่ะ ต้องให้เจ้าของชื่อ Wi-Fi มายกเลิกแทน ถ้าน้องอยากเล่นเน็ต น้องก็จดเป็นชื่อน้องเลยค่ะ” เราก็ไม่คิดไรเลยบอกว่า “งั้นจดเป็นชื่อเราเลยก็ได้นะคะ เท่าไรคะ บลาๆๆๆ” ก็ตกลงราคากันไป ซึ่งเราเลือกโปร 900 บาทไป  ให้เบอร์ ที่อยู่ สำเนาบัตรประชาชนไปเรียบร้อย เขาก็บอกไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะเป็นการลงครั้งแรก ให้ฟรี เราก็ “เออดีจังวะ”

ต่อมา ก็ “ดีออก” เลยค่ะ เพราะอะไรรู้ไหมคะ พอเราเดินลงไปสักพัก คุณพนักงานก็โทรมาค่า “เอ่อ คุณลูกค้าคะ ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าไปไกลรึยังคะ พอดีคุณลูกค้ามียอดค้างอยู่ 100 กว่าบาทค่ะ ยังไงรบกวนขึ้นมาจ่ายด้วยนะคะ ไม่งั้นจะใช้เน็ตไม่ได้ค่ะ” ตอนแรกก็ ตะหงิดๆ ละค่ะ  “ยอดไรของมันวะ”

แต่ก็ไม่คิดอะไร เลยเดินซื้อเครื่องสำอางไปก่อนนะ ค่อยไปจ่ายละกัน สักพักพนักงานก็โทรมาครั้งที่สองค่ะ “คุณลูกค้าคะ เมื่อกี้แจ้งผิดยอด 2,300 นะคะ” เราก็เลย อ๋อ สงสัยจ่ายแทนแม่ล่ะมั้ง แต่ก็งงๆ อยู่ว่า เอ้าไหนบอกว่าให้แม่มาจ่ายไงวะก็ไม่ได้ไร เดินขึ้นไปจ่ายเงินแบบ งงๆ

พอจ่ายเงินเสร็จได้รับใบเสร็จ
“คุณ… (ชื่อเก่าเรา)
ยอดค้าง
03/2014  –  4xx
04/2014  –   9xx
05/2014  –   6xx  ได้ชำระเงิน  23xx แล้ว บลาๆๆๆ
ของเบอร์ XXXXXXX ซึ่งเป็นเบอร์ที่เราเล่าไปข้างต้นเลยค่ะ ”

โอ้โห ปรี้ดแตกเลยจ้า แต่ตอนแรกด้วยความที่โวยวายทันทีไม่เป็นค่ะ เลยรีบโทรหาคุณแม่  นางก็ขอสายพนักงานละคุยๆๆ คือประเด็นแรกที่เราสงสัยก็คือ

1. เราเปลี่ยนชื่อละนะ ทำไมถึงเอาข้อมูลนี้มาได้ ว่าชื่อเก่าเราเป็นชื่อนี้
2. ตั้งแต่ตอนนั้น เราใช้เบอร์ดีแทค มาตลอด ที่ซื้อซิมทรูมานั้นเราใช้แบบสลับซิมเอาคือจะโทรหาแฟนเก่าเรา เราก็ใช้ซิมทรูแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นดีแทค แต่ก็ทำแบบนั้นได้แค่เดือนเดียว ละเราลงทะเบียน Wi-Fi ไปเป็นเบอร์ดีแทค และชื่อใหม่เรา คุณไปเอาข้อมูลเรามาจากไหนคะ ละมันเกี่ยวอะไรกัน เอาดีดี
2. ทำไมพนักงานไม่แจ้งแต่แรกว่า จะให้จ่ายค่าโทรศัพท์ ให้เราเข้าใจผิดนึกว่าเราจ่ายแทนแม่
3. เรามั่นใจ ยืนยัน นอนยันพันเปอร์เซ็น ค่ะว่าเราใช้ระบบเติมเงิน มาเปลี่ยนเป็นรายเดือนให้ละเก็บเงินงี้ ไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอคะ
4. ทำไม เราขอหลักฐานการโทรเข้าโทรออกของเบอร์นั้นถึงให้ไม่ได้คะ หรือว่าเพราะมันไม่มีหรือเพราะมันคือ ตัวเลขโง่ๆ ที่คุณกุขึ้นมาเอง

โชคดีมาก ที่เราโทรไปปรึกษาแฟนเรา  แฟนเราเค้าก็ให้กลับไปร้านไปขอหลักฐาน ขอเงินคืนค่ะ แล้วก็กำลังจะดำเนินคดี เรื่องที่มาบอกเราเป็นหนี้แบบ งงๆ โชคดีที่พนักงานก็วอยบิลให้เลยได้เงินคืนมา แต่หนี้เราก็ยังอยู่ในระบบนะคะ

ยังไงก็ตามนะคะ ทางคุณบริษัท T ช่วยออกมาปรับปรุงระบบนี้ด้วยนะคะ อย่าให้ใครก็ตามเลยค่ะที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซื้อซิมเติมเงินมา พอเลิกใช้ก็โดนเปลี่ยนเป็นรายเดือน โดนดูดเงินไปเรื่อยๆ แบบนี้ ถึงมันจะเป็นเงินเพียงสองสามพัน แต่มันก็คือเงินนะคะ ช่วยนึกถึงคนที่เค้าไม่มีปัญญาหาเงินเองด้วยก็ดีค่ะ ขอบคุณมากเลยที่เรื่องมาเกิดตอนเรามีรายได้แล้ว ไม่งั้นคง “ซวย หนัก มาก” ค่ะ

ปล. มีหลายๆ คนที่เจอแบบเรา แต่เค้าคงทำอะไรไม่ได้นะคะ ยังไงก็ฝากไว้เป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ ว่าจะจ่ายเงิน หรือจะทำอะไร ใช้ซิม จ่ายเงินค่ายไหนก็คิดดีดีนะคะ

ปล.2 ทางบริษัท T คะ เราไม่ได้อะไรกับเรื่องนี้เราแค่อยากขอความเป็นธรรมนะคะ ถ้าคุณมีหลักฐานว่า เราเคยโทรเข้าโทรออก สมัครโปรอะไร ขอหลักฐานแบบเป็น “ลายลักษ์อักษร” นะคะ พอรู้เบอร์ที่เคยโทร เราจะได้ดูค่ะ ว่านั่นน่ะ คือเบอร์ที่เคยโทรจริงๆ ไหม ถ้าเบอร์ที่เคยโทรในเบอร์เก่าเป็นคนที่เรารู้จักหมด เราก็ยินดีที่จะจ่ายเงิน 2,300 บาท เราแค่อยากขอ “หลักฐาน” การโทรออกค่ะ ไม่ใช่ ใบแจ้งหนี้มั่วๆ

เพราะสิ่งที่เสียตอนนี้มันคือ ความรู้สึกค่ะ เราเสียดายความรู้สึกมากกว่าเสียดายเงินมากๆ  ขอบคุณค่ะที่อ่าน

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ คุณ สมาชิกหมายเลข 2636912 จาก www.pantip.com