ต้องยอมรับว่ากระแสความแรงของ Apple Watch นั้นมาแรงอย่างมากในไทย ผู้คนที่มีฐานะดีในกรุงเทพฯ ยอมเปลี่ยนจากนาฬิกาข้อมือสุดหรู ราคาแพงหลายหมื่นบาท เปลี่ยนมาใช้ Apple Watch แทนกันมากมาย สะเทือนถึงตลาดนาฬิกาที่อยู่ ๆ ก็มี Apple Watch เข้ามาชิงส่วนแบ่งไปค่อนข้างเยอะ ลองสังเกตดูครับ ทุกครั้งที่เดินห้างหรูใจกลางกรุงเทพฯ มองไปทางไหน ก็มีแต่คนสวมใส่ Apple Watch กันทั้งนั้น แต่ Apple Watch จะต้องใช้ร่วมกับ iPhone เท่านั้น
หลายคนที่ไม่ได้ใช้ iPhone ก็มีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นราคาที่แพงเกินความจำเป็น ไม่มีรายได้สูงมากพอ บ้างก็ไม่ชอบ iOS ที่มีข้อจำกัดมากมายในเรื่องการแชร์หรือโอนถ่ายข้อมูล จึงเลือกที่จะใช้ Android ดีกว่า ในขณะนี้ทางฝั่ง Android ก็มีนาฬิกาที่ถือเป็นคู่แข่งกับ Apple Watch ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ นั่นก็คือ Samsung Gear S2 ที่เปิดตัวด้วยราคา 9,900 บาท และ Gear S2 Classic สายหนังพร้อมวงแหวนแบบรอยหยัก ในราคา 10,900 บาท ส่วนนาฬิกาจากแบรนด์อื่นที่เห็นในตลาด ยังมีลูกเล่นน้อยเกินไป ไม่สามารถไปเทียบชั้นกับ Apple Watch ได้ในขณะนี้
แกะกล่อง Samsung Gear S2
Samsung Gear S2 ที่นำมารีวิวในบทความนี้ เป็นสี Dark Grey น่าจะเป็นบทความรีวิวแรกในไทยที่เป็นสีนี้ ต่างจากเว็บอื่นในไทยที่ได้รีวิว Gear S2 สี Silver ถือเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่แตกต่าง แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่า 9ThaiPhone ได้เป็นเว็บไซต์อันดับแรก ๆ ในไทย ที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก Samsung Mobile Thailand เพื่อให้รีวิว Gear S2 ในครั้งนี้
ดีไซน์กล่องเป็นทรงกระบอก ทำด้วยกระดาษสีขาว ดู Classic สี แต่ไม่แข็งแรงเท่าไรนัก ด้านข้างกล่องมีบอกสเปคคร่าว ๆ ว่าใช้ หน้าจอวงกลมชนิด Super AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.1, Wi-Fi มาตรฐาน b/g/n พร้อม NFC ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IP68 ว่าป้องกันความเสียหายจากฝุ่นผงดินทรายและน้ำได้ดี พร้อมการชาร์จไฟแบบไร้สาย
Gear S2 รองรับการใช้งานกับ Android Smartphone ทุกยี่ห้อที่รัน OS เวอร์ชั่น 4.4 ขึ้นไป และมี RAM อย่างน้อย 1.5GB แต่ถ้าใช้กับ Samsung Galaxy ที่รองรับ ก็จะได้ใช้ลูกเล่นแบบเต็มที่ครบถ้วนมากกว่า ลูกเล่นเกี่ยวกับสุขภาพและการแจ้งเตือน จะมีให้แบบครบครันกว่าเมื่อใช้กับ Samsung Galaxy
อุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วย Gear S2, ที่ชาร์จไร้สาย, Adapter, สายนาฬิกาสำรองอีกชุด, และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
สายนาฬิกาสำรอง สำหรับเปลี่ยนได้ในอนาคต เป็นสีเดียว แบบเดียวกันกับ Gear S2 ในกล่อง
ที่ชาร์จแบบไร้สาย เป็นระบบแม่เหล็ก มีไฟ LED บอกสถานะการชาร์จ และ Rotate หน้าจอ 90 องศาให้ด้วย
ชาร์จไฟกับ Power Bank ก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาชาร์จไม่นาน ไฟก็เต็ม
พลิกหงายดูใต้ Gear S2 มี Heart Rate Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่บริเวณข้อมือเมื่อสวมใส่ พร้อมบอกได้ว่าขณะที่วัด Heart Rate เรากำลังเหนื่อย หรือมีอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนอยู่
ในการทดสอบใช้งานคู่กับ Samsung Galaxy S6 edge+ ก็สามารถจับคู่ได้สะดวกด้วยแอปพลิเคชั่น Samsung Gear
ในการตั้งค่าใช้งานครั้งแรก ทำได้ง่าย ๆ ลองดูจากคลิปวิดีโอข้างล่างนี้เลย
การตั้งค่าครั้งแรก ทำได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนยี่ห้อใดก็ตาม
การตั้งค่าหน้าจอ สะท้อนสไตล์ผู้สวมใส่
สอนการใช้งานเมนูต่าง ๆ สั่งงานด้วยวิธีต่าง ๆ
บันทึกกิจกรรมทั้งวัน เพื่อวิเคราะห์สุขภาพด้วย S-Health
การแจ้งเตือนและตอบกลับได้ทันที โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
การตั้งค่าเพิ่มเติม เพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
รูปแบบการแสดงเวลาทั้ง Analog และ Digital เราสามารถเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ หรือใส่ภาพพื้นหลังตามที่ต้องการได้
ถ้าเน้นตัวเลขใหญ่ ๆ พร้อมอัพเดตข่าวจากต่างประเทศ แนะนำให้เลือกเป็นรูปแบบ CNN
มีอัพเดตข่าวด่วนตลอดเวลา กดเข้าดูได้ หรือถ้าไม่ปัดหน้าจอด้วยการสัมผัสขึ้นมา ข่าวก็จะไม่ขึ้นมาเกะกะบนหน้าจอให้เห็น
แอปฯ และหน้าจอเมนูด่วนที่ใช้บ่อย
เข้ามาที่ Apps ก็จะพบกับลูกเล่นหลักของ Gear S ที่เกี่ยวกับ SMS, Phone Call, S-Health, Calendar, S-Voice, Weather
ในหน้าที่สอง ก็จะมีลูกเล่นเกี่ยวกับนาฬิกาปลุก, จับเวลา, ตั้งเวลา, สั่งเล่นเพลง, ดูรูปภาพพื้นหลัง, และรายชื่อคนที่โทรบ่อย
หน้าที่สาม สามารถเพิ่ม App เองได้ ที่เราใช้งานบ่อย
คนที่โทรหาบ่อย กำหนดเป็น Favorite ไว้ ก็ติดต่อได้สะดวก ไม่ต้องไล่หาจากสมุดโทรศัพท์
บอกการก้าวเดินหรือวิ่งในแต่ละวัน เรียกดูย้อนหลังในวันที่ผ่านมาแล้วได้เพื่อเปรียบเทียบ
ดูปฏิทินนัดหมายได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา สไลด์นิ้วขึ้นลง ดูไทม์ไลน์
สัมผัสหนึ่งครั้ง เป็นการเข้าไปดูรายละเอียดของนัดหมาย
สภาพอากาศ บอกค่อนข้างละเอียดดีมาก ทั้งในวันปัจจุบันและวันถัดไป อุณหภูมิต่ำสุด-สูงสุด ความเป็นไปได้ที่ฝนตก
รีโมทสั่งควบคุมการเล่นเพลง สมาร์ทโฟนก็ใส่ในกระเป๋าไว้ เพิ่มความสะดวก
วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้รวดเร็วและแม่นยำดี เชื่อถือได้ ตรวจวัดเทียบกับเครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาลแล้ว
แยกแยะได้ว่าอยู่นิ่ง วิ่ง หรือเดิน เป็นระยะเวลานานเท่าไรในช่วงเวลาใดบ้าง
ดื่มน้ำ หรือชากาแฟไปปริมาณเท่าไร สามารถใส่เพิ่มได้ เพื่อสรุปวิเคราะห์สุขภาพในแต่ละวัน
ในขณะออกกกำลังกาย ก็นับก้าวไปด้วยว่าถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วยัง พร้อมวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รู้ถึงสภาวะและอารมณ์ในขณะนั้นได้ทันที
สั่งให้ Gear S2 ค้นหาแจ้งเตือนว่าสมาร์ทโฟนอยู่ที่ไหนก็ทำได้
บอกตำแหน่งได้ถูกต้อง ค่อนข้างแม่นยำดี
บันทึกเสียงผ่านไมโครโฟนของ Gear S2 ได้
ตั้งปลุก ตั้งเวลา จับเวลา ครบทุกฟังก์ชั่นที่นาฬิกาดิจิทัลต้องทำได้ แต่ Gear S2 มีหน้าจอที่สวยงามน่าใช้มากกว่านาฬิกาทั่วไป
ดูหุ้นต่างประเทศได้ ดึงข้อมูลมาจาก Yahoo!
เปิด Gallery ใส่ภาพพื้นหลังในขณะแสดงเวลาได้ เห็นหลายคนที่ซื้อไปใช้แล้ว มักจะใส่ภาพ Brown, Sally, Cony จาก LINE เพราะมีมาให้ในตัวอยู่แล้ว
SMS เข้ามา เปิดอ่านได้จาก Gear S2 ทันที รองรับภาษาไทยสมบูรณ์
ดูรายการโทรได้เหมือนบนสมาร์ทโฟน
โทรออกได้ด้วย สำหรับผู้ใช้หูฟัง Bluetooth สะดวกดีทีเดียว
หรือค้นหาแล้วโทรออกจากรายชื่อใน Phonebook ก็ได้ ตามสะดวก
สำหรับคนที่เคยใช้ Nike+ Running บน iPod หรือ iPhone แล้วชื่นชอบ บน Gear S2 ก็ใช้ได้แล้วเช่นกัน สะดวกดีสำหรับการวิ่งออกกำลังกาย
ตั้งค่าหน้าจอ การสั่นเตือน ความสว่าง การสั่งงาน และควบคุมได้ละเอียดจากเมนู Settings
ดูปฏิทิน จดนัดหมายสั้น ๆ ได้ด้วยคีย์บอร์ดคล้ายสมัยโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกด
รองรับการสั่งงานด้วยเสียง คล้ายกับ Siri บน iOS
สู้แสงแดดกลางแจ้งได้ ปรับความสว่างได้ 10 ระดับ
เมื่อมีสายเข้า ก็กดรับหรือปฏิเสธสายเข้าได้ทันที
แจ้งเตือนทุกครั้งจาก facebook และ LINE เอาใจคนติด Social network แบบสุด ๆ โดยเฉพาะ LINE สามารถตอบกลับด้วย LINE Sticker รูป Cony, Brown, James, Sally ได้ทันทีบน Gear S2 ส่วน facebook ก็สามารถสั่ง View on Phone ให้เปิด Post ที่แจ้งเตือนบนสมาร์ทโฟนได้ทันที โดยข้ามผ่านการปลดล็อคหน้าจอไปเลย
มีโหมดประหยัดพลังงาน เปลี่ยนหน้าจอเป็นขาวเทาดำ และจำกัดฟังก์ชั่นให้ใช้ได้เท่าที่จำเป็น
แวะไปทดสอบ ลองเล่น Gear S2 ได้แล้ววันนี้ที่ Samsung Brand Shop สาขาใหญ่ ๆ ทั่วกรุงเทพฯ คาดว่าจะกระจายไปยังต่างจังหวัดในเร็ววันนี้
สรุป
การจากทดสอบใช้งานตลอด 6 วันเต็ม ก็มีความประทับใจในหลายด้าน บวกกับระดับราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง และใช้กับ Android สมาร์ทโฟนทั่วไปได้ ทำให้มีแนวโน้มว่า Samsung จะแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดสินค้ากลุ่ม Premium SmartWatch / Wareable Gadget ได้สำเร็จ และเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก แต่อยากให้ซัมซุงเอาจริง พร้อมทำโปรโมชั่นซื้อคู่กับสมาร์ทโฟนในราคาลดพิเศษ ไม่เหมือนที่ผ่านมากับ Gear S รุ่นแรก ที่ไม่เน้นจำหน่ายในไทยอย่างจริงจัง
สิ่งที่ประทับใจ
- สวมใส่ได้ง่าย วัสดุมีความทนทานดีในระดับหนึ่ง มีสายสำรองเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน
- หน้าจอ sAMOLED สีสันสดใส สว่างสู้แสงได้ดี
- สั่นแรงพอประมาณ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 2 วันเศษ ควรชาร์จไฟ วันเว้นวัน
- มีลูกเล่นมากมายที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวันจริง ๆ
- สะดวกด้วยระบบแม่เหล็กชาร์จไร้สาย
- ราคาถูกกว่า Apple Watch แต่ก็สวยเท่และฉลาดไม่แพ้กัน
- เป็นรอยขีดข่วนหรือถลอกได้ค่อนข้างยาก ดูแลรักษาไม่ยาก
- ไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้งานคู่กับ Samsung Galaxy เท่านั้น
- เปลี่ยนรูปแบบนาฬิกาและภาพพื้นหลังได้หลายแบบ
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้รวดเร็ว แม่นยำ
- วิเคราะห์สุขภาพได้ เอาใจคนรักสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักและชอบออกกำลังกาย
ข้อสังเกต
- หาซื้อได้ค่อนข้างยากในช่วงแรก ไม่ได้มีจำหน่ายในทุกช้อปที่จำหน่าย Samsung Galaxy
- ราคา 9,900 – 10,900 บาท ยังถือว่าสูงเกินความจำเป็นสำหรับผู้มีรายได้ไม่มากนัก
- Samsung ยังไม่มีจำหน่ายสายนาฬิกาแบบอื่น ๆ ให้เลือกเปลี่ยน
ตัวเลือกอื่นในระดับใกล้เคียงกัน
- Apple Watch
- Huawei Watch
- Samsung Gear S
Leave a Reply