รวมพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อถนอม iPhone ของคุณให้มีอายุยืนยาว!!!
สวัสดีค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้ iPhone ต้องห้ามพลาดบทความที่เรานำมาฝากเด็ดขาดค่ะ เพราะวันนี้เรามีพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยถนอม iPhone ของเพื่อนๆ ให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น บางพฤติกรรมที่ทำอยู่อาจทำร้าย iPhone ของเพื่อนๆ ได้อย่างไม่คาดคิด และไม่มีใครทราบกันมาก่อน จึงทำให้ iPhone มีอายุการใช้งานที่สั้นลง เรามาดูพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงกันเลยค่ะ
1. ไม่เคยปิดเครื่อง iPhone เลย
จริงๆ แล้วในหนึ่งสัปดาห์เราควรปิดเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะการเปิดเครื่อง iPhone ทิ้งไว้ตลอดเวลาก็ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หากซื้อสมาร์ทโฟนมาแล้วใช้เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ก็ควรหยุดแล้วหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ สักอันมาใช้จะดีกว่า หรือเลือกเวลาในการปิดเครื่องเป็นช่วงอื่นของวันแทน
2. เปิด Wi-Fi กับ Bluetooth ไว้ตลอดเวลา
การเปิด Wi-Fi กับ Bluetooth อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งคู่ไว้โดยที่ไม่ได้ใช้ตลอดเวลานั้น เป็นการใช้พลังงานไปอย่างสิ้นเปลือง ไม่ควรเปิดทิ้งไว้เพราะเผื่อว่าจะต้องใช้ ควรเปิดใช้เมื่อมีความจำเป็นจริงๆ จะดีกว่า
3. ใช้ iPhone ในสภาพอากาศสุดโต่ง
ต้องระลึกไว้เสมอว่า iPhone นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือหนาวจัด จึงไม่ควรใช้ iPhone ในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 32 องศาฟาเรนไฮต์ (0 องศาเซลเซียส) หรืออุณหภูมิสูงกว่า 95 องศาฟาเรนไฮต์ (35 องศาเซลเซียส) เพราะจะมีผลต่อการทำงานของแบตเตอรี่ และอาจส่งผลให้เครื่องดับชั่วคราว เพราะฉะนั้นหากรู้ตัวว่าจะต้องไปอยู่ในที่ๆ มีอากาศแบบนี้แล้วละก็ควรปิด และเก็บiPhoneไว้ในกระเป๋าจะเป็นการดีที่สุด
4. เสียบชาร์จแบตเตอรี่ค้างไว้ทั้งคืน
การเสียบ iPhone ชาร์จไว้ตอนเรานอนหลับ ฟังดูน่าจะเป็นวิธีที่ดี แต่จริงๆ แล้วการเสียบชาร์จทิ้งไว้หลังจากแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการทำลายแบตเตอรี่ทางอ้อม ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้น การชาร์จที่ถือเป็นการถนอมแบตเตอรี่คือถอดสายชาร์จออกก่อนที่จะเต็ม
5. ชาร์จแบตเตอรี่ไว้เต็ม 100% ตลอด หรือใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง
Shane Broesky ผู้ก่อตั้งบริษัท Farbe Technik ที่ผลิตอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ได้กล่าวไว้ว่า แบตเตอรี่แบบ Lithium (ซึ่งเป็นชนิดของแบตเตอรี่ที่ถูกนำมาใช้ในเครื่อง iPhone) จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุด หากแบตเตอรี่มีปริมาณของประจุไฟฟ้าอยู่ในช่วงประมาณ 50-80 เปอร์เซ็นต์ และในทางกลับกันการที่เราใช้แบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยงนั้น อาจทำให้แบตเตอรี่ต้องตกอยู่ในสถานะที่เรียกว่า Deep Discharge State ซึ่งส่งผลให้ตัวเก็บประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไม่สามารถทำงานได้
ดังนั้น ทางที่ดีคือให้พยายามชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ประจุได้รับพลังงานที่พอดีสำหรับการนำไปใช้งาน และเพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่อีกด้วย
6. ไม่ใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่ของจริงจาก Apple
หลายคนอาจจะมองว่าที่ชาร์จแบตเตอรี่ของ Apple มีราคาแพง จึงไม่ซื้อมาใช้ เลือกที่จะซื้อของปลอมมาใช้แทน จริงๆ แล้วควรใช้อุปกรณ์แท้ หากใช้ของโนเนมอาจส่งผลร้ายต่อแบตเตอรี่ และอาจถึงขั้นระเบิดได้เลยทีเดียว ซึ่งทำให้ Apple ได้ตั้งโครงการ USB Power Adapter Takeback ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่ให้นำที่ชาร์จแบตเตอรี่ของปลอมมาเป็นส่วนลดในการซื้อที่ชาร์จแบตเตอรี่ของจริงจาก Apple ได้
7. ไม่เคยทำความสะอาดตัวเครื่องเลย
รู้หรือไม่ว่าใน iPhone ของเรามีฝุ่น และเชื้อโรคมากกว่าที่คิด พูดได้ว่าฝุ่น เชื้อโรคที่อยู่ในห้องน้ำ หรือแม้แต่ในชามข้าวสัตว์เลี้ยงยังมีน้อยกว่าที่อยู่ใน iPhone ตัวน้อยของเราซะอีก ซึ่งทาง Apple ได้ออกมาแนะนำให้ใช้ Lint-Free Cloth หรือผ้าไร้ฝุ่นในการทำความสะอาดเครื่อง
และที่สำคัญห้ามลืมทำความสะอาดช่องเสียบชาร์จ เพราะมักจะมีเศษขยะ หรือฝุ่นจากกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงเข้าไปติดอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อต่างๆ ได้ ควรใช้ไม้จิ้มฟัน เข็มเย็บผ้า หรือแม้แต่ก้านต่างหูในการแคะสิ่งสกปรกข้างในออกมา
8. เดินถือ iPhone โดยไม่ระมัดระวังรอบข้าง
คงไม่ต้องแปลกใจหากรู้ว่า iPhone ถือเป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดมืดทั้งหลาย และเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของประเทศสหรัฐอเมริกา (FCC) รายงานว่าในปี 2013 ตามเมืองใหญ่ต่างๆ นั้นมีคดีเกี่ยวกับการปล้นชิงสมาร์ทโฟนประมาณร้อยละ 40 ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงมาก จึงควรระมัดระวังในการใช้สมาร์ทโฟนขณะเดินในที่สาธารณะให้มากขึ้น
9. ไม่ตั้งรหัสล็อกหน้าจอ
Apple รายงานว่าเกือบครึ่งของจำนวนผู้ใช้ iPhone ไม่ได้ตั้งรหัสล็อกหน้าจอ (Passcode) ไว้ หากเพื่อนๆ ไม่ได้ตั้งรหัสไว้ และเมื่อ iPhone ถูกขโมยไป มิจฉาชีพจะสามารถนำข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างของเพื่อนๆไปใช้ในทางไม่ดีได้ ซึ่งการตั้งรหัสล็อกหน้าจอนั้นถือเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ทำได้ง่ายที่สุด
10. เปิด GPS ให้รู้ตำแหน่งที่ตั้งทุกแอปพลิเคชันอยู่ตลอดเวลา
แอพพลิเคชันอย่าง Uber หรือ Maps นั้นจำเป็นต้องเปิดการใช้งาน “Location Services” เพื่อให้บางฟีเจอร์นั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และจะมีการแจ้งเตือนด้วยว่าจะต้องใช้เมื่อใด ในขณะที่เมื่อใช้ฟีเจอร์อื่นๆ บริการนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ จึงควรตั้งค่าปิด “Location Services” ไว้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการถนอมแบตเตอรี่ไปในตัวด้วย
11. ตั้งค่าให้ทุกแอพพลิเคชันแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา
การตั้งค่าให้ทุกแอพพลิเคชันมีการแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา เป็นการทำให้ iPhone ทำงานหนักตลอดเวลา เพราะต้องคอยอัพเดตให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันเสมอ ซึ่งทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว เนื่องจากหน้าจอจะติดทุกครั้งที่มีการแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามา และนักวิจัยกล่าวว่าเป็นการทำให้เสียสมาธิอีกด้วย จึงควรเลือกให้มีการแจ้งเตือนเฉพาะแอพพลิเคชันที่สำคัญๆ เท่านั้น
เป็นอย่างไรบ้างคะ พฤติกรรมที่เราควรหลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ถ้าเพื่อนๆ อยากถนอม iPhone ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ก็ควรหลีกเลี่ยง 11 พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้นนี้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ www.thaimobilecenter.com
Leave a Reply