5 ข้อที่ควรรู้! ก่อนคิดจะซื้อ Smart Watch นาฬิกาอัจริยะ

5 ข้อที่ควรรู้! ก่อนคิดจะซื้อ Smart Watch นาฬิกาอัจริยะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่าน ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะได้เห็นหน้าตาของ Smart Watch หรือที่ใครๆ รู้จักกันในชื่อของนาฬิกาอัจริยะ ออกวางจำหน่ายอย่างจริงจังในตลาดไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung, Sony, Microsoft หรือ LG เป็นต้น ทั้งยังมีแบรนด์กีฬาหรืออุปกรณ์ต่างๆ ผลิต Smart Watch ออกมาดวลกันในตลาดหลากหลายรุ่น ทั้งรุ่นที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน iOS, Android หรือ Windows Phone ออกมาให้เราเลือกสรรกันมากมาย วันนี้เราเลยมี 5 ข้อมาฝากเพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะซื้อ Smart Watch ให้ได้ทราบกันเราไปติดตามกันเลยค่ะ

1. ดีไซน์ตามสไตล์ผู้ใช้งาน

เมื่อเราตัดสินใจที่จะซื้อ Smart Watch หรือนาฬิกาอัจริยะแล้ว แน่นอนว่าเราจะต้องใส่มันตลอดเพื่อใช้งาน ดีไซน์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ผู้ใช้จะต้องคำนึงถึง และในช่วงแรกๆ ที่นาฬิกาอัจริยะเริ่มเข้าสู่ตลาดจะมีหน้าปัดสีเหลี่ยม ดีไซน์สวย ต่อมาเริ่มมีหน้าปัดทรงกลมจาก Motolora ที่เรียกเสียงตอบรับได้เป็นอย่างดี

เพราะมีดีไซน์สุดคลาสสิคและเหมือนนาฬิกาทั่วไป สามารถปรับรูปแบบหน้าปัดเองได้อีกด้วย ซึ่งช่วงหลังมานี้ไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung หรือ LG ก็ได้ผลิต Smart Watch หน้าปัดทรงกลมออกสู่ตลาดมากขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ได้เลือกสรรกันแบบเต็มที่ และมีดีไซน์ที่ถูกใจ

2. การรองรับกับสมาร์ทโฟน

Smart Watch ที่เป็นเวอร์ชั่น Android จะสามารถรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android เวอร์ชั่น 4.3 ขึ้นไป และสำหรับ Apple Watch ที่รองรับกับ iPhone จะเป็น iOS เวอร์ชั่น 8.2 ขึ้นไป และ Smart Watch ของ Samsung ที่มีระบบปฏิบัติการไทเซนก็เริ่มมีการรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ ใน Gear S2 แล้วค่ะ

ซึ่งหากเราต้องการจะซื้อ Smart Watch ควรตรวจสอบการรองรับกับการใช้งานคู่กับสมาร์ทโฟนของเราให้ดีด้วย เพราะถ้า Smart Watch หากไม่ได้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนมันก็จะเหมือนกับนาฬิกาทั่วๆ ไป หรือใช้งานไม่ได้เลย

3. ฟีเจอร์การใช้งาน

Smart Watch ส่วนใหญ่มักจะมีการแจ้งเตือน, ปรับหน้าตา, เล่นเพลง จากการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่ง Smart Watch ของแต่ละแบรนด์ก็จะมีฟีเจอร์เสริมที่แตกต่างกันออกไปบ้าง เช่น หน้าจอทัชสกรีน, หน้าจอที่รองรับแรงกด, ปุ่มกด, หน้าปัดหมุนได้ และบางรุ่นสามารถใส่ซิมการ์ดเพื่อรับสาย, โทรออก และใช้อินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย

หรือ Smart Watch สำหรับออกกำลังกายก็จะต้องมี GPS, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจติดมาด้วย เพราะจะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนออกวิ่งเพื่อจับเส้นทางการออกกำลังกาย หรือคาดสายหน้าอกเพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจ แต่สำหรับบางรุ่นจะไม่มีมาให้ ซึ่งจะต้องซื้อสายคาดหน้าอกมาเพื่อใช้งานคู่กัน

4. ความจุแบตเตอรี่

ไม่ว่า Smart Watch จะมีฟีเจอร์อะไรมากมาย หากมองข้ามเรื่องนี้ไปคุณอาจจะปวดหัวน่าดู สำหรับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีความจุของแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน รวมถึงหน้าจอแอลซีดี หรือ หน้าจออโมเล็ตก็มีส่วนเกี่ยวกับอายุการใช้งานในแต่ละวัน ในส่วนนี้จะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจซื้อ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องหาแบตเตอรี่สำรองไว้ชาร์จกับ Smart Watch ก็เป็นได้

5. ราคา

สำหรับเรื่องราคาคงจะเป็นอีกหนึ่งข้อที่ละเลยไม่ได้ โดย Smart Watch แต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์ก็มีราคาค่อนค่างต่างกันออกไปอย่างเช่น Apple Watch ที่มีราคาเปิดตัวค่อนข้างสูง หากเป็น Android ก็จะมีราคาที่เบาลงมาหน่อย แต่หากเป็น Smart Watch ที่ใช้ในด้านกีฬาหรือการออกกำลังกายราคาก็จะอยู่ในช่วง 10,000 – 20,000 บาทกันเลยทีเดียว

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.whatphone.tv